Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2722 ภารกิจเก้าดารา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2722 ภารกิจเก้าดารา

ตอนที่ 2722 ภารกิจเก้าดารา

แมวขาวยักษ์จากไปแล้ว

หลินสวินกลับจมสู่ห้วงคิด

การปรากฏตัวของแมวขาวยักษ์ดูเหมือนเป็นเรื่องไม่คาดฝัน แต่ก็สมเหตุสมผล

ตอนนี้สิ่งที่เขาแน่ใจได้คือตั้งแต่ตอนเข้าสู่การทดสอบรอบที่สามของลัทธิแรกกำเนิด ยามเจอตนครั้งแรก เกรงว่าแมวขาวยักษ์คงมองฐานะของตนออกแล้ว

มันรู้ว่าตนมีระเบียบนิพพาน ทั้งรู้เป้าหมายที่ตนมาลัทธิแรกกำเนิดว่าเพื่อกลายเป็นหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์!

แน่ใจได้เลยว่านี่เป็นเพราะผู้สืบทอดคีรีดวงกมลบอกอีกฝ่ายไว้ล่วงหน้า

ถึงขั้นว่าเรื่องนี้แม้แต่ศิษย์พี่จวินหวนก็คงถูกปิดหูปิดตา

เพราะหากรู้แต่แรกว่ามีแมวขาวยักษ์อยู่ เกรงว่าศิษย์พี่จวินหวนคงไม่มีทางไปตระกูลจวง หวังจะอาศัยบุญคุณเมื่อปีนั้นไปรับความช่วยเหลือจากจวงซื่อหลิวเด็ดขาด

แต่แมวขาวยักษ์เป็นใครกันแน่

หลินสวินนึกถึงทุกเหตุการณ์ยามแมวขาวยักษ์เจออาจารย์อาคงเจวี๋ยก่อนหน้านี้ นึกถึงเสียงถอนใจที่มันเคยกล่าวอย่างผิดหวังและร้าวระทม ในหัวปรากฏความคิดหนึ่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้…

หัวหน้าหอแรกนภาเหยียนจี้!

เล่าลือว่าหัวหน้าหอผู้นี้เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ฝึกปราณอย่างบ้าคลั่งคนหนึ่ง ฝึกปราณจนตัวเขาเหลือเพียงพลังจิตเสี้ยวเดียว…

นี่เหมือนกับอาจารย์อาคงเจวี๋ย ฝ่ายหลังก็ยึดติดกับการเสาะหายอดหนทางสู่อมตะเช่นเดียวกัน กระทั่งสภาวะจิตเกิดปัญหาใหญ่ ตกต่ำถึงขั้นสติขุ่นมัว จิตใจไม่กระจ่าง

ซ้ำก่อนไปแมวขาวยักษ์ยังแนะนำตนให้เข้าไปฝึกปราณในหอแรกนภาด้วย

ทุกอย่างนี้ทำให้หลินสวินไม่อาจไม่สงสัย ว่าอีกฝ่ายคือหัวหน้าหอแรกนภาที่เหลือเพียงพลังจิตคนนั้น

แต่พอคิดว่าหัวหน้าหอที่น่าเกรงขามคนหนึ่ง บุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ชั้นยอดในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด กลับกลายเป็นแมวขาวยักษ์อ้วนพีตัวหนึ่ง หลินสวินก็รู้สึกแปลกๆ

แต่หลินสวินไม่อาจคิดมากความแล้ว คำเตือนของแมวขาวยักษ์เขาไม่กล้าลืมเลือน

คำพูดของแมวขาวยักษ์ทำให้เขาตระหนักได้ ที่แท้ในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดก็มีพลังระเบียบที่เหนือกว่าระดับสวรรค์อยู่

แน่นอนว่านั่นก็คือระดับเทพ!

คิดดูแล้วในใจหลินสวินก็สั่นสะท้านไปพักหนึ่ง

เท่าที่เขารู้ ต่อให้เป็นสิบยักษ์ใหญ่อมตะแห่งน่านฟ้าที่แปด ก็ดูเหมือนว่ามีไม่กี่แห่งที่ได้ครอบครองพลังระเบียบในตำนานซึ่งมีแค่บนน่านฟ้าที่เก้าเช่นนี้!

หลินสวินไม่รอช้า พาคงเจวี๋ยกับซย่าจื้อเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งใหม่อีกครั้ง

ในลัทธิแรกกำเนิดตอนนี้ ต่อให้ทั้งสองตื่นขึ้นมาก็ออกจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งอีกครั้งไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเมื่อไม่มีการคุ้มครองจากระเบียบนิพพาน เกรงว่าคงถูกระเบียบลัทธิแรกกำเนิดสังเกตเห็นทันที

แต่เมื่อผ่านเรื่องราวในวันนี้กลับทำให้หลินสวินดีใจมาก

ซย่าจื้อปลอดภัย อาจารย์อาคงเจวี๋ยก็ตื่นขึ้นมาแล้ว ทั้งทำให้เขารู้ข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับแมวขาวยักษ์ แค่เรื่องพวกนี้ก็ควรดื่มให้หมดจอกแล้ว!

วันต่อมา

หลินสวินนำป้ายคำสั่งสำนักที่ตนเพิ่งได้รับมาเรือนสมบัติสวรรค์อีกครั้ง

“เอ๋ หลินสวิน?”

“ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงมาอีกแล้ว”

“คงไม่คิดจะก่อเรื่องใหญ่ให้ปั่นป่วนอีกกระมัง”

ในเรือนมีเงาร่างไม่น้อยอยู่ เมื่อเห็นหลินสวินล้วนเผยสีหน้าแปลกประหลาดอย่างอดไม่ได้ เหมือนเห็นสัตว์ร้ายอุทกภัยตัวหนึ่งพุ่งเข้ามา

หลินสวินไม่รู้เลยว่าชื่อเสียงในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดของเขายามนี้ เรียกได้ว่าดุจสุริยันกลางนภา ไม่มีใครเทียบได้

เพราะเขา ทำให้จิตมรรคของผู้สืบทอดอย่างลี่จงหย่วนกับเสิ่นไจ้เต้าเกิดรอยร้าว

เพราะเขา เฉาจ้งหลินผู้สืบทอดหอแรกมายาจึงโดนลงโทษ ถูกขังคุกสำนึกผิดหนึ่งปี

และก็เพราะเขา ผู้ดูแลหอแรกพิสุทธิ์จวงซื่อหลิวจึงถูกยึดอำนาจ ถูกขังคุกสำนึกผิดร้อยปี!

เรื่องฮือฮาพวกนี้ล้วนเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งเดือน ใครจะมองข้ามตัวตนของหลินสวินได้อีก

มีคนชื่นชม มีคนยกย่อง มีคนเคารพอยู่ห่างๆ และก็มีคนรังเกียจเดียดฉันท์เช่นกัน

แต่ไม่ว่าอย่างไรหลินสวินก็มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว

ก็เหมือนยามมาเรือนสมบัติสวรรค์ตอนนี้ ตั้งแต่พริบตาแรกก็ดึงดูดสายตามากมายให้จับตามมองทันที

“ผู้สืบทอดหอแรกมายาหวงชิงอวี่ คารวะศิษย์น้องหลินสวิน ไม่ทราบว่าศิษย์น้องมาด้วยเรื่องใด”

ผู้สืบทอดหอแรกมายาคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าหวงชิงอวี่เข้ามาต้อนรับ รอยยิ้มดูเป็นมิตร ท่าทางยอดเยี่ยม แต่ในใจกลับหวาดหวั่นอยู่บ้าง กลัวว่าหลินสวินมาครานี้จะก่อเรื่องอะไรอีก

หลินสวินประสานมือกล่าว “ศิษย์พี่ถ่อมตัวไปแล้ว ข้ามาคราวนี้ด้วยอยากดูว่ามีภารกิจสำนักที่เหมาะกับข้าหรือไม่”

หวงชิงอวี่ลอบเป่าปากเหมือนยกภูเขาออกจากอกทันที เขายิ้มพลางกล่าว “ศิษย์น้องตามข้ามา”

เขานำทางหลินสวินไปยังพื้นที่ประกาศภารกิจสำนัก ที่นี่มีจอภาพเก้าผืนปรากฏ แบ่งเป็นภารกิจเก้าชนิดตั้งแต่หนึ่งดาราถึงเก้าดารา

ภายในนั้นภารกิจหนึ่งดารามีมากที่สุด หลากหลายประเภท เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านหลอมอาวุธ หลอมยา เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชวิญญาณเป็นต้น

แน่นอนว่าสิ่งที่ได้รับเมื่อทำภารกิจหนึ่งดาราสำเร็จคือผลงานหนึ่งดารา ผลประโยชน์ที่แลกเปลี่ยนได้ก็น้อยที่สุด

ประเภทของภารกิจเก้าดารากลับมีน้อยที่สุด แต่ก็มีถึงสิบกว่าอย่าง

หวงชิงอวี่กล่าว “ศิษย์น้อง ไม่ทราบว่าเจ้าสนใจภารกิจสำนักด้านไหนเป็นพิเศษ หรือกล่าวได้ว่ามีเรื่องที่ตนถนัดที่สุดหรือไม่ ข้าจะได้แนะนำให้เจ้า”

หลินสวินกล่าวตรงไปตรงมา “ศิษย์พี่ ข้ามารับภารกิจเก้าดารา”

“ที่แท้ก็เป็นภารกิจเก้าดารา…”

หวงชิงอวี่พูดถึงตรงนี้แล้วจึงตระหนักได้อย่างฉับพลันว่าไม่ถูกต้อง เบิกตากว้าง กล่าวอย่างงงงัน ท่าทางยากจะเชื่อ “ภารกิจเก้าดาราหรือ”

หลินสวินพยักหน้า “ใช่”

ขณะกล่าวสายตาเขามองไปยังภารกิจเก้าดาราสิบกว่าอย่างซึ่งปรากฏอยู่บนจอภาพที่เก้าแล้ว

‘หลอมพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไปได้สายหนึ่ง ได้รับหนึ่งผลงานเก้าดารา’

‘ฆ่าเจ้าแห่งวิญญาณร้ายที่พลังเท่าขั้นอายุขัยเทียมฟ้า ชิงหัวใจมันมา ได้รับหนึ่งผลงานเก้าดารา’

‘รวบรวมแหล่งกำเนิดจักรวาล ได้รับหนึ่งผลงานเก้าดารา’

…ภารกิจพวกนี้หลินสวินคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาก็เคยเห็นในตำราหยกขาวแล้ว

แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าภารกิจเก้าดาราพวกนี้ยังอยู่ ไม่ได้ถูกคนรับไป

เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของหลินสวิน คราวนี้หวงชิงอวี่จึงตระหนักได้ ศิษย์น้องหลินสวินที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นคนนี้ไม่ได้ล้อเล่น

เขาอดกล่าวเตือนไม่ได้ “ศิษย์น้อง แม้ทางสำนักกำหนดว่าภารกิจเก้าดารามีแค่ระดับมกุฎบรรพจารย์ที่รับไปได้ แต่หลายปีนี้มีไม่กี่คนที่ทำภารกิจสำเร็จ นี่ก็คือภารกิจสำนักที่ยากที่สุดสำหรับผู้สืบทอดในสำนักอย่างพวกเรา”

หลินสวินขานรับว่าอืมคำหนึ่ง สำรวจภารกิจสำนักพวกนั้นต่อ

หวงชิงอวี่คิดไปคิดมาแล้วกล่าวอีกครั้ง “ศิษย์น้อง หากเจ้ามีใจรับภารกิจเก้าดาราจริง ข้าขอเสนอให้เจ้าไปหาศิษย์พี่บางส่วนมาจัดการด้วยกัน ถ้าเป็นเช่นนี้โอกาสสำเร็จก็จะมากขึ้น”

“หาคนมาช่วยได้ด้วยหรือ” หลินสวินรู้สึกผิดคาดโดยพลัน

“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว”

หวงชิงอวี่ยิ้มขึ้นมา “แต่ต่อให้หาคนมาช่วยก็ต้องอยู่ระดับปราณเดียวกัน ทั้งจำนวนคนที่ทำภารกิจยังห้ามเกินสามคน ส่วนผลงานที่ได้รับหลังจากทำภารกิจสำเร็จ ได้แต่มอบให้คนที่รับภารกิจเท่านั้น”

“ที่แท้เป็นเช่นนี้”

หลินสวินพูดพลางยื่นนิ้วไปบนจอภาพที่เก้านั้นแล้วเอ่ย “ศิษย์พี่ ข้าขอรับภารกิจนี้ อันนี้ อันนี้ด้วย”

รอยยิ้มหวงชิงอวี่ค้างแข็ง ถูกทำให้ตกใจจนสะดุ้งโหยง เนิ่นนานกว่าจะกระแอมกล่าว “ศิษย์น้อง ภารกิจเก้าดาราครั้งหนึ่งรับได้เพียงหนึ่ง รับมากไม่ได้”

หลินสวินขมวดคิ้วพลางกล่าว “เช่นนั้นก็รับภารกิจล่าเจ้าแห่งวิญญาณร้ายก่อน”

หวงชิงอวี่ร้องเอ้อออกมาคำหนึ่ง แววตาดูแปลกไป “ศิษย์น้อง เจ้าแน่ใจหรือ”

หลินสวินถามกลับ “ศิษย์พี่คิดว่าไม่เหมาะหรือ”

หวงชิงอวี่ยิ้มขื่น “ไม่ใช่เช่นนั้น แต่เจ้าแห่งวิญญาณร้ายนี้เจ้าเล่ห์ป่าเถื่อนเป็นอย่างยิ่ง ช่วงหลายพันปีที่ผ่านมามีคนไม่น้อยรับภารกิจนี้ไป แต่ล้วนล้มเหลวโดยไม่มีข้อยกเว้น”

“สาเหตุก็คือร่างวิญญาณที่เกิดจากไอชั่วร้ายอย่างเจ้าแห่งวิญญาณร้าย หลังจากบำเพ็ญถึงขั้นอายุขัยเทียมฟ้าจะไม่หวาดกลัวการโจมตีของพลังระเบียบ นี่ก็หมายความว่าต่อให้ศิษย์น้องใช้พลังระเบียบ คิดสังหารเจ้าแห่งวิญญาณร้ายขั้นอายุขัยเทียมฟ้าก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง”

เห็นชัดว่าหวงชิงอวี่คิดว่าสาเหตุที่หลินสวินรับภารกิจนี้ เป็นเพราะครอบครองไพ่ตายอย่างพลังระเบียบ

นี่คือความคิดตามจิตใต้สำนึกอย่างหนึ่ง

เพราะผู้สืบทอดแทบทุกคนในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดล้วนมีสมบัติลับระเบียบ ทั้งใช้พลังระเบียบได้ ดังนั้นยามฆ่าฟันศัตรูจึงสามารถสร้างภัยคุกคามต่อระดับอมตะได้

แต่เจ้าแห่งวิญญาณร้ายขั้นอายุขัยเทียมฟ้าไม่เหมือนกัน สมบัติลับระเบียบใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิง

หากอาศัยพลังที่แท้จริงไปโรมรัน หวงชิงอวี่ไม่คิดว่าหลินสวินที่อยู่ระดับมกุฎบรรพจารย์จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าแห่งวิญญาณร้ายขั้นอายุขัยเทียมฟ้าได้

แต่หลินสวินไม่คิดมากความนัก กล่าวตรงไปตรงมา “ศิษย์พี่ ข้าขอรับภารกิจนี้แล้วกัน”

หวงชิงอวี่มองหลินสวินด้วยสีหน้าซับซ้อนคราหนึ่งแล้วกล่าว “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็ไม่โน้มน้าวอีก แต่ขอพูดเผื่อไว้ก่อน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าทำให้ศิษย์น้องหลงผิดจนรับภารกิจที่มีความยากเช่นนี้”

หลินสวินยิ้มพลางรับคำ

ไม่นานหลินสวินก็นำม้วนหยกภารกิจที่ปิดผนึกม้วนหนึ่งออกจากเรือนสมบัติสวรรค์ไป

“ศิษย์พี่หวง หลินสวินเขารับภารกิจเก้าดาราไปจริงหรือ”

หลินสวินเพิ่งจากไป คนมากมายก็ล้อมเข้ามา พากันเอ่ยปากถามหวงชิงอวี่

“อืม ภารกิจล่าเจ้าแห่งวิญญาณร้าย” หวงชิงอวี่กล่าว

ในเรือนสมบัติสวรรค์มีเสียงเซ็งแซ่ดังขึ้นเหมือนน้ำมันเดือดกระเด็นจากหม้อทันใด

“นี่คือถ้าไม่ทำให้โลกตะลึงคงตายตาไม่หลับหรือ ศิษย์น้องหลินสวินถึงกับคิดเคลื่อนไหวขนานใหญ่เช่นนี้!”

“ไปทำภารกิจเก้าดาราคนเดียวรึ ทั้งเป็นการล่าเจ้าแห่งวิญญาณร้ายด้วย นี่เขาบ้าไปแล้วหรือ”

“นี่เรียกว่าผู้มีฝีมือสูงจิตใจกล้าหาญ ศิษย์พี่เสิ่นไจ้เต้ายังถูกศิษย์น้องหลินสวินเอาชนะในหนึ่งกระบี่ ยังมีเรื่องอะไรที่เขาไม่กล้าทำอีก”

“การล่าเจ้าแห่งวิญญาณร้ายไม่เหมือนกัน จากมุมมองข้าเกรงว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของศิษย์น้องหลินสวินคง… กลับมามือเปล่า”

ไม่ทันไรข่าวที่หลินสวินรับภารกิจเก้าดาราก็แพร่ออกไป ก่อให้เกิดคลื่นลมในทันที

คนใหญ่คนโตส่วนหนึ่งล้วนจนคำพูดอย่างอดไม่ได้ หลินสวินนี่ก่อเรื่องเก่งเกินไปแล้วกระมัง

เมื่อผู้นำยอดเขาที่เก้าฉินอู๋อวี้รู้ข่าวก็ปวดหัว เมื่อวานเพิ่งบอกให้เขาเก็บงำตนเองและคมประกายหน่อย

แต่เพิ่งผ่านมาหนึ่งวันเขาก็ไปทำภารกิจเก้าดาราของสำนักแล้ว!

เจ้าหนูนี่คิดก่อเรื่องจนฟ้าพลิกดินตลบถึงจะพอใจหรือ

ยามในลัทธิแรกกำเนิดมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ หลินสวินก็เริ่มเคลื่อนไหวนานแล้ว

หลินสวินถือป้ายคำสั่งสำนัก เดินทางผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณแห่งหนึ่งที่อยู่ในแดนแรกเริ่มไปอย่างราบรื่น

วันต่อมา

ส่วนลึกของทะเลหมื่นดารา ปรากฏจักรวาลปั่วป่วนแหลกสลายแห่งหนึ่ง

คลื่นน้ำวนที่ควบรวมจากเงาแสงโลกมากมาย แต้มแต่งตามมุมต่างๆ ในจักรวาลแห่งนั้น

ได้ยินว่าน้ำวนพวกนั้นมีทั้งหมดสามพันหกร้อยกว่าแห่ง น้ำวนแต่ละแห่งล้วนเชื่อมต่อไปยังโลกจักรวาลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

หลินสวินทำตามคำชี้แนะบนม้วนหยกภารกิจ ไม่ถึงครึ่งเค่อก็เจอประตูน้ำวนในจักรวาลปั่นป่วนนั่น

ผ่านประตูน้ำวนไปก็จะถึงแดนบาป!

…………………

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท