เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน – ตอนที่ 33

ตอนที่ 33

33.หาทางลงให้…

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านทำหน้าไม่ถูก ไม่คาดว่าหลิ่วเจินจะสุขุม คัมภีรภาพ ไม่เอะอะมะเทิ่ง หากนางโวยวายอาละวาดเสีย หน่อย ตอนนี้เรื่องน่าจะวุ่นวายไปถึงไหนต่อไหนไหนแล้ว จาก นั้นจะไม่มีใครสนใจหรอกว่าเชียงเช่าถูกกู้หรูเฟิงขึ้นใจจริงหรือ ไม่ จะกลับดำเป็นขาว ก็ไม่ต้องกลัวว่ามีคนเห็น

หากเป็นแบบนั้น แผนนางจะได้ผลและจะไม่มีใครสามารถ บอกว่าเป็นจริงหรือไม่

แต่ไม่นึกว่าหลิ่วเจินกลับฉลาดเจ้าเล่ห์ ทำใจสงบนิ่งได้ อย่างรวดเร็ว ซ้ำยังรู้วิธีหาความจริง ซึ่งเมื่อก่อนนางมักตะโกน กรีดร้อง ไม่สนใจว่าเรื่องนี้มีความจริงหรือไม่

“ไม่มีร่องรอยอันใดเลย” ภรรยาเสี่ยวซานพลิกผ้าปูที่นอน หาดูทุกจุด แต่ไม่พบร่องรอยใด ๆ นางรู้สึกแปลกใจ จึงพูดขึ้น พวกชาวบ้านพอได้ยินภรรยาเสี่ยวชานพูดเช่นนั้น ก็งุนงง

สับสน เลยกรูกันเข้ามาตรวจดูผ้าปูที่นอนกันใหญ่ กลุ่มคนถือโคมไฟยืนล้อมรอบมุงดูผ้าปูที่นอนผืนหนึ่ง เป็น

ภาพที่ดูตลกจริง ๆ

“ไม่พบอะไร ไม่พบอะไรจริง ๆ ” ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

คนอื่น ๆ ที่ได้ยินบางคนตั้งข้อสงสัย แต่ละคนต่างบอกว่า ใช่ไปตาม ๆ กัน ส่วนคนที่ยังโลเลไม่รู้จะเชื่อฝ่ายไหนดี ก็ตัดสิน ใจเลือกข้างได้โดยพลัน
ภรรยาผู้ใหญบานรบรุดเบกระชากผาปูเตยงจากกลุ่มชาว บ้าน “พวกเจ้ามาเบิ่งตามองของส่วนตัวผู้อื่นตามอำเภอไจได้ อย่างไร? ช่างไม่ละอายใจกันบ้างเลย”

หลิ่วเจินเห็นภรรยาผู้ใหญ่บ้านป้ายอะไรบนผ้าปูเตียง ก็ แอบหัวเราะในใจ แหมรีบป้ายผ้าใหญ่เลยนะ หากป้ายไปแล้ว จะทำให้ลบสิ่งที่ทำลงไปแล้วได้ ก็ไม่ว่ากัน

หลิ่วเจินแค่คิดในใจเท่านั้น แต่ก็ยังตามน้ำปล่อยให้ ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเล่นละครต่อไป

“เหตุใดท่านป้าถึงดูวิตกกังวลมากนักเล่า? มีอะไรผิดปก ติ?” หลิ่วเจินมองดูภรรยาผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเพ่งจ้องผ้าปูเตียงใน มือตนเองด้วยสายตาเคร่งเครียด

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านหยุดมือที่กำลังป้ายผ้าลง คล้ายกลัว ความผิด เลยไม่กล้าทำต่อ

กู้หรูเฟิงเห็นภาพเหตุการณ์นี้โดยตลอด จึงสาวเท้าเข้ามา

หมายจะเข้าขัดขวาง

หลิวเจินลากตัวเขากลับไป “จะเดินเข้ามาทำอะไร? ไม่ ต้องมาสร้างปัญหาให้ข้าเลย!” หลิ่วเจิงทอดมองกู้หรูเฟิงอย่าง เฉยชา ที่จริงนางมิได้ตั้งใจจะตำหนิอีกฝ่าย

หญิงสาวรู้สึกว่าการให้กู้หรูเฟิงก้าวเท้าออกไปตอนนี้ มี แต่จะพ่ายแพ้ถูกกินเสียมากกว่า ตอนนี้นางเป็นฝ่ายคุมเกมอยู่ จะปล่อยให้เขาสอดเท้าเข้ามาก่อปัญหาทำซากอันใด?

ฝ่ายกู้หรูเฟิงซึ่งถูกหลิ่วเงินลากตัวกลับมา เชื่อไปแล้วว่าหลิ่วเจินคงรู้สึกว่าเขาเป็นตัวปัญหา และจะทำให้เรื่องยุ่งเข้าไป ใหญ่ ชายหนุ่มนิ่วหน้าน้อย ๆ และจ่าใจต้องกลับมายืน เจี่ยมเจี้ยมอยู่ข้างกายนาง สายตาเขาจ้องอยู่แต่หลิ่วเจินเท่านั้น เดิมทีหลิ่วเจินเกิดมามีนิสัยคล้ายคนที่ดุร้ายสุดขั้วอยู่แล้ว คิ้ว นางจะขมวดไปมา สีหน้าท่าทางจะต่างไปจากสีหน้ายามโกรธข องคนปกติโดยทั่วไป

ยิ่งเขาเฝ้ามองนางเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าหลิ่วเจินกำลังโกรธ

เขาอยู่

แม้เซียงเช่าในใจจะหวาดกลัวและกระทั่งเกิดความละอาย ทว่าดวงตานางไม่เคยละไปจากกู้หรูเฟิงเลย เมื่อเห็นกู้หรูเฟิง เอาแต่จับจ้องหลิ่วเจิน ก็ให้รู้สึกปวดใจนัก เด็กสาวไม่รู้ว่าที่กู้ หรูเฟิงเอาแต่มองหลิ่วเจิน ก็เพราะอยากรู้ว่า นางกำลังโกรธ เขาอยู่หรือไม่

กู้หรูเฟิงกำลังเดาอารมณ์ของหลิ่วเจินอยู่

“ท่านป้า ครานี้ท่านคงเห็นแจ่มแจ้งแล้วว่า ไม่มีรอยอะไร บนผ้าปูที่นอนเลย ท่านบอกว่า เซียงเช่าไม่เคยโกหก เช่นนั้น ย่อมหมายความว่าเซียงเช่าถูกขึ้นใจจริง ๆ ทว่าบนผ้าปูที่นอน นี้ไม่มีร่องรอยอัน ไม่เช่นนั้น หากนางถูกชายครอบครองจริง ๆ คนลงมือย่อมไม่ใช่สามีข้าแน่ ใจจริงของเซียงเช่าคงไม่มี เจตนาใส่ความสามีข้ากระมัง”

หลิ่วเจินพูดด้วยน้ำเสียงดังกังวานฟังดูมีเหตุผล ผู้อื่นก็ไม่รู้ สีกว่ามีความผิดปกติอันใด
ใบหน้าเซียงเช่าแดง ก่ำ ไมรู้ว่าเพราะความหนาวเย็น หรือ เพราะโกรธและอายกันแน่ “เจ้า…เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลอัน ใด! ข้าจะถูกคนอื่นครอบครองได้อย่างไร? เป็นพี่หรูเฟิงนั่น แหละที่เป็นคนทำ ทำไมถึงไม่ยอมรับเล่า!” เด็กสาวผู้น่าสงสาร จับจ้องกู้หรูเฟิงด้วยดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

แคว้นอันเป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นปึกแผ่นมั่นคง และมั่งคั่ง อย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ หาได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับชาว บ้านในแถบหุบเขาต้าชานเลย หุบเขาอันสลับซับซ้อนนี้ เป็นที่หลบซ่อนของบรรดานกและ สัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้คน แทบไม่กล้าเข้าไปเยือน แม้กระทั่งพรานป่าฝีมือฉมัง ก็ยัง ต้องเข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละสองคนบ้าง สามคนบ้าง บาง ครั้งบางคราพวกเขาอาจต้องฝังร่างไว้ในปากของเหล่า หมาป่า ดังนั้นผู้คนที่กล้าย่างกรายเข้าไปจริง ๆ จึงมีน้อย เสียยิ่งกว่าน้อย บรรดาชาวบ้านที่ตั้งรกรากในแถบเชิงเขา ต่างต้องดิ้นรน หาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่พึ่งพิงผืนดินเนื้อที่ไม่กี่หมู่เพื่อเลี้ยง ดูคนทั้งครอบครัว กล่าวได้ว่าหากผู้ใดไม่ทำไร่ ก็ย่อมไม่มี กิน ถึงกระนั้น พืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนใหญ่ ยังต้องถูกแบ่ง ไปจ่ายภาษีอีกปีไหนจะมีกินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์ เมตตาเป็นสำคัญ อีกไม่ช้า ก็จะถึงเวลาหิมะตกหนักปกคลุมหุบเขาอีกครา แต่ละครอบครัวล้วนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ลามเลียไปทั่วทุกหย่อม หญ้า “ลองคิดดูสิ เมื่อถึงยามหิมะปกคลุมไปทั่วภูเขา เรา จะไม่มีอะไรยาไส้ไปสามถึงสี่เดือนเลยนะเพลานี้ทั้งบ้าน เหลือข้าวอยู่เพียงครึ่งไห แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดต่อไปไหว รี ท่านก็เอาแต่วาดรูปอยู่นั่นแหละ กู้หรูเฟิง…ท่านจะทำตัว เป็นคุณชายตระกูลสูงไปถึงไหน!” ฝ่ายหญิงตวาดแว้ด พลางกวาดกระดาษและแท่นหมึกบนโต๊ะลงพื้นจนน้ำหมึก สาดกระเซ็นไปทั่ว มิหนำซ้ำแท่นหมึกยังแตกกระจายเป็น เสี่ยงๆอีกด้วย บุรุษร่างผอมบาง มีนามว่ากู้หรูเฟิง เขามีใบหน้าซูบ ขาวซีด แถมบนใบหน้าปรากฏรอยแผลเป็นเด่นชัด ซึ่งมี ลักษณะเป็นเส้นสายสีดำตั้งตรง แต่ถึงกระนั้นที่หว่างคิ้วยัง ปรากฏความสง่างาม ให้เห็นอยู่รางๆ เมื่อชายหนุ่มเห็นข้าวของที่ถูกกวาดกระจายลงพื้น ให้รู้สึกปวดใจนัก ใคร่อยากจะเก็บขึ้นมา ทว่าในเสี้ยวเวลา นั้น ความปวดร้าวเสียดแทงพลันวาบขึ้นมาบนขา ประหนึ่ง ถูกเข็มที่มแทงนับพันเล่ม ทำให้ชายหนุ่มอดนิ่วหน้าไม่ได้ แต่ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวดสุดแสน ก็ยังสามารถมองเห็นเค้าหน้า หล่อเหลาคมคายนั้นได้ องคาพยพทั้งห้าก็แสนวิจิตร ซึ่ง เป็นความงดงามที่ไม่ควรปรากฏให้เห็นในหมู่บ้านชายขอบ แห่งนี้เลย ชายหนุ่มหายใจหอบ “ข้าคิดวาต 2 ภาพนี้ แล้วจะ ลองเอาไปเร่ขายดู เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาซื้ออาหารได้ บ้าง” หญิงสาวส่งสายตาดูแคลนไปให้ “ภาพวาดนี่มี ประโยชน์อันใดรี? เอาไปกินเอาไปดื่มก็ไม่ได้ ซ่างโง่เง่าเต่า ตุ่นอะไรเยี่ยงนี้! ทำไมข้าถึงได้แต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่าง ท่านได้นะ? !” กู้หรูเฟิงมีสีหน้าหม่นหมอง คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยาม นี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เขาเอ่ยอย่างอัดอั้น “เช่นนั้นแล้ว ก่อน เจ้าแต่งให้ข้า ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้าทำไร่ไม่เป็น อีกทั้งยัง สุขภาพไม่ดี “ว่าอย่างไรนะ เอาแต่กล่าวหาข้า ตัวท่านเองก็ไม่ได้ ดีไปกว่ากันเลย ยังจะมาตำหนิข้าอีกรี?” ฝ่ายภรรยาทำหน้า นิ่วส่งสายตาเย็นชาไปให้เดิมทีนางได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อน หวานน่ารักมาแต่กำเนิด แต่ถ้าได้โกรธขึ้นมาละก็ ดวงตา จะเหลือกขวาง ใบหน้าดูคล้ายนางมารร้ายข่างข่มขวัญ ผู้คนยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มหน้า ด้วยความเบื่อหน่ายเหลือแสน “หากเจ้าอยากไปจากข้าข้าก็จะให้เจ้าไป” “เพ้ย ท่านนี่..วาจาเน่าเหม็นน่าละอายเช่นนี้ ก็ยัง กล่าวออกมาได้ ข้าแต่งให้ท่านแล้ว ร่วมเรียงเคียงหมอน กับท่านแล้ว ท่านจะให้ข้าแต่งออกไปกับใครได้อีกรี?! ” หญิง สาวแสนคับแค้นใจนางนั่งแปะลงบนพื้น พลางร่าไห้เสียง ดัง “สวรรค์ข่างไม่มีตาจริง ๆ ไยถึงส่งบุรุษไร้ค่าเช่นนี้มา เป็นสามีข้าด้วย? มิหนำซ้ำยังไม่รู้จักรับผิดชอบ แต่งกับข้า แล้ว ก็ยังทำผิดต่อข้า! ปล่อยให้ข้าอดมือกินมื้อ! ซ้ายังจะทิ้ง ข้าไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่เห็นท่านมักชอบส่งสายตาให้เชี ยงเช่าที่ลานหลังบ้าน คิดจะหาคนใหม่ละสิ!” ฝ่ายภรรยาเอาแต่ร่ำไห้และพร่ำรำพันต่าง ๆนาๆ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วยาม ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่ง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ผู้นั้นคือหลิ่วเจิน แน่นอน ยามนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเธอ เพราะว่าเธออยู่ในรูปวิญญาณนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน