เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน – ตอนที่ 38

ตอนที่ 38

38.ความเที่ยง…

กู้หรูเฟิงได้ยินคำพูดและได้เห็นบทบาทการแสดงของเซียงเช่า ทำให้เขาไม่พอใจมาก ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงคำกล่าวที่ว่า “ความลึกในพระราชวังประหนึ่งความลึกของท้องทะเล” แม้แต่ ในหมู่บ้านกันดารเช่นนี้ ผู้คนก็ยังซับซ้อนซ่อนเงื่อนเหมือนกัน หรือ ไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ใน วังและในเมืองหลวงเลย?

หลิวเจินไม่สนใจจะเหลือบแลมองเชียงเล่าเลยสักนิด การ แสดงบทบาทของนางช่างน่ารังเกียจแท้

“ผู้ใหญ่บ้าน ในเมื่อยามนี้มีชาวบ้านหลายคนเป็นสักขี พยานอยู่ที่นี่ ผู้ใหญ่บ้านไม่ควรเห็นแก่เรื่องส่วนตัวใช่หรือไม่? พวกเราหวังว่าท่านคงสามารถให้ความเป็นธรรมและให้บท ลงโทษแก่ผู้กระทำผิด ท่านย่อมรู้ว่าการกล่าวหากันลอย ๆ สามารถทำลายชีวิตคน ๆ หนึ่งได้ จู่ๆ ก็มากล่าวหาว่าคุณชายกู้ ขึ้นใจเซียงเช่า ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานรองรับ หากทุกคนเกิดเชื่อ ขึ้นมา เกรงว่าต่อให้สามีข้ากระโดดลงไปในแม่น้ำเหลือง ก็ไม่ สามารถล้างมลทินได้” หลิ่วเจินพูดไป ก็สังเกตุสีหน้าผู้ใหญ่ บ้านไปด้วย

เพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาด หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายชิงลงมือ ก่อน เหนืออื่นใด เรื่องต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ย่อมเป็นหน้าที่ของ ผู้ใหญ่บ้านจัดการอยู่แล้ว

“อาหลิ่ว ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นป้าของเจ้า และนางก็ดีต่อเจ้ามาตั้งแต่เจ้ายังเด็ก เราปล่อยเรื่องนี้ไปได้ไหม เห็นแก่ที่รู้จักกัน มานาน?” ผู้ใหญ่บ้านไม่ต้องการให้เรื่องลุกลามไปมากกว่านี้

หลิ่วเจินเองไม่มีปัญหา แต่มีบางคนไม่เห็นด้วย

“จะได้อย่างไร! เห็นชัด ๆ ว่าสามีเจ้าลูกสาวข้า แต่ กลับปฏิเสธไม่ยอมรับ แล้วจะทำอย่างไรดีกับลูกสาวที่เดียง สาของข้า? สามีข้า ท่านไม่รู้สึกเสียใจกับเซียงเช่าของเรารี?” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านมองหน้าผู้ใหญ่บ้าน ทันใดนั้นก็ถลาเข้าไป หาพร้อมกับคว้าชายแขนเสื้อผู้ใหญ่บ้านไว้ด้วยกลัวว่าสามีตน จะหันหน้าเดินหนีไป

เจินเบนสายตามาที่กู้หรูเฟิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆพลางส่งสัญญาณให้กู้หรูเฟิงพูดอะไรสักสองสามประโยค ให้นางได้หยุดพัก ขบคิดหาพูดซึ่งสามารถโค่นศัตรูได้ใน คราวเดียว!

กู้หรูเฟิงพบว่าบนใบหน้าหลิ่วเจินไม่มีร่องรอยของความ ไม่พอใจอีก และคิดว่าอีกฝ่ายคงหายโกรธตนแล้ว แต่ความ จริงก็คือหลิ่วเจินไม่เคยมีความโกรธเคืองใด ๆเลยมาตั้งแต่ต้น

“ผู้ใหญ่บ้าน ข้าซาบซึ้งใจมากที่ผู้ใหญ่บ้านเมตตาให้ที่พัก พิงแก่ข้า และรู้ว่าชาวบ้านทุกคนต่างรังเกียจที่ข้าเอาแต่เกาะผู้ หญิงกิน ทว่าถึงจะชิงชังข้าแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีสกปรก เพื่อบังคับให้ข้าออกไป หากมีเรื่องเกิดขึ้นจริง ซ้าย่อมยอมรับ แน่ แต่ความจริงแล้ว มันไม่สิ่งใดเกิดขึ้นเลย แล้วไยถึงเอาแต่ กล่าวหากันไม่เลิก และต่อให้เชียงใช้วิธีสกปรกจริง ๆ ก็ไม่ยอมรับอยู่ดี ข้าชอบอาเจิน นางคือภรรยาเพียงคนเดียวใน ชีวิตข้า!” กู้หรูเฟิงเน้นย้ำทุกคำพูดอย่างชัดเจน เพื่อแสดง เจตนารมณ์และความตั้งใจมั่นของเขา

“ท่านไม่มีความเข้มแข็งจะเล่าอธิบายในเรื่องที่สามีข้าทำ แล้วไยตอนนี้ยังจะมาแก้ตัวอีก? เมื่อไรจะเลิกเล่นเล่ห์กับพวก เราเสียที? หลิ่วเจินหันมามองหน้าผู้ใหญ่บ้าน “ผู้ใหญ่บ้าน อย่างนี้ก็คือท่านจะเป็นผู้สร้างความกระจ่างให้ข้าและสามีข้า ใช่หรือไม่?”

ผู้ใหญ่บ้านกระชากเชียงเช่าสุดแรงเกิดจนนางล้มลง ภรรยาผู้ใหญ่บ้านไม่กล้าเข้าไปใกล้ แต่พอเห็นเชียงเช่าโดน ผู้ใหญ่บ้านผลักจนล้มกลิ้งบนพื้น นางพลันถลาเข้ามาช่วย ประคองลูกสาวอย่างเจ็บปวดใจ

“สามีข้า นางเป็นลูกสาวท่านนะ ท่านทำร้ายนางเพื่อ คนนอกได้อย่างไร?” ขณะพูดไปก็มองเชียงเช่าที่คุกเข่าบนพื้น อย่างกังวล จากนั้นก็เอาชายแขนเสื้อเช็ดน้ำตาให้เชียงเช่า “เชี ยงเช่า เป็นอย่างไรบ้าง? เจ็บไหมลูก?”

เซียงเช่าซึ่งถูกผลักถูกกระชากครั้งแล้วครั้งเล่า สะอื้นฮัก ๆ มีรอยเปื้อนเป็นคราบเล็ก ๆ ปรากฏบนใบหน้า ยามนี้เด็กสาว

ไม่สนใจจะเช็ดออกเลย

“ข้าต้องการตรวจร่างกาย! ข้าจะขอตรวจร่างกาย!” เชียง เช่าเอามือทุบไปบนพื้น ยามนี้นางพ่ายแพ้ไม่มีทางพลิกฟื้น สถานการณ์ใต้อีก แต่อย่างน้อยนางยังพิสูจน์ว่าตนเองบริสุทธิ์อยู่ อนาคตนางจะได้ไม่ทุกทรมานมาก รวมทั้งไม่สูญเสียชื่อ เสียง โดนผู้คนเชื่อผิด ๆว่านางไม่เหลือความบริสุทธิ์แล้ว

ริมฝีปากของหลิ่วเจินขยับยกขึ้น “ตกลง ตรวจร่างกาย นาง ในหมู่บ้านเรามีสตรีที่แต่งงานแล้วคนใดที่ซื่อสัตย์มี คุณธรรมที่สุดบ้าง?” หลิ่วเจินเอ่ยกับผู้ใหญ่บ้าน

ผู้ใหญ่บ้านซะงักไป เขาทอดมองเชียงช่าด้วยสีหน้าชิงชัง ในฐานที่ไม่ได้ตั่งใจ ในที่สุดก็หันไปหาหลิ่วเจินแล้วเอ่ยขึ้นช้า

ๆ “ลูกสาวคนเล็กของสกุลดงและแม่เฒ่าหนานล้วนเป็นคน ชื่อสัตย์มีคุณธรรม”v

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

แคว้นอันเป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นปึกแผ่นมั่นคง และมั่งคั่ง อย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ หาได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับชาว บ้านในแถบหุบเขาต้าชานเลย หุบเขาอันสลับซับซ้อนนี้ เป็นที่หลบซ่อนของบรรดานกและ สัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้คน แทบไม่กล้าเข้าไปเยือน แม้กระทั่งพรานป่าฝีมือฉมัง ก็ยัง ต้องเข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละสองคนบ้าง สามคนบ้าง บาง ครั้งบางคราพวกเขาอาจต้องฝังร่างไว้ในปากของเหล่า หมาป่า ดังนั้นผู้คนที่กล้าย่างกรายเข้าไปจริง ๆ จึงมีน้อย เสียยิ่งกว่าน้อย บรรดาชาวบ้านที่ตั้งรกรากในแถบเชิงเขา ต่างต้องดิ้นรน หาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่พึ่งพิงผืนดินเนื้อที่ไม่กี่หมู่เพื่อเลี้ยง ดูคนทั้งครอบครัว กล่าวได้ว่าหากผู้ใดไม่ทำไร่ ก็ย่อมไม่มี กิน ถึงกระนั้น พืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนใหญ่ ยังต้องถูกแบ่ง ไปจ่ายภาษีอีกปีไหนจะมีกินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์ เมตตาเป็นสำคัญ อีกไม่ช้า ก็จะถึงเวลาหิมะตกหนักปกคลุมหุบเขาอีกครา แต่ละครอบครัวล้วนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ลามเลียไปทั่วทุกหย่อม หญ้า “ลองคิดดูสิ เมื่อถึงยามหิมะปกคลุมไปทั่วภูเขา เรา จะไม่มีอะไรยาไส้ไปสามถึงสี่เดือนเลยนะเพลานี้ทั้งบ้าน เหลือข้าวอยู่เพียงครึ่งไห แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดต่อไปไหว รี ท่านก็เอาแต่วาดรูปอยู่นั่นแหละ กู้หรูเฟิง…ท่านจะทำตัว เป็นคุณชายตระกูลสูงไปถึงไหน!” ฝ่ายหญิงตวาดแว้ด พลางกวาดกระดาษและแท่นหมึกบนโต๊ะลงพื้นจนน้ำหมึก สาดกระเซ็นไปทั่ว มิหนำซ้ำแท่นหมึกยังแตกกระจายเป็น เสี่ยงๆอีกด้วย บุรุษร่างผอมบาง มีนามว่ากู้หรูเฟิง เขามีใบหน้าซูบ ขาวซีด แถมบนใบหน้าปรากฏรอยแผลเป็นเด่นชัด ซึ่งมี ลักษณะเป็นเส้นสายสีดำตั้งตรง แต่ถึงกระนั้นที่หว่างคิ้วยัง ปรากฏความสง่างาม ให้เห็นอยู่รางๆ เมื่อชายหนุ่มเห็นข้าวของที่ถูกกวาดกระจายลงพื้น ให้รู้สึกปวดใจนัก ใคร่อยากจะเก็บขึ้นมา ทว่าในเสี้ยวเวลา นั้น ความปวดร้าวเสียดแทงพลันวาบขึ้นมาบนขา ประหนึ่ง ถูกเข็มที่มแทงนับพันเล่ม ทำให้ชายหนุ่มอดนิ่วหน้าไม่ได้ แต่ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวดสุดแสน ก็ยังสามารถมองเห็นเค้าหน้า หล่อเหลาคมคายนั้นได้ องคาพยพทั้งห้าก็แสนวิจิตร ซึ่ง เป็นความงดงามที่ไม่ควรปรากฏให้เห็นในหมู่บ้านชายขอบ แห่งนี้เลย ชายหนุ่มหายใจหอบ “ข้าคิดวาต 2 ภาพนี้ แล้วจะ ลองเอาไปเร่ขายดู เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาซื้ออาหารได้ บ้าง” หญิงสาวส่งสายตาดูแคลนไปให้ “ภาพวาดนี่มี ประโยชน์อันใดรี? เอาไปกินเอาไปดื่มก็ไม่ได้ ซ่างโง่เง่าเต่า ตุ่นอะไรเยี่ยงนี้! ทำไมข้าถึงได้แต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่าง ท่านได้นะ? !” กู้หรูเฟิงมีสีหน้าหม่นหมอง คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยาม นี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เขาเอ่ยอย่างอัดอั้น “เช่นนั้นแล้ว ก่อน เจ้าแต่งให้ข้า ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้าทำไร่ไม่เป็น อีกทั้งยัง สุขภาพไม่ดี “ว่าอย่างไรนะ เอาแต่กล่าวหาข้า ตัวท่านเองก็ไม่ได้ ดีไปกว่ากันเลย ยังจะมาตำหนิข้าอีกรี?” ฝ่ายภรรยาทำหน้า นิ่วส่งสายตาเย็นชาไปให้เดิมทีนางได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อน หวานน่ารักมาแต่กำเนิด แต่ถ้าได้โกรธขึ้นมาละก็ ดวงตา จะเหลือกขวาง ใบหน้าดูคล้ายนางมารร้ายข่างข่มขวัญ ผู้คนยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มหน้า ด้วยความเบื่อหน่ายเหลือแสน “หากเจ้าอยากไปจากข้าข้าก็จะให้เจ้าไป” “เพ้ย ท่านนี่..วาจาเน่าเหม็นน่าละอายเช่นนี้ ก็ยัง กล่าวออกมาได้ ข้าแต่งให้ท่านแล้ว ร่วมเรียงเคียงหมอน กับท่านแล้ว ท่านจะให้ข้าแต่งออกไปกับใครได้อีกรี?! ” หญิง สาวแสนคับแค้นใจนางนั่งแปะลงบนพื้น พลางร่าไห้เสียง ดัง “สวรรค์ข่างไม่มีตาจริง ๆ ไยถึงส่งบุรุษไร้ค่าเช่นนี้มา เป็นสามีข้าด้วย? มิหนำซ้ำยังไม่รู้จักรับผิดชอบ แต่งกับข้า แล้ว ก็ยังทำผิดต่อข้า! ปล่อยให้ข้าอดมือกินมื้อ! ซ้ายังจะทิ้ง ข้าไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่เห็นท่านมักชอบส่งสายตาให้เชี ยงเช่าที่ลานหลังบ้าน คิดจะหาคนใหม่ละสิ!” ฝ่ายภรรยาเอาแต่ร่ำไห้และพร่ำรำพันต่าง ๆนาๆ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วยาม ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่ง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ผู้นั้นคือหลิ่วเจิน แน่นอน ยามนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเธอ เพราะว่าเธออยู่ในรูปวิญญาณนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท