Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2653 กระบี่ระเบียบผนึก

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2653 กระบี่ระเบียบผนึก

ตอนที่ 2653 กระบี่ระเบียบผนึก

ทว่า…

ภายใต้การโจมตีเช่นนี้ บริเวณหนึ่งฉื่อจากตำแหน่งที่หลินสวินยืนอยู่กลับยังคงไม่ถูกสะเทือนสักนิด!

“นี่เป็นไปได้อย่างไร…”

ลั่วฉงเองก็ตกใจ

เขาในฐานะระดับอมตะ จะไม่รู้ความน่าสะพรึงของการโจมตีระดับนี้ได้อย่างไร

ต่อให้เปลี่ยนเป็นเขาก็ต้านทานการล้อมโจมตีของระดับอมตะสามคนไม่ไหว!

แต่ตอนนี้หลินสวินยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับจริงๆ ใช้เพียงกล่องหยอกสีดำตรงหน้าก็สกัดการจู่โจมเต็มกำลังของระดับอมตะสามคนอย่างเหอป๋อหยาง อวี่ไหว และเผยหรูได้แล้ว

นี่เห็นชัดว่าเหลือเชื่อมาก!

ไม่เพียงแค่ลั่วฉง แม้แต่เผยหรูก็คิดไม่ถึงว่าด้วยอานุภาพแห่งเจดีย์บงกชเร้นพรหมที่ตนครอบครอง จะยังสั่นคลอนการป้องกันของหลินสวินไม่ได้

ควรรู้ว่าสมบัติชิ้นนี้ของนางมีที่มาไม่ธรรมดา มีอานุภาพไม่อาจคาดเดา ไม่ใช่สิ่งที่สมบัติทั่วไปจะเทียบได้สักนิด!

ตูม!

บรรทัดหยกสีม่วง ค่ายกลกระบี่อมตะ เจดีย์บงกชเร้นพรหม ศาสตราวุธสามอย่างนี้เปล่งอานุภาพ พลังที่ปลดปล่อยออกมาทำให้ท้องฟ้าจมสู่กระแสปั่นป่วนทำลายล้างรุนแรง

ทว่าตำแหน่งที่หลินสวินยืนอยู่กลับเหมือนหินใหญ่ที่หมื่นกาลไม่เคลื่อน

ลมแปดทิศพัดมา ตั้งตระหง่านไม่ขยับ!

ชิ้ง!

และตอนนี้เสียงทึบอันยิ่งใหญ่เสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน ราวกับเสียงที่มาจากจักรวาลแรกกำเนิดยุคแรกเริ่ม

ก็เห็นหลินสวินหยิบกระบี่เล่มหนึ่งออกมาจากกล่องหยกสีดำ

ดำสนิทราวกับหมึกทั้งเล่ม ยาวสองฉื่อ ตัวกระบี่สาดละอองแสงสีเขียวอ่อนที่ราวกับภาพฝันมายาออกมา ละอองแสงเหล่านี้ควบรวมกลายเป็นสัญลักษณ์ผนึกที่แปลกประหลาดคลุมเครือเป็นกลุ่มๆ ในอากาศ บ้างรูปร่างเหมือนไส้เดือน บ้างราวกับมังกร บ้างยุ่งเหยิงราวกับใยฝ้าย บ้างหนาหนักราวกับเหล็ก…

สัญลักษณ์ผนึกมากมายพวยพุ่ง วิวัฒน์เปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง เหมือนลายมรรคที่โบราณดั้งเดิมที่สุดนับไม่ถ้วนกำลังสำแดงนัยเร้นลับอันเป็นแก่นแท้ที่สุด

และเมื่อถือกระบี่นี้ บนร่างหลินสวินก็ถูกกลิ่นอายลึกลับปกคลุม ราวกับกลายเป็นเทพแห่งผนึกฟ้าประทานองค์หนึ่ง!

ในใจเผยหรู เหอป๋อหยาง อวี่ไหวสั่นสะท้านอย่างไม่ทราบสาเหตุ สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายคุกคามถึงชีวิตอันไร้รูปสายหนึ่งกำลังแผ่ขยาย ซึมผ่านสนามรบแห่งนี้

ตูม!

ตอนนี้ทั้งสามล้วนสู้เต็มกำลัง ไม่ออมมือสักนิด ปลดปล่อยวิชามรรคอมตะทั้งหมดที่ครอบครอง ความน่ากลัวของอานุภาพ ถึงขั้นทำให้พลังระเบียบที่ปกคลุมทั้งในและนอกเขาเทพหลังมังกรล้วนสั่นสะเทือนไม่หยุด

นี่น่ากลัวนัก

ระดับอมตะสามคนออกโจมตีเต็มกำลัง ในน่านฟ้าที่หกยังเรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้ชั้นยอดที่ทำให้ใต้หล้าสั่นไหว

และตอนนี้หลินสวินเหมือนคุ้นชินกับพลังของกระบี่ในมือแล้วในที่สุด เขาเก็บกล่องหยกสีดำลงไป

จากนั้นพลันเงยหน้าขึ้น ในดวงตาลุ่มลึกนั่นเต็มไปด้วยความเรียบเฉยเย็นชา

ราวกับหุบเหวลึกที่จะกลืนกินคนลงไปตรงๆ

แย่แล้ว!

อวี่ไหวใจกระตุก สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง หมายจะเก็บบรรทัดหยกสีม่วงที่ปลดปล่อยอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ไม่หยุดในทันที แต่ก็เป็นตอนนี้เอง…

หลินสวินฟันกระบี่ออกไปลวกๆ คราหนึ่ง

ปราณกระบี่ที่ควบรวมและวิวัฒน์จากผนึกลายมรรคนับไม่ถ้วนปรากฏออกมา

เปรี๊ยะ!

บรรทัดหยกสีม่วงหักจากตรงกลางกลายเป็นสองท่อนและหม่นแสงลง สูญเสียจิตวิญญาณและนัยเร้นลับทั้งหมด

อวี่ไหวกระอักเลือดโดยพลัน จิตใจได้รับแรงกระเทือนรุนแรง ใบหน้าขาวซีด หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

บรรทัดหยกสีม่วงของเขาหลอมวัตถุอมตะไปไม่รู้เท่าไหร่ ทุ่มเทหลอมตีและหล่อเลี้ยงไปไม่รู้นานเท่าไร

แต่ตอนนี้กลับถูกทำลายลงในชั่วพริบตา!

นี่ทำให้หัวใจเขาหลั่งเลือด ทั้งโกรธทั้งตกใจ

แต่นี่แค่เริ่มต้น

ปัง!

ภายใต้การปลดปล่อยกระบี่นี้ของหลินสวิน ค่ายกลกระบี่อมตะที่เหอป๋อหยางควบคุมเผชิญการโจมตีอันน่ากลัวทันที แตกกระจายเป็นสี่ห้าส่วนในเสียงระเบิด ละอองแสงสาดกระเซ็นราวกับน้ำตก

ส่วนเงาร่างปานเทพสวรรค์ไร้เทียมทานที่แปลงจากเจดีย์บงกชเร้นพรหม ยิ่งถูกหนึ่งกระบี่นี้ฟันพาดขววาง ตัดเอวเปิดแหวก!

เหอป๋อหยางและเผยหรูต่างกระอักเลือดพร้อมกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความสะพรึง

กระบี่นี้ฟันบรรทัดหยกสีม่วง ทลายค่ายกลกระบี่อมตะ ทำลายเงาร่างเทพสวรรค์!

ภาพการทำลายล้างที่ซัดกวาดได้ทุกสิ่งนั่นสยบทั้งที่นั้นในทันที ทำให้คนไม่รู้เท่าไรหวาดหวั่น อกสั่นขวัญหาย!

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่ง กลับอาศัยกระบี่มรรคลึกลับซึ่งที่มาไม่แน่ชัดเล่มเดียวพลิกสถานการณ์ในยามนี้ สยบระดับอมตะสามคน

นี่หากไม่เห็นกับตา ใครจะกล้าเชื่อ

เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ตูม!

การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อ เพียงแต่นับจากนี้ไป หลินสวินเปิดฉากโต้ตอบแล้ว

มือข้างหนึ่งของเขากุมกระบี่ ก้าวเท้ากลางห้วงอากาศ แสงมรรคทั่วร่างหนาแน่น กระบี่มรรคในมือสาดละอองแสงลึกลับสีเขียวอ่อน ควบรวมเป็นสัญลักษณ์ผนึกลึกลับไม่อาจคาดเดา

ทุกกระบี่ฟันออกไป ก็เหมือนกระบวนผนึกฟ้าประทานที่เก่าแก่ที่สุด กลายเป็นวิชาโจมตีชั้นหนึ่งบนโลก

เพียงพริบตาเดียวพวกเผยหรูก็บาดเจ็บสาหัส ถูกโจมตีจนสะบักสะบอมไม่เหลือสภาพ ด้วยพลังระดับอมตะของพวกเขา กลับต้านการโจมตีของปราณกระบี่นี้ไม่ได้!

นี่น่าตกตะลึงเกินไปแล้ว ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ใครเคยเห็นมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิใช้แค่พลังแห่งตน ก็โจมตีจนระดับอมตะสามคนบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องได้บ้าง

ไม่มี!

“นี่เป็นพลังระเบียบที่เกี่ยวข้องกับนัยเร้นลับกระบวนผนึกและหายากอย่างยิ่งชนิดหนึ่ง”

เผยหรูตะโกนออกไป มองที่มาของกระบี่มรรคในมือหลินสวินออก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนผนึก!

กระทั่งในน่านฟ้าที่แปดยังเรียกได้ว่าหายาก และยิ่งเป็นระเบียบระดับนี้ ก็ยิ่งแปลกประหลาดและน่ากลัว

ในใจเหอป๋อหยาง อวี่ไหวล้วนสั่นสะท้าน

ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดหลินสวินจึงกล้าบุกมาตระกูลลั่วเพียงลำพัง

“ตอนนี้เพิ่งเข้าใจ ช้าเกินไปหรือไม่”

หลินสวินทะยานขึ้นสูง กระบี่มรรคในมือพริบไหว

ชิ้ง!

พริบตานั้นประหนึ่งลำแสงวันสิ้นโลกสายหนึ่งพริบไหว

จากนั้นอวี่ไหวที่สูงใหญ่น่าเกรงขาม ร่างกายพลันแยกเป็นสองท่อน จิตวิญญาณและพลังชีวิตของเขาถูกบดขยี้แหลกละเอียดภายใต้หนึ่งกระบี่นี้

ระดับอมตะคนหนึ่ง ถูกสังหารในกระบี่เดียว!

เหตุการณ์นองเลือดอันน่ากลัวนี้ กระตุ้นจนในที่นั้นมีเสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นไม่รู้เท่าไร ทุกคนต่างตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี ไม่อาจเชื่อได้

อมตะ!

โดดเด่นและสูงส่งเพียงใด แม้แต่ในโลกยอดนิรันดร์ยังเรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่อยู่ปลายยอด

แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินสังหารในกระบี่เดียว!

“ลั่วฉง รีบลงมือ!”

เผยหรูกรีดร้อง ตกใจยิ่งยวด รู้สึกหนาวเยือกอย่างที่สุด

“ทะยาน!”

ลั่วฉงควบคุมประทับเทพสำริดในมือ พลังระเบียบที่ปกคลุมบนเขาเทพหลังมังกรกลายเป็นสายฟ้าสีม่วง ราวกับอสนีเคราะห์มหาศาล เข้าปกคลุมมาทางหลินสวิน

สีหน้าของหลินสวินสงบนิ่ง กระบี่มรรคในมือสะบัดเบาๆ

ฉัวะ!

เวิ้งฟ้าหมื่นลี้ราวกับถูกหนึ่งกระบี่ฟันออก ระเบียบสายฟ้าสีม่วงที่ปกคลุมม ก็เหมือนกับผืนผ้าใบวาดภาพถูกหนึ่งกระบี่นี้กรีดออก

ทลายสลายไปเหมือนดั่งกระแสน้ำ

ลั่วฉงตกใจจนหนังหัวชาวาบ นี่เป็นไปได้อย่างไร!?

พลังระเบียบที่ปกคลุมตระกูลลั่วอยู่ในระดับปฐพีขั้นแปด ในน่านฟ้าที่หกนี้เป็นพลังระเบียบที่แข็งแกร่งชั้นต้นๆ

นี่ก็คือเหตุผลที่ต่อให้ตอนนี้ตระกูลลั่วตกต่ำและลำบาก แต่กลับไม่เคยล้มลง

ทว่าตอนนี้ระเบียบระดับปฐพีขั้นแปดนี้ ถึงกับดูไม่ได้สักนิด!

พรูด!

ด้านหลินสวินฉวยโอกาสนี้ลงมือ เงาร่างพริบไหว เมื่อเสียงกระบี่ครวญชิ้งๆ ดังอกมา ก็สังหารเหอป๋อหยางตายคาที่!

ระดับอมตะคนนี้ต้านทานสุดพลังแล้ว แต่กลับเหมือนมดปลวกขวางรถ ไม่อาจต้านได้สักนิด ทั้งร่างถูกปราณกระบี่น่ากลัวนี้บดขยี้และระเบิดออก กายสิ้นมรรคสลาย ตายตามอวี่ไหวไป

ถึงตอนนี้ระดับอมตะคนที่สองร่วงหล่นแล้ว!

ชั่วขณะนี้เหล่าคนตระกูลลั่วที่เห็นภาพนี้แทบจะบ้าแล้วจริงๆ นั่นเป็นถึงระดับอมตะ เหตุใดถึงสภาพดูไม่ได้เช่นนี้

กระบี่ในมือหลินสวินมีที่มาอย่างไรกันแน่ เหตุใดจึงเย้ยฟ้าขนาดนี้

ไม่ว่าใครต่างรู้ว่าด้วยศักยภาพของหลินสวินย่อมรับการโจมตีของระดับอมตะไม่ไหวอย่างแน่นอน จุดสำคัญก็อยู่ที่กระบี่มรรคในมือเขา

น่าสะพรึงเกินไป!

ฟันพลังระเบียบประหนึ่งกรีดภาพวาด สังหารระดับอมตะราวกับฆ่าไก่!

ตูม โครม…

ระเบียบสายฟ้าสีม่วงพลุ่งพล่าน พุ่งไปทางหลินสวินอย่างบ้าคลั่งภายใต้การควบคุมเต็มกำลังของลั่วฉง

เขาตระหนักได้แล้วว่าหากขวางอีกฝ่ายไว้ไม่ได้ วันนี้ตระกูลลั่วต้องประสบเคราะห์ครั้งใหญ่แน่!

น่าเสียดาย ในสายตาหลินสวินระเบียบระดับปฐพีขั้นแปดเปราะบางโดยสมบูรณ์ ถูกกระบี่มรรคในมือเขาฟันออกอย่างง่ายดาย ไม่ก่อให้เกิดการคุกคามใดๆ

เขาพุ่งเข้าหาเผยหรู!

“ไป!”

ความบ้าคลั่งวาบผ่านในดวงตาเผยหรู นางอ้าปากพ่นมุกสมบัติที่ลำแสงพรั่งพรูเม็ดหนึ่งออกมา มันพริบไหวในอากาศ จากนั้นพลันกลายเป็นกระบี่มรรคที่ประหนึ่งภาพมายาเล่มหนึ่ง

กระบี่ดั่งนภาไพศาล เต็มไปด้วยอานุภาพยากจะคาดเดา

กระบี่นี้ก็เป็นสิ่งที่แปลงจากพลังระเบียบเช่นกัน กลิ่นอายน่ากลัวที่ปรากฏออกมา เห็นชัดว่าเหนือกว่าระเบียบสายฟ้าสีม่วงระดับปฐพีขั้นแปดนั่นอย่างมาก

นี่คือไพ่ตายของเผยหรู เป็นไพ่ตายรักษาชีพของนางอย่างไม่ต้องสงสัย!

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

เสียงกระแทกสะเทือนหูดังกึกก้อง กระบี่สองเล่ม พลังระเบียบที่แตกต่างกันโดยสมบูรณ์สองชนิดพุ่งชนกันใต้ท้องฟ้า ทุกครั้งที่เข้าปะทะ ก็เหมือนกับพลังกฎเกณฑ์ที่พันผูกอยู่กับการโคจรของโลกสองใบกำลังปะทะกัน ละอองแสงระเบียบสาดกระเซ็น เสียงมรรคอึงอลสะท้านสะเทือน

เก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดินล้วนอับแสง!

ในใจลั่วฉงเกิดความรู้สึกพ่ายแพ้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชั่วขณะนี้ระเบียบสายฟ้าของตระกูลลั่วดูไม่ได้สักนิด ไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยซ้ำ

กลับกันเพื่อปกป้องไม่ให้เขาเทพหลังมังกรถูกทำลาย เขาจำต้องโคจรพลังระเบียบเต็มกำลังเพื่อป้องกัน

ไม่เช่นนั้นไม่เพียงแค่รากฐานของตระกูลลั่วอย่างเขาเทพหลังมังกรจะถูกทำลาย กระทั่งคนตระกูลลั่วที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็จะประสบเคราะห์ไปด้วย!

‘เหตุใดเจ้าเดรัจฉานน้อยคนนี้จึงแข็งแกร่งเพียงนี้…’

ลั่วฉงสีหน้าขาวซีด ในใจถูกกระทบกระเทือนอย่างสิ้นเชิง

เป็นถึงผู้นำตระกูลลั่ว มีฐานะเป็นระดับอมตะคนหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับพบเจอเรื่องเช่นนี้ ทำให้เขาแทบจะพังทลาย เกือบจะคลุ้มคลั่งแล้ว!

และทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากคนผู้เดียว!

คนผู้นั้นเป็นหลานของลั่วเซียว เป็นลูกของลั่วชิงสวิน เป็นมดตัวหนึ่งที่หลายปีที่ผ่านมาถูกเหล่าคนสำคัญตระกูลลั่วทุกคนดูถูก

ทว่าตอนนี้มดตัวนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

เขาในฐานะผู้สืบทอดคีรีดวงกมล ก้าวออกมาจากทางเดินโบราณฟ้าดารา ข้ามผ่านแดนใหญ่พันศึก บุกตะลุยตลอดทางมาถึงน่านฟ้าที่หก

คนที่ตายในมือเขามีคนจากตระกูลขุมอำนาจอมตะมากมายในน่านฟ้าที่หก น่านฟ้าที่เจ็ด มีมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิของยักษ์ใหญ่อมตะแห่งน่านฟ้าที่แปด

และมีระดับอมตะของพวกเขาตระกูลลั่ว!

และคนเช่นนี้นี่เอง ที่ในคืนนี้คล้ายจะพลิกตระกูลลั่วทั้งตระกูล!

ทั้งหมดนี้ล้วนมาอย่างกะทันหันเกินไป แรงสะเทือนที่ชักนำมาทำให้คนยากจะยอมรับยิ่ง…

ตูม!

และในยามที่สภาวะจิตของลั่วฉงสั่นคลอน เกิดความคิดฟุ้งซ่านนั้นเอง ใต้ฟ้ามีเสียงกึกก้องน่าตกตะลึงดังออกมา

กระบี่ระเบียบเล่มที่เผยหรูเรียกออกมากระจายอยู่กลางห้วงอากาศ แตกหักระเบิดออก!

และในเวลาเดียวกันเงาร่างของหลินสวินราวกับลำแสง ฟันกระบี่เข้าใส่เผยหรู

“เดรัจฉานน้อย ฆ่าข้าสิ พวกเฒ่าชราตระกูลลั่วสายตรงที่ถูกกักขังล้วนต้องฝังลงหลุมไปพร้อมกับข้า!” ชั่วขณะนี้เผยหรูลนลานอย่างสิ้นเชิงแล้ว ตื่นตระหนกหาใดเปรียบ กรีดร้องเสียงแหลม

……………………

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท