ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 488 รู้จักพอเถอะ ข้ายังไม่เอาเรื่องเลย!

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 488 รู้จักพอเถอะ ข้ายังไม่เอาเรื่องเลย!

ตอนที่ 488 รู้จักพอเถอะ ข้ายังไม่เอาเรื่องเลย!

เขาพูดพลางก็เรียกโลงไม้หวงฮว่าที่คุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะหาซื้อได้ในตอนนี้ออกมาแล้ว ใช้มือข้างหนึ่งคว้าศพของเปาปู้ถง พอถือโอกาสคลำศพเสร็จ ก็โยนลงไปในโลงไม้ ถือว่าเสร็จขั้นตอนการเก็บศพแล้ว

จากนั้นก็ปิดฝาโลง แล้วส่งให้ผู้หญิงทั้งสามคน “แม้ข้าจะเป็นคนโหดร้าย แต่ก็ทำใจไม่ลงหากจะปล่อยให้เขาไม่พบความสุขสงบหลังความตาย โลงศพนี้คิดเสียว่าข้าส่งให้เขาเป็นของขวัญ…

…ดูจากท่าทางของแม่นางหวังแล้ว วันนี้เหมือนจะไม่มีอารมณ์รักษาสัญญาที่ให้ไว้แล้ว เช่นนั้นวันหลังพวกเราค่อยว่ากัน ตอนนี้ข้าขอตัวก่อน”

พอเห็นเยี่ยเว่ยหมิงกำลังจะไป แม้ในใจหวังอวี่เยียนจะเจ็บปวด แต่ก็ยังอดเอ่ยปากเรียกเขาไม่ได้

“ช้าก่อน!”

“หืม?” เยี่ยเว่ยหมิงหยุดฝีเท้า เอียงหน้าเล็กน้อย แต่กลับไม่หันกลับไปมองนาง “แม่นางหวังยังมีอะไรจะชี้แนะอีก”

หวังอวี่เยียนกล่าวอย่างไม่โกรธเคือง “หากคุณชายเยี่ยเป็นชาวยุทธ์ พี่สามเปาล่วงเกินเจ้า เจ้าฆ่าเขาก็ใช่ว่าจะผิดเสมอไป แต่ในเมื่อเจ้าเป็นคนของทางการ อีกทั้งไม่ว่าจะพูดอะไรก็เป็นกฎหมายของราชสำนัก เช่นนั้นข้าในฐานะสหายของพี่สามเปา ก็อดถามจอมยุทธ์เยี่ยแทนเขาไม่ได้ ตกลงว่าพี่สามเปาทำผิดอะไรกันแน่ ต้องถึงขั้นให้เจ้าฆ่าเลยหรือ”

“ถามได้ดี!” ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้หันตัวกลับมา ตอบด้วยเหตุผลเต็มปากเต็มคำ “อยากถามเหตุผลอย่างนั้นหรือ ได้ ข้าจะบอกเหตุผลที่ฟังขึ้นก็แล้วกัน!”

“สำหรับเรื่องส่วนตัว ข้ายื่นมือช่วยเหลือตระกูลมู่หรงของพวกเจ้าแก้ไขปัญหา แต่เขากลับมองเจตนาดีกลายเป็นเจตนาร้าย ทำตัวเป็นสุนัขลอบกัดเจ้าของ จัดเป็นประเภทไม่แยกแยะดีชั่ว…

…สำหรับเรื่องงาน เขาด่าขุนนางที่ทำงานรับใช้ราชสำนัก ปลุกปั่นข่าวลือไม่ดีว่าข้ามีเจตนาแอบแฝงที่โน้มน้าวค่ายสกุลฉินกับสำนักชิงเฉิง จงใจยุยงให้เกิดความขัดแย้งระหว่างราชสำนักกับชาวยุทธ์ ถึงขั้นอาจจะมีเจตนาไม่ซื่อด้วย!”

เมื่อเห็นสีหน้าหวังอวี่เยียนเริ่มเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เยี่ยเว่ยหมิงก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดต่อว่า “เป็นอย่างไร สองข้อหาที่ข้าบอกก่อนหน้านี้ เพียงพอให้ข้าสังหารเปาปู้ถงหรือยัง”

หวังอวี่เยียนพูดไม่ออก

เยี่ยเว่ยหมิงพูดต่อ “พฤติกรรมของเปาปู้ถงก่อนหน้านี้ ถ้าพูดแบบเบาๆ ก็คือ เขาไม่พอใจราชสำนักอยู่แล้ว จงใจสร้างข่าวลือ มีเจตนาแอบแฝง แต่ถ้าพูดแบบแรงๆ…”

พอได้ยินถึงตรงนี้ หวังอวี่เยียนกับอาจูก็ตกใจจนอาปี้หน้าถอดสี

คำพูดของขุนนางพลิกแพลงได้จริงๆ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงทั้งนั้น!

เปาปู้ถงปากพาซวย ถ้าไม่มีคนเอาเรื่องก็ย่อมไม่เป็นไร แต่คำพูดเหล่านั้นของเขาเดิมทีก็อันตรายมากอยู่แล้ว ถ้ามีคนที่วิเคราะห์ละเอียดอย่างเยี่ยเว่ยหมิงจริงๆ เกรงว่าที่ถูกเยี่ยเว่ยหมิงสังหารก่อนหน้านี้ยังเบาไปเลย!

หากดำเนินการตามกฎหมายจริงๆ ตัดสินโทษประหารแล่เนื้อให้เขาก็ไม่ถือว่าทำเกินไป

และนี่ก็คือผลลัพธ์ที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกว่าถ้าพูดแบบเบาๆ

หากพูดแบบร้ายแรง…

ตอนที่สามสาวอกสั่นขวัญแขวน กลับเห็นเยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วโบกมือบอกว่า “พวกเจ้าไม่ต้องกลัว ต่อให้เห็นแก่หน้าอาจูกับอาปี้ ข้าก็ไม่ดึงทั้งสกุลมู่หรงเข้ามาเกี่ยวเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้หรอก ข้าขอตัวก่อน!”

ความหมายที่เขาจะสื่อก็คือ ถ้าไม่ใช่เพราะมิตรภาพที่ร่วมทุกข์ด้วยกันมาระหว่างเขากับอาจูและอาปี้ก่อนหน้านี้ เขาก็เตรียมจะสืบหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวลือของเปาปู้ถง

ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ…

แค่คิดถึงผลที่ตามมาก็ทำให้กลัวจนตัวสั่นแล้ว

“คุณชายเยี่ย ช้าก่อน!”

พอตระหนักได้ว่าเยี่ยเว่ยหมิงยั้งมือไว้ไมตรี หวังอวี่เยียนก็รีบเรียกเขาไว้อีกครั้ง

ครั้งนี้เยี่ยเว่ยหมิงกลับขมวดคิ้ว หันกลับไปมองน้องสาวที่ไม่รู้จักหยุดสักที แล้วถามอย่างทนรำคาญไม่ไหวว่า “แม่นางหวังยังมีเรื่องอะไรอีก”

“เพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้” หวังอวี่เยียนพูดจบ ก็ใช้วิธีการพูดที่เร็วยิ่งกว่าท่อง “‘อรูปฌาน’ เป็นวิชากำลังภายในที่ฌาณและยุทธ์รวมเป็นหนึ่ง บลาๆๆๆ…”

[ติ๊ง! คุณได้รับคำชี้แนะจากหวังอวี่เยียน ค่าประสบการณ์ของ ‘อรูปฌาน’ เพิ่มขึ้น 100000 แต้ม!]

รับรางวัลภารกิจอย่างราบรื่น ภารกิจนี้ของเยี่ยเว่ยหมิงนับว่าเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์

หลังจากออกจากเรือนหอมริมน้ำ เขาก็ใช้ท่าร่างเร่งเดินทางไปทางเมืองซูโจวตลอดทาง

เมื่อมาถึงกลางทาง จู่ๆ ก็มีฝนโปรยลงมาเบาๆ เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้สนใจ อาศัยค่าสเตตัสสูงและกำลังภายในที่เพียงพอของตัวเอง เขาไม่ต้องพิจารณาเรื่องหาที่หลบฝนเลย กลับวิ่งท่ามกลางฝนได้เต็มที่

ขณะที่กำลังวิ่ง ในใจเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ลืมที่จะเริ่มนับจำนวนผลตอบแทนที่ได้ตั้งแต่มาต้าหลี่จนกระทั่งตอนนี้

เขาพบว่านอกจาก ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ที่เป็นเป้าหมายแรกสุด ผลตอบแทนด้านอื่นก็ได้ไม่น้อยเช่นกัน

ส่วนที่มีค่ามากที่สุดในนั้น ก็คือคางคกชาดวัวที่ทำให้เขาหมื่นพิษไม่กล้ำกราย

แม้เพิ่งจะได้ทักษะส่วนนี้มาไม่นาน ยังไม่ทันลองประสิทธิภาพของหมื่นพิษไม่กล้ำกรายก็ถูกผึ้งเมาต่อยจนสลบ แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังคิดว่าค่าสเตตัสต้านพิษ 11000 แต้มนั่นต่างหากคือผลตอบแทนสูงสุดที่เขาได้

ที่รองลงมาก็คือสิ่งที่ได้มาโดยไม่คาดคิด วิชากำลังภายในสำหรับโจมตีหลัก ‘อรูปฌาน’ รวมทั้งตำราลับตระหนักรู้อีกมากมาย

ส่วนที่เหลือก็คือ ‘กระบี่จงชง’ ที่ตอนนี้ดูได้แต่ยังใช้ไม่ได้ เป็นวิชาเทพที่ทำให้ตั้งตาคอยเช่นกัน

กำลังภายในสูงสุดหนึ่งแสนแต้ม สำหรับผู้เล่นคนอื่นบางทีอาจไม่มีทางได้รับตลอดไปเลยก็ได้ แต่สำหรับเยี่ยเว่ยหมิง ขอเพียงฝึกวิชากำลังภายในเพิ่มอีกสักสองสามวิชา ถ้าอยากจะเพิ่มขีดจำกัดกำลังภายในให้ถึงหนึ่งแสนแต้ม ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่

เมื่อเทียบกับผลตอบแทนเหล่านี้ พวกอุปกรณ์กลับเป็นเรื่องรอง

อิงตามขั้นตอนของเนื้อเรื่องที่ได้มาจากอินปู้คุย ทั้งเรื่อง ‘แปดเทพอสูรมังกรฟ้า’ แบ่งเป็นสี่ส่วนใหญ่ๆ สามส่วนแรกในนั้นบรรยายเรื่องสั้นของต้วนอวี้ เฉียวเฟิงและซวีจู๋

เริ่มตั้งแต่วัดเส้าหลิน แล้วก็ศึกตะลุมบอนที่เป็นทางการครั้งแรกของสามพี่น้อง ตามมาด้วยฉากเด็ดอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนดูจนตาลายจริงๆ

ดูจากปัจจุบันแล้ว แม้จะเป็นเขตน่านน้ำกูซู แต่ก็ไม่ได้ให้ผู้เล่นไปกับต้วนอวี้ กลับให้เยี่ยเว่ยหมิงสัมผัสประสบการณ์ของเนื้อเรื่องผ่านวิธีการถูกจับตัว

ตอนนี้เนื้อเรื่องส่วนแรกจากสี่ส่วนอย่าง ‘ตามหาน้องสาวเจ้า’ ของเรื่อง ‘แปดเทพอสูรมังกรฟ้า’ ก็จบลงอย่างเป็นทางการ ต่อไปหากมีผู้เล่นพบภารกิจเนื้อเรื่องส่วนต่อมา ก็คงจะเข้าสู่ส่วนที่สองของเส้นเรื่องหลักอย่าง ‘ข้าคือใคร’

ซึ่งในภารกิจของเนื้อเรื่องส่วนแรก ‘ตามหาน้องสาวเจ้า’ ก็กล่าวได้ว่าเยี่ยเว่ยหมิงรับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เพียงแต่ตอนท้ายสุด เนื่องจากเขาทนเห็นความกำเริบเสิบสานของเปาปู้ถงไม่ได้ จึงลงมือเล่นงานเจ้าหมอนั่นจนตาย

เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็เข้าใจแล้วว่าเขาได้ตัดความเชื่อมโยงระหว่างภารกิจเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกันด้วยมือตัวเอง

ไม่รู้เหมือนกันว่ายังจะมีโอกาสเข้าร่วมภารกิจช่วงหลังผ่านช่องทางอื่นเพื่อรับรางวัลอีกหรือไม่

ขณะที่กำลังครุ่นคิด เขาก็มองเห็นเมืองซูโจวอยู่ไกลๆ แล้ว แต่เสื้อผ้าบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงเปียกฝน ตอนที่เสื้อผ้าแนบติดบนตัวก็ให้ความรู้สึกที่แย่มาก

ตอนเขากำลังจะเข้าเมืองเพื่อหาโรงเตี๊ยมหลบฝน ก็ถือโอกาสเล่นเขตลับไผ่เขียวด่านที่สองจนผ่านแล้ว

ประกาศระบบที่เหนือความคาดหมายแต่สมเหตุสมผลกลับดังขึ้นตอนนี้พอดี

[ประกาศระบบ: พระทิเบตคนสุดท้ายที่ถือตำรากระบี่ถูกสังหารตายแล้ว ตำรากระบี่เล่มที่หกปรากฏขึ้นแล้ว!]

[ยินดีกับผู้เล่นสำนักดาบโลหิต หนึ่งดาบสามเฉือน ได้รับตำรา ‘กระบี่ส้าวเจ๋อ’ หนึ่งใน ‘ดรรชนีกระบี่หกชีพจรฉบับไม่สมบูรณ์’ !]

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท