ตอนที่340 การลอบสังหารอาจารย์ใหญ่
เกาะบลูมูนเป็นจุดเริ่มต้นที่ค่อนข้างต่ำหากเทียบกับทั้งโลกจริง แต่แค่ระดับต่ำยังทำความกดดันให้ผู้ที่เดินทางมาโลกนี้มาก
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เพียงหลีหยุนหมุ่ เพราะเมื่อเหล่าผู้ที่เดินทางมาจากโลกอื่นเห็นพลังของผางถู๋ก็กดดันกันอย่างมาก
การที่ได้มาสัมผัสและรู้ด้วยตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความแข็งแกร่งของคนพื้นเมืองที่มีทักษะและสกิลนั้น ทำให้เกิดความกดดันกันอย่างมาก
ไม่เพียงแค่ร่างกายที่แข็งแกร่งเท่านั้น ยังมีทักษะที่ดีอีกด้วย
พลังของผางถู๋นั้นมีเพียงแค่ระดับ3เท่านั้น เมื่อเทียบกับหัวหน้าโจรที่ถ้ำเก้ามังกรแล้วมันไม่ได้ดูมากมายเลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลังที่ได้เห็นทุกอย่างมันก็ทำให้หลีหยุนหมู่กลัวไปเลยทีเดียว
จนตอนนี้เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ พวกคนชนชั้นต่ำต้อยก็ได้สำเร็จการผันผวนอนาคตตัวเอง
หนึ่งในนั้นคือคนนอก เขาได้คว้าโอกาสที่จะได้รับคุณสมบัติการไปยังเกาะบลูมูนมาได้
“ข้าจะจัดการต่อเอง สำหรับใครที่ยืนหยัดได้ถึงสามนาทีจะไม่ใช่แค่เป็นศิษย์ของเกาะบลูมูนเท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกสกิลการจู่โจมจากวิหารของเกาะนี้ได้เพื่อต่อสู้กับศิษย์นอก”
หลังจากที่ผางถู๋เสร็จ คนต่อไปที่ขึ้นมาก็คือศิษย์คนที่สองซึ่งมีนามว่า ซัวหย๋า
เขาก็เป็นคนที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับผางถู๋ แต่ได้ฝึกฝนสกิลโจมตีที่ชื่อว่า Wind Cleaving Kick
ต้องบอกก่อนเลยว่าพลังของเขาเทียบเท่ากับผางถู๋ แต่การท้าทายของเขาจะได้รับสกิลไปจากวิหารเกาะเพื่อเป็นตัวเบิกทางไปยังเกาะบลูมูน
และสกิล Wind Cleaving Kick นี่จะเป็นการเตะย่างรวดเร็วราวกับสายลมแหวกอากาศไปยังเป้าหมาย ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่น่ากลัวคือ สกิลนี้จะรุณแรงขึ้นมากตามความแข็งแกร่งของผู้ใช้
เมื่อซัวหย๋าเดินขึ้นไปบนเวทีและได้ท้าทายคนอื่น การต่อสู้ก็เข้มข้นขึ้น
หลังจากนั้นซัวหย๋าก็ได้สู้ไปหลายสิบคน และมีคนเดียวที่สามารถยืนหยัดได้ถึง 3นาที
บางทีแม้แต่หลีหยุนหมู่ก็ไม่อาจจะรับดาเมจการเตะของซัวหย๋าไหว ถึงแม้ว่าบ่อยครั้งที่หลีหยุนหมู่เอาชนะศัตรูได้ก็เพราะความแข็งแกร่งของเขาแต่ครั้งนี้คงจะไม่
ในไม่ช้าศิษย์คนที่สามของอาจารย์ใหญ่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
เขามีนามว่า ซัวเหล่ และเขาเป็นพี่ชายของซัวหย๋าซึ่งเขามีสกิล Cross Cover Armor และสกิลหมัด Day Killing fist และนอกจากนี้เขาก็ยังได้เรียนทักษะการโยกตัวมาอีกด้วย
เขามีพลังระดับ 15 และด้วยสกิลการป้องกัน การโจมตี และการหลบหลีกที่เขามี ก็ทำให้เขาเป็นคนที่น่ากลัวมาก
แม้แต่ผู้คนอื่นอย่างชาวประมงตะวันออกก็ยังต้องสะดุ้ง
หลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของผางถู๋และซัวหย๋าไปแล้ว ก็ไม่อยากจะพูดถึงคนที่สามเลย
“สำหรับใครที่ยืนหยัดได้ถึง3นาที จะสามารถเลือกทักษะการฝึกฝน สกิลการโจมตีและสกิลการหลบได้”
ซัวเหล่เป็นคนหัวโล้นและรูปร่างสูง แม้ว่าร่างกายเขาจะดูไม่แข็งแกร่ง แต่ถึงยังไงก็เขาก็เก่งกว่าสองคนที่ผ่านมาอยู่ดี
เมื่อเขาพูดเสร็จ ก็เกิดความปั่นป่วนในหมู่ผู้ชมด้านล่าง
“ทำไมรางวัลที่อาจารย์ใหญ่วิหารมอบให้ในปีนี้มันมากนักหล่ะ? ปีก่อนๆเห็นให้แค่สกิลการโจมตี และสกิลการหลบ”
“พระเจ้า ปีนี้พวกเขาจะให้ทักษะการฝึกฝนมาด้วย บ้าไปแล้วน่า”
อย่างไรก็ตาม ซัวเหล่ก็ยังพูดไม่เสร็จ
“และในปีนี้ ข้าก็จะเป็นตัวแทนของอาจารย์ใหญ่เองด้วย ถ้าอยากจะไปยังเกาะบลูมูน พวกเจ้าก็ต้องจัดการข้าให้ได้”
“อะไรนะ? แล้วท่านอาจารย์ใหญ่บูจี๋หล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่ปรากฎตัวในวันนี้?”
คำพูดของซัวเหล่ทำให้เกิดการโกลาหลขึ้น
บูจี๋เป็นอาจารย์ใหญ่ของวิหารในเกาะบลูมูน และยังเป็นผู้ปกป้องเมืองมังกรนี้ไว้ ดังนั้นการหายไปของเขาจึงทำให้ทุกคนกังวล
“เมื่อเดือนก่อน อาจารย์ได้เผชิญหน้ากับการลอบสังหารจากศัตรูที่ไม่รู้จัก”
“มันเป็นไปได้ยังไง ท่านอาจารย์ใหญ่ออกจะแข็งแกร่งขนาดนั้น เขาพ่ายจริงๆหรอ?”
หลีหยุนหมู่ก็หันไปมองพวก3คนนั้นที่มาจากโลกอื่นโดยไม่ทันตัวตัวและคิดในใจว่า การคาดเดาของเขาอาจจะผิดเพี้ยนไป
เหตุผลที่3คนนี้อยู่ที่นี่ และคนอื่นหายไปก็คงเป็นเพราะกำลังไปลอบฆ่าอาจารย์ใหญ่อยู่แน่ๆ
หลีหยุนหมู่มั่นใจอย่างยิ่งว่านี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
