เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน – ตอนที่ 35

ตอนที่ 35

35.แย่งหลักฐา

หลิ่วเจินพบว่าข้อแก้ต่างของนางน่าสนใจดีจริง ๆ ตั้งแต่เริ่ม เปิดฉากจนถึงตอนนี้ คนผู้นี้ตั้งใจใช้แต่ข้อแก้ต่างนี้อยู่ท่าเดียว นี่กะจะกัดไม่ปล่อยเลยใช่ไหม?

ชาวบ้านซึ่งยืนมุงดูอยู่รอบ ๆ รู้สึกกระดากใจ หากพวก เขาเข้าไปแย่งผ้ามา มันจะดูไม่ดีเอา แต่เพราะพฤติกรรมของ ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเป็นแบบนี้ มันยิ่งทำให้คนสงสัยว่า ที่เชียง เช่ากับมารดานางพูดมามันจริงหรือไม่จริง

“ท่านป้า ในเมื่อพวกผู้ชายดูไม่ได้ แต่พวกเราผู้หญิงคงดู ได้กระมัง!” ผู้หญิงทั้งหมดในที่นี้ล้วนมีสามีกันหมดแล้ว จะมอง ดูของพวกนี้ก็คงไม่แปลก อีกทั้ง ว่ากันตามหลักการแล้ว นี่ ไม่ใช่การทำให้เซียงเช่าขายหน้า แต่นี่คือการพิสูจน์ความ บริสุทธิ์ของเซียงเช่า ” ภรรยาเสี่ยวซานเอ่ยขึ้น

ภรรยาเสี่ยวซานมองใบหน้าหลิ่วเจินที่สุขุมเยือกเย็น ดูไม่ อินังขังขอบ ในใจให้รู้สึกกลัดกลุ่มแทน จะดีจะชั่วก็คือสามีของ ตัวเอง หากเจอสามีตนพูดขึ้นมาว่าได้ครอบครองเชียงเช่าไป แล้ว ก็คงหมดหนทาง จำต้องให้สามีแต่งนางเข้ามาเป็นภรรยา ไม่ว่าใครก็คงไม่เต็มใจให้สามีตัวเองมีสามภรรยา สื่อนุหรอก

กู้หรูเฟิงเอื้อมมือหมายจะจับมือหลิ่วเจินอีกครั้ง แต่หลิ่ว เงินเบี่ยงตัวหลบไปโดยไม่พูดไม่จา หญิงสาวเป็นคนที่ไม่ชอบ ให้ใครมาโดนตัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในสถานการณ์ตอนนี้เลย จะ มาถึงมือทำซากอะไรตอนนี้เล่า?
กู้หรูเฟิงจำใจต้องปล่อยมือลงอย่างกระดาก ชายหนุ่มก้ม หน้าเล็กน้อยไม่กล้ามองหลิ่วเจิน เขารู้สึกได้เลยว่าหลิ่วเจินกำ ลังโกรธเขาจริง ๆ เขาอยากอธิบายให้นางฟังนัก แต่ยังต้องรอ ให้ถึงยามที่อยู่กันเพียงลำพังสองคนก่อน จึงค่อยอธิบายได้ เขาอยากบอกนางว่าเขาซื่อสัตย์ต่อนางเพียงไร ขอเพียงหลิ่ว เงินเชื่อใจ เขาก็พอใจแล้ว ส่วนผู้อื่นจะเชื่อหรือไม่ นั่นไม่เกี่ยว อะไรกับเขา

เชียงเช่ายิ่งชอกช้ำใจเข้าไปใหญ่ เมื่อกี้กู้หรูเฟิงเพิ่งทำท่า ทางแบบนั้นเพื่อเอาใจหลิ่วเจิน ไฉนนางถึงไม่ได้รับสิ่งนั้นบ้าง ความริษยาของเด็กสาวเพิ่มพูน ส่งผลให้ความเกลียดชังทบ เท่าทวี หลิ่วเจินผู้ซึ่งไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ นางไม่ต้องร้องขอ กลับได้สิ่งนั้นมา เท่านั้นยังไม่พอ ยังทำสีหน้าดูแคลนแบบนั้น

ใส่พี่หรูเฟิงอีก

“ทำไม่ได้ ไม่ว่าใครก็ห้ามทำทั้งนั้น!” ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน ไม่รู้จะพูดปฏิเสธยังไง แต่ก็ยังคงกัดฟันปฏิเสธต่อไป

ริมฝีปากหลิ่วเจินหยักโค้งขึ้น นางรอเวลานี้มานานแล้ว “ป้า ท่านไม่เต็มใจให้คนเห็นให้ทุกคนยืนยัน แล้วยังจะเอาแต่ กล่าวหาว่าสามีข้าขีนใจเชียงเช่าอยู่ได้ พูดมาเช่นนี้ แล้วหลัก ฐานอยู่ที่ไหนเล่า? พอพวกเราต้องการหลักฐาน ท่านก็ไม่ให้ดู เกรงว่าเป็นเพราะป้ากำลังหลอกพวกเราอยู่ใช่หรือไม่? ท่าน อยากจะพูดอะไรท่านก็พูด ทำอย่างกับว่าทุกคนหลอกง่าย นักรี?”

ยิ่งฟังหลิ่วเจินพูดมา ก็ยิ่งคิดว่าภรรยาผู้ใหญ่บ้านท่าราวกับพวกเขาโง่เง่าเต่าตุ่น เพราะฉะนั้นความรู้สึกดี ๆของ เหล่าชาวบ้าน ต่อสองแม่ลูกคู่นี้จึงลดลงฮวบฮาบ

“อาหลิ่วพูดถูก ป้าอยากพูดอะไรก็พูดได้ นี่ไม่ใช่เป็นการ ใส่ร้ายป้ายสีกันรี?” ก่อเรื่องทำร้ายผู้อื่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่นนี้ ประเดี๋ยวได้ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์เอาจริง ๆ หรอก”

“ตกลงเถิดป้า พวกเราก็เห็นเช่ามาตั้งแต่เกิด พวก เราเองก็ไม่อยากให้เช่าเสียความบริสุทธิ์ไปง่าย ๆ ท่าน ในฐานะมารดา เอาแต่กอดหลักฐานเอาไว้ ไม่ให้ทุกคนดู พวกเราจะเชื่อคำพูดท่านได้อย่างไร แสดงว่าท่านปรารถนาคุณชายของอาหลิ่วใช่ไหม ก็เลยเรื่องสกปรก จะได้แต่งลูกสาวเข้าบ้านผู้อื่น”

บรรดาผู้คนที่อยู่ที่นี่ตอนนี้ เริ่มปรึกษาหารือกัน ทว่าแค่

ฟังประโยคที่สนทนากัน ก็รู้ว่าผู้คนส่วนใหญ่เทใจอยู่ข้างหลิ่ว เงินแล้ว

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านพลันพูดไม่ออก ยิ่งนางโต้แย้งมาก เท่าไร คนก็จะยิ่งเชื่อนางน้อยลงเรื่อย ๆ อย่างนี้เรียกว่าวิสัย ขโมยย่อมกลัวความผิด

หลิ่วเจินผู้ซึ่งทีแรกยืนอยู่ข้าง ๆ กู้หรูเฟิง ในพริบตาเดียว ก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าภรรยาผู้ใหญ่บ้าน หญิงสาวคว้าผ้าปูเตียง แล้วกระชากอย่างแรง

ภรรยาผู้ใหญ่บ้านรีบคว้าผ้าตรงหน้านางกลับอย่างว่องไวตามสัญชาติญาณ

แล้วคนทั้งสองก็เริ่มยื้อแย่งผ้าปูเตียงกัน ชาวบ้านที่ยืนดู อยู่รอบ ๆ ต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่ แม้ทั้งสองไม่ได้ใช้มือไปตบตี กัน ทว่าก็ยังใช้มืออยู่ดี

“ปล่อยนะ! ปล่อยสิ!” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเอ็ดตะโรลั่น ยิ่งออกแรงดึงผ้าปูเตียงมากขึ้น และ

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

แคว้นอันเป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นปึกแผ่นมั่นคง และมั่งคั่ง อย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ หาได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับชาว บ้านในแถบหุบเขาต้าชานเลย หุบเขาอันสลับซับซ้อนนี้ เป็นที่หลบซ่อนของบรรดานกและ สัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้คน แทบไม่กล้าเข้าไปเยือน แม้กระทั่งพรานป่าฝีมือฉมัง ก็ยัง ต้องเข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละสองคนบ้าง สามคนบ้าง บาง ครั้งบางคราพวกเขาอาจต้องฝังร่างไว้ในปากของเหล่า หมาป่า ดังนั้นผู้คนที่กล้าย่างกรายเข้าไปจริง ๆ จึงมีน้อย เสียยิ่งกว่าน้อย บรรดาชาวบ้านที่ตั้งรกรากในแถบเชิงเขา ต่างต้องดิ้นรน หาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่พึ่งพิงผืนดินเนื้อที่ไม่กี่หมู่เพื่อเลี้ยง ดูคนทั้งครอบครัว กล่าวได้ว่าหากผู้ใดไม่ทำไร่ ก็ย่อมไม่มี กิน ถึงกระนั้น พืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนใหญ่ ยังต้องถูกแบ่ง ไปจ่ายภาษีอีกปีไหนจะมีกินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์ เมตตาเป็นสำคัญ อีกไม่ช้า ก็จะถึงเวลาหิมะตกหนักปกคลุมหุบเขาอีกครา แต่ละครอบครัวล้วนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ลามเลียไปทั่วทุกหย่อม หญ้า “ลองคิดดูสิ เมื่อถึงยามหิมะปกคลุมไปทั่วภูเขา เรา จะไม่มีอะไรยาไส้ไปสามถึงสี่เดือนเลยนะเพลานี้ทั้งบ้าน เหลือข้าวอยู่เพียงครึ่งไห แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดต่อไปไหว รี ท่านก็เอาแต่วาดรูปอยู่นั่นแหละ กู้หรูเฟิง…ท่านจะทำตัว เป็นคุณชายตระกูลสูงไปถึงไหน!” ฝ่ายหญิงตวาดแว้ด พลางกวาดกระดาษและแท่นหมึกบนโต๊ะลงพื้นจนน้ำหมึก สาดกระเซ็นไปทั่ว มิหนำซ้ำแท่นหมึกยังแตกกระจายเป็น เสี่ยงๆอีกด้วย บุรุษร่างผอมบาง มีนามว่ากู้หรูเฟิง เขามีใบหน้าซูบ ขาวซีด แถมบนใบหน้าปรากฏรอยแผลเป็นเด่นชัด ซึ่งมี ลักษณะเป็นเส้นสายสีดำตั้งตรง แต่ถึงกระนั้นที่หว่างคิ้วยัง ปรากฏความสง่างาม ให้เห็นอยู่รางๆ เมื่อชายหนุ่มเห็นข้าวของที่ถูกกวาดกระจายลงพื้น ให้รู้สึกปวดใจนัก ใคร่อยากจะเก็บขึ้นมา ทว่าในเสี้ยวเวลา นั้น ความปวดร้าวเสียดแทงพลันวาบขึ้นมาบนขา ประหนึ่ง ถูกเข็มที่มแทงนับพันเล่ม ทำให้ชายหนุ่มอดนิ่วหน้าไม่ได้ แต่ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวดสุดแสน ก็ยังสามารถมองเห็นเค้าหน้า หล่อเหลาคมคายนั้นได้ องคาพยพทั้งห้าก็แสนวิจิตร ซึ่ง เป็นความงดงามที่ไม่ควรปรากฏให้เห็นในหมู่บ้านชายขอบ แห่งนี้เลย ชายหนุ่มหายใจหอบ “ข้าคิดวาต 2 ภาพนี้ แล้วจะ ลองเอาไปเร่ขายดู เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาซื้ออาหารได้ บ้าง” หญิงสาวส่งสายตาดูแคลนไปให้ “ภาพวาดนี่มี ประโยชน์อันใดรี? เอาไปกินเอาไปดื่มก็ไม่ได้ ซ่างโง่เง่าเต่า ตุ่นอะไรเยี่ยงนี้! ทำไมข้าถึงได้แต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่าง ท่านได้นะ? !” กู้หรูเฟิงมีสีหน้าหม่นหมอง คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยาม นี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เขาเอ่ยอย่างอัดอั้น “เช่นนั้นแล้ว ก่อน เจ้าแต่งให้ข้า ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้าทำไร่ไม่เป็น อีกทั้งยัง สุขภาพไม่ดี “ว่าอย่างไรนะ เอาแต่กล่าวหาข้า ตัวท่านเองก็ไม่ได้ ดีไปกว่ากันเลย ยังจะมาตำหนิข้าอีกรี?” ฝ่ายภรรยาทำหน้า นิ่วส่งสายตาเย็นชาไปให้เดิมทีนางได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อน หวานน่ารักมาแต่กำเนิด แต่ถ้าได้โกรธขึ้นมาละก็ ดวงตา จะเหลือกขวาง ใบหน้าดูคล้ายนางมารร้ายข่างข่มขวัญ ผู้คนยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มหน้า ด้วยความเบื่อหน่ายเหลือแสน “หากเจ้าอยากไปจากข้าข้าก็จะให้เจ้าไป” “เพ้ย ท่านนี่..วาจาเน่าเหม็นน่าละอายเช่นนี้ ก็ยัง กล่าวออกมาได้ ข้าแต่งให้ท่านแล้ว ร่วมเรียงเคียงหมอน กับท่านแล้ว ท่านจะให้ข้าแต่งออกไปกับใครได้อีกรี?! ” หญิง สาวแสนคับแค้นใจนางนั่งแปะลงบนพื้น พลางร่าไห้เสียง ดัง “สวรรค์ข่างไม่มีตาจริง ๆ ไยถึงส่งบุรุษไร้ค่าเช่นนี้มา เป็นสามีข้าด้วย? มิหนำซ้ำยังไม่รู้จักรับผิดชอบ แต่งกับข้า แล้ว ก็ยังทำผิดต่อข้า! ปล่อยให้ข้าอดมือกินมื้อ! ซ้ายังจะทิ้ง ข้าไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่เห็นท่านมักชอบส่งสายตาให้เชี ยงเช่าที่ลานหลังบ้าน คิดจะหาคนใหม่ละสิ!” ฝ่ายภรรยาเอาแต่ร่ำไห้และพร่ำรำพันต่าง ๆนาๆ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วยาม ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่ง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ผู้นั้นคือหลิ่วเจิน แน่นอน ยามนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเธอ เพราะว่าเธออยู่ในรูปวิญญาณนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท