แม้ว่าจะเป็นคนอารมณ์ดีเพียงใด แต่ตอนนี้ก็ต้องโมโหกันบ้างแล้ว!
“สหายท่านนี้! หากท่านยังทำให้ล่าช้าไปอีก ชีวิตของเขาจะมีอันตรายจริงๆ แล้ว!”
ซูชีจะไม่รู้เหตุผลนี้ได้อย่างไร แต่เขากลับต้องอธิบายเรื่องราวให้เรียบร้อยก่อนถึงจะวางใจได้!
“ข้าเพียงแค่อยากบอกท่านว่า นาง…นางไม่ใช่บุรุษ ท่านโปรดระวังให้มากขึ้น สุดท้ายโปรดเก็บเป็นความลับด้วย!”
ว่ากันตามเหตุผล ซูซูเป็นเชื้อพระวงศ์ ร่างกายของนางไม่อาจให้คนทั่วไปเห็นได้ โดยเฉพาะคนในยุทธภพ แต่ซูชีไม่ใช่ตาแก่คร่ำครึ ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าการรักษาชีวิตซูซูเอาไว้อีกแล้ว!
หมอหนุ่มได้ยินวาจาของซูชีแล้ว ก็นิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม โดยที่ในมือยังคงถือกรรไกรอยู่
“ท่านบอกว่า…เขาเป็นผู้หญิง?” ท่านหมอชี้ไปยังคนที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงอย่างมึนงง แสดงให้เห็นว่าเขาไม่อาจยอมรับได้เล็กน้อย
ซูชีพยักหน้า เดิมอยากจะกำชับอะไรอีกหน่อย แต่กลับได้เสียงมะรุมมะตุ้มดังลอยมาจากข้างนอก เห็นได้ชัดว่าข้างนอกมีคนเยอะมาก!
ในช่วงเวลาแบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องตั้งใจคิด ก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!
“คงต้องฝากฝังคนไว้กับท่านแล้ว! หวังว่าท่านจะทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตนาง” ซูชีตบไหล่เขา แล้วหมุนตัวจากไปทันที
ก่อนจะไปยังปิดประตูให้ด้วย!
คาดว่าพวกเขาคงจะทำให้ลูกค้าทั้งหมดในโรงเตี๊ยมสลบไปแล้ว เช่นนั้นนอกจากห้องของพวกเขาสามคน ห้องอื่นๆ คนพวกนั้นล้วนเข้ามาได้ตามอำเภอใจ!
หลังจากที่ซูชีออกจากห้องไป หมอผู้นั้นยืนอยู่ที่เดิมอย่างงงงวย ทั้งที่มือยังคงถือกรรไกรเอาไว้ !
จนกระทั่ง
“แค่กๆ…แค่กๆ…”
เมื่อครู่ซูซูหมดสติไป แต่อาจเป็นเพราะเจ็บปวดที่ปากแผลบริเวณแผ่นหลังมากเกินไป ดังนั้นจึงบีบให้นางจำเป็นต้องฟื้นขึ้นมา เมื่อไอไปหลายครั้ง ก็นำพาความเจ็บปวดบริเวณแผ่นหลังให้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้หน้าผากซูซูชื้นไปด้วยเหงื่อทันที!
และเสียงนี้ย่อมดึงความนึกคิดของท่านหมอกลับมา เขารีบหันหน้าไปมอง ก็เห็นสีหน้าท่าทางที่อดกลั้นของซูซู
ไม่ใช่ว่าในใจไม่ชื่นชม อย่างไรเสียนางได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ แต่ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนไม่ได้ส่งเสียงโอดครวญออกมาเลย หากว่าเป็นบุรุษ เขาคงไม่ประหลาดใจอะไร แต่ตอนนี้เขารู้ว่าคนผู้นี้เป็นสตรีนางหนึ่ง เช่นนั้นจึงทำให้เขาเกิดความรู้สึกนับถือนางขึ้นมาในใจ!
