ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 640 ประนีประนอม (กลาง)

ตอนที่ 640 ประนีประนอม (กลาง)

การ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​แสดงออก​เช่นนี้​ ​พลอย​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่​คุ้นชิน​เป็นอย่างมาก

แต่​นาง​เป็น​คนที​่​เมื่อ​เจอ​กับ​อุปสรรค​ก็​จะ​ยิ่ง​สู้​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​สถานการณ์​ยิ่ง​วุ่นวาย​ ​นาง​ก็​จะ​ยิ่ง​สุขุม

“​ท่าน​แม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​ประคอง​แขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​ ​“​ข้า​ไม่ได้​จะ​ขัดขวาง​ท่าน​ ​ข้า​เพียงแค่​อยาก​จะ​ถาม​คำถาม​กับ​จิ​่น​เกอ​ก็​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​ย่อ​ตัว​ลง​ให้​อยู่​ใน​ระดับ​เดียวกัน​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​“​เจ้า​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​กับ​แม่​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​กับ​ท่าน​ย่า​ดี​หรือไม่​”

“​ไม่​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​นึกไม่ถึง​ว่า​มารดา​จะ​ยัง​ยึดติด​กับ​เรื่อง​นี้​ไม่ยอม​ปล่อย​ ​เขา​จึง​รีบ​ไป​หลบ​อยู่​หลัง​ไท่ฮู​หยิน​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไม่​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​เด็ดขาด​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​คว้า​แขน​ของ​เขา​ไว้​ ​“​แม่​สั่ง​ให้​เจ้า​ไป​ ​เจ้า​ก็​ไม่​ไป​หรือ​”

“​ข้า​ไม่​ไป​ขอรับ​!​”​ ​เพียงแค่​จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​อาจารย์​ผัง​ก็​รู้สึก​รำคาญใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​รีบ​สะบัด​แขน​ออกจาก​มือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​พร้อมกับ​หันไป​กอด​แขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​แน่น​ ​“​ข้า​ถูก​ทำโทษ​ด้วย​การกั​กบ​ริ​เวณ​ไป​แล้ว​ ​เหตุใด​ข้า​ถึง​ยัง​ต้อง​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​อีก​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​พลาง​หันไป​มอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​ความ​วิงวอน​ ​หวัง​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ช่วย​ออกหน้า

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อยๆ​ ​ยืน​ตัวตรง​ ​จากนั้น​ก็​จ้องมอง​ไป​ยัง​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ให้​จิ​่น​เกอ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​กับ​ข้า​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​กลับมา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

ถึงแม้ว่า​คำพูด​ของ​นาง​จะ​อ้อมค้อม​และ​สุภาพ​ ​แต่​สิ่ง​ที่​สื่อ​ออกมา​นั้น​กลับ​ชัดเจน​เป็นอย่างมาก

ไท่ฮู​หยิน​เบิกตา​กว้าง​ด้วย​ความประหลาดใจ

ที่จริง​ก็​แค่​อาจารย์​สอน​วิชา​หมัด​มวย​ ​จะ​กล่าว​ขอโทษ​หรือไม่ก็​ไม่เห็น​สำคัญ

แต่​ร้อย​คุณงามความดี​กตัญญู​มา​เป็นอัน​ดับ​แรก​ ​จิ​่น​เกอ​ไม่เพียงแต่​ไม่เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่กลับ​กล้า​ต่อต้าน​สือ​อี​เหนียง​ต่อหน้า​ผู้คน​มากมาย​ ​เขา​อายุ​น้อย​แค่นี้​ ​แต่กลับ​โอหัง​ถึง​เพียงนี้​ ​ผ่าน​ไป​อีก​สัก​ปี​สอง​ปี​…​เกรง​ว่า​คงจะ​ไร้​ซึ่ง​บิดา​มารดา​ ​ไร้​ซึ่ง​ตระกูล​และ​บรรพบุรุษ​เป็นแน่แท้​!

ไท่ฮู​หยิน​จ้องมอง​มือ​เล็ก​ๆ​ ​ที่นาง​จูง​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​หลานชาย​ที่นาง​ทะนุถนอม​มาโดยตลอด​ ​ความเจ็บปวด​ ​ความ​ทรมาน​และ​ความสิ้นหวัง​ปะทุ​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​ของ​นาง​ ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​ดี​!

จิ​่น​เกอ​ที่​ฉลาด​หัวไว​ย่อม​รับรู้​ได้​ถึง​อารมณ์​จิตใจ​ที่​เปลี่ยนไป​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ในทันที

“​ท่าน​ย่า​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​กอด​แขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​แน่น​ ​“​ข้า​หนาว​ ​ข้า​อยาก​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ขอรับ​!​”​ ​เวลา​นั้น​เอง​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ออดอ้อน

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​สนใจ​ความเคลื่อนไหว​ของ​จิ​่น​เกอ​แต่อย่างใด​ ​นาง​เดิน​เข้าไป​ประคอง​แขน​อีก​ข้าง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​ ​“​ชา​เหล่าจ​วิน​เหมย​ที่​ท่าน​มอบให้​ข้ามา​เมื่อคราว​ก่อน​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ดื่ม​เลย​ ​วันนี้​ห้องครัว​ทำ​ขนม​สุ่ย​จิง​กับ​ขนม​เปี๊ยะ​ไส้​ถั่วแดง​กวน​มา​ใหม่​ๆ​ ​ท่าน​ไป​นั่ง​พัก​ที่​โถง​บุปผา​ก่อน​ดี​หรือไม่​ ​รอ​ให้​ข้า​พา​จิ​่น​เกอ​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​และ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ค่อย​ไป​คารวะ​ท่าน​ ​ท่าน​คิดเห็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​เพื่อ​เป็นการ​กู้หน้า​ให้​กับ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​จ้องมอง​ใบหน้า​ที่​กระวนกระวายใจ​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยนไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่​คำพูด​วาจา​และ​สีหน้า​ท่าที​เต็มไปด้วย​ความน่าเชื่อถือ​ ​ก่อน​จะ​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ

“​เช่นนั้น​ก็ดี​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ไป​นั่ง​พัก​ที่​โถง​บุปผา​ก็แล้วกัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​รีบ​หันไป​ส่งสายตา​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทันที

ที่​ไท่ฮู​หยิน​มี​โทสะ​ก็​เพราะ​รัก​และ​เอ็นดู​จิ​่น​เกอ​จับใจ​ ​แต่​ตอนนี้​จิ​่น​เกอ​กลายเป็น​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​เชื่อ​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​คงจะ​รู้สึก​เจ็บปวด​กว่า​คนอื่น​เป็น​ไหน​ๆ​ ​หาก​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​ ​คอย​พูดจา​ปลอบโยน​นาง​บ้าง​ ​อารมณ์​จิตใจ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​คงจะ​ดีขึ้น​ไม่น้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลัว​ว่า​ภายใต้​ความร้อน​ใจ​ ​สือ​อี​เหนียง​จะ​หลุดปาก​พูด​อะไร​ที่​ไม่เหมาะสม​ออกมา​ ​เขา​จึง​รีบ​ก้าว​ออกมา​ห้าม​สือ​อี​เหนียง​ไว้​โดยที่​ไม่สน​ใจความ​รู้สึก​ของ​มารดา​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​ภรรยา​ย่อ​ตัว​ลง​ไป​ถาม​บุตรชาย​ว่ายิน​ยอม​จะ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​เปลี่ยน​ชุด​หรือไม่​ ​มุม​ปากของ​เขา​ก็​ยก​ยิ้ม​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เผย​รอยยิ้ม​พอใจ​ออกมา

การก​ล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​เป็น​เพียง​หนึ่ง​ใน​เหตุผล​ตั้งต้น​ของ​ที่มา​เท่านั้น​ ​สิ่ง​สำคัญ​คือ​จิ​่น​เกอ​สามารถ​เรียนรู้​ความอดทน​อดกลั้น​ ​ยอม​อ่อนข้อ​และ​ความ​ประนีประนอม​ผ่าน​เหตุการณ์​ใน​ครั้งนี้​ ​หากว่า​เขา​ฝืนใจ​ตอบกลับ​มา​ว่า​ ​‘​ยินยอม​’​ ​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ก็​ถือเป็น​ความอดทน​อดกลั้น​และ​ความ​ประนีประนอม​อย่างหนึ่ง​ที่​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก​่อน​ ​สำหรับ​เขา​ถือว่า​ประสบความสำเร็จ​แล้ว​ ​แต่​หาก​เขา​ตอบกลับ​มา​ว่า​ ​‘​ไม่​ยินยอม​’​ ​มารดา​ไม่ใช่​คนที​่​ไร้เหตุผล​ ​หลังจากที่​มารดา​รับรู้​ถึง​ความดื้อ​รั้น​หัวแข็ง​ของ​จิ​่น​เกอ​แล้ว​ ​เขา​เชื่อ​ว่าความ​คิด​และ​ทัศนคติ​ของ​มารดา​จะ​ต้อง​เปลี่ยนไป​อย่างแน่นอน

และ​ตอนนี้​เรื่องราว​ก็​เป็นไปตาม​ที่​เขา​คาดการณ์​ไว้​ ​มารดา​เลือก​ที่จะ​ไม่​ยื่นมือ​เข้ามา​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​นี้​ ​ไม่ต้อง​รอ​ให้​ภรรยา​บอก​ ​เขา​ก็​จะ​พยายาม​ทำให้​สีหน้า​ของ​มารดา​กลับมา​เป็น​เหมือนเดิม​อยู่ดี

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เขา​รีบ​เดิน​เข้าไป​ประคอง​แขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ข้า​ไป​ที่​โถง​บุปผา​เป็นเพื่อน​ท่าน​ดี​หรือไม่​ขอรับ​!​ ​ตรงนี้​มี​แค่​สือ​อี​เหนียง​ก็​พอแล้ว​!​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​ข้า​จำได้​ว่า​เมื่อก่อน​ท่าน​เคย​บ่นว่า​เวลา​ทาน​ขนมหวาน​แล้ว​จะ​ปวดฟัน​มิใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ยัง​ทาน​ขนม​เปี๊ยะ​ถั่วแดง​กวน​กับ​ขนม​สุ่ย​จิง​อยู่​อีก​ ​สอง​อย่างนี้​ล้วน​เป็น​ขนมหวาน​ทั้งสิ้น​”

ไท่ฮู​หยิน​รู้​ว่าที่​บุตรชาย​ทำ​เช่นนี้​ก็​เพราะ​กลัว​ว่านาง​จะ​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​แล้ว​นาง​จะ​ปฏิเสธ​ความหวังดี​ของ​บุตรชาย​ได้​อย่างไร​กัน​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อมต​้​อง​ทำตาม​เจตนา​ของ​บุตรชาย​ ​“​ขนม​เปี๊ยะ​ที่​ขาย​อยู่​ข้างนอก​ทั้ง​หวาน​และ​เลี่ยน​ ​แต่​ขนม​ที่​จวน​เรา​ทำ​เอง​นั้น​ไม่​เหมือนกัน​ ​ไม่​ใส่​น้ำตาล​ ​อีกทั้ง​ยัง​ใช้​น้ำมันถั่ว​ลิสง​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​…​”​ ​แต่​น้ำเสียง​กลับ​ดู​เหม่อลอย​จิตใจ​ไม่​ค่อย​อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว

เมื่อ​เห็น​ว่า​บิดา​กำลัง​ประคอง​ท่าน​ย่า​ของ​ตน​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เริ่ม​รู้สึก​หวาดกลัว​ขึ้น​มาทัน​ที

เขา​รีบ​วิ่ง​ไป​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​…​ท่าน​ไม่​พา​ข้า​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​แล้ว​หรือ​ขอรับ​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ภายใน​จิตใจ​อัด​แน่น​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​มากมาย

“​เด็กดี​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หันกลับ​มา​ลูบ​ศีรษะ​ของ​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​“​คนเก่ง​!​ ​เชื่อฟัง​คำพูด​มารดา​ของ​เจ้า​ ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​…​”​ ​จู่ๆ​ ​คำพูด​ก็​หยุดชะงัก​ไป​ ​ลึก​ๆ​ ​ใน​ใจ​ก็​ยัง​รู้สึก​ทำใจไม่ได้​อยู่ดี​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​หลังจากที่​เจ้า​กลับมา​จาก​เรือน​ของ​อาจารย์​ผัง​แล้ว​ ​ย่า​ค่อย​ช่วย​เจ้า​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ชุด​ใหม่​เอง​”

“​ท่าน​ย่า​…​”​ ​น้ำตา​ของ​จิ​่น​เกอ​คลอ​เบ้า​ ​ราวกับว่า​กำลังจะ​ร้องไห้​ออกมา

อย่า​ว่าแต่​ไท่ฮู​หยิน​เลย​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เมื่อ​เห็น​บุตรชาย​เป็น​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ใจอ่อน​ขึ้น​มา​ ​อยาก​จะ​ปล่อย​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​ให้​รู้แล้วรู้รอด​…​แต่​หากว่า​เขา​ปล่อย​เรื่อง​นี้​ไป​ทั้ง​อย่างนี้​ ​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​ว่า​สิ่ง​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทำ​มา​จะ​สูญเปล่า​ไป​หมด

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยายาม​ข่มใจ​ตัวเอง​ไม่​ให้​หันไป​มอง​บุตรชาย​ ​จากนั้น​ก็​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ออก​ไป​จาก​เรือน​ ​“​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ที่นี่​ทั้งคน​ ​ท่าน​ก็​อย่า​เป็นกังวล​ใจ​ไป​เลย​…​”​ ​เขา​พยายาม​พูด​ปลอบใจ​ไท่ฮู​หยิน​ ​เพราะ​หาก​ไท่ฮู​หยิน​เปลี่ยนใจ​ขึ้น​มา​ ​เรื่อง​จะ​ยิ่ง​ยุ่งยาก​เข้าไป​ใหญ่​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ยัง​มี​ชา​แดงฝู​เจี​้​ยน​ที่​ใน​วัง​ประทาน​มา​ให้​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ ​ท่าน​จะ​เปลี่ยน​ชา​เหล่าจ​วิน​เหมย​เป็น​ชา​แดงฝู​เจี​้​ยน​หรือไม่​…​”​ ​ทั้งสอง​พากัน​เดิน​ออก​นอก​เรือน​ไป​ ​จากนั้น​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​ติดตาม​ออก​ไป​ ​เหลือ​เพียง​จิ​่น​เกอ​ที่​ยืน​อยู่​กลางทาง​เดิน​อย่าง​เดียวดาย

“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​เพราะเหตุใด​ท่าน​ย่า​ที่รัก​ใคร่​เจ้าที่​สุด​และ​ท่าน​พ่อ​ที่​เอ็นดู​เจ้าที่​สุด​ถึง​ยัง​ยืนยัน​ที่จะ​ให้​เจ้า​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา

ท่าน​ย่า​และ​ท่าน​พ่อ​…​ต่าง​ก็​ไม่​ช่วย​ตน​ทั้งคู่​…

จิ​่น​เกอ​กำมือ​แน่น​ ​เม้มปาก​เป็น​เส้นตรง​ ​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ​จ้องมอง​ปลายเท้า​ของ​ตัวเอง​ ​นี่​ถือเป็น​การ​ตอบกลับ​คำถาม​ของ​สือ​อี​เหนียง

“​ในเมื่อ​เจ้า​ยัง​ไม่เข้าใจ​ ​เช่นนั้น​ก็​ยืน​อยู่​ตรงนี้​ต่อไป​ก็แล้วกัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หมุนตัว​เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​อย่างใจ​เย็น​ ​“​เจ้า​คิดได้​เมื่อไร​ก็​ค่อย​มา​เจอ​แม่​เมื่อนั้น​”

จากนั้น​ประตู​ก็​ถูก​ปิด​ลง​อีกครั้ง

จิ​่น​เกอ​ค่อยๆ​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​หยาดน้ำ​ตาก​็​ค่อยๆ​ ​เอ่อล้น​ออกมา​จาก​ดวงตา​ของ​เขา

*****

ซ่า​ๆ​ ​ฝนตก​ลงมา​อย่างหนัก​ ​กิ่งไม้​ถูก​ลม​พัด​จน​เอนเอียง​ ​ใบไม้​ร่วง​เกลื่อน​เต็ม​พื้น​ไป​หมด​ ​เพียง​ครู่เดียว​ ​ลาน​สวน​ก็​เต็มไปด้วย​แอ่งน้ำ​ขัง​ที่เกิด​จาก​น้ำฝน

จิ​่น​เกอ​นั่ง​กอด​เข่า​อยู่​หน้า​ประตู​ด้วย​อาการ​หนาวสั่น

ครั้งนี้​คง​ไม่มีใคร​มา​จริงๆ​ ​แล้ว​…​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​ขนาด​นี้​ ​เขา​ยืน​จน​ขา​เหน็บชา​…​บิดา​คง​ไม่เอา​เขา​แล้ว​ ​ท่าน​ย่า​ก็​ไม่เอา​เขา​แล้ว​…​ไหน​จะ​จู๋​เซียง​ ​ชิว​อวี​่​ ​หวง​เสี่ยว​เหมา​ ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​และ​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก็​ไม่มีใคร​เอา​เขา​แล้ว​ ​เมื่อก่อน​หาก​ท่าน​แม่​โกรธ​เขา​ ​ทุกคน​ก็​จะ​คอย​เตือนสติ​เขา​…​จากนั้น​เขา​ก็​จะ​วิ่ง​ไป​ออดอ้อน​มารดา​ ​มารดา​ก็​จะ​อด​ไม่ได้​ ​สุดท้าย​ก็​จะ​ยิ้ม​พร้อมกับ​อุ้ม​เขา​ขึ้น​มาก​อด​มา​หอม​…​มารดา​ก็​จะ​กลับ​ไป​เป็นมา​รดา​คน​เดิมที​่​เวลา​จ้อง​ตาเขา​แล้วก็​จะ​ยิ้ม​ ​ไม่​เหมือนกับ​มารดา​คน​เมื่อครู่นี้​ที่​จ้องมอง​เขา​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา​…

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​แข็งทื่อ​ขึ้น​มาทัน​ที

มารดา​ ​ก็​ไม่เอา​เขา​แล้ว​ใช่​หรือไม่​…​.

จู๋​เซียง​และ​คนอื่นๆ​ ​เป็น​บ่าว​รับใช้​ที่​คอย​ปรนนิบัติ​ดูแล​มารดา​ ​เวลา​ที่มา​รดา​โกรธ​แล้ว​พวก​นาง​ไม่กล้า​มา​ ​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ปกติ​ ​แต่​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​เป็น​บ่าว​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​ดูแล​เขา​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​มา​เลย​…​น่า​โมโห​เกินไป​แล้ว​!​ ​รอ​เขา​กลับ​เรือน​ไป​ก่อน​ ​จะ​สั่ง​โบย​คนละ​สิบ​ไม้​เชียว​ ​ให้​พวกเขา​จำ​ให้​ขึ้นใจ​ว่าการ​มาช​่วย​เขา​นั้น​ถือเป็น​เรื่องสำคัญ​ที่สุด​…

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​หวด​มือ​กลางอากาศ​เต็มแรง​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​ด้วย​ความโมโห

ทันใดนั้น​เอง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีสาย​ฟ้าผ่า​ฟาด​ลงมา​ ​ท้องฟ้า​สว่าง​วาบ​ไป​ทั่ว​ ​ราวกับว่า​กำลัง​ตอบสนอง​การกระทำ​ของ​เขา​อย่างไร​อย่างนั้น

จิ​่น​เกอ​ตกใจ​จน​เนื้อตัว​สั่นเทา​ไป​หมด​ ​เขา​ซุก​หน้า​ลง​กับ​เข่า​ ​ขดตัว​แน่น​ขึ้น​กว่า​เดิม

ดังนั้น​เขา​จึง​ไม่ทันสังเกต​เห็น​ว่า​มีบ​่า​วรับ​ใช้​ชาย​กำลัง​ชะเง้อ​มอง​เขา​อยู่​ไกลๆ​ ​จากนั้น​ก็​วิ่ง​ตากฝน​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ตำรา

“​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​รอ​ให้​บ่าว​รับใช้​ชาย​ได้​ทัน​เดิน​เข้ามา​ ​นาง​เป็น​ฝ่าย​เดิน​เข้าไป​หาบ​่า​วรับ​ใช้​ชาย​คน​นั้น​แทน​ ​“​จิ​่น​เกอ​ยอม​แล้ว​หรือยัง​”

เม็ดฝน​ไหลผ่าน​จอน​ผม​ของ​เขา​ลง​ไป​ตาม​ใบหน้า​ ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​ยกมือ​ขึ้น​มา​เช็ด​หยาดฝน​บน​ใบหน้า​ของ​ตัวเอง​เสียด​้วย​ซ้ำ

“​ยัง​ขอรับ​!​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สั่นเครือ​ ​หาก​ไม่ได้ตั้งใจ​ฟัง​ดี​ๆ​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ถูก​เสียง​ฝน​กลบ​ไป​จน​หมด

“​เด็ก​คน​นี้​นี่​…​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​เดิน​วน​ไปมา​อยู่​ใน​เรือน

“​ท่าน​แม่​…​”​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​เต็มไปด้วย​ความกังวลใจ​ ​“​ท่าน​ใจเย็น​ลง​ก่อน​ ​อย่า​พึ่ง​วู่วาม​ไป​ ​เรื่อง​มาถึง​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​แม้ว่า​จะ​ยากลำบาก​ ​แต่​เรา​จำต้อง​แข็งใจ​ต่อไป​…​”

“​ข้า​รู้​ ​ข้า​รู้​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​โบกมือ​ด้วย​ความหงุดหงิด​ใจ​ ​“​ข้า​ก็​แค่​เป็นห่วง​จิ​่น​เกอ​…​เขา​ไม่เคย​ถูก​ลงโทษ​เช่นนี้​มาก​่อน​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​“​เมื่อ​ครู่​หาก​ข้า​ยืนยัน​ว่า​จะ​พา​เขา​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​แล้ว​ล่ะ​ก็​…​”​ ​น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความเสียใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หากว่า​เรา​พา​เขา​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​เขา​ก็​จะ​รู้สึก​ว่า​เรา​สงสาร​ไม่​อยาก​ให้​เขา​ทน​ลำบาก​ ​เกรง​ว่า​จะ​ยิ่ง​ทำให้​เขา​ไม่รู้​จัก​กลัว​เข้าไป​ใหญ่​…​”

“​ข้า​รู้​ ​ข้า​รู้​!​”​ ​หัว​คิ้ว​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ขมวด​แน่น​ ​“​ข้า​ก็​แค่​พูด​ไป​อย่างนั้น​…​”​ ​สีหน้า​ท่าที​ดูกระ​วน​กระ​วาย​ใจ​กว่า​ปกติ​ที่​เคย​เป็น​ ​แม้แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​ยัง​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​เจื่อน

หากว่า​จิ​่น​เกอ​ยัง​ไม่ยอม​ ​เกรง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ก็​คงจะ​อดทน​ต่อไป​ไม่ไหว​แล้ว​…

*****

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​เดิน​วน​ไปมา​อยู่​ใน​เรือน​ไม่​หยุด

นี่​ก็​ผ่าน​ไป​สอง​ชั่ว​ยาม​แล้ว​ ​เหตุใด​เด็ก​คน​นี้​ถึง​ไม่ยอม​สักที

รู้​ว่า​เขา​เป็น​คน​ดื้อรั้น​หัวแข็ง​ ​แต่​นึกไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​ดื้อรั้น​ถึง​เพียงนี้​ ​ยังดี​ที่นาง​โมโห​จน​มี​ความคิด​ที่จะ​กำราบ​นิสัย​ที่​ดื้อรั้น​ของ​เขา​ ​หาก​โต​ขึ้น​อีก​สักหน่อย​ ​ได้​ไปมาหาสู่​กับ​คน​ข้างนอก​มากขึ้น​ ​รู้​ว่า​ใต้​หล้า​นี้​กว้างใหญ่​ไพศาล​ ​เกรง​ว่า​เรือน​หลัก​เล็ก​ๆ​ ​หลัง​นี้​ ​คงจะ​รั้ง​เขา​ไว้​ไม่อยู่​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​ ​เวลา​ที่​เขา​ดื้อรั้น​ขึ้น​มาก​็​คงจะ​เอาแต่​หนี​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​บิดา​มารดา​ก็​คงจะ​ทำได้​แค่​ยอม​เขา​กระมัง

สือ​อี​เหนียง​แอบ​รู้สึก​ดีใจ​ลึก​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ทอดสายตา​มองออก​ไป​ยัง​นอก​หน้าต่าง

“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​ที่​ยืน​เงียบ​อยู่​ข้าง​เตียง​เตา​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​นี่​ก็​ใกล้​จะ​ถึง​เวลา​จุด​ตะเกียง​แล้ว​ ​ท่าน​ว่า​…​”

นาง​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​เอ่ยถึง​อาหารค่ำ​เสียด​้วย​ซ้ำ​!

“​อย่า​พึ่ง​รีบ​จุด​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​เต็มไปด้วย​ความลังเลใจ​ ​“​รอต​่อ​ไป​อีกหน่อย​…​”

พายุฝน​โหมกระหน่ำ​ท่ามกลาง​ความมืด​มิด​ยามค่ำคืน​เช่นนี้​ ​จิ​่น​เกอ​ยังคง​เลือก​ที่จะ​ต่อต้าน​ต่อไป​หรือ​อย่างไร​กัน

ทุกอย่าง​จะ​กลับตาลปัตร​ ​จาก​ผลดี​กลายเป็น​ผลเสีย​ ​พลอย​ทำให้​เด็ก​ขวัญเสีย​หรือไม่

ในขณะที่​กำลัง​ชั่งใจ​ด้วย​ความลังเล​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีสาย​ฟ้าผ่า​ลงมา​อีกครั้ง​ ​เสียงดัง​กึกก้อง​ไป​ทั่ว​ ​สว่าง​วาบ​ไป​ทั้ง​เรือน

ปัง​ๆ​ๆ​ ​เสียงเคาะ​ประตู​ดังลั่น

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​กลัว​!​ ​ข้า​กลัว​ขอรับ​!​”

เสียงร้อง​เรียก​ที่​สะอึกสะอื้น​ของ​จิ​่น​เกอ​ดัง​ขึ้น

ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ปรากฏ​สีหน้า​ที่​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​นาง​รีบ​วิ่ง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ห้องโถง

แต่​ในขณะที่​นิ้วมือ​ของ​นาง​พึ่ง​จะ​สัมผัส​โดน​บานประตู​เก๋อ​ซ่าน​ ​ฝีเท้า​ของ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​หยุดชะงัก​ลง​ ​รอยยิ้ม​เมื่อครู่นี้​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป

“​เจ้า​คิดได้​แล้ว​หรือยัง​ ​ว่า​จะ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​กับ​แม่​หรือไม่​”

น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ดูใจ​เย็น​แต่​มีเหตุผล​ ​แต่​ด้วยเหตุนี้​จึง​ทำให้​น้ำเสียง​ที่​พูด​ออกมา​นั้น​ฟัง​ดู​ค่อนข้าง​เย็นชา​อย่างเห็นได้ชัด

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท