ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 703 ฝึกฝน (กลาง)

ตอนที่ 703 ฝึกฝน (กลาง)

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เงื่อนไข​ทั้ง​สาม​ข้อ​ให้​เขา​ฟัง

จิ​่น​เกอ​พิจารณา​และ​ไตร่ตรอง​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง​ ​“​ห้าม​เปิดเผย​ฐานะ​ตัวตน​ ​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​ว่า​ไม่​สามารถ​พา​ผู้ติดตาม​ไป​ด้วย​ ​แต่​ข้า​คนเดียว​จะ​ประสบความสำเร็จ​ได้​อย่างไร​กัน​!​”

“​สำเร็จ​ได้​สิ​ ​ตอน​เจ้า​ไป​ที่​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ ​เจ้า​สามารถ​พา​อาจารย์​ผัง​และ​คนอื่นๆ​ ​ไป​ได้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​แต่ทว่า​ ​พา​ไป​ได้​แค่​คนเดียว​เท่านั้น​ ​ภายใน​สอง​ปีนี​้​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​ใคร่ครวญ​และ​ไตร่ตรอง​ให้​ดี​ว่า​จะ​พา​ใคร​ไป​กับ​เจ้า​ด้วย​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​สีหน้า​ดู​จริงจัง​เป็นอย่างมาก​ ​จากนั้น​เขา​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​สาม​ปี​จะ​ต้อง​เปลี่ยน​เขต​การทหาร​หนึ่ง​ครั้ง​ ​แล้ว​จะ​ต้อง​เปลี่ยน​ทั้งหมด​กี่​เขต​หรือ​ขอรับ​”

“​สาม​เขต​การทหาร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ ​“​ในเมื่อ​ได้​สัมผัส​ทะเลทราย​สีทอง​ที่​ฟุ้งกระจาย​ไป​ด้วย​ฝุ่น​ทราย​ ​ก็​ควรจะ​ต้อง​รู้จัก​สิ่ง​ที่​เรียกว่า​หมื่น​ขุนเขา​ด้วย​ ​ด่าน​สุดท้าย​อยู่​ที่​หูก​่​วง​”

ที่​หูก​่​วง​มี​ชน​เผ่า​เหมียว

จิ​่น​เกอ​ยกมือ​ขึ้น​มานั​บนิ​้ว​ ​“​ตั้ง​สิบเอ็ด​ปี​เชียว​หรือ​”

“​เป็น​อะไร​ไป​ ​เจ้า​รู้สึก​ว่า​มัน​นาน​เกินไป​หรือ​อย่างไร​กัน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​ข้า​ยัง​รู้สึก​ว่า​มัน​น้อย​เกินไป​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​กำลัง​ชั่งใจ​อยู่​เลย​ ​ว่า​หลังจากที่​เจ้า​ย้าย​จน​ครบ​สาม​เขต​การทหาร​แล้ว​ ​ก็​จะ​ให้​เจ้า​ไป​เป็น​เจ้าหน้าที่​สารบรรณ​ชั่วคราว​ที่​กองทัพ​ทหาร​แห่ง​เหล่าทัพ​ทั้ง​ห้า​!​ ​แค่​ยืน​ให้​สูง​พอก​็​จะ​สามารถ​มอง​ได้​กว้างขวาง​และ​ยาว​ไกล​ยิ่งขึ้น​ ​จึง​จะ​สามารถ​ล่วงรู้​ได้​ว่า​เบื้องล่าง​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ ​เมื่อ​ได้​เห็น​มุมมอง​ของ​สถานการณ์​โดยรวม​แล้ว​ ​เวลา​ที่​เจ้า​อยู่​ท่ามกลาง​สถานการณ์​เหล่านั้น​ ​เจ้า​ก็​จะ​ไม่​หลง​ทิศทาง​โดยง่าย​”

จิ​่น​เกอ​ห่อ​ไหล่​ด้วย​ความ​ท้อใจ​ ​“​เช่นนั้น​…​จะ​ต้อง​ใช้เวลานาน​แค่ไหน​จึง​จะ​สามารถ​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ได้​หรือ​ขอรับ​”

“​ดู​จาก​สิ่ง​ที่​เจ้า​รังสรรค์​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ ​“​อย่างน้อย​ใช้เวลา​สิบห้า​ถึง​สิบ​หก​ปี​ ​อย่างมาก​ก็​อาจจะ​ใช้เวลา​ยี่สิบ​ห้า​ถึง​ยี่สิบ​หก​ปี​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​สอน​จิ​่น​เกอ​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ ​การ​ที่​เจ้า​อยาก​จะ​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​นั้น​ถือเป็น​ปณิธาน​ที่​ดี​ ​แต่​ตัว​เจ้า​เอง​ต้อง​รู้​ว่า​สามารถ​ที่จะ​ทำ​มัน​ได้​หรือไม่​ ​ก็​เหมือนกับ​เจ้า​มี​กำลังแรง​เพียงแค่​ห้าสิบ​ชั่ง​ ​แต่กลับ​ไป​พยายาม​ยก​หิน​ที่​หนัก​ร้อยชั่ง​ ​ตอนแรก​ๆ​ ​อาจจะ​ยัง​ฝืน​แบก​ไว้​ได้​ ​แต่​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ ​สุดท้าย​ก็​จะ​ปล่อยมือ​ในที่สุด​ ​หาก​เป็น​คนที​่​ฉลาด​หลักแหลม​ ​ก็​จะ​หาวิ​ธี​กระทุ้ง​หิน​ก้อน​นั้น​ให้​แตก​ ​แต่​หาก​พลาดพลั้ง​ไม่​ระวัง​ไป​แม้แต่​นิดเดียว​ ​เศษ​ก้อนหิน​ก็​อาจจะ​หล่น​ลงมา​ทับ​เท้า​ของ​ตัวเอง​ก็​เป็นได้​ ​ควรจะ​ต้อง​คิด​พิจารณา​และ​ไตร่ตรอง​ให้​ละเอียดถี่ถ้วน​”

จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​ไม่​ดันทุรัง​ไป​ทำ​เรื่อง​ลำบาก​ตนเอง​เพื่อ​เอาหน้า​อย่างแน่นอน​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​อด​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ไม่ได้

บุตรชาย​ไม่ได้​สนใจ​เสียด​้วย​ซ้ำ​ว่า​จะ​ต้อง​ใช้เวลา​ยาวนาน​แค่ไหน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​จิ​่น​เกอ​กำลัง​ต่อรอง​กับ​เขา​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​ตกหลุมพราง​จนได้​ ​เป็น​เขา​เอง​ที่​ไป​กังวล​เกิน​กว่า​เหตุ​เสียมา​กก​ว่า

ขณะที่​เขา​กำลัง​คิด​เรื่อยเปื่อย​อยู่​นั้น​ ​ก็ได้​ถาม​จิ​่น​เกอ​ว่า​ ​“​เจ้า​มี​อะไร​จะ​ถาม​หรือไม่​”

“​มี​ขอรับ​”​ ​จิ​่น​เกอ​รีบ​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตื่นเต้น​ ​“​ทุกๆ​ ​เขต​การทหาร​ที่​ต้อง​เลื่อนขั้น​อย่างน้อย​หนึ่ง​ตำแหน่ง​ ​แล้ว​ตำแหน่ง​เฝ้า​ประตู​ใหญ่​และ​ตำแหน่ง​เฝ้า​ห้องเก็บของ​นับ​หรือไม่​ขอรับ​”

“​ไม่​นับ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ ​“​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ต้อง​ตำแหน่ง​จำพวก​องครักษ์​ถือ​ธง​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เจ้า​คิด​มา​ได้​อย่างไร​ ​ถึงขั้น​จะ​ไป​เฝ้า​ประตู​ใหญ่​ ​ไป​เฝ้า​ห้องเก็บของ​ ​สถานที่​เหล่านี้​ล้วน​มี​ไว้​เพื่อ​ทหาร​ที่​ร่างกาย​อ่อนแอ​และ​ผู้​ทุพพลภาพ​เท่านั้น​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​เช่นนั้น​ก็​เป็นอัน​ตกลง​ตาม​นี้​ ​คำ​ไหน​คำ​นั้น​ ​หากว่า​ข้า​สามารถ​ทำสำเร็จ​ทั้ง​สาม​เงื่อนไข​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​ท่าน​ห้าม​ขัดขวาง​การ​ไป​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ของ​ข้า​นะ​ขอรับ​”

เรื่อง​มา​จนถึง​ตอนนี้​แล้ว​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยัง​ไม่วาย​ที่จะ​กุม​ไว้​เป็นความลับ​ ​“​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​น่ะ​เป็นได้​ ​แต่​จะ​ได้​เป็น​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​หรือไม่​นั้น​คง​พูด​ยาก​ ​เรื่อง​เช่นนี้​ ​ต้อง​อาศัย​จังหวะ​และ​โอกาส​ ​มิเช่นนั้น​ ​เจ้า​จะ​ให้​ทางการ​ส่ง​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​คน​ปัจจุบัน​กลับ​ไป​ใช้ชีวิต​หลัง​เกษียณ​ที่​บ้านเกิด​เพียง​เพราะ​เจ้า​อยาก​จะ​ไป​เป็น​ผู้บัญชาการ​ทหาร​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​หรือ​อย่างไร​กัน​ ​เจ้า​อยาก​ให้​สี่​มหาสมุทร​สงบสุข​ ​แล้ว​คนอื่น​ไม่มี​อุดมการณ์​เช่นนี้​หรือ​อย่างไร​กัน​”

จิ​่น​เกอ​นึกถึง​ตอน​ไป​ที่​ซี​ซาน​ ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ที่​ยืน​อยู่​บน​กำแพงเมือง​กำลัง​ชี้แนะ​ด่าน​ใน​และ​ด่าน​นอก​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​ที่​ฮึกเหิม​และ​น่าเกรงขาม​ ​จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ​หาก​ตำแหน่ง​ไม่ว่าง​ ​ข้า​ไม่​เข้าไป​วุ่นวาย​อย่างแน่นอน​ขอรับ​”

เช่นนี้​ก็​เท่ากับ​ว่า​หาก​ตำแหน่งว่าง​เว้น​ ​เขา​ก็​จะเข้า​ไป​แย่งชิง​อย่างแน่นอน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​เป็นอัน​ตกลง​ตาม​นี้​ ​เริ่ม​ออกเดินทาง​ตอน​วัน​สาม​ค่ำ​เดือน​สาม​ ​ช่วง​ระหว่าง​นี้​เจ้า​เอง​ก็​รีบ​เตรียมตัว​ ​ทาง​ฝั่ง​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ข้า​เอง​ก็​ต้อง​บอกกล่าว​และ​ฝากฝัง​สัก​คำ​ ​ยัง​มีท​่าน​ย่า​ของ​เจ้า​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​แน่น

อาการ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ่ง​อยู่​ก็​ยิ่ง​แย่​ ​นับวัน​ก็​ต้อง​ยิ่ง​พึ่งพา​คนใน​ครอบครัว​มากขึ้น​ ​เมื่อก่อน​ไม่ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไป​ที่ไหน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ไม่เคย​ที่จะ​เข้ามา​ยุ่มย่าม​ ​แต่​ตอนนี้​ ​เวลา​ผ่าน​ไป​แค่​ไม่​กี่​ชั่ว​ยาม​ก็​ถามหา​เขา​แล้ว​ ​นอกจาก​เขา​จะ​ปรนนิบัติ​เช้า​เย็น​ ​อาหาร​เที่ยง​ก็​ยัง​ต้อง​ไป​ทาน​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​หาก​ไท่ฮู​หยิน​รู้​ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ไป​ที่​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ค้าน​จน​หัวชนฝา​ ​ไม่ยอม​ให้​ไป​อย่างแน่นอน

หลังจากที่​ส่ง​บุตรชาย​ออก​ไป​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เอาแต่​เดิน​วน​ไปมา​อยู่​ใน​ห้อง​ตำรา​ไม่​หยุด

กว่า​จะ​โน้มน้าว​สือ​อี​เหนียง​ได้​ ​ตอนนี้​ยัง​ต้อง​มา​เจอ​ด่าน​ไท่ฮู​หยิน​อีก​…​ให้​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​ไป​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นั่น​เป็นไปไม่ได้​อยู่​แล้ว​ ​ไม่ใช่​เพราะ​สือ​อี​เหนียง​ไม่มี​ความสามารถ​ที่จะ​ไป​พูด​ ​แต่​เพราะ​นาง​ยังคง​ปวดใจ​กับ​เรื่อง​นี้​อยู่​ ​หาก​ให้​นาง​ไป​พูด​เรื่อง​นี้​ก็​เท่ากับ​เป็นการ​ซ้ำเติม​ความเจ็บปวด​ใน​ใจ​ของ​นาง

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​ก็​มี​ภาพ​ของ​คน​คน​หนึ่ง​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ของ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​รีบ​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ทันที

ฮู​หยิน​สอง​กำลัง​อ่าน​คัมภีร์​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง

เสียงอ่าน​คัมภีร์​ของฮู​หยิน​สอง​นั้น​ทั้ง​อ่อนหวาน​ ​ทั้ง​ไพเราะ​เสนาะ​หู​ ​เพียง​ไม่นาน​ไท่ฮู​หยิน​ก็​หลับตา​ลง​อย่าง​ช้าๆ

มุม​ปากของฮู​หยิน​สอง​ยก​ยิ้ม​ขึ้น​ ​น้ำเสียง​ไม่ได้​ลดลง​แต่อย่างใด​ ​แต่​อ่าน​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​หน้า​แทน​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​ลด​เสียง​ลง​ ​ก่อน​จะ​วาง​คัมภีร์​ไว้​ข้าง​หมอน

เวลา​นั้น​เอง​ ​เจี​๋ย​เซียง​ที่​เดิน​ย่อง​เข้ามา​อย่างเบามือ​เบา​เท้า​ก็ได้​ส่ง​ใบ้​ภาษามือ​บอก​กับฮู​หยิน​สอง​ว่า​ข้างนอก​มี​คน​มาหา

ฮู​หยิน​สอง​เห็น​แล้วก็​พยักหน้า​รับรู้​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ดึง​ผ้านวม​ห่ม​ให้​ไท่ฮู​หยิน​อย่างเบามือ​ ​แล้ว​ค่อย​เดิน​ออก​ไป

“​ท่าน​โหว​?​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​อยู่​ที่​ห้องโถง​ ฮู​หยิน​สอง​เห็น​แล้วก็​ค่อนข้าง​รู้สึก​ประหลาดใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจื่อน​พลาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​รบกวน​ให้ท่าน​ช่วย​!​”

ฮู​หยิน​สอง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​เรื่อง​ของ​จิ​่น​เกอ​ใช่​หรือไม่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

ฮู​หยิน​สอง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​กำลัง​นับวัน​อยู่​เหมือนกัน​ ​นี่​ก็​ใกล้​จะ​ถึง​พอดี​”​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​นำทาง​ไป​ยัง​ห้องรับแขก​ทิศตะวันออก​ ​“​เรา​ไป​คุย​กันทาง​นั้น​ดีกว่า​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เดินตามฮู​หยิน​สอง​ไป​ยัง​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก

*****

เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​ของ​หย่ง​เห​อปี​สิบ​แปด​ ​ใน​สายตา​ของ​เหล่า​บรรดา​หญิง​สตรีที​่​แต่งงาน​แล้ว​ ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ไม่​แตกต่าง​จาก​เดิม​ไป​แต่อย่างใด​ ​คุณนาย​น้อย​สี่ฮู​หยิน​ของ​ซื่อ​จื่อ​เป็น​คน​จัดงาน​เลี้ยง​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​งานเลี้ยง​ปีนี​้​คุณนาย​น้อย​สี่​ไม่ได้​จัด​เหมือนเช่น​ครั้งแรก​ ​แต่​จัด​ต่อเนื่อง​จาก​งานเลี้ยง​ของ​ปี​ที่แล้ว​ ​งานเลี้ยง​ถูก​จัด​อยู่​ที่​โถง​บุปผา​ยาว​จน​ไป​ถึง​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​ ​และ​ได้​เชิญ​คณะ​ละคร​งิ้ว​ที่​มีชื่อเสียง​มาร​้​อง​แสดง​ใน​จวน​ ​คุณนาย​น้อย​ห้า​รับหน้าที่​จัด​แต่ง​ฉากหลัง​และ​เวที​ที่​ใช้​ใน​การแสดง​ ​นาง​เริ่มต้น​ด้วย​การ​ทำ​ซุ้ม​ดอกไม้​ ​และ​ก็ได้​ร่วม​ทำ​ภูเขา​ดอกไม้​กับ​สะใภ้​จี้​ถิง​ ​ทัศนียภาพ​ดูดี​กว่า​ปี​ที่​ผ่านๆ​ ​มามาก

แต่​สำหรับ​สายตา​ของ​บรรดา​ผู้​ที่​มีหน้ามีตา​ใน​สังคม​ ​กลับ​รู้สึก​ว่า​มี​การเปลี่ยนแปลง​ไม่น้อย

เริ่ม​จาก​คุณนาย​น้อย​สอง​ ฮู​หยิน​สี่​ให้​นาง​พาบุ​ตร​สาว​ไป​ปรนนิบัติ​ดูแล​คุณชาย​น้อย​สอง​ที่​เล่อ​อาน​ ​จากนั้น​ก็​ให้​คุณนาย​น้อย​ห้า​และ​สะใภ้​จี้​ถิ​งดู​แลต​้น​ไม้ดอก​ไม้​ใน​จวน​ ​สำหรับ​จวน​อื่นๆ​ ​การ​ดูแล​ต้นไม้​และ​ดอกไม้​ที่​ประดับ​ใน​จวน​ถือว่า​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​เท่าไร​นัก​ ​แต่​จวน​สกุล​สวี​กลับ​มีเรือน​เพาะปลูก​เช่น​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​ ​และ​ยัง​มีสะ​ใภ้​ที่​มีฝีมือ​เช่น​จี้​ถิง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​มีฮู​หยิน​สี่​ที่​ชอบ​ทำ​อะไร​จำพวก​นี้​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​คนที​่​มี​ความชอบ​ทั้งนั้น​ ​จึง​ได้​ให้​นาง​รับหน้าที่​ดูแล​เรื่อง​ดอกไม้​โดยเฉพาะ​ ​บางครั้ง​ค่าใช้จ่าย​ของ​เรือน​เพาะปลูก​ยัง​มากกว่า​โรง​เย็บปักถักร้อย​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​สุดท้าย​ก็​คือ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่า​ ​‘​อ่านหนังสือ​ตำรา​หมื่น​ม้วน​ ​ยัง​ไม่​สู้​ออกเดินทาง​ท่องเที่ยว​ใต้​หล้า​’​ ​ตอนนี้​เขา​เรียน​ ​‘​เด็กน้อย​เรียนรู้​ฉง​หลิน​’​ ​และ​ ​‘​คัมภีร์​วิจารณ์​พจน์​’​ ​จบ​แล้ว​ ​กำลัง​เตรียมตัว​จะ​ออกเดินทาง​ท่องเที่ยว​ใต้​หล้า​ ​ด่าน​ที่หนึ่ง​ก็​คือ​จวน​เซ​วี​ยนถง​ ​คนอื่น​อาจจะ​ไม่รู้​ ​แต่​เหล่า​บรรดา​ผู้ดูแล​ของ​สกุล​สวี​นั้น​ต่าง​ก็​รู้​เป็น​อย่างดี​ ​ว่า​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ของ​แต่ละ​ภาค​นั่น​ให้​ความเคารพ​นับถือ​ต่อสกุล​สวี​อย่างไร​ ​และ​ทุกครั้งที่​สกุล​สวี​มี​ข้อพิพาท​ตอน​อยู่​ข้างนอก​ ​ก็​จะเข้า​หา​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​หรือ​ผู้บัญชาการ​องครักษ์​เสื้อ​แพร​แทน​ ​ไม่ได้​เข้าหา​ฝ่ายปกครอง​มณฑล​แต่อย่างใด

เมื่อ​เห็น​ถึง​ข้อนี​้​ ​ผู้คน​มากมาย​ก็​เริ่ม​นั่ง​ไม่​ค่อย​ติด​ ​ไม่เพียงแต่​เข้าไป​ตีสนิท​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ไป​ตีสนิท​กับ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​อีกด้วย

พ่อบ้าน​ไป๋​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อารมณ์ดี​ ​“​ท่าน​โหว​วางแผน​อะไร​ ​ทำ​อย่าง​กับ​ว่า​ได้​บอก​ข้า​ทุก​เรื่อง​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ควร​ต้อง​ทำ​สำคัญ​ที่สุด​ ​ยิ่ง​ปีนป่าย​สูง​มาก​เท่าไร​ ​ตกลง​มาก​็​จะ​ยิ่ง​เจ็บ​มาก​เท่านั้น​”

ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ยังคง​เป็น​คนที​่​ซื่อตรง​และ​พูด​ไม่เก่ง​เช่น​เดิม​ ​“​ข้า​ได้ยิน​แค่​ว่า​จะ​ต้องเต​รี​ยม​เสื้อกันหนาว​ให้​ฉั​งอาน​และ​ฉัง​ซุ่น​หลาย​ตัว​หน่อย​ ​ที่นั่น​ฤดูใบไม้ผลิ​มาถึง​ค่อนข้าง​ช้า​”

ทุกคน​ต่าง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​สงสัย​ ​บรรยากาศ​ใน​จวน​เต็มไปด้วย​ความประหลาดใจ

สอง​ปี​มานี​้​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้​มอบหมาย​งาน​ทั่วไป​ให้​กับ​เจียง​ซื่อ​เป็นส่วนใหญ่​ ​เจียง​ซื่อ​เป็น​คน​แรก​ที่​รับรู้​ได้​ถึง​การกระทำ​นี้

หลังจากที่​ถูก​สือ​อี​เหนียง​สอนสั่ง​และ​ชี้แนะ​ไป​ยกใหญ่​ ​นาง​ก็​ไม่เคย​พูด​เรื่อง​ของ​สกุล​สวี​ให้​สกุล​เจียง​ฟัง​อีก​เลย​ ​แม้ว่า​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​จะ​มาถา​มนาง​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​นาง​ก็​ไม่ยอม​ปริปาก​พูด​อะไร​ออก​ไป​แม้แต่​นิดเดียว​ ​โดยเฉพาะ​ตอนที่​นาง​ได้​เห็น​สีหน้า​ที่​ผิดหวัง​ของ​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​ ​ใน​ใจ​ของ​นาง​ก็​ยิ่ง​ระมัดระวัง​เข้าไป​ใหญ่​ ​ปิดปาก​แน่น​ขึ้น​กว่า​เดิม

พ่อ​สามี​สุขภาพ​ร่างกาย​แข็งแรง​ ​แม่​สามี​เปล่งปลั่ง​งดงาม​ดั่ง​บุปผา​ ​หาก​จะ​พูดถึง​เรื่อง​วันข้างหน้า​ ​ยัง​เร็ว​เกินไป​ ​ตอนนี้​ที่​จวน​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​นาง​ควร​ที่จะ​เชือด​ไก่​ให้​ลิง​ดู​เพื่อ​เป็นตัว​อย่าง​ถึง​จะ​ถูก​ ​แต่​นาง​เป็น​ถึง​เจ้าบ้าน​ ​กลับ​ไม่มี​อำนาจ​ของ​เจ้าบ้าน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​ที่​เป็น​ผู้ดูแล​หรือ​สาวใช้​ใหญ่​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​คน​ของ​แม่​สามี​ทั้งนั้น​ ​มี​แม่​สามี​คอย​ให้การ​สนับสนุน​ ​เวลา​จะ​ทำ​อะไร​ขึ้น​มา​ ​คน​เหล่านั้น​ไม่มีใคร​กล้า​ขัดคำสั่ง​เลย​แม้แต่​คนเดียว​ ​ส่วน​เรื่อง​น้อง​หก​…​ไม่รู้​ว่า​แม่​สามี​คิดเห็น​อย่างไร​ ​นาง​เอง​ไม่แน่ใจ​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ยิ่ง​ไม่​สามารถ​หยั่งเชิง​เข้าไป​ใหญ่​ ​หาก​นาง​แสดงอำนาจ​บารมี​ ​แล้ว​ถูก​แม่​สามี​สยบ​ขึ้น​มา​ ​ขายหน้า​แค่​เรื่องเล็ก​ ​แต่​เกรง​ว่า​เหล่า​บรรดา​ผู้ดูแล​หญิง​คงจะ​ไม่เห็น​นาง​อยู่​ใน​สายตา​อีก​ ​และ​หาก​ปล่อย​ให้​เป็น​อย่างนี้​ต่อไป​ ​เกรง​ว่า​จวน​นี้​คงจะ​วุ่นวาย​ขึ้น​มา​อย่างแน่นอน

นาง​อยาก​จะ​ปรึกษาหารือ​กับ​ใคร​สัก​คน

ท่าน​พี่​…​เมื่อ​นึกถึง​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​ใจเย็น​เสีย​ยิ่งกว่า​น้ำขึ้น​มา​ ​นาง​ก็​ห่อเหี่ยว​ราวกับ​มะเขือ​ที่​โดน​น้ำค้าง​กระหน่ำ​ ​รู้สึก​อ่อนแรง​ไป​ก่อน​สาม​ส่วน​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​เกรง​ว่า​แค่นาง​เอ่ยปาก​ ​เขา​ก็​คงจะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​‘​เจ้า​คิดมาก​ไป​แล้ว​ ​เรื่อง​เหล่านี้​ยัง​มีท​่าน​แม่​อยู่​ทั้งคน​ ​ถึง​เวลา​นั้น​เจ้า​แค่​ทำตาม​ท่าน​แม่​ก็​พอ​’

สะใภ้​หยวน​เป่า​จู้​…​คือ​คนที​่​ติดตาม​นาง​มาด​้วย​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ใช้​กลอุบาย​ ​แต่​หาก​ไม่มี​คนที​่​เป็น​เจ้าบ้าน​คอย​สนับสนุน​นาง​ ​คิด​จะ​ก้าว​ขา​แค่​คืบ​เดียว​ก็​ยัง​ยาก​เลย

พี่สะใภ้​ใหญ่​…​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ใจสั่น​ขึ้น​มา​ ​เวลา​ที่​ทั้งคู่​คุย​กัน​ ​ฟัง​ซื่อ​เป็น​คนที​่​ไม่​พูด​อะไร​ออกมา​ง่ายๆ​…

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​เรียก​เป่า​จู​เข้ามา​ ​“​ไป​เตรียม​รถม้า​ให้​ข้า​ ​ข้า​จะ​ไป​เยี่ยม​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​”

เป่า​จู​ขานรับ​และ​รีบ​ออก​ไป​เตรียม​รถม้า​ทันที

เงยหน้า​ขึ้น​มาก​็​เจอ​เข้ากับ​อิง​เหนียง​และ​สะใภ้​จี้​ถิง​ที่​กำลัง​พา​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​งาน​หยาบ​มาส​่​งด​อก​ไม้​และ​ต้นไม้​ให้​นาง​เป็น​ขบวน​ใหญ่

“​บังเอิญ​เสีย​จริง​!​”​ ​อิง​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ข้า​กำลังจะ​ไป​ถาม​พี่สะใภ้​สี่​อยู่​พอดี​ ​ว่า​จะ​ให้​จัดวาง​ต้นไม้​ดอกไม้​เหล่านี้​อย่างไร​”

เจียง​ซื่อ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​ห้า​เชี่ยวชาญ​ด้าน​นี้​ ​เจ้า​ตัดสินใจ​เอง​ก็​พอแล้ว​!​”

อิง​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ช่วย​พี่สะใภ้​สี่​ตัดสินใจ​ก็แล้วกัน​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​กว้าง​ด้วย​ความจริงใจ​ ​จากนั้น​ก็​นำ​โต๊ะ​วาง​แจกัน​ไป​จัดเรียง​ที่​ห้องรับแขก​จำนวน​หนึ่ง​ ​โต๊ะ​หนึ่ง​วาง​ต้นใผ​่​ใบ​เกล็ด​ ​อีก​โต๊ะ​วาง​ตู้ปลา​เล็ก​ๆ​ ​บรรยากาศ​ใน​เรือน​ดู​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​ไม่น้อย

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ตำหนิ​นาง​ว่า​ ​“​ทุกคน​ต่าง​ก็​มี​ความชอบ​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​เจ้า​อย่า​ไป​เคลื่อนย้าย​ของ​ของ​ผู้อื่น​ตามอำเภอใจ​ดีกว่า​”

แต่​อิง​เหนียง​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​ก็​แค่​ของ​ประดับ​เท่านั้น​ ​หาก​ชอบ​ก็​วาง​ไว้​หลาย​วัน​หน่อย​ ​หาก​ไม่​ชอบ​ก็​เปลี่ยน​ใหม่​เป็นอัน​อื่น​ก็​สิ้นเรื่อง​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​ขึ้น​ ​จ้องมอง​ไป​ยัง​รอยยิ้ม​ที่​สว่าง​และ​สดใส​ของ​อิง​เหนียง​ ​พลัน​นึกถึง​เสื้อ​ฤดูใบไม้ผลิ​พี่​นาง​ทำให้​ ​เมื่อถึง​เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​ก็​ค่อย​เอา​ออกมา​ให้​เขา​สวมใส่​…​ใน​ใจ​พลอย​รู้สึก​อบอุ่น​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​เขา​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​เป็นฮู​หยิน​ของ​ซื่อ​จื่อ​ ​วันข้างหน้า​ก็​จะ​ขึ้น​มา​เป็น​ผู้ดูแล​หลัก​ของ​จวน​ ​หาก​ไม่มี​มาด​ที่​น่าเกรงขาม​ ​ต่อไป​ใน​ภายภาคหน้า​จะ​ปกครอง​เหล่า​บรรดา​ผู้ดูแล​หญิง​ได้​อย่างไรเล่า​”

“​ข้า​เอง​ก็​รู้​!​”​ ​อิง​เหนียง​วาง​กระถาง​ดอก​คุณนาย​ตื่น​สาย​ประดับ​ลง​บน​ขอบ​หน้าต่าง​ใน​เรือน​ของ​ตนเอง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ต่อว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​เป็น​คนดี​ ​ตอนที่​ข้า​เพิ่ง​แต่งงาน​เข้า​จวน​ ​นาง​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​ถูก​เกี้ยว​เจ้าสาว​โยกโคลง​เคลง​จน​เวียนหัว​ ​ก็​เลย​แอบ​เอา​น้ำค้าง​ดอกมะลิ​ให้​ข้า​หนึ่ง​ขวด​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​กว้าง​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​“​นาง​ยัง​บอกอี​กว่า​ตอนที่​นาง​เพิ่ง​แต่ง​เข้า​จวน​มา​ ​ท่าน​แม่​เอง​ก็ได้​ให้​น้ำค้าง​ดอกมะลิ​แก่นา​งด​้วย​”

“​จริง​หรือ​!​”​ ​คน​เป็น​สามี​ต่าง​ก็​อยาก​จะ​ให้​เหล่า​บรรดา​สะใภ้​รักใคร่​ปรองดอง​กัน​ทั้งนั้น​ ​เมื่อ​ได้ยิน​แล้วก็​แสดง​สีหน้า​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​มีเรื่อง​เช่นนี้​ด้วย​หรือ​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไม่เคย​เล่า​ให้​ข้า​ฟัง​เลย​ ​แล้ว​ท่าน​แม่​ได้​มอบ​น้ำค้าง​ดอกไม้​ให้​เจ้า​หรือไม่​”

“​ตอนนั้น​ท่าน​เอง​มัว​แต่​…​มี​เวลา​สนใจ​เรื่อง​นั้น​เสียที​่​ไหน​กัน​…​”​ ​แก้ม​ของ​อิง​เหนียง​แดง​ระเรื่อ​ ​พูด​อะไร​ไม่​ออก

จู่ๆ​ ​ใบหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เอง​ก็​แดง​ขึ้น​มา​ไม่​แพ้​กัน​ ​เขา​รีบ​หัน​ซ้าย​มอง​ขวา​ ​เปลี่ยนไป​คุย​เรื่อง​อื่น​แทน​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​น้อง​หก​จะ​ออกเดินทาง​แล้ว​ ​เจ้า​ว่า​…​เรา​ควรจะ​มอบ​ของขวัญ​อะไร​ให้​เขา​ดี​…​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท