Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2727 ทะเลสาบสะเก็ดดาว

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2727 ทะเลสาบสะเก็ดดาว

ตอนที่ 2727 ทะเลสาบสะเก็ดดาว

หมู่เขาไร้ขอบเขต

แต่ปลายทางแนวเขานั้นกลับมีประกายดาราทั่วฟ้า อบอวลประหนึ่งภาพฝัน บังฟ้าคลุมตะวัน เกิดเป็นภาพปฐมกาลดุจแดนแรกกำเนิด

นัยน์ตาหลินสวินวาววาบขึ้นมา

ลำบากหามาหลายเดือน ในที่สุดตอนนี้ก็เห็นความหวังบ้างแล้ว

จากบันทึกในม้วนหยก ‘เทือกเขาสะเก็ดดาว’ แห่งโลกชางถูนี้ จากอดีตถึงปัจจุบันมีผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนมาเสาะหา

แต่ล้วนหายไปอย่างแปลกประหลาดโดยไม่มีข้อยกเว้น

กระทั่งอาณาเขตของเทือกเขาสะเก็ดดาวกลายเป็นสถานที่ต้องห้ามแห่งหนึ่ง

แต่สำหรับหลินสวินกับโม่หลันซานแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางกลัวเรื่องพวกนี้

“ไป พวกเราไปดูกัน”

โม่หลันซานนำทางไปเบื้องหน้า

เมื่อเข้าใกล้สถานที่ซึ่งประกายดาราอบอวลนั้น ฟ้าดินพลันเปลี่ยนไป คล้ายมาถึงยุคดึกดำบรรพ์เมื่อนานมาแล้วในครู่เดียว

บนพื้นมีสะเก็ดดาวมากมาย ไม่รู้ว่าหล่นมาที่นี่ได้อย่างไร ยังมีหลุมลึกอีกมาก ล้วนเกิดจากดวงดาวนอกโลกที่ร่วงลงมา

ทุกหนแห่งมีหมอกควันพวยพุ่งเป็นระลอก นั่นคือประกายดาราหลากสี เต็มไปด้วยปราณห้าธาตุที่บริสุทธิ์หนาแน่นหาใดเปรียบ เข้มข้นจนน่ากลัว

หากฝึกปราณอยู่ที่นี่ผลประโยชน์คงมากเกินไปจริงๆ

ถ้าไม่ได้มาเพื่อเสาะหาพลังระเบียบ หลินสวินคงอยากเก็บตัวที่นี่ช่วงหนึ่ง ดูดซับปราณห้าธาตุที่นี่ให้พอใจ หลอมชำระกายมรรคสักหน่อย

“ที่แท้เป็นเช่นนี้ ที่นี่เต็มไปด้วยพลังแห่งกาลเวลา ทำให้บริเวณนี้ประดุจย้อนกลับไปยังยุคโบราณ เกิดเป็นภาพปฐมกาลแรกกำเนิด”

โม่หลันซานมองปริศนาบางส่วนของพื้นที่แถบนี้ออก รู้สึกผิดคาดอย่างอดไม่ได้

ด้วยอิทธิพลของพลังเวลาทำให้ที่นี่เปลี่ยนเป็นกว้างใหญ่หาใดเปรียบ ใหญ่กว่าฟ้าดาราแห่งหนึ่ง มีสะเก็ดดาวแตกหักกระจายอยู่ทั่ว

หลินสวินอดไหวหวั่นไม่ได้ สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาของฟ้าดินแถบนี้เช่นกัน

“ข้าสงสัยว่าที่นี่มีโอกาสสร้างบ่อเกิดแรกกำเนิดขึ้นมาใหม่สูงมาก หากเป็นเช่นนี้ก็ฉวยโอกาสเก็บบ่อเกิดแรกกำเนิดนี่ไปหลอมได้”

โม่หลันซานพูดถึงตรงนี้แล้วทำให้หลินสวินใจเต้น

ภารกิจเก้าดาราในเรือนสมบัติสวรรค์แห่งหอแรกมายา ก็มีภารกิจหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเก็บบ่อเกิดแรกกำเนิด!

‘หากเป็นเช่นนี้ ต่อให้ไม่อาจเก็บพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไปได้ แค่เก็บบ่อเกิดแรกกำเนิดนี้ไปก็ทำภารกิจเก้าดาราอีกชิ้นหนึ่งได้สำเร็จเช่นกัน…’

หลินสวินนึกถึงตรงนี้แล้วฮึกเหิมขึ้นมา

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

เมื่อทั้งสองคนเดินไปข้างหน้า เสียงกระบี่ครวญสะท้านฟ้าสะเทือนดินพลันดังมาแต่ไกล

ไม่นานทะเลสาบแห่งหนึ่งสะท้อนเข้าสู่สายตาพวกเขา ปราณกระบี่พวยพุ่งขึ้นมาจากทะเลสาบ เจิดจรัสเฉียบคม พาให้ใจคนหวาดหวั่น

เมื่อมองทะเลสาบกว้างใหญ่นั้นอีกครั้ง ถึงกับมีคลื่นโถมโอฬารที่วิวัฒน์จากประกายดาราสีเงินเข้ม ในความรางเลือนเห็นได้ว่ามีดวงดาวนับไม่ถ้วนม้วนซัดอยู่ในน้ำทะเลสาบ แผ่คลื่นพลังระเบียบเยียบเย็นเสียดกระดูกออกมาเป็นระลอก

ภาพนี้ทำให้ระดับอมตะขั้นดับเทพอย่างโม่หลันซานตกตะลึงจนกล่าวว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ก้นทะเลสาบกว้างใหญ่นี้เป็นไปได้สูงว่าอาจมีพลังระเบียบอยู่ ทั้งระดับยังสูงมากด้วย!”

หลินสวินกล่าวอย่างอึ้งงัน “นี่ไม่ได้หมายความว่านอกจากพลังบ่อเกิดแรกกำเนิดแล้ว ยังเก็บเกี่ยวพลังระเบียบสายหนึ่งได้ด้วยหรือ”

โม่หลันซานยิ้มกล่าว “รอเจ้าก้าวสู่ระดับอมตะแล้วจะเข้าใจ เมื่อบ่อเกิดแรกกำเนิดของโลกแห่งหนึ่งก่อเกิดขึ้น มักจะมีพลังระเบียบเกิดขึ้นด้วย ครั้งนี้พวกเรามาได้ถูกเวลามาก สบโอกาสทองเข้าพอดี ไม่อย่างนั้นหากรอบ่อเกิดแรกกำเนิดวิวัฒน์เป็นโครงโลกหล้า พลังต้นกำเนิดของมันก็จะเปลี่ยนเป็นพลังมหามรรคของโลกแห่งหนึ่ง ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีมูลค่าเท่าไหร่แล้ว”

หลินสวินตื่นเต้นดีใจพลางกล่าว “ที่แท้เป็นเช่นนี้”

โม่หลันซานเก็บรอยยิ้มแล้วกล่าวเคร่งขรึม “หลินสวิน เรื่องนี้ข้าไม่อาจแทรกแซง ทุกอย่างล้วนต้องพึ่งพาตัวเอง เจ้าอยากให้ข้าช่วยเจ้าก็ได้ แต่นี่ก็หมายความว่าภารกิจเก้าดาราที่เจ้ารับมาถือว่าล้มเหลว”

นี่เห็นได้ว่าไม่รักษาน้ำใจนัก

แต่นี่ก็คือกฎของลัทธิแรกกำเนิด ภารกิจเก้าดาราต้องให้ศิษย์ทำสำเร็จด้วยตัวเอง!

“ผู้อาวุโสวางใจ”

หลินสวินพูดพลางเคลื่อนสายตามองทะเลสาบที่ประกายดาราอบอวล ปราณกระบี่พลุ่งพล่านนั่น

ฟุ่บ!

เขาลงมือโดยไม่รอช้า หุบเหวหนึ่งควบรวมออกมาจากกลางฝ่ามือ ลึกล้ำยากหยั่งถึง พลังกลืนกินน่าหวาดหวั่นแผ่อบอวล จมหายไปในทะเลสาบนั้นดังตึง ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ร้ายกาจ

ฉึบ!

เมื่อน้ำทะเลสาบที่อัดแน่นด้วยกลิ่นอายเยียบเย็นคมกริบนั้นสาดลงไปริมทะเลสาบ พื้นดินและห้วงอากาศใกล้เคียงล้วนถูกตัดเป็นรอยแยกนับไม่ถ้วนเหมือนใยแมงมุม

หลินสวินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เมื่อเหวลึกหมุนวนม้วนกลืนก็แทบพลิกทะเลสาบแห่งนี้จนปั่นป่วน นี่คือการยั่วยุอย่างรุนแรง

ตูม!

ทะเลสาบพลุ่งพล่าน เกิดคลื่นระเบียบมากมายในครู่เดียว ยังมีพลังระเบียบลึกลับพุ่งออกมา กลายเป็นร่างวิญญาณชวนประหวั่น

‘ระเบียบเผยวิญญาณ ควบรวมเป็นรูปร่าง เป็นพลังระเบียบระดับสวรรค์ดังคาด ทั้งระดับยังเหนือกว่าขั้นหกด้วย’

โม่หลันซานเห็นภาพนี้แต่ไกล เขาคาดหวังอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้ หลินสวินจะใช้วิธีใดในการกำราบพลังระเบียบระดับนี้

ต้องรู้ว่าต่อให้ระดับอมตะลงมือ ก็ต้องพึ่งพาสมบัติลับระเบียบมากำราบอยู่บ่อยครั้ง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกได้แต่แรก

พลังระเบียบในทะเลสาบม้วนซัด ควบรวมเป็นเงาร่างสายหนึ่ง รวมตัวจากประกายดาราหนาทึบ หลอมสิ่งมีชีวิตร่างคนตนหนึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เปล่งแสงสว่างเรืองรอง

ความน่ากลัวของกลิ่นอายทำให้ฟ้าดินแถบนี้สั่นสะเทือน

ชิ้ง!

หลินสวินไม่พูดมากความ เรียกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกมาเพียงชั่วเงื้อมือ เมื่อมาถึงระดับเขาตอนนี้ ระดับมกุฎบรรพจารย์ไร้คู่ต่อกร เพียงโจมตีง่ายๆ ก็กร้าวแกร่งน่ากลัวถึงที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งยังมีระเบียบนิพพานอยู่ สามารถต้านพลังระเบียบที่นี่ได้

โครม!

สิ่งมีชีวิตร่างคนนั้นล้มลงอย่างรวดเร็ว ถูกเฉือนจนแหลกละเอียดแล้ว

แต่ไม่นานเมื่อทะเลสาบมหึมานั่นโหมกระหน่ำ เงาร่างสิ่งมีชีวิตสิบกว่าตัวพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง รูปร่างแปลกประหลาดราวกับเทพมาร

แต่ละตัวล้วนแผ่คลื่นพลังระเบียบชวนตะลึง กลิ่นอายน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันหลินสวินก็เคลื่อนไหวแล้ว ทะยานอากาศมาอยู่บนทะเลสาบ

เขาเค้นมรรควิถีแห่งตน ควบคุมเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ก่อให้เกิดแสงมรรคนับหมื่นแสน ทำการกำราบ พลังนั้นแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ยังมาพร้อมคลื่นพลังระเบียบนิพพานด้วย กำราบพลังระเบียบของสิ่งมีชีวิตสิบกว่าตัวนั้นได้อย่างสมบูรณ์

ไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย นี่คือผลลัพธ์แห่งภัยพิบัติคราหนึ่ง แม้สิ่งมีชีวิตสิบกว่าตัวนั้นแข็งแกร่งมาก แต่หลังจากถูกกำราบพลังระเบียบบนตัวแล้วก็ไม่มีภัยคุกคามโดยสิ้นเชิง

ปัง!

พวกมันล้วนร่างระเบิดแหลกแทบทันที ไม่อาจยืนหยัดได้นานเท่าไหร่ ทั้งตัวล้วนถูกทำลาย

ทะเลสาบกว้างใหญ่กลับมาเงียบสงบในพริบตา มีเพียงประกายดาราม้วนซัด

ห่างออกไปโม่หลันซานที่เห็นภาพนี้อยู่ในสายตาอดตะลึงไม่ได้

เขาไม่รู้ว่าหลินสวินมีระเบียบนิพพาน แต่กลับชี้ชัดได้ว่าเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งที่หลินสวินครอบครอง มีโอกาสสูงว่าเป็นสมบัติลับระเบียบอย่างหนึ่งซึ่งกำราบพลังระเบียบที่นี่ได้!

“ยังไม่ออกมาอีก?”

บนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบ หลินสวินตวาดลั่นคราหนึ่ง กระแทกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งลงไปทั้งอย่างนั้น ทำการกำราบโดยตรง

กลางทะเลสาบมีคลื่นซัดสาดทันที ประกายดาราโหมกระหน่ำ สะเก็ดดาวนับไม่ถ้วนเผยปรากฏ คลื่นระเบียบชวนประหวั่นพลุ่งพล่านขึ้นมาราวภูเขาไฟระเบิด ปลดปล่อยออกมาจากส่วนลึกของทะเลสาบ

จากนั้น…

ฟุ่บ!

รุ้งร่ายสายหนึ่งตัดผ่านอากาศ กระบี่มรรคที่ประกายดาราเอ่อล้นเล่มหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากทะเลสาบ ทะยานสู่ฟ้าสูง ถึงกับคิดหนีไปทั้งอย่างนั้น

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปลดปล่อยแสงมรรคชวนประหวั่น กดกำราบกลางอากาศ แม้แต่ระเบียบนิพพานยังถูกหลอม เคลื่อนคล้อยตรงปากกระถาง ออกโจมตีด้วยตัวเอง

ก่อนหน้านี้ระเบียบนิพพานก็เคยกำราบพลังระเบียบด้วยตัวเองไม่น้อย เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว หลินสวินไม่แปลกใจแล้ว

ตึง!

กระบี่มรรคที่ประกายดาราพลุ่งพล่านเล่มนั้นดิ้นรนอย่างรุนแรง พุ่งปะทะเตากระบี่ คิดจะหนีไป

แต่มีระเบียบนิพพานกำราบอยู่ ไม่ว่ากระบี่มรรคเล่มนี้ดิ้นรนอย่างไรก็เปล่าประโยชน์ ไม่นานก็ถูกกำราบจนไม่อาจขยับเขยื้อน ถูกสยบเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

กระบี่มรรคเล่มนี้ แน่นอนว่าเป็นร่างต้นของพลังระเบียบซึ่งเกิดขึ้นที่นี่

“นี่…” โม่หลันซานที่อยู่ห่างไปพลันตาลาย มีความรู้สึกว่าไม่ทันตั้งตัว

เดิมทีในการคาดเดาของเขา หลินสวินอยากกำราบพลังระเบียบของที่แห่งนี้ เกรงว่าคงต้องจ่ายค่าตอบแทนบางส่วน ถึงขั้นว่าอาจเจออันตรายบางอย่าง

ใครจะคิดว่าเพียงชั่วขณะ หลินสวินก็กำราบพลังระเบียบนั้นได้อย่างง่ายดาย หมดจดชัดเจน สำเร็จเสร็จสิ้นเพียงหนึ่งลมหายใจ มือไม้คล่องแคล่วหาใดเปรียบ

แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำเช่นนี้

‘พลังระเบียบที่เจ้าหมอนี่ใช้ เกรงว่าคงเป็นระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่ยากพบเห็นแน่…’

โม่หลันซานแอบกล่าว

ตัวเขาเป็นผู้อาวุโสของยอดเขาที่เก้าแห่งลัทธิแรกกำเนิด ทั้งเป็นบุคคลขั้นดับเทพ แน่นอนว่าเคยเห็นระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากมาไม่น้อย

ถึงขั้นว่าในเก้ายอดเขาใหญ่แห่งลัทธิแรกกำเนิด ผู้สืบทอดเกือบทุกคนล้วนมีสมบัติลับระเบียบ ระเบียบซึ่งแฝงอยู่ในสมบัติลับระเบียบที่บางคนครอบครอง ล้วนมีระดับสวรรค์ขั้นเก้าเช่นกัน!

แต่สาเหตุที่โม่หลันซานตกตะลึงคือต่อให้เป็นสมบัติลับที่มีพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าหายาก เมื่ออยากไปกำราบระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไปสายหนึ่ง ใช่ว่าจะสร้างอานุภาพกดกำราบเช่นนี้ได้

‘ผู้สืบทอดแห่งคีรีดวงกมลทำให้คนมองไม่ออกดังคาด’ โม่หลันซานจำต้องทอดถอนใจ

ขณะเดียวกันหลินสวินเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพลังระเบียบที่ถูกกำราบนั่นแล้ว รูปร่างคล้ายกระบี่มรรค สีขาวเงินตลอดเล่ม ประกายดาราพลุ่งพล่าน บนตัวมันมีลายมรรคระเบียบตามธรรมชาติ กลิ่นอายสะเทือนใต้หล้า

‘นายท่าน นี่คือระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเจ็ด กลิ่นอายคมกริบ เกี่ยวข้องกับพลังดารา เป็นระเบียบดาราอย่างหนึ่ง ยากพบเห็นยิ่งนัก’

ในโลกของระเบียบนิพพาน อู๋ซวงที่รูปร่างเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสากล่าวเสียงกังวาน น้ำเสียงเจือความมุ่งหวัง

ระดับสวรรค์ขั้นเจ็ด!

หลินสวินใจกระตุกวูบอย่างหนักหน่วง จากนั้นจึงสื่อจิตกล่าวโดยไม่แสดงสีหน้า ‘ข้าต้องใช้มันมาแลกเปลี่ยนผลงาน หากเจ้าอยากดูดซับพลังของมัน จำไว้ว่าอย่าทำระดับมันเสียหาย’

อู๋ซวงตอบรับด้วยเสียงกังวาน เผยรอยยิ้มเบิกบานสดใส

“ระวัง”

เวลานี้โม่หลันซานที่อยู่ห่างไปเหินห้วงอากาศเข้ามา คว้าแขนหลินสวิน เคลื่อนย้ายมากลางอากาศริมทะเลสาบกว้างใหญ่

เกือบจะเวลาเดียวกัน…

ทันใดนั้นเสียงเป่าเขาสัตว์ดังต่อเนื่อง ลุ่มลึกและกดดัน

ต่อมากลิ่นอายน่ากลัวปกคลุมฟ้าดิน หลินสวินเงยหน้าไปก็เห็นยานโบราณลำหนึ่ง ถูกห่อหุ้มด้วยแสงมรรค กดกำราบลงมา พุ่งตรงมาทางทะเลสาบนี้

นี่คือยานรบลำหนึ่ง ทันทีที่มาเยือน อานุภาพนั้นน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต สะท้านใจผู้คน

เมื่อมองอย่างละเอียด บนยานรบใช้เลือดเทพแดงสดสลักสัญลักษณ์สำนักมหึมาภาพหนึ่ง…

นั่นคือภูเขาดึกดำบรรพ์สิบสองลูก ปกปักษ์แดนแรกกำเนิด สูงเสียดนภาคราม ราวกับคงอยู่ชั่วกาล สีเลือดแดงสดข้นคลั่กกลายเป็นฉากหลังของมัน ยิ่งเพิ่มกลิ่นอายลึกลับที่ทำให้ผู้คนใจสั่น

“เรือรบกระดูกเทพของหอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมด!”

พริบตานี้นัยน์ตาโม่หลันซานพลันหดรัดเช่นกัน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท