ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1430
ตอนนี้อาเวล ไนส์เวลล์ถูกฮาร์วีย์ชักจูงไปเรียบร้อย
เขารีบนำวัตถุโบราณที่ฮาร์วีย์เลือกไว้มาทันที อาเวลโน้มตัวไปข้างหน้า เอ่ยถามว่า “พี่ยอร์ก พี่วางแผนจะทำอะไรกันแน่ครับ?”
ฮาร์วีย์มองแจกันกระเบื้องในมือ เขาชี้ไปที่ฉลากของแจกันด้วยท่าทีไม่ยินดียินร้ายพร้อมพูดว่า “แจกันกระเบื้องของราชวงศ์ฉิง มูลค่าเจ็ดสิบหกดอลลาร์ ก็เป็นของที่ดี แต่ว่า…”
เพล้ง!
มีเสียงของตกแตก
เพราะฮาร์วีย์ปาแจกันกระเบื้องนั้นลงพื้นทันที
พอทุกคนเห็นภาพนั้นเข้าต่างก็ชะงักนิด ๆ ไปตาม ๆ กัน นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่?
ฮาร์วีย์สุ่มหยิบชิ้นส่วนฐานกลมของแจกันที่แตกขึ้นมาแล้วเอ่ยเบา ๆ ว่า “ตัวแจกันกระเบื้องเองไม่ได้มีค่าอะไร สิ่งที่มีค่าคือสิ่งที่อยู่ข้างในต่างหาก”
ระหว่างที่พูด ฮาร์วีย์ก็พังชิ้นส่วนฐานกลม ๆ นั้นเป็นสองซีก
ทันใดนั้นเอง ก็มีช่องว่างปรากฏขึ้นใต้ฐานกลมของแจกัน ในนั้นมีอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนหยกซ่อนไว้อยู่ แต่มันก็ไม่ใช่หยกเสียทีเดียว
“ที่ปรึกษายอร์ก นั่นมัน…”
ทุกคนต่างก็สงสัย
ทุกคนพอจะมองออกว่านี่เป็นของดี แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ฮาร์วีย์พูดขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์ “สิ่งนี้คือหยกพอร์ซเลนในตำนาน ในสมัยก่อน จักรพรรดิเชื่อกันว่าสิ่งนี้สามารถนำไปใช้สกัดเป็นน้ำอมฤตได้”
พอได้ยินคำว่า “หยกพอร์ซเลน” ดาร์เรน ฟลินน์ ก็ส่งเสียงหัวเราะถากถาง “ยอร์ก เลิกแกล้งทำว่าตัวเองเป็นคนเก่งนักเถอะ ผมรู้ว่าหยกพอร์ซเลนเป็นหยกที่มีการเคลือบเงาแบบโปร่งแสง และในนั้นก็จะมีลวดลายที่เหมือนเส้นเลือดฝังอยู่ แต่ไอ้หยกของนายมันดูหม่นขนาดนี้ นายยังกล้าเคลมว่าเป็นหยกพอร์ซเลนอีก นี่จะโชว์โง่ใช่ไหม?”
ฮาร์วีย์เหลือบมองดาร์เรนด้วยแววตาประหลาดใจ เขาพูดขึ้นว่า “ผมไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าคนอ่อนหัดอย่างคุณจะรู้จักหยกพอร์ซเลนจริง ๆ ด้วย สิ่งที่คุณพูดมานั้นถูกต้องแล้ว ส่วนที่ทำไมหยกพอร์ซเลนอันนี้ถึงดูหม่นนักก็เป็นเพราะว่า…”
“คนที่ซ่อนหยกนี้ไว้ในแจกันนำดินเหนียวพอร์ซเลนมาฉาบทิ้งไว้น่ะสิ ไม่อย่างนั้นแล้ว พื้นผิวของหยกอาจจะมีรอยแตกได้!”
พอพูดจบ ฮาร์วีย์ใช้มือขวากดที่หยกนั้นอย่างหนัก ทันใดนั้นเอง บนหินพอร์ซเลนก็เริ่มมีรอยแตก หลังจากนั้นไม่นานก็ปรากฏเป็นหยกโปร่งแสงที่มีลวดลายเหมือนเส้นเลือดอยู่จริง ๆ
“อะไรกัน?! นี่คือหยกพอร์ซเลนในตำนานจริง ๆ เหรอเนี่ย?!”
“ราคาของนี้มันราวล้านดอลลาร์ได้เลยใช่ไหม?”
“ใช้เงินแค่เจ็ดสิบหกดอลลาร์ซื้อของแบบนี้มาได้ คุณนี่ช่างมีดวงตาที่มองวัตถุโบราณได้อย่างเฉียบแหลมจริง ๆ ที่ปรึกษายอร์ก!”
กลุ่มนักสะสมวัตถุโบราณเริ่มชื่นชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ใบหน้าของทั้งเฟย์ ก็อดดาร์ดและดาร์เรนต่างซีดเป็นกระดาษ พวกเขาแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
หลังจากนั้น ฮาร์วีย์ก็อธิบายวัตถุโบราณแต่ละชิ้นที่เขาซื้อมา วัตถุโบราณบางชิ้นก็มีค่าด้วยตัวของมันเอง บางชิ้นก็มีสมบัติซ่อนอยู่ในนั้น
สรุปสั้น ๆ ก็คือ ระหว่างที่ฮาร์วีย์เปิดโปงความลับ ก็ทำให้ราคาของวัตถุโบราณเหล่านั้นใกล้เคียงกับมูลค่าพันล้านดอลลาร์เข้าไปทุกที ๆ ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญ
“อ๊อก แค่ก ๆ …”
ดาร์เรนรู้สึกว่าคอเขาปวดเหลือเกิน สุดท้ายก็อดกระอักเลือดออกมาไม่ได้
เฟย์แทบจะกัดฟันจนฟันหัก เธอกัดฟันพูดว่า “ยอร์ก ต่อให้คุณเป็นคนมองวัตถุโบราณได้ทะลุปรุโปร่งแถมยังเจอสมบัติพวกนี้ แต่แล้วไงล่ะ? มันก็แสดงให้เห็นไม่ใช่เหรอ ว่าร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์มีของคุณภาพดี!”
พอได้ยินดังนั้น ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็เตรียมพร้อมจะขอซื้อสมบัติในร้านแล้วด้วย
แต่ฮาร์วีย์กลับหรี่ตาแล้วเอ่ยออกมาด้วยเสียงไม่ยินดียินร้าย “สุภาพบุรุษทุกท่านครับ ได้โปรดอย่าว่ากันเลยที่ผมไม่ได้เตือนคุณไว้ก่อน แต่ว่า…”
“ในร้านนี้มีวัตถุโบราณเป็นพันชิ้นนะครับ”
“แต่มีแค่ของที่ผมเลือกเท่านั้น ที่เป็นของจริง มีมูลค่าดี”
“ของที่เหลือ ถ้าไม่ใช่ของปลอม ก็มูลค่าไม่คุ้มกับราคา…”
“ต่อจากนี้ผมคงไม่ต้องบอกแล้วว่าพวกคุณควรทำยังไง จริงไหมครับ?”
พอพูดมาถึงตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณหลายคนก็เบนสายตาออก บางคนที่ตอนแรกกำลังเตรียมจะซื้อก็เปลี่ยนใจในทันที
นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลย ที่ปรึกษายอร์กบอกว่าของที่เหลือเป็นของปลอม ใครจะอยากเอาเงินไปซื้อของปลอมกันล่ะ?
“แค่ก ๆ …”
ครั้งนี้เป็นตาของเฟย์บ้างแล้ว เธอกลั้นเลือดที่กระอักออกมาไม่ไหวจริง ๆ
กลเม็ดของฮาร์วีย์สามารถชักจูงผู้คนได้จริง นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!
ตอนนั้นเองที่ฮาร์วีย์ก้าวออกมาข้างหน้า เขามองดูเฟย์ด้วยสายตาไม่ยินดียินร้าย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “ว่าไงครับ? ทีนี้คุณเชื่อหรือยังล่ะ?”