ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 680 เดิน (ปลาย)

ตอนที่ 680 เดิน (ปลาย)

ทำความสะอาด​เรือน​ที่​ตรอก​ซื่อ​เอ๋อร​์​เรียบร้อย​แล้ว​ ​หลิว​ไท่​ผิง​ ​บุตรชายคนโต​ของ​หลิว​หยวน​รุ่ย​ก็​ย้าย​เข้าไป​อยู่​ ​เมื่อถึง​วันที่​ยี่สิบ​สอง​เดือน​สิบสอง​ ​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​ให้​หู่​พั่ว​ไปรา​ยงาน​หลาน​ถิง​ ​“​บอก​นาง​ว่าย​้าย​เข้ามา​เมื่อไร​ก็ได้​”

 

 

 

วัน​ต่อมา​ก็​คือ​วัน​ตรุษจีน​เล็ก​ ​มี​ผู้คน​มากมาย​มาคา​รวะ​ปีใหม่​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​ ​ใน​ฐานะ​ลูกสะใภ้​ที่​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​อย่าง​หลาน​ถิง​ ​นาง​ยุ่ง​จน​ไม่ได้​พัก​ ​แต่​ถึงแม้​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​นาง​ยัง​หา​เวลา​ไปดู​เรือน​ที่​ตรอก​ซื่อ​เอ๋อร​์​ ​นำ​เงิน​สอง​ร้อย​ตำลึง​ให้​สะใภ้​หลิว​ไท่​ผิง​ ​ให้​นาง​ช่วย​ซื้อ​โต๊ะ​ ​เก้าอี้​ ​หม้อ​ ​ชาม​ ​และ​ฟืน​น้ำมัน​ ​แล้วยัง​มอบ​เงิน​สอง​ตำลึง​ให้​นาง​เป็น​รางวัล

 

 

 

หลิว​ไท่​ผิง​ดูแล​เรือน​ของ​สกุล​สวี​ ​เขา​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​แต่​เขา​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ไม่มีใคร​กล้า​ดูถูก​เขา​ ​ไม่​เพียงแค่​นั้น​ ​เขา​ยัง​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​หัวหน้าคนงาน​ ​มีลูก​น้อง​ใต้​บังคับ​ราว​สิบ​กว่า​คน​ ​ภรรยา​ของ​เขา​ ​คือ​หลานสาว​ของ​ป้า​หลี​ผู้ดูแล​โรง​ครัว​ลาน​ใน​ ​เคย​ทำงาน​ใน​โรง​ครัว​เล็ก​ลาน​ใน​ของฮู​หยิน​สอง​สกุล​สวี​ ​ไม่เพียงแต่​เป็น​คนฉลาด​ ​ซ้ำ​ยัง​ทำอาหาร​อร่อย​ ​พอได้​รับเงิน​รางวัล​นาง​ก็​รีบ​นำ​กล่อง​ขนม​ให้​ป้า​รับใช้​ของ​หลาน​ถิง​ ​“​ข้า​ทำ​เอง​ ​ท่าน​ลอง​ทาน​ดู​เจ้าค่ะ​”

 

 

 

ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ยิ้ม​แล้ว​รับ​มา​ ​นำ​กลับ​ไป​ให้​คนอื่น​ลอง​ทาน​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​เอ่ยปาก​ชม​ว่า​อร่อย​ ​ทาน​ไป​ชิ้น​หนึ่ง​ก็​จะ​หยิบ​อีก​ชิ้น​หนึ่ง​ ​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ตกใจ​ ​รีบ​เก็บ​ขนม​ที่​เหลืออยู่​สอง​สาม​ชิ้น​ไป​ให้​หลาน​ถิง​ ​“​ท่าน​ลอง​ชิม​ดู​สิ​เจ้า​คะ​”

 

 

 

หลาน​ถิง​ยัง​ไม่ได้​ทานอาหาร​เย็น​ ​นาง​จึง​ลอง​ชิม​ดู​ชิ้น​หนึ่ง​ ​“​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​หวาน​หอม​ ​มีรส​ชาติ​ของ​เม็ด​บัว​และ​ถั่วเขียว​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​ไส้​อะไร​”​ ​นาง​ทาน​เพิ่ม​อีก​สอง​สาม​ชิ้น

 

 

 

“​สะใภ้​หลิว​ไท่​ผิง​ที่​ตรอก​ซื่อ​เอ๋อร​์​เป็น​คน​ทำ​เจ้าค่ะ​”

 

 

 

หลาน​ถิง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​พูดว่า​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​เก็บ​ขนม​เอาไว้

 

 

 

หลังจาก​วันที่​ห้า​เดือน​หนึ่ง​ ​นาง​ให้​ผู้ดูแล​หญิง​นำ​เทียบ​ไป​ให้​สกุล​สวี​ ​บอกว่า​จะเข้า​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​วันที่​หก​เดือน​หนึ่ง

 

 

 

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่อยู่​ที่​เรือน​ ​บูชา​บรรพบุรุษ​ ​ฉลอง​ปีใหม่​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เป็น​คน​จัดการ​ทั้งหมด​ ​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​อยู่​ที่​เรือน​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​ออกมา​ต้อนรับ​โจวฮู​หยิน​ ​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​ ​ญาติผู้ใหญ่​อย่าง​หวงฮู​หยิน​และ​เจิ​้ง​ไท่จ​วิน​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่ว่า​โจวฮู​หยิน​เป็นฮู​หยิน​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ ​แขก​ที่​จวน​ของ​ตัวเอง​ก็​วุ่นวาย​ ​ยัง​จะ​มาส​นุก​ที่​จวน​สกุล​สวี​ได้​เช่นไร​ ​พวก​นาง​แค่​ส่ง​ผู้ดูแล​หญิง​นำ​ป้ายชื่อ​มา​อวยพร​ปีใหม่​ ​หวงฮู​หยิน​และ​เจิ​้ง​ไท่จ​วิน​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ไม่​ชอบ​ความวุ่นวาย​ ​ปกติ​ยัง​ไปมาหาสู่​กัน​ ​ยิ่ง​เป็น​เทศกาล​เช่นนี้​ ​พวก​นาง​ยิ่ง​ไม่ยอม​ออก​ไป​ไหน​ ​แม้แต่​สกุล​ญาติ​มาคา​รวะ​ยัง​ต้อง​ขึ้นอยู่กับ​อารมณ์​ ​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​ไม่มี​แขก​อยู่​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มี​เวลาว่าง​ ​แต่​เรือน​ของ​เจียง​ซื่อ​กลับ​วุ่นวาย​ ​ไท่ฮู​หยิน​เชิญ​อาจารย์​เล่า​หนังสือ​ผู้หญิง​สอง​คน​มา​เล่า​หนังสือ​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลัว​มารดา​จะ​เหงา​ ​เลย​มา​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ตั้งแต่​เช้า​ทุกวัน​ ​วัน​ไหน​อากาศ​ดี​ก็​นั่ง​เป่าขลุ่ย​บน​ตั่ง​นั่ง​เหม่ย​เห​ริน​ใต้​ชายคา​ ​ทำเอา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​เดินผ่าน​มาต​้​อง​หันมา​มอง​เขา

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

 

 

 

ถือว่า​บุตรชาย​ของ​นาง​โต​แล้ว​ใช่​หรือไม่​!

 

 

 

แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​ไม่ได้​รับรู้​อะไร​ ​เขา​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​ยืน​บน​บันได​ทางเดิน

 

 

 

“​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​ท่าน​คิด​ว่า​เรา​ปลูก​ดอก​พุทธรักษา​ที่​มุม​กำแพง​สัก​สอง​สาม​ต้น​ดี​หรือไม่​”​ ​เขา​ชี้​ไป​ตรง​หิน​ไท่​หู​ที่อยู่​ตรง​มุม​กำแพง​ทิศตะวันออก​ ​“​ราวกับ​โผล่​ออกมา​จาก​ก้อนหิน​ ​ไม่ว่า​ฤดู​ไหน​ก็​น่าสนใจ​”

 

 

 

“​ได้​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่านี​่​เป็นความ​คิด​ที่​ดี​ ​“​รอ​ให้​ถึง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​เจ้า​บอก​ให้​คน​นำมา​ปลูก​สัก​สอง​สาม​ต้น​เถิด​!​”

 

 

 

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​คุณนาย​น้อย​สี่​พาฮู​หยิน​บัณฑิต​เจียง​ของ​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ต้อนรับ​เจียงฮู​หยิน​ที่​ประตู​ลาน

 

 

 

หลังจาก​อวยพร​ปีใหม่​กันและกัน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เจียงฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เดิน​ไป​เรือน​หลัก​ด้วยกัน​

 

 

 

“​น่าจะ​มาหา​เจ้า​ตั้งแต่​สอง​ปีก่อน​”​ ​เจียงฮู​หยิน​พูด​ ​“​แต่​บังเอิญ​มีเรื่อง​ที่​จวน​ ​กว่า​จะ​จัดการ​เสร็จ​ก็​วัน​ตรุษจีน​เล็ก​แล้ว​ ​ข้า​จึง​มาหา​เจ้า​วันที่​สี่​”

 

 

 

“​ท่าน​เกรงใจ​เกินไป​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เชิญ​เจียงฮู​หยิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​“​ข้า​ตาง​หาก​ที่​ควร​ไป​คารวะ​ท่าน​ ​แต่ว่า​ท่าน​โหว​ไม่อยู่​ที่​จวน​ ​ข้า​เลย​ไม่​ค่อย​สะดวก​ ​ปีใหม่​ปีนี​้​ไม่ได้​ออก​ไป​ไหน​เลย​ ​โปรด​ท่าน​อย่า​ได้​ถือสา​!​”

 

 

 

พวก​นาง​สอง​คนพูด​คุย​กัน​อยู่นาน​ ​เจียงฮู​หยิน​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​ ​“​ขึ้นปีใหม่​กำลัง​วุ่นวาย​ ​ข้า​ค่อย​มาหา​เจ้า​วัน​อื่น​ดีกว่า​ ​เรา​จะ​ได้​พูดคุย​กัน​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ได้ยิน​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​ว่า​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​มีด​อก​ไม้​บาน​ตลอดทั้ง​ปี​ ​ถึง​ตอนนั้น​คง​ต้อง​วาน​ให้ฮู​หยิน​พา​ข้า​ไปดู​ที่​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​”

 

 

 

“​เกรง​ว่า​ข้า​จะ​เชิญ​ท่าน​มา​ไม่ได้​มากกว่า​กระมัง​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รั้ง​นาง​ไว้​ ​“​ทานอาหาร​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับ​ไป​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ไม่เช่นนั้น​คุณนาย​น้อย​สี่​ของ​เรา​จะ​คิด​อย่างไร​!​”

 

 

 

“​เจ้า​มี​แขก​เยอะ​ ​ข้า​ค่อย​มาร​บก​วน​เจ้า​วัน​อื่น​ดีกว่า​”​ ​เจียง​ซื่อ​ยืนกราน​ที่จะ​ไป

 

 

 

เจียง​ซื่อ​จับ​แขน​เจียงฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ ​อยู่​ทานอาหาร​เย็น​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับ​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ท่าที​จริงใจ

 

 

 

เจียงฮู​หยิน​ลังเล

 

 

 

หวัง​ซู่​รีบ​เดิน​เข้ามา

 

 

 

“ฮู​หยิน​ ​เจียงฮู​หยิน​ ​คุณนาย​น้อย​สี่​ขอรับ​!​”​ ​เขา​โค้ง​คำนับ​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​มีเรื่อง​จะ​ถาม​คุณนาย​น้อย​สี่​ขอรับ​!​”

 

 

 

เจียง​ซื่อ​เดิน​ออกมา​ข้างหน้า​ ​“​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

 

 

 

หวัง​ซู่​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​และ​เจียงฮู​หยิน​ ​เขา​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ถาม​ว่า​ ​ท่าน​นำ​น้ำเต้า​เลี้ยง​ตั๊กแตน​ที่​ซื้อ​มา​เมื่อ​ฤดูร้อน​ปีก่อน​ไป​ไว้​ที่ไหน​ขอรับ​ ​หวัง​อวิ​่น​ ​คุณชาย​หวัง​มาหา​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​บอก​ให้​นำ​น้ำเต้า​เลี้ยง​ตั๊กแตน​ออกมา​มอบให้​คุณชาย​หวัง​”

 

 

 

“​น้ำเต้า​เลี้ยง​ตั๊กแตน​ ​ข้า​ให้​เป่า​จู​เก็บ​ไว้​แล้ว​ ​วาง​อยู่​บน​ชั้น​ตัว​เป่า​เก๋อ​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​ไม่ได้​หายาก​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คุณชาย​หวัง​เป็น​คน​ขอน​้ำ​เต้า​เลี้ยง​ตั๊กแตน​จาก​คุณชาย​น้อย​สี่​เอง​ ​หรือว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​อยาก​จะ​มอบ​น้ำเต้า​เลี้ยง​ตั๊กแตน​ให้​คุณชาย​หวัง​?​”

 

 

 

“​คุณชาย​หวัง​บอกว่า​ ​สอง​วันก่อน​แข่ง​ตั๊กแตน​กับ​คุณชาย​หลี​่​ ​สุดท้าย​แพ้​เรื่อง​อุปกรณ์​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​จึง​บอกว่า​ ​ฤดูร้อน​ปีก่อน​ ​เขา​ได้​น้ำเต้า​เลี้ยง​ตั๊กแตน​มาคู​่​หนึ่ง​ ​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​บอก​ให้​นำ​ออกมา​ให้​คุณชาย​หวัง​ดู​ ​หาก​คุณชาย​หวัง​ชอบ​ ​ก็​จะ​มอบให้​คุณชาย​หวัง​ขอรับ​”

 

 

 

เจียง​ซื่อ​ไม่ได้​ถาม​อะไร​อีก​ ​นาง​บอก​ให้​เป่า​จู​ไปหา​น้ำเต้า​เลี้ยง​ตั๊กแตน​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​

 

 

 

เจียงฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​รบกวน​เจ้า​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​อยู่​ทานอาหาร​เย็น​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง

 

 

 

เจียง​ซื่อ​ออก​ไป​ส่ง​เจียงฮู​หยิน​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​พูดคุย​กัน​ด้วย​ความอาลัย​อาวรณ์​อยู่นาน​ ​จนกระทั่ง​รถม้า​ของ​เจียงฮู​หยิน​หาย​ลับ​ไป​จาก​สายตา​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​เจียง​ซื่อ​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​กลับ​เข้ามา​ลาน​ใน​

 

 

 

ชิว​อวี​่​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้ามา​ ​“​คุณนาย​น้อย​สี่​ ฮู​หยิน​เชิญ​ท่าน​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​เจ้าค่ะ​”

 

 

 

เจียง​ซื่อ​ฉงนใจ

 

 

 

ตอนนี้​?​ ​ไม่รู้​ว่า​แม่​สามี​มีเรื่อง​อัน​ใด​จะ​คุย​กับ​ตน

 

 

 

นาง​จัด​เสื้อผ้า​ของ​ตัวเอง​ให้​เป็นระเบียบ​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​ชิว​อวี​่​ไป​ที่​เรือน​หลัก

 

 

 

สาวใช้​ที่​มักจะ​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​หาย​ไป​หมด​ ​โคมไฟ​สีแดง​แขวน​อยู่​ใต้​ชายคา​ ​บรรยากาศ​ใน​ลาน​เงียบสงัด​จนได้​ยิน​เสียง​เข็ม​ตก

 

 

 

นาง​หัวใจ​พลัน​เต้น​แรง​ ​ยิ่ง​ทำ​อะไร​ระมัดระวัง​มากขึ้น

 

 

 

“​มาสิ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​เก้าอี้​ไท่​ซือ​หน้า​เตียง​เตา​ ​“​นั่งลง​คุย​กัน​เถิด​!​”

 

 

 

เจียง​ซื่อ​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ ​นาง​เหลือบมอง​ดูร​อบ​ๆ

 

 

 

ใน​ห้อง​มี​แค่​หู่​พั่ว​คอย​รับใช้​ ​แต่​หู่​พั่ว​ยก​ถ้วยชามา​ให้​นาง​แล้วก็​เดิน​ออก​ไป​เงียบๆ​ ​เหลือ​แค่นา​งกั​บสื​ออี​เหนียง​อยู่​ใน​ห้อง

 

 

 

เจียง​ซื่อ​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​ ​พยายาม​สงบสติอารมณ์​ลง

 

 

 

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​เรียก​ข้ามา​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

 

 

 

“​ไม่มี​เรื่องสำคัญ​อะไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หยิบ​ส้ม​ใน​ชาม​ผลไม้​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​ออกมา​ปอก​ ​“​แค่​มีเรื่อง​อยาก​จะ​ถาม​เจ้า​!​”

 

 

 

เจียง​ซื่อ​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​แม่​มีเรื่อง​อัน​ใด​อยาก​ถาม​ข้าเจ้า​คะ​”

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​ไม่พูดไม่จา​ ​นาง​ก้มหน้า​ลง​ตั้งใจ​ปอกเปลือก​ส้ม​

 

 

 

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​นั้น​เงียบสงัด

 

 

 

เจียง​ซื่อ​ได้ยิน​เสียง​ลมหายใจ​ที่​ตื่นตระหนก​ของ​ตัวเอง​

 

 

 

นาง​รีบ​กลั้นหายใจ

 

 

 

จากนั้น​ไม่นาน​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ปอกเปลือก​ส้ม​เสร็จ

 

 

 

นาง​ค่อยๆ​ ​แกะ​เส้นใย​สีขาว​บน​ผิว​ส้ม​ออก​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​เงยหน้า​ขึ้น​ ​ยื่น​ส้ม​ให้​เจียง​ซื่อ​ ​“​ลอง​ชิม​ดู​สิ​ ​ของ​บรรณาการ​จากฝู​เจี​้​ยน​”

 

 

 

เจียง​ซื่อ​โน้มตัว​คำนับ​ ​รับ​ส้ม​มาด​้วย​ความลำบาก​ใจ​ ​หาก​จะ​ทาน​ ​แต่​แม่​สามี​มีท​่า​ที​เช่นนี้​ ​นาง​ต้อง​มีเรื่อง​สำคัญ​จะ​พูด​กับ​ตัวเอง​แน่นอน​ ​หาก​นาง​ทาน​ส้ม​ ​ดูเหมือน​ไม่​ค่อย​เคารพ​แม่​สามี​ ​หาก​ไม่​ทาน​ ​แม่​สามี​เป็น​คน​ปอก​เอง​กับ​มือ​ ​แม่​สามี​อาจ​เข้าใจผิด​คิด​ว่านาง​รังเกียจ​ได้

 

 

 

นาง​มีท​่า​ที​ลังเล

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​เช็ดมือ​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​จะ​ไม่​ปอกเปลือก​ส้ม​อีกแล้ว

 

 

 

ควร​แบ่ง​ให้​แม่​สามี​หรือไม่

 

 

 

เจียง​ซื่อ​ครุ่นคิด​ ​ก็​เห็น​สือ​อี​เหนียง​หยิบ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ครั้งก่อน​ข้า​ได้ยิน​จุน​เกอ​บอกว่า​ ​เจ้า​ให้​ข้า​เล่าเรื่อง​เงิน​สอง​พัน​ตำลึง​ที่​นำ​ไป​ให้​ยง​อ๋อง​เฟย​ให้​ไท่​จื่อ​เฟย​ฟัง​…​”

 

 

 

นาง​จะ​สั่งสอน​แม่​สามี​ได้​อย่างไร​!

 

 

 

ได้ยิน​ดังนั้น​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​หัวใจ​เต้น​แรง​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​ข้า​คิด​เพียง​ว่า​ทุกคน​ล้วน​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ ​ยง​อ๋อง​สร้าง​เรือน​แต่กลับ​มีเงิน​ใน​มือ​ไม่พอ​ ​ถึงแม้​เรา​จะ​ไม่ได้​ร่ำรวย​อะไร​ ​แต่​ในเมื่อ​รู้​แล้วก็​ควรจะ​มีน้ำใจ​ ​ก็​เหมือนกับ​ที่​เมื่อ​สอง​วันก่อนจ​วิ​้น​จู่​องค์​โต​บูชา​กราบไหว้​เทพเจ้า​ ​อีกทั้ง​ท่าน​แม่​และ​โจวฮู​หยิน​ยัง​ตั้งใจ​ไป​ขอพร​เช่นเดียวกับจ​วิ​้น​จู่​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ ​หวัง​ว่า​ไท่​จื่อ​เฟ​ยกับ​ยง​อ๋อง​เฟย​จะ​ไม่เข้าใจ​ผิด​กัน​”

 

 

 

“​เจ้า​ไม่ต้อง​กังวล​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​แค่​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​เจ้า​ ​ราวกับ​เคย​อ่านหนังสือ​ประวัติศาสตร์​มา​ไม่น้อย​จึง​ถาม​เจ้า​!​”

 

 

 

“​เพราะ​ครอบครัว​เปิด​สำนัก​ศึกษา​”​ ​เจียง​ซื่อ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เลย​ได้ยิน​มา​เยอะ​จึง​พอ​จำได้​บ้าง​ ​แต่​ไม่เคย​อ่าน​เจ้าค่ะ​”

 

 

 

“​ข้า​ก็​แค่​พูดตาม​ความรู้สึก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​เมื่อวาน​กลับ​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ ​ได้ยิน​ท่าน​น้า​หญิง​สิบสอง​ของ​เจ้า​บอกว่า​ ​บุตรสาว​คนที​่​สอง​ของ​ท่าน​ลุง​สกุล​สามี​คนที​่​เคย​รับ​ตำแหน่ง​ฝ่ายปกครอง​มณฑล​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​ตอนนี้​รับ​ตำแหน่ง​อยู่​ที่​ศาล​ต้า​หลี​่​ ​แต่งงาน​กับ​บุตรชายคนโต​ของ​ขุนนาง​ข้าหลวง​เจี​้​ยน​หนิง​ ​ครั้งนี้ฝู​เจี​้​ยน​เกิด​ความวุ่นวาย​ ​ขุนนาง​ข้าหลวง​เจี​้​ยน​หนิง​ก็​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ ​ทุกคน​ใน​ตระกูล​ถูก​เนรเทศ​ไป​หย่ง​ชัง​ ​ถึงแม้​ใต้เท้า​หวัง​จะ​รับ​ตำแหน่ง​อยู่​ที่​ศาล​ต้า​หลี​่​ ​แต่​ก็​ช่วย​บุตรสาว​ตัวเอง​ไม่ได้​”​ ​พูด​จบ​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​หาย​ไป​ ​“​ช่วง​เทศกาล​มักจะ​นึกถึง​ญาติ​ที่อยู่​ห่างไกล​ ​พี่สะใภ้​ของ​ท่าน​น้า​หญิง​สิบสอง​ของ​เจ้า​นึกถึง​บุตรสาว​ที่อยู่​อวิ​๋น​หนา​นอัน​ห่างไกล​ ​หัวใจ​ของ​นาง​ราวกับ​ถูก​มีด​กรีด​แทง​ ​ร้องไห้​ไม่ยอม​หยุด​ ​ใคร​ปลอบใจ​ก็​ไม่ยอม​ฟัง​ ​คนที​่​เห็น​พลอย​ร้องไห้​ตาม​ไป​ด้วย​ ​ทำเอา​ครอบครัว​วุ่นวาย​ ​แม้แต่​ฉลอง​ปีใหม่​ก็​ยัง​ไม่มี​ความสุข​”​ ​นาง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​“​นึกถึง​ตอนนั้น​ ​ตอนที่​ข้า​ไป​เยี่ยม​แม่​สามี​ของ​ท่าน​น้า​หญิง​สิบสอง​ของ​เจ้าที่​กำลัง​ป่วยหนัก​ ​คุณหนู​คน​นั้น​ของ​พวก​นาง​ยัง​เป็น​เด็กผู้หญิง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​ ​นาง​เอง​ก็​ไป​เยี่ยม​แม่​สามี​ของ​ท่าน​น้า​หญิง​สิบสอง​ของ​เจ้า​กับ​มารดา​ของ​ตัวเอง​เช่นกัน​ ​ข้า​ได้ยิน​นาง​พูดจา​ ​ไม่เพียงแต่​เป็น​เด็ก​ฉลาด​ ​อีกทั้ง​ยัง​ชอบ​อ่านหนังสือ​ประวัติศาสตร์​ ​ใจกว้าง​ ​มีมา​รยาท​ ​เป็น​แม่นาง​ที่​เพียบพร้อม​ ​คิดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​มี​จุดจบ​เช่นนี้​ ​ตอนที่​ข้า​ได้ยิน​ก็​ยัง​เสียใจ​อยู่​ตั้ง​นาน​…​”

 

 

 

สือ​อี​เหนียง​พูด​ซับซ้อน​ ​แต่​เจียง​ซื่อ​ที่​ฉลาด​หลักแหลม​กลับ​ฟังออก​อย่างชัดเจน​และ​เข้าใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท