และในตอนนี้…นางได้ยินเสียงม้าของนางร้อง เช่นนั้น…ก็อย่าโทษว่านางไร้คุณธรรมแล้วกัน!
“ท่านผู้เฒ่า ท่านดูให้ดีนะ!”
ซูซูเอ่ยจบก็มีสีหน้าหมายมั่นว่าจะต้องได้มาเต็มเปี่ยม!
นางยืดตัว งอนิ้วชี้เล็กน้อย แตะที่ริมฝีปาก แล้วออกแรง ก็มีเสียงผิวปากอันเป็นเอกลักษณ์ดังออกมา
สนุกสนานร่าเริงและมีชีวิตชีวา
ขอทานชรามีสีหน้าตะลึงและเหลือเชื่อ!
“นี่…นี่…” เขาเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในชนชั้นต่ำต้อยที่สุดบนโลกใบนี้ ใช้ปากเป่าเสียงหวีดหวิว เขาก็เคยทำตอนยังหนุ่ม แต่ว่าใช้นิ้วกลับไม่เคยทำ! ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการเป่าออกมาเป็นเสียงที่ไพเราะเช่นนี้เลย
หลังจากซูซูเป่าไปครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้หยุด แต่เมื่อสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกหนึ่งแล้ว ก็เป่าต่อไป
ตอนนี้ร่างกายของนางไม่อนุญาตให้นางอยากผิวปากเป็นระยะเวลานานเท่าไร ก็ผิวไปเหมือนแต่ก่อน
ดังนั้น เสียงผิวปากเรียกม้าของนางในครั้งนี้ขาดๆ หายๆ และไม่มั่นคงยิ่ง
ซูซูเชื่อว่า ม้าของนางจะต้องฟังเสียงที่เป็นของมันโดยเฉพาะเข้าใจ แล้ววิ่งห้อมาหาตนเองแน่นอน!
เสียงผิวปากนี้ นางร่ำเรียนกับอาจารย์ที่ฝึกม้าโดยเฉพาะของจวนอ๋องในปีนั้น ไม่ใช่สิ่งธรรมดาทั่วไปที่พอคนได้เรียนรู้ก็เป็นพวกนั้น!
ชั่วครู่หนึ่ง
ก็ได้ยินเพียงเสียงกุบกับๆ ดังลอยมาจากที่ห่างไกลจนใกล้เข้ามา
ม้าที่วิ่งห้อมาจากที่ห่างไกลมีลำตัวสีแดงเหมือนกับม้าเหงื่อโลหิตในละครพื้นบ้าน!
ขอทานชราถามอย่างตะลึงว่า “นี่…นี่คือม้าของเจ้า?”
หลังจากม้าสีแดงตัวนั้นวิ่งม้า ก็ซุกศีรษะถูไปถูมาในอ้อมแขนของซูซู
ไม่ต้องตอบคำถาม ขอทานชราก็ได้คำตอบแล้ว
ซูซูลูบศีรษะของม้าด้วยความรัก นางดีใจและปลื้มใจมากเช่นกัน
นี่เป็นของขวัญที่เสด็จพ่อมอบให้กับนางตอนนางอายุแปดหนาว และอยู่เป็นเพื่อนนางมาเป็นเวลานานหลายปี หากไม่ใช่ว่าครั้งนี้เข้าตาจนจริงๆ นางก็ไม่มีทางขายม้าตัวนี้แน่นอน!
วันนั้น หลังจากม้าตัวนี้ถูกขายไป ก็ยกเท้าหน้า ร้องครวญครางไม่หยุด ทำให้นางเจ็บปวดรวดร้าวปานจะขาดใจ
เอ่ยตามสัตย์จริง ตอนนั้นนางนึกว่านางจะหาซูชีพบในไม่ช้า และสามารถไถ่ตัวม้ากลับมาได้อย่างรวดเร็ว
มีเพียงแค่เคยสูญเสีย ถึงจะรู้จักคุณค่า
“พอแล้วๆ! ข้าจะไม่ไปจากเจ้าแล้ว! ไม่มีทาง!”
หนึ่งคนหนึ่งม้าในตอนนี้ ถึงกับทำให้ความเหน็บหนาวในฤดูหนาวเปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้นเป็นพิเศษ ขอทานชราเห็นภาพตรงหน้านี้อยู่ในสายตา ก็ทอดถอนใจยิ่ง
“นังหนู พวกเรารีบจูงม้าไปกันเถอะ หากผู้อื่นค้นพบว่าม้าหายไป แล้วมาตามหาจะแย่เอาได้”
ซูซูย่อมเข้าใจเหตุผลนี้ เมื่อได้ยิน ก็พยักหน้า
“เจ้าม้าน้อย ไปกันเถอะ”
นางเอ่ยจบ ก็เดินโซเซจูงม้าออกจากตรอกไปพร้อมกับขอทานชรา
ขอทานชราเดินนำทางอยู่ข้างหน้า แต่กลับรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย ตอนนี้พวกเขากระทั่งทำให้ตนเองกินอิ่มยังเป็นปัญหา แล้วจะเลี้ยงม้าตัวหนึ่งได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นม้าที่สูงใหญ่แข็งแรงตัวหนึ่งด้วย หากถูกขอทานคนอื่นๆ พบเข้า แล้วเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา…
เขา ขอทานเฒ่าที่อายุมากแล้วคนหนึ่ง และยังมีเด็กที่ท่าทางผอมแห้งบอบบางคนหนึ่ง…หากถูกผู้อื่นมองออกว่านังหนูนี่เป็นสตรีที่ยังไม่ได้แต่งงาน เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี…
“เด็กน้อย ม้าตัวนี้…เกรงว่าพวกเราคงเลี้ยงไม่ได้แล้ว!”
เมื่อประสบกับหายนะในครั้งนี้ ซูซูก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก นางรู้ว่าขอทานชราหวังดีกับนาง
นางก็รู้เหตุผลนี้เช่นกัน แต่ว่า นางในตอนนี้กลับมีแผนการอื่น
นางยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านผู้เฒ่า ข้ารู้! ข้ามีวิธีการหาเงินดีๆ วิธีหนึ่ง!”
ซูซูเอ่ยถึงตรงนี้ นัยน์ตาก็ทอประกายเจ้าเล่ห์ที่ไม่ได้ปรากฏมาหลายวันออกมา!
“หือ? วิธีดีๆ อะไรหรือ”
ซูซูได้ยินแล้วก็ยิ้ม
“ข้าตั้งใจจะขายม้าอีกครั้ง!”
ขอทานชราตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
เขาจำได้ว่านังหนูเพิ่งบอกกับม้าตัวนี้ไปว่าจะไม่แยกจากมันอีก
ซูซูลูบศีรษะม้า แต่กลับไม่มีทีท่าอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด ไม่เหมือนท่าทางของคนที่จะขายม้าเลยแม้แต่น้อย
“ท่านผู้เฒ่า ข้ารู้ว่าสภาพการณ์ของพวกเราในตอนนี้ เลี้ยงม้าตัวหนึ่งไม่ได้แน่นอน! แม้ว่าพวกเราจะเลี้ยงได้ แต่ก็ยากจะรับประกันได้ว่าคนที่มีใจคิดร้ายจะแอบเล่นตุกติกกับพวกเราลับหลัง! ดังนั้นข้าถึงได้วางแผนขายม้า!”
ม้าของนางภักดีต่อผู้เป็นนาย เช่นนั้นเหตุใดนางถึงไม่ขายม้าแลกเปลี่ยนเป็นเงิน
หลังจากนั้น…
รอผ่านช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานไป นางก็ผิวปากเรียกม้าตนเองกลับมาอีกครั้ง…
หลังจากนั้นก็ขายอีก! ค่อยเรียกกลับมาอีก…หลอกเอาเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
เช่นนั้น ไม่อยากรวยก็ยากแล้ว!
ฮ่าๆ!
ซูซูคิดถึงตรงนี้แล้ว ก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ หัวเราะสะใจจนไม่เหลือภาพลักษณ์
ช่างมากความสามารถจริงๆ ยกนิ้วโป้งชื่นชมให้ตนเองร้อยครั้ง!
แม้ว่าแบบนี้จะไร้ยางอายมาก แต่เพื่อที่จะหาค่าเดินทางไปตามหาซูชีได้มากพอ ต่อให้ไร้ยางอายมากกว่านี้นางก็ยอม
ถึงอย่างไร ตั้งแต่เด็ก นางก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ใครจะไปคิดว่าท่านหญิงคนหนึ่งจะสามารถคิดแผนการชั่วร้ายหลอกผู้คนเช่นนี้ออกมาได้?!
ขอทานชราคิดตามไม่ทัน
“แต่ว่า นี่ไม่ใช่ม้าของเจ้าหรือ ในเมื่อเจ้าหาม้ากลับมาได้ด้วยความยากลำบาก แล้วทำไมถึงได้แข็งใจขายม้าไปอีกเล่า”
ซูซูก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างไม่อยากให้ความรู้สึกในแววตาถูกใครสอดแนมได้!
“ไม่ใช่เช่นนั้นท่านผู้เฒ่า ข้าไม่ได้ใจร้ายขายม้าตนเองทิ้ง แต่ข้ามีเหตุผลของข้า ข้าจำเป็นต้องขายมัน!”
นางลูบแพงคอม้าด้วยความเอ็นดูอีกครั้ง
นับตั้งแต่ม้าตัวนี้ติดตามนาง ก็ไม่เคยได้รับความลำบากสักครั้ง แต่ในตอนนี้การที่มันถูกคนขายเปลี่ยนมือไปหลายครั้ง กลับเป็นเพราะนางทำซ้ำไปซ้ำมาเอง!
รอผ่านหายนะครั้งนี้ไปก่อน นางจะต้องรักและทะนุถนอมมันเป็นอย่างดี
ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ให้มันได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว
เจ้าม้าดูเหมือนจะรู้ความในใจของนาง จึงใช้ศีรษะถูมือนาง คล้ายกับให้กำลังใจนาง
แม้ว่าขอทานชราจะฐานะต่ำต้อย แต่ก็เห็นน้ำใจที่มนุษย์มีต่อกันมามาก และยิ่งรู้ว่าในใจของทุกคนล้วนมีความลับ
เขาพยักหน้าแล้วไม่ถามอะไรมากไปกว่านี้อีก
“ก็ได้ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่ถามอะไรอีก”
อย่างไร นี่ก็ล้วนเป็นเรื่องของเด็กคนนี้ สิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงแค่เตือนอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในตอนที่นางสับสน ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น เขาก็ไม่คิดแล้ว
คนเราเห็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิบัติต่อกันในยามมีอำนาจและไร้อำนาจมามากแล้ว ก็สามารถเปิดใจยอมรับเรื่องต่างๆ บนโลกได้กว้างขึ้น
“เช่นนั้นเจ้าจูงม้าไปขายเถอะ ข้าจะกลับไปขอข้าวกินแล้ว” ขอทานชราเอ่ยจบก็เตรียมจะหมุนตัวจากไป แต่กลับถูกซูซูเรียกเอาไว้!
“ท่านผู้เฒ่า! พวกเราไปด้วยกันเถอะ!”
หากไม่ใช่เพราะขอทานชราผู้นี้ บางทีตอนนี้นางอาจจะแข็งตายไปแล้ว ยังจะมีน้ำอุ่นดื่ม และสามารถตามหาม้าของตนเองกลับมาได้เสียที่ไหนกัน
หลังจากขายม้าแล้ว นางจะต้องกตัญญูต่อท่านผู้เฒ่าเป็นอย่างดี และจัดการช่วงชีวิตที่เหลือของเขาให้เรียบร้อย ย่อมไม่มีทางให้เขาจากไปคนเดียวแน่นอน