ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 264 ภารกิจระดับเก้าดาว…แปลงโฉม!

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 264 ภารกิจระดับเก้าดาว...แปลงโฉม!

ตอนที่ 264 ภารกิจระดับเก้าดาว…แปลงโฉม!

“เพราะอะไร”

สำหรับการปฏิบัติที่ต่างกันอย่างชัดเจนของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตก น้องดาบแสดงการประท้วงอย่างชอบธรรมแล้ว

“นี่เป็นคำถามเดียวกันกับที่เขาเพิ่งเอ่ยถาม หลังจากพวกเจ้ารับภารกิจแล้ว ก็ย่อมรู้เอง” หวังเฟยชะงักไปครู่เดียว แล้วกล่าวเสริมว่า “ภารกิจนี้เขารับได้คนเดียวเท่านั้น หรือถ้าพวกเจ้าสองคนรับด้วยกันก็ได้เหมือนกัน แต่ข้าแจกภารกิจนี้ให้เจ้าคนเดียวไม่ได้ เพราะคนที่ทำตามเงื่อนไขในการปลดล็อกภารกิจได้จริงๆ ก็คือเขา ไม่ใช่เจ้า”

“เจ้ามีสิทธิ์รับภารกิจนี้ ก็เป็นเพราะเจ้าบังเอิญเป็นสหายร่วมทีมของเขาพอดี เหตุผลก็เท่านี้เอง”

พอฟังถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตาเป็นประกายทันที แล้วถามว่า “ท่านกำลังบอกว่า หากพวกเราสองคนรับภารกิจและทำภารกิจสำเร็จ แต่ละคนก็จะเลือกหนึ่งในสี่สุดยอดวิชาใช่หรือไม่”

หวังเฟยพยักหน้า แล้วกล่าวเสริม “เลือกซ้ำกันไม่ได้”

“ดังนั้น ตอนที่รับภารกิจ ทีมนี้จึงจำกัดได้สี่คน?” นี่ต่างหากคือสาเหตุแท้จริงที่เยี่ยเว่ยหมิงถามถึงเรื่องนี้!

ตอนที่มีผลประโยชน์ก็ต้องไม่ลืมนึกถึงเพื่อน

โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เรียกเพื่อนมาช่วยได้โดยที่ผลประโยชน์ของตัวเองไม่ลดลง ก็ยิ่งต้องเรียกมาช่วยกัน

แต่ถ้าเลือกได้เพียงสี่รายชื่อ…

เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มพิจารณาว่าอีกสองรายชื่อที่เหลือควรเรียกใครดี

ในเกมนี้ สหายที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาที่สุดก็คือสะพานสวรรค์น้อย ซานเย่ว์ โหยวโหยวและอินปู้คุย ส่วนคนอื่นๆ เช่น เฟยอวี๋ ถังซานไฉ่ หนิวจื้อชุนและฉางซิงอวี่…แม้ความสัมพันธ์จะไม่เลว แต่เมื่อเทียบกับสี่คนแรก ก็ถือว่ายังแย่กว่านิดหน่อย

ปัญหาตอนนี้ก็คือ ภารกิจนี้ใส่ได้แค่สี่รายชื่อเท่านั้น ต่อให้ตอนนี้เตะน้องดาบออกจากทีม ก็ยังขาดตำแหน่งว่างไปอีกหนึ่งที่อยู่ดี

ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหลังมือ[1]ก็เป็นเนื้อเหมือนกัน ชั่วขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงเองก็ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรนั้นเอง

น้องดาบที่ไม่รู้ว่าตัวเองใกล้โดนเตะออกจากทีม ตอนนี้ยังพูดเร่งเยี่ยเว่ยหมิงอย่างไร้เดียงสา “นี่! ข้าว่านะเจ้ามือปราบหน้าเหม็น ภารกิจดีๆ ขนาดนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้ารีบรับไว้เร็วๆ หน่อยเถอะ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้ายังมัวลังเลอะไรอีก”

ตอนนี้เอง ประโยคเดียวของหวังเฟยกลับช่วยชีวิตน้องดาบกลับมาจากการถูกเตะออกจากกลุ่ม

“ที่จริงในทีมของเจ้าจะมีกี่คนก็ไม่สำคัญ แม้ตำราลับสุดยอดวิชาจะมีเพียงสี่เล่ม แต่ถึงตอนนั้นก็อิงตามลำดับผลงานได้ อยู่ลำดับหลังๆ แม้จะไม่ได้สุดยอดวิชา แต่ข้าก็ให้รางวัลบางส่วนได้เช่นกัน ทั้งยังเป็นรางวัลที่ไม่ทำให้ผิดหวังด้วย เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร”

“เพียงแต่เจ้ามีเวลาพิจารณาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น ถ้าผ่านเวลาที่กำหนด แม้แต่เจ้าเองก็จะเสียโอกาสในการรับภารกิจนี้ตลอดไป”

ได้!

มีเวลาแค่สิบห้านาที ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่มีทางหาสถานที่ที่ ‘ข้างหน้าไม่ติดหมู่บ้าน ข้างหลังไม่ติดร้านค้า’ เจอภายในเวลาสั้นๆ นี้แน่

ด้วยความจนใจ เยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงทิ้งความคิดที่จะสร้างผลตอบแทนสูงสุด “เช่นนั้นหวังเฟยก็ได้โปรดบอกภารกิจของท่านมาเถิด คุยกันให้เรียบร้อยก่อน ข้าคือเจ้าหน้าที่ทางการของภาคกลาง เรื่องที่ต้องสมคบกับศัตรูขายชาติ ข้าไม่ทำแน่นอน”

“ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น” หวังเฟยกลอกตามองเยี่ยเว่ยหมิง แล้วกล่าวอย่างเนิบนาบ “ข้ามีสหายที่ดีอยู่คนหนึ่ง แต่ถูกสตรีชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ ต่ำช้าไร้ยางอาย จิตใจบิดเบี้ยว หน้าตาสุดแสนอัปลักษณ์ทำลายใบหน้า..บลาๆๆๆ…”

[ติ๊ง! คุณได้รับภารกิจลับ ‘ฟื้นฟูใบหน้าเดิม’]

ฟื้นฟูใบหน้า

สหายคนหนึ่งของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกถูกทำลายใบหน้า กรุณาคิดหาทางฟื้นฟูใบหน้างดงามแห่งยุคกลับมา

ระดับภารกิจ: 9 ดาว

ระยะเวลาภารกิจ: ก่อนที่หวังเฟยและสหายของนางจะตาย

รางวัลภารกิจ: ‘พลังไร้ลักษณ์น้อย’ ‘พลังฝ่ามือรุ้งขาว’ ‘กรงเล็บภูตอเวจี’ ‘ท่าเท้าท่องคลื่น’ เลือกหนึ่งในสี่สุดยอดวิชาบู๊ลิ้ม!

……

สหายผู้นั้นของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกคือเป้าหมายภารกิจที่ต้องช่วยรักษา และหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกเองก็เป็น NPC คนสำคัญที่รับหน้าที่แจกรางวัลภารกิจ หากพวกนางตายแล้ว ก็ย่อมถูกตัดสินว่าภารกิจล้มเหลว

ภารกิจที่หวังเฟยท่านนี้แจกให้ ไม่เพียงแค่ไม่ขัดกับจุดยืนของเยี่ยเว่ยหมิง อีกทั้งหลังจากแจกภารกิจแล้ว ยังมีการชี้แนะภารกิจอย่างใส่ใจด้วย

มองออกเลยว่า นางหวังจากใจจริงว่าทั้งสองจะทำภารกิจระดับเก้าดาวที่นางมอบหมายสำเร็จ

“เพื่อช่วยฟื้นฟูโฉมหน้าเดิมให้สหายรักของข้า ข้าเคยไปหาหมอชื่อดังทั่วทั้งใต้หล้า แต่พวกหมอเทวดามักถนัดแต่ช่วยชีวิตคน แต่กลับช่วยลบรอยแผลเป็นไม่ได้ ยังดีที่ความพยายามไม่ทรยศคนตั้งใจ ในที่สุดข้าก็เจอหมอที่ชื่อว่าหลี่กุ่ยโส่วแล้ว เขามีความสามารถในการปั้นใบหน้าใหม่…

…แต่บาดแผลบนใบหน้าสหายของข้ารุนแรงเกินไป หากคิดจะฟื้นฟูหน้าเดิม ต่อให้เป็นหลี่กุ่ยโส่วก็ต้องมีของล้ำค่าหายากมาช่วย…

…นี่คือรายชื่อยาที่เขาให้ข้าไว้ก่อนหน้านี้ เจ้านำไปไว้ดู”

ขณะที่พูด หวังเฟยก็นำจดหมายที่เก่าจนออกสีเหลืองยื่นให้เยี่ยเว่ยหมิง แล้วพูดต่อว่า “ขอเพียงเจ้ารวบรวมยาเจ็ดอย่างที่เขียนไว้บนนี้จนครบ ก็จะไปขอให้หลี่กุ่ยโส่วมาช่วยฟื้นฟูใบหน้าให้สหายของข้าได้แล้ว ถือว่าภารกิจของพวกเจ้าเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน หลังจากนางฟื้นฟูใบหน้าเดิมกลับมาแล้ว ข้าจะมอบตำราลับสุดยอดวิชาให้…

…แต่หลี่กุ่ยโส่วนั่นที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง พเนจรไปทั่ว แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันแน่ หากพวกเจ้าอยากทำภารกิจให้สำเร็จ ก็ต้องหาวิธีตามตัวเขาให้พบก่อน”

เมื่อพูดจบ นางก็ส่งป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นหนึ่งให้เยี่ยเว่ยหมิง “รอให้พวกเจ้าเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ก็นำไปอาญาสิทธิ์แผ่นนี้ไปหาข้าที่วังของเซี่ยตะวันตกได้…

…ที่ข้าพูดก็มีเท่านี้ เรื่องที่เหลือก็ต้องรบกวนจอมยุทธ์น้อยทั้งสองแล้ว” หวังเฟยกล่าวพร้อมลุกขึ้น แล้วตะโกนบอกนายพลของหน่วยเหยี่ยวเหล็กที่เฝ้าอยู่ข้างๆ ว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว เตรียมกลับวัง!”

เยี่ยเว่ยหมิงรับป้ายอาญาสิทธิ์มาดูแล้วเก็บไว้ จากนั้นบอกว่า “หวังเฟยวางใจได้ขอรับ ต่อให้ทำเพื่อตำราลับสุดยอดวิชา พวกเราสองคนก็จะพยายามเต็มที่เพื่อทำให้ภารกิจนี้สำเร็จให้ได้”

อืม ใช่แล้ว!

แค่ทำเพื่อตำราลับสุดยอดวิชา

มีอะไรก็พูดตรงๆ นี่คือหลักการใช้ชีวิตในยุทธภพของเยี่ยเว่ยหมิง!

“เป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจจริงๆ” ตอนนี้หน่วยเหยี่ยวเหล็กก็นำรถม้างดงามหรูหราคันหนึ่งมาทางนี้แล้ว หวังเฟยเหมือนนึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน ยื่นกล่องไม้ที่สวยประณีตใบหนึ่งให้เยี่ยเว่ยหมิง “นี่คือรางวัลที่เจ้าช่วยฆ่าเสือโคร่งก่อนหน้านี้ น่าจะช่วยเจ้าได้บ้างไม่มากก็น้อย…

…ตามนี้แล้วกัน หวังว่าพวกเจ้าสองคนจะได้รับรางวัลภารกิจจากข้า”

“จำไว้ สี่เล่มล้วนเป็นสุดยอดวิชา!”

พอพูดจบนางก็เหยียบบันไดที่ทหารเหยี่ยวเหล็กสองคนเตรียมไว้ให้เพื่อขึ้นรถม้า จากนั้นทหารเหยี่ยวเหล็กสองคนนั้นก็เก็บบันไดไม้ไปวางไว้ตรงจุดที่ไม่สะดุดตาหลังรถม้า เสร็จแล้วถึงได้ต่างคนต่างขึ้นคร่อมม้าศึกของตัวเอง ก่อนจะนำกำลังทหารกลุ่มใหญ่จากไปไกล

ดูจากขั้นตอนการขึ้นรถ ก็มองออกแล้วว่าชีวิตของตระกูลท่านอ๋องแห่งเซี่ยตะวันตกทุจจริตขนาดไหน

เพียงแต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่สนใจปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ตอนนี้ความสนใจของเขาไปอยู่บนรางวัลภารกิจที่หวังเฟยให้แล้ว

[ลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสี (ทองคำ)] อาวุธลับที่ทำจากแก้วหลิวหลี เป็นประกายสีรุ้ง

โจมตี +200

กำลังภายใน +30%

จำนวน: 100/100 ใช้แล้วหมดไป]

[1] ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหลังมือก็เป็นเนื้อเหมือนกัน 手心手背都是肉 หมายถึงทั้งสองฝ่ายมีความสำคัญพอๆ กัน เลือกไม่ถูก

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท