เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 652 ตอนพิเศษ ข้าวมื้อหนึ่งจุดชนวนสงครามและการไตร่ตรอง (2)

ตอนที่ 652 ตอนพิเศษ ข้าวมื้อหนึ่งจุดชนวนสงครามและการไตร่ตรอง (2)

คู่รักคู่แค้น​ที่​คน​บน​โลก​กล่าว​ถึงกัน​ ก็​คง​มีสภาพ​ประมาณ​พวกเขา​สินะ​?

“กู​เสี่ยว​ซู ถ้าเจ้าคิด​ว่า​เจ้าทำได้​ เช่นนั้น​ก็ดี​! เจ้ามาทำ​!”

ซูชีถูก​ทำให้​โมโห​จน​มีสีหน้า​ทะมึน​! ไม่เคย​รู้​มาก่อน​เลย​ว่า​ สตรี​นาง​หนึ่ง​จะพูดมาก​จน​ถึงขั้น​นี้​! ถึงขั้น​ที่​ทำให้​เขา​เหลืออดเหลือทน​!

ท่านหญิง​ซูซูเบ้​ปาก​เหยียดหยาม​ ไม่เห็นด้วย​กับ​วาจา​ของ​ซูชีเลย​แม้แต่น้อย​

“ใคร​ใช้ให้​เจ้าทำได้​ไม่ดี​เล่า​ แล้ว​ยัง​ไม่อนุญาต​ให้​ผู้อื่น​บ่น​ด้วย​?”

สีหน้า​ซูชีดำทะมึน​ยิ่งกว่า​เดิม​!

“ข้า​ทำได้​ไม่ดี​? เช่นนั้น​เจ้าก็​ทำให้​ข้า​สิ! แต่​จะว่า​ไป​ เจ้ารู้​ไหม​ว่า​ตอนที่​เคี่ยว​โจ๊ก​ต้อง​ใส่ข้าวสาร​ก่อน​หรือ​ใส่น้ำ​ก่อน​? พวก​นี้​เจ้าก็​ไม่รู้​ เจ้ายังมี​คุณสมบัติ​อะไร​มาโวยวาย​ไร้สาระ​ตรงนี้​? ออก​ไป​!”

ซูชีชี้ไป​ที่​ประตู​ห้องครัว​ พลาง​เอ่ย​วาจา​ขับไล่​ท่านหญิง​ซูซูด้วย​สีหน้า​ไม่สบอารมณ์​อย่างยิ่ง​!

“รีบ​ออก​ไป​เสีย​ อย่า​ให้​ข้า​ต้อง​เอ่ย​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​!”

โอ้โฮ​!

คน​ที่​ทำ​เรื่องราว​ผิดพลาด​ แล้ว​ไม่อนุญาต​ให้​คน​ตำหนิ​เช่นนี้​ นับว่า​เป็น​บุรุษ​ประเภท​ไหน​กัน​?

ท่านหญิง​ซูซูเป็น​สตรี​ที่​ไม่กลัว​คน​ชั่วคน​หนึ่ง​!

“ข้า​ไม่ออก​ไป​แล้ว​เจ้าจะทำ​อะไร​ข้า​ได้​? ข้า​ยัง​ต้อง​จุดไฟ​นะ​! อย่า​บอก​ข้า​ล่ะ​ว่า​เจ้าจุดไฟ​เป็น​?”

ซูชีทำอาหาร​ ซูซูจุดไฟ​ เดิม​พวกเขา​ก็​แบ่งงาน​กัน​ชัดเจน​ ภาพ​เหตุการณ์​ชาย​ไถหญิง​ทอ​[1]นั้น​งดงาม​มาก​เพียงใด​ ตอนนี้​ซูชีกลับ​จะไล่​นาง​ไป​ นาง​ไม่มีทาง​ไป​หรอก​

ก็ได้​ ดู​ใบ​หน้าที่​ดำทะมึน​จน​เหมือน​ถ่าน​นั่น​แล้ว​ ซูซูพลัน​ก้าว​ถอยหลัง​ ทว่า​ไม่ได้​จากไป​ แต่​ยืน​มอง​อยู่​นอก​ประตู​แทน​

นาง​อยาก​จะเห็น​ว่า​ ไม่มีตนเอง​ เขา​ ซูชีจะจุดไฟ​ให้​โชติช่วง​เหมือน​ที่​นาง​ทำได้​อย่างไร​!

ซูชีก้มหน้า​มอง​ไฟใน​เตา​ทำอาหาร​แวบ​หนึ่ง​ ใน​ใจก็​ไตร่ตรอง​ว่า​หลังจาก​ตนเอง​รับ​ช่วงต่อ​แล้ว​ จะจุด​ไฟแรง​เกินไป​แบบ​นั้น​ด้วย​หรือไม่​

สุดท้าย​ เขา​ก็​ถูก​ซูซูที่​จ้องมอง​เขา​อยู่​นอก​ประตู​ เตรียม​จะหัวเราะเยาะ​เขา​ตลอด​ทำให้​พ่ายแพ้​อย่าง​เลี่ยง​มิได้​ ซูซูเห็น​เขา​แค่น​เสียง​เย็น​ แล้ว​หมุนตัว​เดิน​ออกจาก​ห้องครัว​ด้วย​ท่าทาง​หยิ่งผยอง​!

ซูซูทำ​หน้าทะเล้น​ใส่แผ่น​หลัง​ซูชีที่​จากไป​ แล้วไป​นั่ง​บน​ม้านั่ง​ไม้ตัวเล็ก​ พลาง​จุดไฟ​ด้วย​ความสุขุม​รอบคอบ​และ​ระมัดระวัง​ต่อไป​

หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​[2] หลังจากนั้น​…

“กู​เสี่ยว​ซู! สมอง​เจ้าถูกลา​เตะ​[3] มาใช่หรือไม่​ ถึงได้​โง่แบบนี้​? เจ้าไม่รู้​หรือว่า​ตอน​ทำอาหาร​ ไม่ต้อง​ใช้ไฟแรง​ขนาด​นี้​? เจ้าดู​เรื่อง​งามหน้าที่​เจ้าทำ​เอาไว้​สิ! ข้าวของ​พวกเรา​ล่ะ​!”

ซูชีที่​ใน​มือถือ​ฝาหม้อ​ มีสีหน้า​ทะมึน​ ขณะ​ตะคอก​ใส่ซูซูที่นั่ง​อยู่​บน​ม้านั่ง​ตัวเล็ก​ด้วย​ท่าทาง​น่าสงสาร​!

ต้อง​รู้​ว่า​ นี่​เป็น​ข้าวเย็น​วันนี้​ของ​พวกเขา​! ไม่ว่า​จะมีสภาพ​เช่นไร​ ท้ายที่สุด​ก็​ต้อง​กิน​เข้าไป​อยู่ดี​ ทว่า​ตอนนี้​ล่ะ​?

สีดำ​เมี่ยม​ใน​หม้อ​นั่น​มัน​คือ​อะไร​กัน​แน่​?

นี่​เป็น​ข้าว​มื้อ​แรก​ใน​ชีวิต​เขา​เลย​นะ​! ถูก​ทำให้​เละเทะ​จน​ไร้​ความหมาย​ไป​เสียแล้ว​ ซูชีรู้สึก​ว่า​ตนเอง​ปวดใจ​มาก​!

ซูซูก้มหน้า​ จ้องมอง​ไฟใน​เตา​ทำอาหาร​ และ​เบ้​ปาก​อย่าง​รู้สึก​ได้รับ​ความ​ไม่เป็นธรรม​

“ข้า​ไม่รู้​สักหน่อย​ว่า​ใช้ไฟอุ่น​เล็กน้อย​ก็ได้​แล้ว​…พวก​เจ้าก็​ไม่ได้​บอก​ข้า​ด้วย​”

ซูชีได้ยิน​วาจา​นี้​แล้ว​ ก็​เพิ่ม​แรง​บีบ​ฝาหม้อ​ที่อยู่​ใน​มือ​ทันที​! ฝาหม้อ​ที่​ทำ​จาก​ไม้ก็​มีแนวโน้ม​ของ​รอยแตก​รางๆ​!

ไม่ใช่ว่า​เขา​ลืม​บอก​ซูซู ความจริง​…ความจริง​เขา​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​

ปัง​!

“เอาเถอะ​! คืนนี้​พวกเรา​ ใคร​ก็​อย่า​ได้คิด​จะกินข้าว​! หิ้วท้อง​หิว​ไป​เถอะ​!” หลัง​เอ่ย​จบ​ ซูชีก็​หมุนตัว​เดิน​ออกจาก​ห้องครัว​ไป​

หลังจาก​ซูชีจากไป​แล้ว​ ซูซูถึงได้​ค่อยๆ​ ลุกขึ้น​จาก​ม้านั่ง​ ยื่นหน้า​เข้าไป​มอง​ด้านใน​หม้อ​แวบ​หนึ่ง​ และ​ถูก​สภาพ​อาหาร​ภายใน​หม้อ​ทำลายล้าง​สาย​ตาจน​ต้อง​หลับตา​ทันที​!

ก่อนหน้านี้​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​มีกลิ่น​ไหม้​ๆ ลอย​ออกมา​ แต่​นาง​ไม่รู้​ว่า​กลิ่น​นั้น​หมายความว่า​เช่นไร​ และ​นึก​ว่าการ​ทำอาหาร​ก็​คงจะ​เป็น​เช่นนี้​

ไหน​เลย​จะรู้​ว่า​…นั่น​เป็น​สัญญาณเตือนภัย​ของ​อาหาร​ที่​ถูก​ทำ​เสีย​

หลังจาก​ซูชีออก​ไป​แล้ว​ จ้าว​เฟย​ลู่​ถึงได้​เดิน​เข้ามา​ และ​ยื่นหน้า​เข้าไป​มอง​ใน​หม้อ​แวบ​หนึ่ง​ก่อน​เหมือนกัน​ จากนั้น​ก็​เบน​สายตา​ไป​ยัง​ร่าง​ของ​ซูซูเงียบๆ​

“มีกลิ่น​ลอย​มาแล้ว​ ท่าน​ไม่รู้​หรือว่า​ต้อง​หยุด​มือ​” นี่​มัน​คือ​สิ่งใด​? อาหาร​หน้าตา​ประหลาด​สูตร​ผสม​มั่ว​ระดับ​สิบ​ดาว​หรือ​?

เขา​ก็​งงเหมือนกัน​รู้​ไหม​

ซูซูถูก​จ้าว​เฟย​ลู่​ตำหนิ​เช่นนี้​ ก็​ยิ่ง​รู้สึก​อาย​จน​แทบจะ​แทรกแผ่นดิน​หนี​!

เมื่อ​ครู่​ถูก​ซูชีตำหนิ​ใส่เป็น​ชุด​จน​เกือบจะ​หา​รู​แล้ว​มุด​เข้าไป​ใน​นั้น​ ตอนนี้​ถูก​จ้าว​เฟย​ลู่​กล่าว​วาจา​แบบนี้​ใส่อีก​ ซูซูจึงโมโห​ทันที​!

“ข้า​จะไป​รู้​ได้​เช่นไร​ว่า​ การ​ทำอาหาร​นั้น​มาก​เรื่อง​เช่นนี้​! เจ้ายัง​จะมาบ่น​ข้า​อีก​!” ฟืน​ใน​มือ​ที่​ติดไฟ​อยู่​ท่อน​หนึ่ง​ลอย​ออก​ไป​ทันที​!

“เฮ้!” จ้าว​เฟย​ลู่​รีบ​หลบ​วูบ​ ถึงได้​หลีกเลี่ยง​จุดจบ​จาก​การ​ถูก​ไฟเผา​ร่าง​ตัวเอง​ไป​ได้​ คราวนี้​ เขา​ไม่กล้า​พูด​อะไร​มาก​อีกแล้ว​!

นิสัย​ของ​ท่านหญิง​ซูซูท่าน​นี้​ไม่ค่อย​ดี​จริงๆ​! เขา​หลบ​ไป​ก่อน​ดีกว่า​

จ้าว​เฟย​ลู่​เห็นท่า​ไม่ดี​ ก็​รีบ​หมุนตัว​เดิน​ออก​ไป​ทันที​!

โดย​ทิ้ง​ซูซูเอาไว้​หน้าเตา​ทำอาหาร​คนเดียว​ ยิ่ง​คิดถึง​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อครู่นี้​ ใน​ใจก็​ยิ่ง​รู้สึก​น้อยใจ​ สุดท้าย​ก็​ถึงกับ​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​ออกมา​!

ในที่นี้​ ซูชีกับ​จ้าว​เฟย​ลู่​ล้วน​เป็นยอด​ฝีมือ​ทาง​การต่อสู้​ แม้ว่า​ซูซูจะกลั้น​เสียง​ร้องไห้​ แต่​จะหนีรอด​จาก​หู​ของ​พวกเขา​ได้​เช่นไร​กัน​?

ซูชียืน​เหม่อมอง​หิมะ​ขาวโพลน​ข้างนอก​อยู่​หน้า​บานหน้าต่าง​ใน​ห้องนอน​คนเดียว​

ส่วน​จ้าว​เฟย​ลู่​ก็​เงี่ย​หูฟัง​เงียบๆ​ ครู่หนึ่ง​ หลังจาก​เห็น​ว่า​ซูชีไม่ได้​มีความเคลื่อนไหว​ใดๆ​ ก็​ทำได้​แค่​ถอนหายใจ​ แล้ว​เอนตัว​ลงนอน​บน​เตียง​ใหม่​อีกครั้ง​

ผู้​เป็นเจ้าของ​ที่​แท้จริง​ยัง​ไม่ปรากฏ​ เขา​ที่​เป็น​คนนอก​ย่อม​ไม่สะดวก​จะเข้าไป​ยุ่มย่าม​อีก​

ซูชีได้ยิน​เสียง​ร้องไห้​ที่​ถูก​กลั้น​เอาไว้​ใน​ห้องครัว​ ก็​ขยับ​เท้า​เคลื่อนไหว​เล็กน้อย​อย่าง​คิด​จะไป​ปลอบใจ​นาง​ แต่​สติสัมปชัญญะ​กลับ​ทำให้​เขา​แข็งใจ​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​!

ซูชีรู้สึก​ว่า​แบบนี้​ก็​ดีมาก​แล้ว​!

อย่าง​น้อย​เรื่อง​นี้​ก็​ทำให้​ซูซูรู้​ว่า​ เขา​ไม่ใช่สามีที่​ดี​สำหรับ​นาง​ และ​ให้​ซูซูได้​ยอมแพ้​กับ​ความรัก​ใน​ครั้งนี้​เร็ว​หน่อย​เช่นกัน​

เพราะว่า​เขา​ ซูชีรับ​ความรู้สึก​รัก​ลึกซึ้ง​เช่นนี้​ของ​ซูซูเอาไว้​ไม่ไหว​

อีก​อย่าง​ซูชีก็​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​ นับตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไป​ เขา​จะไม่สงสาร​ซูซูอีก​ ถึงอย่างไร​ตนเอง​ก็​ไม่สามารถ​ให้​ความหวัง​และ​อนาคต​กับ​นาง​ได้​ เช่นนั้น​ก็​อย่า​สร้าง​จินตนาการ​ที่​ไม่สอดคล้อง​กับ​ความเป็นจริง​ให้​กับ​นาง​

“กู​เสี่ยว​ซู…ยอมแพ้​เสียเถอะ​”

ตอนที่​ฟ้ามืด​ลง​เล็กน้อย​ อา​จ้าว​ก็​กลับมา​

ความจริง​แล้ว​ เขา​ไม่ได้​หลบหนี​การถูกลงโทษ​อย่าง​ที่​จ้าว​เฟย​ลู่​พูด​!

แต่​ตอนที่​รู้ตัว​ว่า​ใน​บ้าน​ไม่มีคน​ทำอาหาร​เป็น​ ก็​รีบ​ใช้วิชา​ตัวเบา​ห้อ​ตะบึง​ไป​ที่​เมือง​!

จะให้​คุณชาย​เหม่อมอง​ข้าวสาร​กอง​โต​พวก​นั้น​ไม่ได้​หรอก​ใช่ไหม​ และ​ก็​ไม่อาจ​ให้​คุณชาย​กับ​ท่านหญิง​ของ​พวกเขา​หิ้วท้อง​หิว​หรอก​ใช่ไหม​?

แต่​เมื่อ​อา​จ้าว​หิ้ว​กล่อง​อาหาร​กลับมา​ ก็​รู้สึก​ถึงบรรยากาศ​แปลกประหลาด​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​

มีอะไร​กัน​? เกิดเรื่อง​อะไร​ที่​เขา​ไม่รู้​เช่นนั้น​หรือ​?

เขา​ก้าว​เข้าไป​ใน​ห้อง​ด้วย​ความระมัดระวัง​ และ​โล่งใจ​ใน​ตอนที่​เห็น​จ้าว​เฟย​ลู่​นั่ง​อยู่​ใน​ห้องโถง​

เขา​เร่งฝีเท้า​เข้าไป​ และ​วาง​กล่อง​อาหาร​ลง​บน​โต๊ะ​ พลาง​ถามจ้าว​เฟย​ลู่​ด้วย​น้ำเสียง​ระมัดระวัง​ “เป็น​อะไร​หรือ​ เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​?

[1] ชาย​ไถหญิง​ทอ​ เป็น​สำนวน​จีน​ ความหมาย​ใน​ปัจจุบัน​ก็​คือ​ ผู้ชาย​ทำงาน​นอกบ้าน​ ผู้หญิง​ก็​อยู่เหย้าเฝ้าเรือน​

[2] หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ เท่ากับ​สอง​ชั่วโมง​

[3] สมอง​ถูกลา​เตะ​ หมายถึง​ สมอง​มีปัญหา​ หรือ​โง่

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท