เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน – ตอนที่ 29

ตอนที่ 29

29.เจอพิรุธ

อุณหภูมิในห้องลดลงฮวบลงทันใด เช่าเดินออกมาโดย สวมอาภรณ์เสร็จแล้ว ทว่าไม่มีร่องรอยใดบนตัวนาง ไม่มีกลิ่น คาววสันต์ที่ควรจะมีหากมีการหลับนอนกันแล้ว

สีหน้าหลิ่วเจินกลับมาเป็นปกติ นางสามารถเห็นถึงการ

จัดฉากอย่างลวก ๆ ดังนั้นจึงเบาใจไปเปลาะหนึ่ง ทันใดนั้น หญิงสาวก็พบว่าการที่ตนเองรู้สึกกลัดกลุ้มนั้น ช่างเป็นเรื่องไร้ สาระสิ้นดี ดูเหมือนนางไม่จำเป็นต้องใส่ใจว่ากู้หรูเฟิงจะมี สัมพันธ์ทางกายกับ

เหนืออื่นใด แยกทางกันอยู่ แล้ว เขาต้องไปมีดูคล้ายน่าจะเป็น เรื่องดีสำหรับเขาเตรียมไว้ตอนนี้

“ไม่เป็นไร รีบ หญิงสาวอยากกลับ บ้านไปนอนเต็มแก่ นางจะรู้สึกดีขึ้นมากหลังได้นอนหลับเต็มตา แล้ว และการมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งในช่วงฉลองปีใหม่ ย่อม ไม่เป็นมงคลต่อผู้ใด

อย่างไรก็ตาม กู้หรูเฟิงคิดไปว่าหลิ่วเจินกำลังโกรธตน คิ้ว ของชายหนุ่มขมวดน้อย ๆ “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอตื่นขึ้นมา นางก็นอนอยู่ตรงนั้น ข้าไม่ได้ปดเจ้านะ ” เสียงของกู้หรู เฟิงดังขึ้นกว่าเดิม

ผู้คนที่ยืนดูอยู่รายรอบต่างเงียบงัน ได้แต่มองหน้ากันไป มา พวกเขาควรพูดอะไรกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ดีล่ะ?
หลวเจนรูสกวาหากเร่องนถูกแกเขเบซา ๆอย่างเตาคลาน เกรงว่าคงไม่ได้ผลสรุปภายในคืนนี้ ดังนั้นควรพูดจากันตรง ๆ และชัดเจนกันไปเลย นางก็เป็นแพทย์คนหนึ่ง ดูเพียงแค่แวบ เดียวก็รู้ว่าพวกเขามีสัมพันธ์กันจริงหรือไม่

เชียงเช่าอยากปืนขึ้นเตียงกู้หรูเฟิงเหมือนเจ้าของร่างเดิม ทันทีที่ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว อย่างไรกู้หรูเฟิงย่อมไม่มี ทางหนีพ้น เขาได้ครอบครองผู้อื่นแล้ว จะมายืนเฉย ๆ ไม่ทำอัน ใด แล้วสลัดผู้อื่นทิ้งได้อย่างไร

อีกอย่าง เซียงเช่าเป็นบุตรสาวผู้ใหญ่บ้าน ใครเล่าจะไม่ เห็นแก่หน้าเขา หากนางตกลงให้กู้หรูเฟิงแต่งกับเชียงเช่า ตัว หลิวเจินเองจะถูกลดฐานะมาเป็นแค่อนุภรรยาเพราะสถานะ ทางสังคมไม่ดีเท่าเซียงเช่า แม้หลังพ้นช่วงฉลองปีใหม่ นาง และกู้หรูเฟิงจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอีกแล้วก็ตาม ทว่าเหนือ อื่นใดตอนนี้ยังเป็นอยู่

จะว่าไปสุดท้ายแล้ว คนก็ยังรักษาหน้าตาไว้ได้ การแต่ง งานครั้งนี้ถือเป็นเรื่องภายในครอบครัวใช่หรือไม่?

ทุก ๆ คนมองสำรวจเชียงเช่าที่ยืนอยู่ตรงประตูทางออก พวกเขาสังเกตเห็นว่าอาภรณ์ที่นางสวมใส่ดูยุ่งเหยิงไม่ เรียบร้อย คงเพราะนางรีบสวมไปหน่อย ทว่าอาภรณ์บนกายกู้ หรูเฟิงกลับดูเรียบร้อยปกติดี ยกเว้นรอยยับสองสามรอยบน เสื้อ นอกนั้นก็ไม่มีสัญลักษณ์อื่นใดที่บ่งบอกว่ามีการถอด เสื้อผ้าออก

“ข้า…ที่หรูเฟิง..” เชียงเช่าเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรด้วยเหมือนกัน เป็นความจริงที่ว่ายังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น นางไม่คาด

คิดว่ากู้หรูเฟิงจะตื่นไวปานนี้ จึงไม่ทันปลดอาภรณ์ของอีกฝ่าย ออก

กู้หรูเฟิงยืนอยู่ข้าง ๆ หลิ่วเจิน ชายหนุ่มรวบมือหลิ่วเจีนไว้ ในอุ้งมือเขา มือนางเย็นมาก เย็นยิ่งกว่ามือเขาเสียอีก

ช่วงที่เขานอนหลับลึก เกรงว่าหลิ่วเจินคงเที่ยวตามหาเขา อยู่เป็นนานแน่ พอคิดถึงตรงนี้ กู้หรูเฟิงให้รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก

“เชียงเช่า ข้าซาบซึ้งนัก ที่ผู้ใหญ่บ้านเมตตารับข้าเข้ามา ในหมู่บ้าน ทว่าข้าไม่มีความรู้สึกเชิงชู้สาวกับเจ้าเลย ข้ามอง เจ้าอย่างน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดเจ้าถึงได้ทำเช่นนี้กับ ข้า?” กู้หรูเฟิงนิวหน้า ในที่สุดเขาก็ถูกวางแผนเล่นเล่ห์อีกแล้ว

หลิ่วเจินยืนมองดูพวกเขาสะสางปัญหากัน ด้วยอารมณ์ คล้ายมองดูการแสดงงิ้ว ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานางออกโรง ก่อน อื่นมาดูกันสิว่ากู้หรูเฟิงจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

ตอนนี้เซียงเช่าอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะ ทำอย่างไรดี ขณะที่ทุกคนกำลังรอคำตอบจากเชียงเช่า ภรรยา ผู้ใหญ่บ้านก็มาถึงพอดี

“โอ สวรรค์! สาวน้อยที่รักของแม่! เกิดอะไรขึ้นรี?” เหตุ ใดเจ้าถึงได้เดินออกมาในสภาพนี้เล่า? อากาศยิ่งเย็น ๆอยู่ อย่าปล่อยให้ตัวเย็นจัดเกินไปสิ! รีบสวมเสื้อให้หนากว่านี้เร็ว เข้า!” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพรั่งพรูความห่วงใยมหาศาลใส่เขียง เช่า เพื่อว่าเซียงเช่าจะได้ดูน่าสงสารมาก ๆ
เมื่อภรรยาผู้ใหญ่บ้านเห็นสภาพเชียงเช่า ก็รู้ว่าลูกสาวทำ ไม่สำเร็จ นางจึงต้องรีบช่วยคิดหาวิธีแก้ไขให้

“เชียงเช่า บอกแม่มาสิว่าเกิดอะไรขึ้น” ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน พูดขณะหันหลังให้กลุ่มคนที่ดูเหตุการณ์อยู่ นางคอยขยิบตาส่ง สัญญาณให้เชียงเช่าเรื่อย ๆ ไม่ว่าอย่างไร นางต้องยืนกราน อย่างเดียวว่ากู้หรูเฟิงมีอะไรกับลูกสาวนางแล้ว

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

แคว้นอันเป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นปึกแผ่นมั่นคง และมั่งคั่ง อย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ หาได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับชาว บ้านในแถบหุบเขาต้าชานเลย หุบเขาอันสลับซับซ้อนนี้ เป็นที่หลบซ่อนของบรรดานกและ สัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้คน แทบไม่กล้าเข้าไปเยือน แม้กระทั่งพรานป่าฝีมือฉมัง ก็ยัง ต้องเข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละสองคนบ้าง สามคนบ้าง บาง ครั้งบางคราพวกเขาอาจต้องฝังร่างไว้ในปากของเหล่า หมาป่า ดังนั้นผู้คนที่กล้าย่างกรายเข้าไปจริง ๆ จึงมีน้อย เสียยิ่งกว่าน้อย บรรดาชาวบ้านที่ตั้งรกรากในแถบเชิงเขา ต่างต้องดิ้นรน หาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่พึ่งพิงผืนดินเนื้อที่ไม่กี่หมู่เพื่อเลี้ยง ดูคนทั้งครอบครัว กล่าวได้ว่าหากผู้ใดไม่ทำไร่ ก็ย่อมไม่มี กิน ถึงกระนั้น พืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนใหญ่ ยังต้องถูกแบ่ง ไปจ่ายภาษีอีกปีไหนจะมีกินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์ เมตตาเป็นสำคัญ อีกไม่ช้า ก็จะถึงเวลาหิมะตกหนักปกคลุมหุบเขาอีกครา แต่ละครอบครัวล้วนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ลามเลียไปทั่วทุกหย่อม หญ้า “ลองคิดดูสิ เมื่อถึงยามหิมะปกคลุมไปทั่วภูเขา เรา จะไม่มีอะไรยาไส้ไปสามถึงสี่เดือนเลยนะเพลานี้ทั้งบ้าน เหลือข้าวอยู่เพียงครึ่งไห แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดต่อไปไหว รี ท่านก็เอาแต่วาดรูปอยู่นั่นแหละ กู้หรูเฟิง…ท่านจะทำตัว เป็นคุณชายตระกูลสูงไปถึงไหน!” ฝ่ายหญิงตวาดแว้ด พลางกวาดกระดาษและแท่นหมึกบนโต๊ะลงพื้นจนน้ำหมึก สาดกระเซ็นไปทั่ว มิหนำซ้ำแท่นหมึกยังแตกกระจายเป็น เสี่ยงๆอีกด้วย บุรุษร่างผอมบาง มีนามว่ากู้หรูเฟิง เขามีใบหน้าซูบ ขาวซีด แถมบนใบหน้าปรากฏรอยแผลเป็นเด่นชัด ซึ่งมี ลักษณะเป็นเส้นสายสีดำตั้งตรง แต่ถึงกระนั้นที่หว่างคิ้วยัง ปรากฏความสง่างาม ให้เห็นอยู่รางๆ เมื่อชายหนุ่มเห็นข้าวของที่ถูกกวาดกระจายลงพื้น ให้รู้สึกปวดใจนัก ใคร่อยากจะเก็บขึ้นมา ทว่าในเสี้ยวเวลา นั้น ความปวดร้าวเสียดแทงพลันวาบขึ้นมาบนขา ประหนึ่ง ถูกเข็มที่มแทงนับพันเล่ม ทำให้ชายหนุ่มอดนิ่วหน้าไม่ได้ แต่ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวดสุดแสน ก็ยังสามารถมองเห็นเค้าหน้า หล่อเหลาคมคายนั้นได้ องคาพยพทั้งห้าก็แสนวิจิตร ซึ่ง เป็นความงดงามที่ไม่ควรปรากฏให้เห็นในหมู่บ้านชายขอบ แห่งนี้เลย ชายหนุ่มหายใจหอบ “ข้าคิดวาต 2 ภาพนี้ แล้วจะ ลองเอาไปเร่ขายดู เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาซื้ออาหารได้ บ้าง” หญิงสาวส่งสายตาดูแคลนไปให้ “ภาพวาดนี่มี ประโยชน์อันใดรี? เอาไปกินเอาไปดื่มก็ไม่ได้ ซ่างโง่เง่าเต่า ตุ่นอะไรเยี่ยงนี้! ทำไมข้าถึงได้แต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่าง ท่านได้นะ? !” กู้หรูเฟิงมีสีหน้าหม่นหมอง คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยาม นี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เขาเอ่ยอย่างอัดอั้น “เช่นนั้นแล้ว ก่อน เจ้าแต่งให้ข้า ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้าทำไร่ไม่เป็น อีกทั้งยัง สุขภาพไม่ดี “ว่าอย่างไรนะ เอาแต่กล่าวหาข้า ตัวท่านเองก็ไม่ได้ ดีไปกว่ากันเลย ยังจะมาตำหนิข้าอีกรี?” ฝ่ายภรรยาทำหน้า นิ่วส่งสายตาเย็นชาไปให้เดิมทีนางได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อน หวานน่ารักมาแต่กำเนิด แต่ถ้าได้โกรธขึ้นมาละก็ ดวงตา จะเหลือกขวาง ใบหน้าดูคล้ายนางมารร้ายข่างข่มขวัญ ผู้คนยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มหน้า ด้วยความเบื่อหน่ายเหลือแสน “หากเจ้าอยากไปจากข้าข้าก็จะให้เจ้าไป” “เพ้ย ท่านนี่..วาจาเน่าเหม็นน่าละอายเช่นนี้ ก็ยัง กล่าวออกมาได้ ข้าแต่งให้ท่านแล้ว ร่วมเรียงเคียงหมอน กับท่านแล้ว ท่านจะให้ข้าแต่งออกไปกับใครได้อีกรี?! ” หญิง สาวแสนคับแค้นใจนางนั่งแปะลงบนพื้น พลางร่าไห้เสียง ดัง “สวรรค์ข่างไม่มีตาจริง ๆ ไยถึงส่งบุรุษไร้ค่าเช่นนี้มา เป็นสามีข้าด้วย? มิหนำซ้ำยังไม่รู้จักรับผิดชอบ แต่งกับข้า แล้ว ก็ยังทำผิดต่อข้า! ปล่อยให้ข้าอดมือกินมื้อ! ซ้ายังจะทิ้ง ข้าไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่เห็นท่านมักชอบส่งสายตาให้เชี ยงเช่าที่ลานหลังบ้าน คิดจะหาคนใหม่ละสิ!” ฝ่ายภรรยาเอาแต่ร่ำไห้และพร่ำรำพันต่าง ๆนาๆ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วยาม ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่ง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ผู้นั้นคือหลิ่วเจิน แน่นอน ยามนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเธอ เพราะว่าเธออยู่ในรูปวิญญาณนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท