ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 639 ประนีประนอม (ต้น)

ตอนที่ 639 ประนีประนอม (ต้น)

ทาง​นี้​เกิดเรื่อง​วุ่นวาย​ใหญ่โต​ขนาด​นี้​ ​เป็นไปไม่ได้​ที่​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ไม่รู้​เรื่อง​ ​แต่​การ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ยื่นมือ​เข้ามา​จัดการ​เรื่อง​ใน​เรือน​ของ​นาง​เช่นนี้​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แปลกใจ​ไม่น้อย

ทุกคน​ล้วน​มี​เส้น​ขอบเขต​ของ​ตัวเอง​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​แม่​คน​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​คือ​เส้น​ของ​นาง

หาก​เป็นเรื่อง​อื่น​ ​ต่อหน้า​ผู้อาวุโส​ ​แม้ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่​ยินยอม​ ​ท้ายที่สุด​นาง​ก็​จะ​ถอย​อยู่ดี​ ​แต่​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​นาง​จึง​ไม่​สามารถ​ที่จะ​ยอม​ได้

เด็ก​คน​นี้​…​ฉลาด​เกินไป​ ​เขา​ไม่ยอม​เอ่ย​คำขอโทษ​ออกจาก​ปาก​ ​แต่​รู้​วิธีใช้​ทักษะ​การ​พูด​ ​สามารถ​โน้มน้าว​ผู้อื่น​ได้​อย่างง่ายดาย​ ​หาก​นาง​ยอม​ถอย​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​จะ​จับ​สังเกต​ได้​ในทันที​ ​คิด​ว่า​แค่​ได้รับ​การปกป้อง​และ​การ​เข้าข้าง​ของ​ท่าน​ย่า​ ​ไม่ว่า​จะ​ทำผิด​เรื่อง​อัน​ใด​มา​ ​ก็​จะ​สม​ดั่ง​ใจหวัง​ทุกอย่าง​ ​สำหรับ​เขา​แล้ว​ ​นี่​ถือเป็น​ความคิด​ที่​อาจจะ​นำพา​เขา​ไป​สู่หา​ยนะ​ได้

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​เหลือบ​ไป​มอง​จิ​่น​เกอ

ใบหน้า​เล็ก​ๆ​ ​ของ​จิ​่น​เกอ​ที่​หวาดกลัว​เมื่อครู่นี้​ ​เปลี่ยนเป็น​แดง​ระเรื่อ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​จ้องมอง​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตื่นเต้น​ดีใจ​ ​ราวกับว่า​คว้า​ท่อนไม้​ขณะ​ลอยคอ​อยู่​กลาง​ทะเล​ได้​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่​ลังเล​อีกต่อไป

“​ป้า​ตู้​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​สงบนิ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​กำลัง​คุย​ธุระ​กับ​จิ​่น​เกอ​อยู่​ ​ขอ​ป้า​ตู้​ช่วย​รอสั​กป​ระ​เดี๋ยว​”​ ​พูด​จบ​ก็​หันไป​ส่งสายตา​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​ฝ่า​ฝน​ไป​ประคอง​แขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ที่​กำลัง​ยืน​อยู่​ใต้​คัน​ร่ม​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ฝนตก​หนัก​ลม​พัด​แรง​เช่นนี้​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​สั่ง​บ่าว​รับใช้​มาแจ้ง​ก็​พอ​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ลำบาก​มาถึง​นี่​ด้วย​เล่า​เจ้า​คะ​”​ ​รอยยิ้ม​พริ้มพราย​ ​น้ำเสียง​อ่อนโยน​เหมือนเช่น​เคย​ ​แต่​สีหน้า​และ​แววตา​ที่​แน่วแน่​ของ​นาง​ไม่​อาจ​ปิดบัง​ไท่ฮู​หยิน​ที่​ผ่าน​ร้อน​ผ่าน​หนาว​มามาก

เมื่อ​ได้ยิน​สาวใช้​น้อย​มาเรีย​นว​่า​สือ​อี​เหนียง​และ​จิ​่น​เกอ​ทะเลาะ​กัน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ตกใจ​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนที​่​นิสัย​นุ่มนวล​และ​อ่อนโยน​ ​แม้ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​เกเร​ไป​บ้าง​ ​แต่​ก็​เป็น​เด็ก​ที่​พูด​รู้เรื่อง​ ​มี​ความกตัญญู​ ​รู้จัก​เดินหน้า​และ​ถอยหลัง​เป็น​ ​ทั้งสอง​คน​จะ​ทะเลาะ​กันได​้​อย่างไร​กัน

ไท่ฮู​หยิน​จึง​รีบ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​จากนั้น​ก็​ให้​ป้า​ตู้​พามา​ที่​เรือน​หลัก

แต่​พึ่ง​จะ​ก้าว​พ้น​ประตู​เรือน​ ​ก็​เริ่ม​มี​ลมแรง​และ​ฝนตก​หนัก

ไท่ฮู​หยิน​จึง​ต้อง​ย้อนกลับ​ไป​เอา​ร่ม

พอ​เดิน​มา​ได้​ครึ่งทาง​ ​ก็​เจอ​กับ​สาวใช้​น้อย​ที่นาง​สั่ง​ให้​มาสืบ​ข่าว​ ​เล่า​ว่า​จิ​่น​เกอ​ดื้อรั้น​หัวแข็ง​ ​ตอนนี้​กำลัง​ยืน​ตากฝน​อยู่​ใน​ลาน​สวน​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ไม่ยอม​ถอย​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ​ปล่อย​ให้​จิ​่น​เกอ​ยืน​ตากฝน​ทั้งอย่างนั้น

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ร้อนใจ​เป็นอย่างมาก​ ​แอบ​ตำหนิ​สือ​อี​เหนียง​ใน​ใจ​ว่านาง​สั่งสอน​บุตรชาย​ไม่​แยกแยะ​สถานการณ์

เมื่อ​เดิน​ไป​ถึง​ลาน​สวน​ ​พอ​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​มาถึง​ก่อนหน้านี้​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​แต่​เพิ่งจะ​ก้าว​เข้าไป​ใน​เรือน​หลัก​ ​ก็​เห็น​ว่า​สถานการณ์​ของ​จิ​่น​เกอ​ไม่ได้​เป็น​เหมือน​ที่นา​งคิด​ไว้​ ​ไม่ได้​สวม​เสื้อผ้า​ที่​สะอาดสะอ้าน​หรือ​กำลัง​ดื่ม​ชาร้อน​เพื่อให้​ความอบอุ่น​กับ​ร่างกาย​ ​บ่าว​รับใช้​ต่าง​ก็​กำลัง​ปรนนิบัติ​ด้วย​ความระมัดระวัง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่านา​งมา​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​เรียก​นาง​ด้วย​ความตื่นเต้น​ดีใจ​พร้อมกับ​วิ่ง​เข้ามา​กอด​แขนนาง​ไว้​ ​“​ท่าน​ย่า​”​ ​เขา​เหมือน​ลูกเจี๊ยบ​ที่​ตกน้ำ​ ​ยืน​อยู่​ข้าง​เสา​ท่ามกลาง​ความมืด​สลัว​ด้วย​ความน้อยใจ​ ​ไท่ฮู​หยิน​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เขา​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​กำลัง​จ้องมอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​สายตา​ที่​เคร่งขรึม

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​แล้วก็​รู้สึก​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก

ผู้ใหญ่​สอง​คน​ร่วมมือ​กัน​จัดการ​เด็ก​ตัวเล็ก​ๆ​ ​คนเดียว​ ​นี่​มัน​เรื่อง​อัน​ใด​กัน​ ​กลัว​ว่า​จะ​ไม่​ชนะ​เด็ก​ตัวเล็ก​ๆ​ ​หรือ​อย่างไร​กัน

คำพูด​ฉุนเฉียว​ก็​ถูก​เอ่ย​ออกมา​จาก​ปาก

ท่าที​ที่​เคารพ​และ​นอบน้อม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​แสร้งทำ​เป็น​ไม่ได้​ยิน​ใน​สิ่ง​ที่​ไท่ฮู​หยิน​พูด​นั้น​พลอย​ทำให้​ไท่ฮู​หยิน​รู้สึก​ไม่พอใจ​เข้าไป​ใหญ่

“​ทำไม​หรือ​ ​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​มา​ขัดจังหวะ​การ​สั่งสอน​บุตร​ของ​พวก​เจ้า​หรือ​อย่างไร​กัน​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่​เกรงใจ​แม้แต่​นิดเดียว

ใน​จวน​นี้​ ​คนที​่​จิ​่น​เกอ​เห็น​ว่า​เป็น​ที่พึ่ง​พิง​ได้​ก็​มี​แค่​ไท่ฮู​หยิน​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ตอนนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยืน​อยู่​ข้าง​นาง​ ​ก็​เหลือ​แค่​ไท่ฮู​หยิน​ด่าน​สุดท้าย​แล้ว​ ​หาก​นาง​สามารถ​โน้มน้าว​ทั้งสอง​คน​นี้​ได้​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​จะ​พึง​ตระหนักถึง​สถานการณ์​ของ​ตนเอง​ ​แล้วจึง​จะ​ค่อย​ตั้งใจ​พิจารณา​คำพูด​ของ​นาง

ความคิด​พลัน​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ของ​นาง

“​ฮองเฮา​และ​ท่าน​โหว​ล้วนแล้วแต่​เป็น​ท่าน​ที่​เลี้ยงดู​จน​เติบใหญ่​ ​การอบรม​บ่ม​สอน​บุตร​ ​ไม่มี​ผู้ใด​สามารถ​ทำได้​อย่าง​ท่าน​แล้ว​ ​ตรงไหน​ที่​ทำไม​่​ถูก​ไม่​ควร​ ​ล้วนแล้วแต่​ต้อง​ขอ​คำ​ชี้แนะ​จาก​ท่าน​ทั้งสิ้น​ ​จะ​เรียกว่า​รบกวน​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ยังคง​ยิ้ม​กว้าง​ ​จากนั้น​ก็​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ระเบียง​ทางเดิน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​เพียงแต่ว่า​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​คน​นี้​มี​อารมณ์​ที่​ฉุนเฉียว​และ​โมโห​ร้าย​จน​เกินไป​ ​แม้แต่​คำพูด​ของ​ข้า​เขา​ก็​ยัง​ไม่ยอมรับ​ฟัง​ ​ท่าน​ไม่รู้​ว่า​ข้า​ทุกข์ใจ​กับ​นิสัย​อารมณ์ร้อน​ของ​เขา​แค่ไหน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​ที่​จิ​่น​เกอ​ดึง​ต่างหู​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​ขึ้น​มา​ ​ตอนที่​ไท่​จื่อ​ทรง​รับสั่ง​ให้​พา​จิ​่น​เกอ​เข้า​วัง​เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​ ​“​…​วันนั้น​หลังจากที่​เขา​ออกจาก​จวน​ไป​แล้ว​ ​ใน​ใจ​ของ​ข้า​ก็​รู้สึก​ห่วง​เขา​เป็นอย่างมาก​ ​ประเดี๋ยว​ก็​กังวลใจ​ว่าที่​ผ่าน​มา​เขา​อยู่​แต่​ใน​จวน​ ​สามารถ​ทำ​ทุกอย่าง​ได้​ตามอำเภอใจ​จน​กลายเป็น​ความเคยชิน​ไป​แล้ว​ ​ตอนที่​เข้าเฝ้า​ไท่​จื่อ​ ​เขา​จะ​รักษา​กฎระเบียบ​และ​มารยาท​ได้​หรือไม่​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ได้ยิน​ว่า​องค์​หญิง​ใหญ่​ทรง​ชอบ​ไป​เล่น​หมากล้อม​กับ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​ตอน​จิ​่น​เกอ​เข้า​วัง​ ​ทั้งสอง​จะ​เจอกัน​โดยบังเอิญ​หรือไม่​ ​หากว่า​ทั้งสอง​ทะเลาะ​กัน​เหมือน​ตอน​ยัง​เด็ก​ขึ้น​มา​ ​องค์​หญิง​ใหญ่​เป็น​ถึง​ธิดา​แห่ง​สวรรค์​ที่​มิมี​ผู้ใด​กล้า​ล่วงเกิน​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​ก็​เป็น​คนที​่​ไม่ยอม​ใคร​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​จะ​ทำ​อย่างไรเล่า​เจ้า​คะ​ ​ยังดี​ที่​วันนั้น​องค์​หญิง​ใหญ่​ทรง​ไป​ที่​พระตำหนัก​ของ​ไท่​จื่อ​กับ​ฮองเฮา​ ​ข้า​จึง​พอค​ลาย​กังวลใจ​ได้​บ้าง​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​พร้อมกับ​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​อย่างสงบ​ ​ปล่อย​ให้​ไท่ฮู​หยิน​สังเกต​นาง​ได้​อย่างเต็มที่​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ใจเย็น​และ​สุขุม​ ​ดู​จริงใจ​ไร้​ซึ่ง​ความหวาดหวั่น​แต่อย่างใด

หลาย​ปี​มานี​้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอาแต่​หลบเลี่ยง​การพา​จิ​่น​เกอ​เข้า​วัง​ ​ไท่ฮู​หยิน​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​เป็น​อย่างดี​ ​เขา​ไม่ต้องการ​ให้​บุตรชาย​ไป​สู้​หัวชนฝา​โดยที่​ไม่​คิด​และ​ไตร่ตรอง​ในขณะที่​เขา​ไม่รู้​ตัว​ว่า​กำลัง​ตกอยู่ในอันตราย​เสียด​้วย​ซ้ำ​…​การ​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​มา​เช่นนี้​…​ตน​กับ​สะใภ้​คน​นี้​ใช้ชีวิต​ร่วมกัน​มา​หลาย​ปี​ ​จึง​รู้ดี​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ใช่​คนที​่​พูดจา​เรื่อยเปื่อย​ ​แต่​หาก​จะ​ให้​นาง​เชื่อ​ว่า​จิ​่น​เกอ​มีนิ​สัย​ดื้อรั้น​และ​หัวแข็ง​ถึง​เพียงนี้​…

ไท่ฮู​หยิน​ส่ายหน้า​เบา​ๆ

ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​รู้สึก​ไม่เชื่อ​อยู่ดี

ท่ามกลาง​ความ​เงียบ​ ​ทุกคน​พากัน​เดิน​ไป​จนถึง​ชายคา

ใน​ใจ​ของ​ป้า​ตู้​เต้น​ระรัว​ ​ราวกับว่า​กำลัง​รัว​กลอง​ก็​ไม่​ปาน

ที่ฮู​หยิน​สี่​ทำ​เช่นนี้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่​อยาก​ให้​ไท่ฮู​หยิน​เข้ามา​แทรกแซง​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​พูด​ออก​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่​ควร​ที่จะ​ฝ่าฝืน​ ​เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​รีบ​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทันที

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​ยืน​มือ​ไพล่หลัง​อยู่​ตรงนั้น​ ​แววตา​ของ​เขา​ลุ่มลึก​แต่​สงบ​ ​สีหน้า​อ่อนโยน​แต่​หนักแน่น​ ​ไม่ได้​แตกต่าง​จาก​ปกติ​แต่อย่างใด​ ​พลอย​ทำให้​นาง​ดู​ไม่​ออก​ว่า​เขา​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่

ควรจะ​ทำ​เช่นไร​ดี

ป้า​ตู้​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ​ที่​เสื้อผ้า​เปียกปอน​ไป​หมด​ ​จู่ๆ​ ​ก็​นึก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้

“​คุณชาย​น้อย​หก​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​จูงมือ​ของ​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความ​สนิทสนม​ ​“​เสื้อผ้า​ของ​ท่าน​เปียก​หมด​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​หยิบ​เอา​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​คลุม​ตัว​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​“​ป้า​ตู้​ช่วย​ท่าน​กัน​ลม​ไว้​หน่อย​ ​ประเดี๋ยว​จะ​เป็นหวัด​เอา​ได้​!​”

แก้ขัด​ไป​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน

เวลานี้​สมาธิ​ของ​จิ​่น​เกอ​จดจ่อ​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​คนเดียว​เท่านั้น​ ​เขา​จึง​ตอบกลับ​อย่าง​ขอไปที​ ​ปล่อย​ให้​ป้า​ตู้​ช่วย​เขา​คลุม​ผ้า​ ​รอ​ไท่ฮู​หยิน​เดิน​มา​จนถึง​ชายคา​ ​เขา​ก็​ทิ้ง​ป้า​ตู้​จากนั้น​ก็​วิ่ง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ทันที​ ​“​ท่าน​ย่า​!​ ​ท่าน​ย่า​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้าไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​โอบกอด​หลานชาย​แน่น​พร้อมกับ​หัวเราะ​เบา​ๆ

ฝ่ามือ​ที่​สัมผัส​ได้​ถึง​ความ​เปียกโชก​ไป​ทั้งตัว

ความลังเล​ไม่​มั่นใจ​ใน​ตอนแรก​ก็​เอนเอียง​ไป​ตามธรรม​ชาติ​โดยปริยาย

“​ตี​ก็​ส่วน​ตี​ ​ดุก​็​ส่วน​ดุ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​จ้องมอง​ไป​ยัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​แววตา​ที่​ไม่พอใจ​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​แต่​ก็​ไม่เห็น​ว่า​จะ​ช่วย​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​ ​ตอนที่​พวก​เจ้า​ยัง​เด็ก​ ​ข้า​เอง​ไม่เคย​ทำ​เช่นนี้​มาก​่อน​!​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​ข้า​จะ​คอย​ดู​ว่า​พวก​เจ้า​จะ​ทำ​อย่างไร​!​”

ทุกคน​ที่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ต่าง​ก็ได้​ยิน​คำพูด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อย่างชัดเจน

จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​กว้าง​ ​คลอเคลีย​อยู่​ข้าง​กาย​ไท่ฮู​หยิน​ ​นัยน์ตา​สีดำ​ทมิฬ​ราวกับ​หยก​ดำ​ของ​เขา​คอย​กวาดตา​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยินดี​ปรีดา

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​เจื่อน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถือเป็น​หัวหน้า​ของ​ครอบครัว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​ถาม​เขา​ ​แต่กลับ​มาถา​มนาง​แทน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​รับรู้​ได้​ถึง​เจตนา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​มีต​่อ​เรื่อง​นี้​ผ่าน​การกระทำ​ของ​ป้า​ตู้​ ​ก็​เลย​ช่วย​นาง​กู้​สถานการณ์​ ​จะ​ได้​จบเรื่อง​นี้​ได้​ง่าย​ขึ้น

สือ​อี​เหนียง​รับรู้​ได้​ถึง​ความหวังดี​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่กลับ​ไม่​อาจ​ที่จะ​ทำตาม​ได้​ ​กระนั้น​ต่อหน้า​ผู้คน​มากมาย​เช่นนี้​ ​จะ​ให้​นาง​ขัดคำสั่ง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เลย​ก็​ไม่เหมาะสม

“​ท่าน​แม่​พูด​ถูก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นอบน้อม​ ​“​เพียงแต่ว่า​ฝน​มาค​่อ​นข​้า​งกะ​ทัน​หัน​ ​ข้า​จึง​ดูแล​ไม่ทัน​ ​ยังดี​ที่​ตอนนี้​เป็นช่วง​ฤดูร้อน​ ​จิ​่น​เกอ​เอง​ก็​สุขภาพ​ร่างกาย​แข็งแรง​มาโดยตลอด​ ​มิเช่นนั้น​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​เป็นแน่แท้​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ฝนตก​หนัก​เช่นนี้​ ​ท่าน​ระวัง​จะ​โดน​ฝน​จน​เปียก​เอา​ได้​ ​สู้​เข้าไป​นั่ง​พัก​ใน​เรือน​ ​จิบ​ชาร้อน​ๆ​ ​สักหน่อย​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เลย​แม้แต่​คำ​เดียว

ทุกคน​ต่าง​ก็​เข้าใจ​ใน​ความหมาย​ภายใต้​คำพูด​ที่​สุภาพ​ของ​นาง

หัว​คิ้ว​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ขมวด​แน่น​ขึ้น​ทันที

จะ​สั่งสอน​บุตร​ก็​สั่งสอน​ไป​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​ลงโทษ​จน​ไป​ทำลาย​สุขภาพ​ร่างกาย​เช่นนี้

สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนที​่​ฉลาด​ ​ก็​คงจะ​เข้าใจ​ถึง​เจตนา​ของ​นาง​ได้

บรรยากาศ​ค่อยๆ​ ​อึมครึม​ขึ้น​เรื่อยๆ

จิ​่น​เกอ​ที่​คอย​สังเกต​สีหน้า​ท่าที​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ตลอดเวลา​ก็​เริ่ม​รู้สึก​กระวนกระวายใจ​ขึ้น​มา

“​ท่าน​ย่า​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​รีบ​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เบา​ๆ​ ​พลาง​ขาน​เรียก​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แผ่วเบา​ ​ดู​ขลาดกลัว​อย่างเห็นได้ชัด

ไท่ฮู​หยิน​จึง​ก้มหน้า​ลง​ไป​มอง​ ​ก็​เห็น​ว่า​จิ​่น​เกอ​กำลัง​จ้องมอง​นาง​พลาง​เม้มปาก​แน่น​ ​ตา​หงส์​กลม​โตกำ​ลัง​น้ำตา​คลอ​เบ้า

ไท่ฮู​หยิน​รู้สึก​ใจอ่อน​ขึ้น​มาทัน​ที

ช่างเถิด​ ​หาก​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ยินยอม​ ​ก็​ยัง​มีส​วีลิ​่​งอี​๋​อีกทั้ง​คน

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​ก็​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สีหน้า​ที่​ครุ่นคิด

มารดา​คง​อยาก​จะ​ให้​เขา​พูด​อะไร​บ้าง​กระมัง

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ไม่​พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว

อย่า​ว่าแต่​เขา​เห็นด้วย​กับ​ความคิด​ของ​สือ​อี​เหนียง​เลย​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​ไม่เห็นด้วย​ ​แต่​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​หาก​เขา​หักล้าง​คำพูด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ต่อหน้า​จิ​่น​เกอ​ ​สือ​อี​เหนียง​จะ​ยัง​หลงเหลือ​อะไร​ให้​น่าเชื่อถือ​และ​น่าเกรงขาม​อีก​กัน​!

บางครั้ง​ ​การ​ไม่​พูด​ก็​ถือเป็น​การแสดงออก​อย่างหนึ่ง

สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เคร่งขรึม​ขึ้น​มาทัน​ที

คน​หนึ่ง​เอาแต่​เชื้อเชิญ​ให้​ไป​ดื่ม​น้ำชา​ทาน​ของว่าง​ ​ส่วน​อีก​คน​ก็​ยืน​เงียบ​ไม่ยอม​พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​สอง​สามีภรรยา​ช่วยกัน​เป็นปี่เป็นขลุ่ย​ ​ร่วมมือ​พร้อมใจกัน​ให้​นาง​รามือ​จาก​เรื่อง​นี้​ให้​ได้​!

ไท่ฮู​หยิน​ทั้ง​ร้อนใจ​ทั้ง​ฉุนเฉียว​ในเวลาเดียวกัน

ทั้งสอง​คน​จะ​อบรม​สอนสั่ง​บุตร​อย่างไร​นาง​ไม่​ยุ่ง​ ​แต่​การ​เลือก​วิธี​ลงโทษ​เช่นนี้​ ​นาง​ไม่​อาจจะ​เพิกเฉย​ต่อไป​ได้​!

“​จิ​่น​เกอ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​จูงมือ​ของ​เขา​ ​“​ตาม​ย่า​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​!​”​ ​สีหน้า​ท่าที​แน่วแน่​เป็นอย่างมาก

จิ​่น​เกอ​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ใบหน้า​เล็ก​ๆ​ ​ยิ้ม​กว้าง​ราวกับ​ดอกไม้​ที่​กำลัง​เบ่งบาน​ก็​ไม่​ปาน

“​ขอรับ​!​”​ ​เขา​รีบ​ขานรับ​เสียง​สูง​พร้อมกับ​จับมือ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​แน่น

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​จะ​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ ​ผู้ใด​เข้าไป​ห้าม​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​ผิด​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​เข้าไป​ขวาง​ไท่ฮู​หยิน​เช่นนี้

ไท่ฮู​หยิน​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​สูง​ ​“​เจ้า​จะ​ขัดขวาง​ข้า​หรือ​อย่างไร​กัน​”

สิ้น​ประโยค​ ​บรรยากาศ​รอบ​ๆ​ ​ก็​เงียบสนิท​ขึ้น​มาทัน​ควัน

ป้า​ตู้​และ​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก็​หน้าซีด​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน​ ​ทุกคน​ถอย​ออกมา​อย่าง​เงียบๆ​ ​พยายาม​ถอย​ออกมา​จาก​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ให้​ห่าง​ที่สุด

สวี​ลิ่ง​อี๋​เริ่ม​รู้สึก​ร้อนใจ​ขึ้น​มา

เขา​เข้าใจ​เจตนา​ของ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​อย่างดี​ ​แต่​การ​ที่นาง​เข้าไป​ขวาง​มารดา​เช่นนี้​…

“​สือ​อี​เหนียง​!​”​ ​เมื่อ​ความคิด​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ ​เขา​รีบ​ตะโกนเรียก​นาง​ทันที​ ​“​เจ้า​คิด​จะ​ทำ​อะไร​กัน​ ​ยัง​ไม่​รีบ​กล่าว​ขอโทษ​ท่าน​แม่​อีก​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท