ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 642 เงียบสงบ (ต้น)

ตอนที่ 642 เงียบสงบ (ต้น)

เซิน​เกอ​ลูบ​ศีรษะ​ตัวเอง​ด้วย​ความแปลกใจ

นี่​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน

ถึงแม้ว่า​จะ​ถูก​ลงโทษ​กักบริเวณ​ ​แต่​แค่​ไม่​ออกจาก​เขต​บริเวณ​ของ​เรือน​ปีก​ก็​พอแล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​ขยับตัว​ด้วย​เล่า​!

ขณะที่​กำลัง​รู้สึก​แปลกใจ​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เห็น​จิ​่น​เกอ​หันมา​กะพริบตา​ให้​เขา​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ก้มหน้า​ลง​ทันที​ ​ราวกับว่า​กำลัง​บอกเป็นนัย​ให้​เขา​ทำตาม

เซิน​เกอ​จึง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​อาจิน​ไป​ที่​ห้องโถง

อาจิน​ยก​ถาด​ไม้​เก้า​หลุม​ที่​เคลือบ​ด้วย​สีแดง​เงา​และ​แต่ง​แต้ม​ด้วย​ลวดลาย​ดอก​เหมย​สีทอง​พร้อมด้วย​น้ำชา​มาต​้อ​นรับ​เขา

เขา​ค่อยๆ​ ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ ​จากนั้น​ก็​ใช้​มือ​ที่​ถูก​พัน​ด้วย​ผ้า​ขาว​หยิบ​ขนม​วัว​ซือ​ถัง​ขึ้น​มาทาน​ ​ดูแล​้​วน​่า​รัก​และ​น่าขำ​ในเวลาเดียวกัน

สาวใช้​ต่าง​ก็​พากัน​ยิ้ม​พร้อมกับ​จ้องมอง​เขา​ ​จากนั้น​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ได้มา​ถึง​พอดี

“​พี่​สี่​!​ ​พี่​ห้า​!​”​ ​เซิน​เกอ​รีบ​กระโดด​ลง​จาก​เก้าอี้​ไท่​ซือ

“​มือ​ของ​เจ้า​?​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ค่อนข้าง​รู้สึก​แปลกใจ

เซิน​เกอ​รู้สึก​รำคาญใจ​เป็นอย่างมาก

เหตุใด​ทุกคน​ถึง​เอาแต่​ถาม​เรื่อง​มือ​ของ​เขา​!

“​ข้า​ไม่เป็นไร​”​ ​เขา​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เหนื่อยหน่าย​ใจ​ ​“​ข้า​ถูก​ท่าน​แม่​ตี​ขอรับ​!​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​เล่า​เหตุการณ์​อีก​รอบ

เมื่อ​สวี​ซื่อ​จุน​ได้​ฟัง​แล้วก็​หัวเราะ​ดังลั่น​ ​จากนั้น​ก็​ถามไถ่​เขา​ด้วย​ความเป็นห่วง​ว่า​ ​“​ให้​หมอ​มาดู​แล้ว​หรือยัง​ ​หมอ​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

“​ให้​หมอดู​แล้ว​”​ ​เซิน​เกอ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เบื่อหน่าย​ ​“​แค่​ต้อง​หมั่น​ทายา​และ​ทาน​ยาก​็​เท่านั้น​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​ว่า​ ​“​พี่​สี่​ไม่ได้​ไป​เรียนหนังสือ​หรือ​ขอรับ​ ​เหตุใด​ถึง​มาที​่​นี่​ในเวลานี้​ได้​”

“​ข้ามา​เยี่ยม​น้อง​หก​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​คลุมเครือ

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เอง​ก็​หันไป​ยิ้ม​ให้​กับ​เซิน​เกอ​ ​ถือเป็น​การทักทาย​เขา​ไป​ใน​ตัว

เซิน​เกอ​เอียง​ศีรษะ​ถาม​สวี​ซื่อ​เจี้ยว​่า​ ​“​พี่​ห้า​กลัว​ฟ้าผ่า​หรือไม่​ขอรับ​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตอบกลับ​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​“​ข้า​ไม่​กลัว​ฟ้าผ่า​!​”

“​แล้ว​เหตุใด​ท่าน​ถึง​นอนไม่หลับ​”

เมื่อคืนนี้​ทั้ง​ฝนตก​ทั้ง​ฟ้าร้อง

“​ข้า​ไม่ได้​นอนไม่หลับ​เสียหน่อย​!​”​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​รอยยิ้ม​เมื่อครู่นี้​ดู​แข็งทื่อ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​แววตา​ดู​เตรียมพร้อม​ที่จะ​เถียง​กลับ​อย่างเต็มที่

เซิน​เกอ​ไม่ทัน​ได้​สังเกตเห็น

“​ข้า​ทาย​ถูก​ใช่​หรือไม่​!​”​ ​เขา​ชี้​ไป​ที่​ดวงตา​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยด​้ว​ยสี​หน้าที่​ภาคภูมิใจ​ ​“​ใต้​ตาของ​ท่าน​คล้ำ​ไป​หมด​แล้ว​ ​ป้า​สือ​บอกว่า​หาก​นอน​พักผ่อน​ไม่​เพียงพอ​ ​ใต้​ตาก​็​จะ​ดำคล้ำ​”

“​เช่นนั้น​หรือ​!​”​ ​สีหน้า​ท่าที​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยดู​ผ่อนคลาย​ลง​อย่างเห็นได้ชัด​ ​รอยยิ้ม​กลับมา​อ่อนโยน​อีกครั้ง​ ​“​ช่วงนี้​ข้า​อ่านหนังสือ​จน​ดึกดื่น​แทบ​ทุกคืน​!​”

“​เห็น​อาจารย์​จ้าว​บอกว่า​การเรียน​ของ​เจ้า​ดีขึ้น​ไม่น้อย​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​พูด​ขึ้น​ ​“​การทุ่มเท​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​ให้​เรื่อง​นี้​ส่งผล​เสีย​ต่อ​สุขภาพ​เรา​ได้​ ​หาก​ร่างกาย​ล้ม​ป่วย​ขึ้น​มา​ ​พลอย​แต่​จะ​ทำให้​การเรียน​ถดถอย​…​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ม่าน​ประตู​ก็​ถูก​เปิด​ออก​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา

“​ข้า​ได้ยิน​เสียง​พวก​เจ้า​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​พวก​เจ้า​มา​ได้​อย่างไร​ ​ตอนนี้​จิ​่น​เกอ​กำลัง​ฝึก​คัดตัว​อักษร​อยู่​ใน​เรือน​!​”

ความหมาย​ก็​คือ​มีธุระ​อะไร​ก็​ให้​คุย​กันต​รง​นี้​!

ทั้งสอง​เติบโต​ขึ้น​ภายใต้​การ​เลี้ยงดู​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​รู้ดี​ว่านาง​ให้ความสำคัญ​และ​เข้มงวด​กับ​การเรียน​เป็น​ที่สุด​ ​หลัง​เลิกเรียน​ก็​จะ​ต้อง​รีบ​ทำการบ้าน​ให้​เสร็จ​ก่อน​เป็นอัน​ดับ​แรก​ ​มีธุระ​อะไร​หาก​เลื่อน​ได้​ก็​จะ​เลื่อน​ไป​ก่อน​ ​แต่​ห้าม​ละทิ้ง​ไป​กลางคัน​เป็นอันขาด​ ​บางครั้ง​ ​หากว่า​ทำการบ้าน​ไม่เสร็จ​ ​ก็​อาจ​ถึงขั้น​เลื่อน​มื้อ​ค่ำ​ออก​ไป​เสียด​้วย​ซ้ำ

สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ต่าง​ก็​รู้สึก​ว่านี​่​เป็น​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​ ​จึง​อยู่​คุย​เล่น​กับ​สือ​อี​เหนียง​ต่อ

เซิน​เกอ​กลับ​แลบลิ้น​ออกมา​ด้วย​ความเบื่อ​หน่อย

สวี​ซื่อ​จุน​ถามถึง​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​เมื่อคืนนี้​เขา​ถูก​อบรมสั่งสอน​หรือ​ขอรับ​ ​ตอนนี้​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”

เมื่อคืนนี้​ไท่ฮู​หยิน​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​พากัน​ปรึกษาหารือ​ถึง​สาเหตุ​ที่​จิ​่น​เกอ​ถูก​ลงโทษ​ไป​ครึ่ง​ค่อนคืน​ ​จึง​ได้​บทสรุป​ว่าที่​จิ​่น​เกอ​ถูก​ลงโทษ​นั้น​เพราะ​เขา​ไม่ยอม​ไป​กล่าว​ขอโทษ​อาจารย์​ผัง​ ​เพราะ​หาก​เรื่อง​ถูก​ผู้คน​เล่า​ออก​ไป​ ​ก็​มี​แต่​จะ​กลายเป็น​คำ​ติฉินนินทา

“​ไม่เป็นอะไร​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เพียงแต่ว่า​เขา​ถูก​กักบริเวณ​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​จึง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​ชิน​ก็​เท่านั้น​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เหลือบ​ไป​มอง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​เอาแต่​นิ่งเงียบ​ไม่พูดไม่จา​ ​ดู​ผ่ายผอม​ไป​ไม่น้อย​ ​ทุกคน​กำลัง​พูดคุย​กัน​อย่างสนุกสนาน​ ​แต่​เขา​กลับ​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​เหม่อลอย​ ​ราวกับว่า​จิตใจ​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว

“​หลาย​วัน​มานี​้​เจ้า​ยัง​ไป​อ่านหนังสือ​ที่​ร้านหนังสือ​อยู่​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา

ครั้ง​ที่แล้ว​สีหน้า​ท่าที​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แปลกประหลาด​เป็นอย่างมาก​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เลย​เรียก​สี่​เอ๋อร​์​มาถาม​ ​จึง​ได้ความ​ว่า​ตอนที่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ไป​ส่ง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​เฉิง​หนาน​ ​ระหว่าง​นั้น​ก็ได้​เจอ​กับ​เหล่า​สหาย​ร่วม​คณะ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​หลังจากที่​ได้​ร่วม​ทานอาหาร​และ​ไปหา​ซื้อ​หนังสือ​ที่​ร้านหนังสือ​ด้วยกัน​แล้ว​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ชอบ​เป็นอย่างมาก​ ​บางครั้ง​เขา​ยัง​ชวน​สวี​ซื่อ​จุน​ไป​เดินเที่ยว​ที่โน่น​อีกด้วย​ ​หลังจากที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้เรื่อง​แล้ว​ ​ก็​ไม่เห็นด้วย​เป็นอย่างมาก​ ​“​หนังสือ​ที่นั่น​ดีกว่า​หนังสือ​ที่​จวน​ของ​เรา​เก็บ​สะสม​ไว้​หรือ​อย่างไร​กัน​”

ความชอบ​ของ​แต่ละคน​นั้น​ไม่​เหมือนกัน

บางคน​ชอบ​ไป​นั่ง​แช่​อยู่​ใน​ห้องสมุด​ ​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ห้องสมุด​นั้น​ให้ความรู้​สึก​บางอย่าง

“​เด็ก​ๆ​ ​ล้วน​เติบโต​กัน​แล้ว​ ​ต่าง​ก็​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตนเอง​ ​เรา​ไม่ต้อง​ไป​ยุ่มย่าม​จะ​เป็นการ​ดีกว่า​ ​มิเช่นนั้น​ ​ท่าน​จะ​ยกเลิก​คำสั่ง​กักบริเวณ​พวกเขา​ทำไม​กัน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ​เรื่อง​นี้​จึง​ถือเป็น​การ​รับปาก​ไป​โดยปริยาย

เมื่อ​ได้ยิน​มารดา​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​รู้สึก​เก้อเขิน​เป็นอย่างมาก​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​พี่​สี่​มักจะ​ไป​ที่​จวน​เวย​เป่ย​โหวกั​บท​่า​นพ​่​ออยู​่​เป็นประจำ​ ​ก็​เลย​ไม่​ค่อย​มี​เวลา​ออก​ไปเป็นเพื่อน​ข้า​ ​ข้า​ก็​เลย​ไป​เดินเที่ยว​ที่นั่น​คนเดียว​ขอรับ​”

“​แล้ว​ได้​เจอ​ผู้คน​หรือ​เรื่อง​อัน​ใด​ที่​แปลกใหม่​บ้าง​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ชวน​เขา​คุย

หลาย​วัน​มานี​้​ ​นาง​ไม่​ค่อย​มี​เวลา​สนใจ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เท่าที่ควร​ ​อีกทั้ง​ยัง​มาเกิด​เรื่อง​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​ ​นาง​จึง​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​นั้น​บกพร่อง​ใน​หน้าที่​การ​เลี้ยงดู​บุตรชาย​ ​ถึงแม้ว่า​ก่อนหน้านี้​จะ​ค่อนข้าง​เข้มงวด​ ​แต่​ได้​มอบหมาย​หน้าที่​เหล่านี้​ให้​กับ​บ่าว​รับใช้​ไป​ ​ไม่ว่า​บรรดา​บ่าว​รับใช้​จะ​เคารพ​และ​นอบน้อม​ต่อนาง​เพียงใด​ ​แต่​ฐานะ​นาย​บ่าว​แตกต่าง​กัน​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​จะ​ปล่อย​ผ่าน​ทำเป็น​ไม่รู้ไม่เห็น​ ​จิ​่น​เกอ​เห็น​แล้วก็​ยิ่ง​ได้ใจ​เข้าไป​ใหญ่​ ​แม้แต่​คำพูด​คำสอน​ของ​นาง​เขา​ก็​ยัง​ไม่สน​ใจ​ ​นับประสา​อะไร​กับ​คำพูด​ของ​คนอื่น​เล่า​ ​เด็ก​ๆ​ ​ก็​เหมือนกับ​เมล็ดพันธุ์​พืช​ ​หลังจาก​ผ่าน​ฤดูกาล​นี้​ไป​ ​ก็​จะ​ถึง​ฤดูกาล​เก็บเกี่ยว​ ​ไม่มี​ฤดูกาล​ถัดไป​จากนี้​อีก​ ​เรื่อง​อื่น​นาง​สามารถ​ปล่อยวาง​ได้​หมด​ ​แต่​ปัญหา​เรื่อง​การอบรม​สั่งสอน​จิ​่น​เกอ​นาง​ไม่​สามารถ​ที่จะ​ปล่อย​ผ่าน​ไป​ได้​ ​นาง​ตัดสินใจ​ว่า​ต่อไปนี้​จะ​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ทั้งหมด​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ

“​ไม่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​ที่​ไม่​ค่อย​เป็นธรรมชาติ​เท่าไร​นัก​ ​“​ข้า​ก็​แค่​เดินเล่น​ไป​เรื่อยเปื่อย​เท่านั้น​!​”

ทุกคน​ต่าง​ก็​มี​ความลับ​ของ​ตัวเอง​ ​เขา​ไม่​อยาก​พูด​ ​สือ​อี​เหนียง​ย่อม​เคารพ​การตัดสินใจ​ของ​เขา​อยู่​แล้ว​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​ชวน​คุย​เรื่อง​อื่น​แทน​ ​“​ช่วงนี้​ที่​ร้านหนังสือ​มี​หนังสือ​มา​ใหม่​หรือไม่​”

“​มี​ขอรับ​!​”​ ​เมื่อ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ซักถาม​เรื่อง​นั้น​ต่อ​ ​สีหน้า​ท่าที​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนเป็น​กระตือรือร้น​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​รีบ​ตอบกลับ​อย่างละเอียด​ว่า​ ​“​ที่​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​มีบัณ​ฑิต​เข้ามา​ใหม่​หนึ่ง​ท่าน​ ​เขา​แซ่​กวน​ ​ยาม​ว่าง​มักจะ​ชอบ​สะสม​ก้อนหิน​ ​จึง​เขียนหนังสือ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ ​หนังสือ​เล่ม​นั้น​มีชื่อ​ว่า​ ​‘​ขุมทรัพย์​ใน​กระเป๋า​แขน​เสื้อ​’​ ​ยัง​มีบัณ​ฑิต​ซิ่ว​ไฉ​แซ่​ชิ่ง​อีก​หนึ่ง​ท่าน​ ​ช่วงเวลา​สี่​สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​เขา​ท่องเที่ยว​ไป​ทั่วหล้า​ ​จู่ๆ​ ​ปี​ที่แล้ว​ก็​ล้ม​ป่วย​ลง​ ​เขา​มีบุ​ตร​ชาย​หนึ่ง​คน​ ​เป็น​ราชบัณฑิต​จิ้น​ซื่อ​ใน​สมัย​เจี​้​ยน​อู่​ปี​ห้าสิบ​ห้า​ ​ปัจจุบัน​เป็น​ขุนนาง​ข้าหลวง​ประจำการ​อยู่​ที่​เขต​หนาน​ชัง​ ​เขา​ได้​นำ​บทกวี​ของ​บิดา​มา​เขียน​เป็น​หนังสือ​เล่ม​ใหม่​ ​และ​ได้​ไหว้วาน​ให้​ทาง​ร้านหนังสือ​ช่วย​ขาย​หนังสือ​เล่ม​นั้น​ ​ตอนนั้น​ข้า​เอง​ก็ได้​ลอง​อ่าน​ดู​คร่าวๆ​ ​เนื้อหา​บทความ​สละสลวย​ ​ทำให้​ผู้​ที่​อ่าน​รู้สึก​ได้​เปิดหูเปิดตา​ไป​ด้วย​ ​ข้า​ก็​เลย​ซื้อ​กลับมา​หนึ่ง​เล่ม​ ​หากว่า​ท่าน​แม่​สนใจ​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ไป​เอา​มา​ให้ท่า​นล​อง​อ่าน​…​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​เซี่ยง​ซื่อ​ก็ได้​เข้ามา​พอดี

“​สอง​วันก่อน​ข้า​จัดระเบียบ​ข้าวของ​ใน​หีบ​ ​เลย​เจอ​เครื่องวัด​แผ่นดินไหว​ที่​เคย​เล่น​ตอน​เด็ก​ๆ​”​ ​นาง​พูด​พลาง​หยิบ​กล่อง​ไม้​ใบ​เล็ก​สีแดง​ลายเส้น​สีทอง​ออกมา​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​สอง​วันนี้​น้อง​หก​อยู่​ที่นี่​ ​ข้า​ก็​เลย​เอา​มา​ให้​ ​ไม่รู้​ว่าน​้​อง​หก​จะ​ชอบ​หรือไม่​”

คง​เพราะ​ได้ยิน​ว่า​จิ​่น​เกอ​ถูก​ลงโทษ​ก็​เลย​อยาก​จะ​มา​เยี่ยม​ ​แต่​ก็​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ถาม​ออกมา​ตรงๆ​ ​ก็​เลย​ใช้​วิธี​อ้อม​ๆ​ ​แทน​มากกว่า​กระมัง

“​จัดระเบียบ​ข้าวของ​ใน​หีบ​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ให้​หู่​พั่ว​ไปรั​บก​ล่อง​ไม้​ใบ​เล็ก​จาก​นาง​ ​“​จะ​ทำ​เสื้อผ้า​ฤดูใบไม้ร่วง​ให้​อวี​้​เกอ​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​เซี่ยง​ซื่อ​ตอบกลับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​“​กะ​ว่า​จะ​ส่ง​ไป​ตอน​เดือน​แปด​พร้อมกับ​ของขวัญ​วันเกิด​ที่จะ​ส่ง​ไป​ให้​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​ทีเดียว​เลย​ ​จะ​ได้​สวมใส่​ช่วง​ฤดูใบไม้ร่วง​พอดี​เจ้าค่ะ​”

วันเกิด​ของ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​คือ​วันที่​สิบ​เจ็ด​เดือน​แปด​ ​สือ​อี​เหนียง​มักจะ​ส่ง​ของขวัญ​ไป​ให้​นาง​ทุกปี

นาง​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​ม่าน​ของ​ห้อง​ชั้นใน​ก็​ถูก​เปิด​ออก​ ​จิ​่น​เกอ​ยืน​อยู่​หลัง​ม่าน​พลาง​ชะเง้อ​หน้า​เข้ามา​ดู

สือ​อี​เหนียง​ขาน​เรียก​เขา​เบา​ๆ​ ​“​จิ​่น​เกอ​”

สิ้น​เสียง​สือ​อี​เหนียง​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ทันที​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​คัดตัว​อักษร​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ขอรับ​!​”

เสร็จ​เร็ว​กว่า​ปกติ​มาก​!

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​กับ​เขา​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​พักผ่อน​สักประเดี๋ยว​ก็แล้วกัน​!​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​รีบ​กระโดดโลดเต้น​ออกจาก​ห้องโถง​ไป​ ​แต่​หาง​ตากลับ​เหลือบ​ไป​เห็น​มารดา​ที่นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​ที่​สุขุม​และสง่า​งาม​ ​จู่ๆ​ ​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​มารดา​ชอบ​คนที​่​เรียบร้อย​และ​มีมา​รยาท​เป็น​ที่สุด​ ​เขา​จึง​รีบ​เก็บ​สีหน้า​และ​อาการ​ ​จากนั้น​ก็​ยืดตัว​ตรง​ค่อยๆ​ ​เดิน​ออกจาก​ห้องโถง​ไป​ด้วย​ท่าที​ที่​สง่างาม​ ​ฝีเท้า​ที่​เป็นระเบียบ​ทุก​ย่างก้าว​ ​ดู​แตกต่าง​จาก​ท่าที​ที่​ร่าเริง​และ​เบิกบานใจ​ของ​เขา​อย่าง​สิ้นเชิง

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่เคย​รู้สึก​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ตัดสินใจ​ผิด​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​ ​การ​ที่​สือ​อี​เหนียง​อบรมสั่งสอน​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​จะ​ต้อง​กระทำความผิด​มา​อย่างแน่นอน​ ​คำพูด​จำพวก​ปลอบโยน​มารดา​ ​เขา​พูดไม่ออก​จริงๆ

เซี่ยง​ซื่อ​รู้​จุดยืน​ของ​ตนเอง​ ​หาก​ไม่ได้​ถาม​นาง​ ​นาง​ก็​ไม่​ควร​ที่จะ​เอ่ยปาก

ส่วน​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​น้อง​หก​ยัง​เล็ก​ ​สิ่ง​ไหน​ที่​ทำไม​่​ถูก​ไม่​ควร​ ​ขอ​ท่าน​แม่​อย่า​คิดเล็กคิดน้อย​กับ​เขา​เลย​”

เขา​มักจะ​ใจกว้าง​กับ​น้องชาย​ทุกคน​เสมอ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ให้​หู่​พั่ว​นำ​กล่อง​ไม้​ใบ​นั้น​ไป​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​ของ​เจ้า​มอบให้​!​”

ครั้งนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​สั่ง​อะไร​ทั้งสิ้น​ ​แต่​เขา​กลับ​ไป​กล่าว​ขอบคุณ​เซี่ยง​ซื่อ​อย่างนอบน้อม​ด้วยตัวเอง

หยก​ไม่ได้​รับ​การ​เจียระไน​ ​ก็​จะ​ไร้​ซึ่ง​คุณค่า​ราคา​ ​หลังจากที่​ได้​อบรมสั่งสอน​เขา​ไป​ ​ความประพฤติ​ของ​เขา​ถือว่า​ดีขึ้น​ไม่น้อย

สือ​อี​เหนียง​แอบ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เหลือบ​ไป​เห็น​เซิน​เกอ​กำลัง​จ้องมอง​กล่อง​ไม้​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​จิ​่น​เกอ​อย่างใจจดใจจ่อ​ ​นาง​จึง​นึกถึง​สีหน้า​ท่าที​ที่​ระวัง​เนื้อ​ระวังตัว​ของ​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ ​พา​เซิน​เกอ​ไป​เล่น​ใน​เรือน​เจ้า​ด้วย​สิ​”

“​ขอรับ​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ยินดี​ปรีดา​เป็นอย่างมาก​ ​รีบ​เข้าไป​จูงมือ​ของ​เซิน​เกอ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ทันที

เมื่อ​ความห่วงใย​ของ​ทุกคน​ได้​ส่ง​ถึง​เจ้าตัว​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​จิ​่น​เกอ​เอง​ก็​เข้า​ห้อง​ชั้นใน​ไป​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​คนอื่นๆ​ ​จึง​อยู่​คุย​เล่น​กับ​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พากั​นขอ​ตัว​ลาก​ลับ

จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​เล่น​เครื่องวัด​แผ่นดินไหว​อยู่​ใน​เรือน​ตลอด​ช่วง​บ่าย

ใกล้​เวลาอาหาร​ค่ำ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา​ถึง​พอดี​ ​“​จิ​่น​เกอ​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

“​ก็ดี​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ใช้เวลา​เพียง​ไม่นาน​ก็​คัด​อักษร​สี่​หน้า​กระดาษ​แผ่น​ใหญ่​เสร็จ​ลง​อย่างรวดเร็ว​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ด้วย​ความ​โล่งอก

สือ​อี​เหนียง​ปรึกษา​กับ​เขา​ว่า​ ​“​…​หลังจากนี้​ข้า​จะ​จัดการ​งานบ้าน​งาน​เรือน​ถึง​แค่​ตอนเที่ยง​ตรง​เท่านั้น​ ​เช่นนี้​ ​ช่วง​บ่าย​ข้า​ก็​จะ​ได้​มี​เวลา​ไปดู​แล​จิ​่น​เกอ​”

“​เรื่อง​เหล่านี้​เจ้า​ตัดสินใจ​เอง​ก็​พอแล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​กว้าง​ ​“​ขอ​เพียงแค่​จัดการ​และ​วางแผน​ให้​ดี​ ​มิเช่นนั้น​ถึง​เวลา​จะ​ยุ่ง​เอา​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​ตกบ่าย​ของ​วันนั้น​ ​นาง​ก็ได้​จัดระเบียบ​และ​ขยับขยาย​เวลา​งาน​ทั้งหมด​ที่อยู่​ใน​มือ​ ​ย่นเวลา​งาน​ของ​ทั้งวัน​ให้​เหลือ​เพียง​ไม่​กี่​ชั่ว​ยาม​ ​แต่​ก็​ยัง​กังวล​ว่า​เหล่า​บรรดา​ผู้ดูแล​หญิง​จะ​บ่นว่า​เหนื่อย​เกินไป​ ​นาง​เลย​ปรึกษาหารือ​กับ​หู่​พั่ว​ก่อน​ ​วัน​ถัดมา​ก็ได้​แจ้ง​เรื่อง​นี้​กับ​บรรดา​ผู้ดูแล​หญิง

ผู้ดูแล​หญิง​ต่าง​ก็​คิดบัญชี​เป็น​กัน​ทุกคน

ในเมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ต้องการ​จะ​พัก​ช่วง​บ่าย​ ​เช่นนั้น​พวก​นาง​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​มารา​ยงาน​…​และ​ยัง​สามารถ​จัด​เวลา​เอง​ได้​อีกด้วย

“​การบ้าน​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ย่อม​สำคัญ​กว่า​อยู่​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

“ฮู​หยิน​เขียน​อักษร​งดงาม​มาโดยตลอด​ ​คุณชาย​น้อย​หก​มีฮู​หยิน​คอย​ชี้แนะ​ ​ย่อม​ประสบผลสำเร็จ​เป็น​เท่าตัว​อย่างแน่นอน​เจ้าค่ะ​!​”

ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​ตกปากรับคำ​ด้วยความยินดี​ ​เกิน​กว่า​ที่​สือ​อี​เหนียง​และ​หู่​พั่ว​จินตนาการ​ไว้​มาก​ ​อีกทั้ง​ยัง​รับปาก​ว่า​จะ​มารา​ยงา​นกั​บสื​ออี​เหนียง​ก่อนเที่ยง​ของ​ทุกวัน​ ​นาง​ใช้เวลา​ใน​การ​จัดระเบียบ​ให้​งาน​เดิน​ได้​อย่างราบรื่น​ราว​เจ็ด​แปด​วัน​ ​หลังจากนั้น​ ​ใน​ช่วง​บ่าย​ของ​ทุกวัน​สือ​อี​เหนียง​ก็​จะ​ปัก​ผ้า​พลาง​เฝ้า​จิ​่น​เกอ​ฝึก​คัดตัว​อักษร​ไป​ด้วย​ ​คอย​ชี้แนะ​การ​ลง​น้ำหนัก​ของ​พู่กัน​เป็น​บางครั้งบางคราว​ ​จิ​่น​เกอ​เชื่อฟัง​มากขึ้น​ ​เขา​ก้มหน้าก้มตา​คัดตัว​อักษร​ด้วย​ความตั้งใจ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​พัฒนา​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​อาจารย์​จ้าว​เอง​ก็​ออกปาก​ชม​ไม่ขาดสาย​ ​บวก​กับ​อาจารย์​จ้าว​ที่​คอย​เป็น​แบบอย่าง​ที่​ดี​ไม่ว่า​จะ​เป็น​คำพูด​หรือ​การกระทำ​ ​จิ​่น​เกอ​จึง​เคารพ​และ​ศรัทธา​เป็นอย่างมาก​ ​ตอนนี้​เขา​จึง​เริ่ม​ชอบ​การเขียน​อักษร​มากขึ้น

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท