จ้าวเฟยลู่คงตามหานางจนใกล้จะเป็นบ้าแล้วสินะ
แต่ขอโทษเจ้าด้วยจริงๆ ที่ทำให้เจ้าต้องร้อนใจ และเป็นกังวลเพราะข้า
แต่ข้าทำได้แค่อนุญาตให้ตนเองเอาแต่ใจได้เพียงครั้งนี้เท่านั้น หากว่าในอนาคตข้ายังคงไม่ได้ความรักที่จริงใจจากซูชี เช่นนั้นข้าจะต้องตามเจ้ากลับเมืองหลวงแน่นอน จากนั้นก็บอกลาเสด็จพ่อเสด็จแม่ สงบจิตสงบใจไปหลบอยู่ในอารามแม่ชี แล้วอธิษฐานให้พวกเจ้าสงบสุขไปตลอดชีวิต
“เฮ้อ…” ซูซูถอนหายใจยาว แล้วหมุนตัวเดินต่อไป
ไม่โทษจ้าวเฟยลู่ที่ตามหาซูซูเป็นบ้าเป็นหลังแล้วก็ยังหาไม่เจอ เพราะซูซูมองซ้ายแลขวาในถ้ำไปมาแล้วดันแตะถูกกลไกหนึ่งโดยไม่ทันระวัง
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงได้เดินเข้าไป และเสี้ยวพริบตาที่เดินเข้าไป กลไกก็ปิดลง ขังนางเอาไว้ด้านใน
แต่ซูซูกลับรู้สึกแปลกประหลาดอย่างไม่หวาดกลัว แล้วยิ้มเจื่อนภายในใจ ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ
สำหรับนางแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ยากลำบากอะไร ความทุกข์ทรมานแบบไหน ก็สร้างความตระหนกใจให้นางไม่ได้แล้ว
ซูซูกำลังคิดถึงคำพูดของจ้าวเฟยลู่ หากว่าตนเองหายตัวไปจริงๆ แบบนั้นซูชีจะเป็นห่วงหรือไม่ เขาจะมาหาตนเองโดยไม่สนใจอะไรอีกหรือไม่
เมื่อความคิดนี้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ในใจก็มีความคิดเล็กคิดน้อย นั่นคือต้องการจะรู้!
ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ ดังนั้นซูซูจึงเดินไปตามทางอุโมงค์อย่างไม่ลังเล นางไม่รู้ว่าสิ่งที่รอนางอยู่ที่ปลายทางมืดมิดคืออะไร และนางก็ไม่อยากรู้เช่นกัน นางคิดเพียงแค่เดินต่อไปเช่นนี้ ดูว่าหลังจากนี้จะคือเป็นอย่างไร
หรือจะกล่าวว่า หลังจากนางหายตัวไป สิ่งที่โลกใบนี้จะมอบให้นางคืออะไร!
อุโมงค์ยาวมาก แต่กลับไม่ใช่ถนนที่เดินลำบาก ดังนั้นซูซูจึงไม่มีอุปสรรคอะไร เดินไปได้หนึ่งชั่วตาม ก็เดินออกมาจากอุโมงค์แล้ว
จากนั้นสิ่งที่ทำให้นางต้องยิ้มเจื่อนก็คือ อีกฟากของอุโมงค์ก็คือป่าเขาอีกด้านหนึ่ง
ในขณะที่นางกำลังสับสนมึนงง ก็มีคนวิ่งออกมาจากด้านในป่าเขาหลายคน จัดการนาง ควบคุมตัวนางจากไป
จ้าวเฟยลู่ตามหามาทั้งวัน ก็ยังคงหาเงาร่างของท่านหญิงซูซูไม่เจอ นางเหมือนหายไปกลางอากาศเฉยๆ หาร่องรอยไม่พบเลยสักนิดเดียว!
จ้าวเฟยลู่ไม่ยอมแพ้ อาศัยช่วงเวลาก่อนฟ้ามืดวิ่งกลับไปยังหมู่บ้าน
เขายังคิดจะไปขอร้องซูชี อย่างไรเสีย การที่เขาตามหาไปทั่วอย่างไร้เป้าหมายคนเดียวเช่นนี้ ก็มีกำลังจำกัดจริงๆ แต่ขอเพียงแค่ซูชีตกลงไปหาด้วยกัน เช่นนั้นก็ไม่เหมือนกันแล้ว อย่างไรเสียคนมาก กำลังก็มาก!
ตอนที่จ้าวเฟยลู่กลับมา ซูชีกำลังกินข้าว
เมื่อเห็นซูชีกินข้าวราวกับไม่มีเรื่องอะไร จ้าวเฟยลู่ก็ไม่สนใจว่าวรยุทธ์ตนเองจะสู้ได้หรือไม่ เขาตรงเข้าไปคว่ำโต๊ะทันที!
“คุณชายซูชี! ข้าน้อยนับถือที่ท่านเป็นวีรบุรุษผู้เก่งกาจ แต่ท่านทำให้ข้าน้อยผิดหวังยิ่งนัก! จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวท่านหญิงซูซูเลยสักนิด ท่านยังจะมีอารมณ์มากินข้าวอีก? มโนธรรมของท่านถูกสุนัขกินไปแล้วหรือ”
อาจ้าวคิดจะลุกขึ้นขัดขวางในตอนที่จ้าวเฟยลู่ลงมือ แต่กลับถูกซูชีส่งสายตาห้ามเอาไว้
อาจ้าวก็กระวนกระวายใจมากเช่นกัน แต่คำสั่งของนายท่านจะไม่ฟังก็ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ยืนอยู่อีกด้านด้วยความรู้สึกวิตกกังวลยิ่ง โดยไม่พูดอะไรสักประโยค
ส่วนซูชีก็ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อการด่าประจานของจ้าวเฟยลู่เลยแม้แต่น้อย
เขาเงยหน้ามองจ้าวเฟยลู่ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากว่านางไม่ยอมกลับมา เจ้าสามารถพานางจากไป กลับไปยังเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ได้เลย! อย่ามาทำเรื่องไร้สาระพวกนี้อีกเลย”
ซูชีเชื่อว่ากูเสี่ยวซูต้องซ่อนตัวเอาไว้แน่นอน จากนั้นก็สมคบคิดกับจ้าวเฟยลู่มาหลอกเขา!
อีกอย่างซูชีก็พูดไปแล้วว่า มอบความสุขให้กูเสี่ยวซูไม่ได้ เช่นนั้นเขาก็ทำได้เพียงแค่เผชิญหน้าอย่างใจร้ายเท่านั้น แบบนี้ล้วนดีกับทุกคน!
เขาไม่เชื่อสักนิดว่ากูเสี่ยวซูหายตัวไปจริงๆ!
จ้าวเฟยลู่ข่มโทสะตนเอง พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเป็นการวิงวอนต่อซูชี “คุณชายซูชี ท่านหญิงซูซูหายไปแล้วจริงๆ! ทำอย่างไรท่านถึงจะยอมเชื่อข้า?”
แรกเริ่มเขาให้ท่านหญิงซูซูซ่อนตัวเพื่อลองใจซูชีจริงๆ แต่แผนการเพิ่งเริ่มขึ้น ก็ต้องพบกับปัญหาใหญ่ที่ยากจะแก้ไขแล้วหรือ
แต่ทำไมซูชีถึงไม่เชื่อกันนะ?
ซูชียิ้มเย็น
“ทำไมถึงไม่เชื่อพวกเจ้านะ มีเวลาทำเรื่องพวกนี้ เจ้าก็ไปดูแลนางให้ดีเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว จะไปพักผ่อน” ซูชีเอ่ยจบ ก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตู โดยไม่ให้โอกาสจ้าวเฟยลู่กล่าวอันใดเลยสักนิด!
ปัง!
จ้าวเฟยลู่ทุบหมัดลงบนกำแพง!
สำหรับความใจร้ายเช่นนี้ของซูชี จ้าวเฟยลู่รู้สึกไม่คุ้มค่าแทนท่านหญิงซูซูจริงๆ!
แต่ก่อนยังนึกว่าพวกเขาสองคนค่อนข้างเหมาะสมกัน แต่ตอนนี้ดูแล้ว ซูชีไม่คู่ควรกับความรักของท่านหญิงซูซูเลยสักนิดเดียว!
“ซูชี! ท่านจะต้องเสียใจในภายหลังแน่นอน!” จ้าวเฟยลู่เอ่ยเตือนเสียงเย็น แล้วหมุนตัวจากไป
เขาไม่รู้ว่าท่านหญิงซูซูไปที่ไหนกันแน่ ดังนั้นจึงไม่กล้ารั้งพักผ่อนอยู่ที่นี่ด้วยความสบายใจ เขายังต้องกลับไปหาท่านหญิงซูซูบนภูเขาอีก!
อีกด้านของภูเขา ท่านหญิงซูซูถูกคนกดลงบนเก้าอี้อย่างไม่ค่อยเกรงใจนัก แต่นางกลับไม่ได้มีท่าทางดิ้นรนเลยสักนิด
“โอ้โห! ความกล้าหาญของแม่นางน้อยผู้นี้มีมากเสียจริง!” บุรุษที่จับแขนกูเสี่ยวซูเอาไว้ เห็นท่าทีของนางแล้ว ก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่!
ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี ผู้ใดถูกพวกเขาจับขึ้นมาบนเขา ก็ถูกทำให้ตกใจจนปัสสาวะราดกันหมดไม่ใช่หรือ มีเพียงสตรีนางนี้ที่ไม่ว่าจะได้รับการชื่นชมหรืออัปยศอดสูก็ไม่นำพามาใส่ใจ!
ช่างน่าสนใจจริงๆ
สำหรับสตรีประเภทนี้ ลูกพี่น่าจะชอบนะ?
อีกอย่างต้องยอมรับว่า ดวงหน้ารูปไข่ของสตรีนางนี้นั้นงดงามหยาดฟ้ามาดินจริงๆ!
“ถูกทำให้ตกใจจนโง่งมไปแล้วสินะ สตรีนางหนึ่งเท่านั้นเอง จะเอาความกล้ามาจากที่ใด บุรุษอีกคนที่ตรึงท่านหญิงซูซูเอาไว้กลับเบ้มุมปากอย่างไม่ใส่ใจ
ผู้ใดบ้างที่มาถึงในรังโจรภูเขาของพวกเขาแล้วไม่ได้มีท่าทางตกใจแทบตายบ้าง สตรีนางนี้จะแตกต่างจากผู้อื่นอย่างนั้นหรือ เขาไม่เชื่อหรอก!
“ช่างเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องไม่มีประโยชน์พวกนั้นเลย ลูกพี่อยู่ที่ไหน ไปเชิญลูกพี่มาหน่อย บอกว่าพวกเราจับสตรีที่งามเพริศพริ้งได้นางหนึ่ง เตรียมจะยกให้เป็นฮูหยินของหัวหน้าโจรภูเขาของเขา!”
คนผู้นั้นได้ยินแล้วก็ร้อง โอ้โห! นี่เป็นเรื่องดีมากเลย! จึงรีบหันหลังวิ่งห้อกลับไปด้านในหมู่บ้านที่ถูกล้อมด้วยรั้วทั้งสี่ด้านทันที โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง
ส่วนท่านหญิงซูซู ก็แค่ม่านตาไหววูบเล็กน้อยเมื่อได้ยินคนผู้นั้นพูดว่าจะยกให้เป็นฮูหยินของหัวหน้าโจรภูเขาผู้เป็นลูกพี่ของพวกเขา ส่วนที่เหลือก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีก
บุรุษที่เฝ้าท่านหญิงซูซูเอาไว้เห็นแล้วก็งึมงำในใจทันทีว่า คนผู้นี้มีความกล้ายิ่งนัก นางไม่กลัวอะไรเลยหรือ
แต่แม้ว่าจะไม่กลัว และเป็นผู้กล้ามากเพียงใด เมื่อเห็นสถานที่แห่งนี้ของพวกเขาแล้ว ก็ทำได้แค่ยอมรับในความโชคร้ายของตนเอง ถึงอย่างไรมาถึงที่นี่แล้ว ก็ออกไปไม่ได้
ชั่วครู่หนึ่ง ลูกพี่รังโจรภูเขาแห่งนี้ก็ถูกคนเชิญมา
คนผู้นี้สวมอาภรณ์สีดำ ไม่เหมือนพวกคนเสแสร้งแกล้งทำเพื่อให้เห็นตำแหน่งของตนเองชัดเจน และสวมเสื้อผ้าที่สามารถเอ่ยได้ว่าไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่นี่!