“แม่…แม่นาง? ท่านยังสบายดีไหม ท่านอดทนไว้ก่อนนะ ข้าจะรักษาให้ท่านเดี๋ยวนี้!”
ขณะที่ซูซูสติเลือนราง ก็เหมือนจะได้ยินเสียงคนเอ่ยอะไรบางอย่างข้างหูตนเอง
แต่นางกลับรู้ว่า คนคนนั้นไม่ใช่ซูชีแน่นอน เพราะแม้ว่าแผ่นหลังจะเจ็บเพียงใด นางจะสติเลือนรางแค่ไหน แต่ก็ยังคงแยกแยะความแตกต่างของเสียงซูชีกับผู้อื่นได้อยู่ดี
แต่นางกลับไร้เรี่ยวแรง เมื่อลืมตาขึ้นเล็กน้อย กลับเห็นเพียงแค่ร่างที่สวมเสื้อผ้าสีขาวหิมะ จากนั้นก็เข้าสู่สภาวะหมดสติไป
หลังจากซูชีออกมาจากห้อง ก็ได้ยินว่าในห้องของจ้าวเฟยลู่ยังมีเสียงต่อสู้ จึงไม่รีรอที่ถีบประตูเข้าไปช่วยเขาจัดการสังหารคนชุดดำสองสามคนนั่น
“ท่านหญิงซูซูเล่า?” จ้าวเฟยลู่หันไปมองซูชืที่อยู่ข้างหลังแวบหนึ่ง แต่กลับไม่เห็นเงาร่างของซูซู จึงสงสัยขึ้นมาทันที
แต่ก็เป็นเพียงแค่ความสงสัย เพราะจ้าวเฟยลู่รู้ว่า ซูชีไม่มีทางกระทำสิ่งใดที่ไม่ดีต่อท่านหญิงซูซูเด็ดขาด
เมื่อได้ยินแล้ว ซูชีก็ขมวดคิ้ว แล้วไม่ได้เอ่ยอะไร
แต่หมุนตัวเดินออกไปจากห้อง ประจวบเหมาะกับในตอนนี้มีคนชุดดำที่เดิมเฝ้าอยู่ข้างนอกห้อตะบึงขึ้นมาข้างบนพอดี ตอนนี้พัดหยกในมือซูชีจึงกลายเป็นเคียวมัจจุราชที่คร่าเอาชีวิตผู้คน มาหนึ่งคนก็ตายหนึ่งคน มาสองคนก็ตายเป็นคู่!
เดิมจ้าวเฟยลู่ที่ตามหลังซูชีมาตั้งใจจะจัดการคนที่ยังไม่ตายสนิทพวกนั้นข้างหลังซูชี แต่เมื่อเขาตรวจสอบดูแล้ว จึงตัดสินใจทำตัวเป็นคนที่ถูกปกป้องแทน!
คนที่ผ่านมือซูชีล้วนตายจนไม่อาจตายได้อีกแล้ว ไม่มีความจำเป็นให้เขาต้องลงมืออีก!
อีกอย่าง เขาก็มองออกว่าทั่วร่างซูชีเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร คนกลุ่มนี้เป็นฝ่ายเข้ามาร้องขอความโหดเหี้ยมเอง!
ซูชีลงมือ แล้วจะรอดชีวิตได้อย่างไร
รอจนซูชีร่อนพัดหยกลงไปถึงชั้นล่าง ก็เห็นซินซื่อชิวกับนายอำเภอของที่ว่าการอำเภอผู้นั้นยืนอยู่ที่ชั้นล่างกันสองคน เดิมพวกเขามีสีหน้าท่าทางเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ แต่ตอนที่เห็นซูชีอยู่ในสภาพไร้รอยขีดข่วน ก็ล้วนมีท่าทางหวาดกลัวทันที!
พรึ่บ!
หลังจากซูชีคร่าเอาชีวิตคนผู้หนึ่งต่อหน้าพวกเขาสองคน พัดหยกก็เหวี่ยงตัวเบาๆ แล้วถูกกำไว้ในมือเขา
“ทั้งสองท่านพอใจการแสดงแยกชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อันยิ่งใหญ่นี้หรือไม่”
มุมปากซูชีประดับรอยยิ้มน้อยๆ แต่น้ำเสียงกลับเย็นเยียบไร้ความรู้สึก ทำให้พวกซินซื่อชิวตัวสั่นจนเกือบจะอยู่ไม่มั่นคง!
อย่างไรซินซื่อชิวก็คิดไม่ถึงว่า เขาจ่ายเงินไปมากมายขนาดนั้นเพื่อจ้างมือสังหารที่เรียกได้ว่าเป็นระดับหนึ่งพวกนั้น จะไม่สามารถแตะต้องซูชีได้แม้กระทั่งผมเส้นเดียว! เขาจะยอมได้อย่างไร
แต่ว่าในตอนนี้ เมื่อเห็นซูชีมีท่าทางเหมือนกับยมทูตจากนรก ในใจเขาก็รู้สึกกระสับกระส่าย ทำอะไรไม่ถูก!
นายอำเภอคนนั้นยิ่งแล้วใหญ่!
เขาตกใจจนยืนไม่ตรงแล้วปวกเปียกลงไปกองกับพื้นนานแล้ว!
“ไว้…ไว้ชีวิตด้วย…ไว้ชีวิตด้วย…” เขาคุกเข่ากลัวตัวสั่นงันงกอยู่ตรงนั้น พลางโขกศีรษะให้ซูชี พลางตะโกนร้องขอความเมตตา ในน้ำเสียงนั้นถึงขั้นเจือปนไปด้วยเสียงสะอื้นไห้!
คนที่สภาพตะลีตะลานเช่นนั้น ไหนเลยจะยังสามารถเป็นนายอำเภอได้อีก
แต่คนที่ซูชีใจจดจ่ออยู่ด้วยไม่ใช่นายอำเภอ แต่เป็นซินซื่อชิว
นัยน์ตาดำของเขาจ้องซินซื่อชิวเขม็ง อยากจะเห็นจริงๆ ว่า เขาในตอนนี้ยังจะสร้างเรื่องอะไรออกมาได้อีก!
ซินซื่อชิวเห็นสายตาของซูชีชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อครู่ที่ซูชีสังหารคนตาไม่กะพริบ ยิ่งสยบเขาได้มากขึ้นกว่าเดิม!
ในใจเขาย่อมหวาดกลัวเป็นธรรมดา! แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือต้องรักษาเอาตัวรอด!
นายอำเภอที่กำลังร้องขอความเมตตาพลันตะลึงงัน! เขาเงยหน้ามองซินซื่อชิวอย่างไม่อยากจะเชื่อ ตอนที่เห็นซินซื่อชิวยักคิ้วหลิ่วตาให้เขา เดิมก็เข้าใจแล้วคิดจะให้ความร่วมมือ แต่เมื่อคิดดูอีกที
ตอนนี้ตาเฒ่านี่สามารถลงมือกับเขาได้โดยไม่สนใจสิ่งใด หากรอจนถึงตอนที่มีอันตรายจริงๆ ก็คงไม่สนความเป็นความตายของตนเองแน่นอน!
ถึงเขาจะตาย ก็ต้องลากคนไปรับโทษเป็นเพื่อนด้วย!
“แซ่ซิน! เจ้าใส่ร้ายผู้อื่นอย่างชั่วช้าจริงๆ! เห็นอยู่ทนโท่ว่าเจ้าเป็นตัวการวางแผนเรื่องนี้! เจ้าเป็นคนวิ่งวุ่นไปทั่ว! ตอนนี้ถึงกับกล้าใส่ร้ายข้า! เจ้ามันเป็นคนถ่อยจริงๆ!”
ซูชีมองพวกเขาแสดงท่าทางกัดกันเหมือนสุนัขอยู่ตรงนี้ด้วยสายตาเย็นชา การที่พวกเขาผลักเรื่องนี้ให้กันและกัน ก็เป็นเรื่องที่ซูชีคาดการณ์ได้ตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน!