รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 054 ปีศาจที่ตั้งใจมาทำให้เธอลุ่มหลง
ป้ามะนาวรีบเดินย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว
กลัวว่าคุณนายน้อยจะเข้าใจคุณชายใหญ่ผิดไป เธอจะได้ช่วยคุณชายใหญ่อธิบายสักหน่อย
ตอนที่เธอกลับเข้ามาในบ้านนั้น ก็เห็นสองสามีภรรยากำลังเก็บถ้วยชามกันอยู่
ป้ามะนาวตกใจจนสะดุ้ง
ถึงแม้คุณชายใหญ่จะไม่ใช่พวกเกียจคร้านที่เสื้อผ้ามาถึงค่อยยื่นมือมาใส่ อาหารมาถึงแล้วค่อยอ้าปากกิน เพราะตอนที่ตระกูลอริยชัยกุลอบรมสั่งสอนหลานชายนั้น อย่างแรกที่ต้องสอนก็คือความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน พอหลานชายมีอายุช่วงประมาณหนึ่งแล้ว ก็จะส่งพวกเด็ก ๆ ไปที่เกาะส่วนตัวของตระกูลพวกเขา
จากนั้น ก็จะถอนกำลังคนออกจากเกาะให้หมด แล้วมอบเกาะนี้ให้กับพวกเด็ก ๆ ให้พวกเขาเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง
ดังนั้นพอผู้ชายตระกูลอริยชัยกุลออกมาใช้ชีวิตในสังคม ก็ไม่มีคลื่นลมอะไรที่จะสามารถล้มพวกเขาได้
แต่อยู่ในสายตาป้ามะนาว คุณชายใหญ่เป็นดั่งบุตรแห่งสวรรค์ และเป็นเพราะว่างานยุ่งมากเกินไป จึงไม่ค่อยได้ลงมือทำงานบ้านอะไรซะเท่าไหร่
เธอแอบก่นด่าคนใช้คนอื่นอยู่ในใจว่าไม่ได้เรื่อง ที่ปล่อยให้คุณชายใหญ่กับภรรยาต้องมาเก็บถ้วยชาม แล้วก็รีบเดินเข้าไป แย่งถ้วยชามที่เทวิกาเก็บซ้อนกับเอาไว้มา แล้วพูดกับเทวิกาขึ้นว่า “คุณนายน้อยคะ เรื่องแบบนี้ ให้ฉันทำเองค่ะ คุณกับคุณชายใหญ่แค่กินให้อิ่มก็พอแล้วค่ะ”
เทวิกาพูดขึ้นมาตามสัญชาตญาณว่า “ป้ามะนาว ฉันทำเป็นค่ะ ตอนอยู่บ้านฉันก็ช่วยแม่ฉันทำงานบ้านค่ะ”
อยู่ที่ห้องเช่า เธอก็ดูแลตัวเองเหมือนกัน
ความคุ้นชิน ทำให้เธอกินเสร็จแล้วก็ต้องเก็บเลย
ยศพัฒน์ตามใจเธอ เธออยากทำอะไรก็ให้เธอทำ ขอแค่ไม่ทำให้เธอเหนื่อยก็พอแล้ว
แล้วอีกอย่าง สองสามีภรรยาลงมือช่วยกันเก็บถ้วยชาม ก็ทำให้ยศพัฒน์ได้ลิ้มลองรสชาติเรียบง่ายและหอมหวานแบบสามีภรรยาทั่วไปด้วย
ป้ามะนาวส่งสายตาไปให้กับคุณชายใหญ่ของบ้านตัวเอง บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดเทวิกาขึ้นว่า “คุณนายน้อยคะ คุณดูซิคุณชายใหญ่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย เดี๋ยวก็จะถึงเวลาทำงานแล้ว คุณรีบขึ้นไปข้างบนกับคุณชายใหญ่ ไปช่วยเลือกเสื้อผ้าสักชุดให้คุณชายใหญ่เปลี่ยนเถอะค่ะ คุณชายใหญ่ชอบตัดสินใจยากลำบากกับการเลือกเสื้อผ้า ถ้าจะให้เขาไปเลือกเอง เลือกจนถึงค่ำก็ยังไม่รู้ว่าจะใส่ชุดไหนเลยค่ะ”
จู่ ๆ ยศพัฒน์ก็มองไปทางป้ามะนาว
เขาชอบตัดสินใจยากลำบากตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ป้ามะนาวส่งสายตาให้เขาทีหนึ่ง
และเทวิกาก็มองมาด้วยพอดี ใบหน้าหล่อเหลาของยศพัฒน์มีแววลำบากใจเล็กน้อย แล้วพูดกับเทวิกาอย่างเขินอายขึ้นว่า “วิกา คุณอย่าไปฟังป้ามะนาวพูดไปเรื่อยเลย ที่จริงแล้ว อย่างมากผมก็แค่เลือกถึงเที่ยงก็เลือกออกมาได้แล้ว”
ป้ามะนาวไม่พูดอะไร เทวิกาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่ายศพัฒน์จะมีการตัดสินใจลำบากกับการเลือกเสื้อผ้า
เธอนึกถึงครั้งแรกที่ไปร่วมงานเลี้ยงกับยศพัฒน์ เขาได้มอบชุดราตรีให้เธอมาหลายชุด ไม่รู้ว่าเขาต้องใช้เวลาไปนานเท่าไหร่ถึงช่วยเธอเลือกชุดออกมาได้
“งั้น ป้ามะนาวคะ รบกวนป้าด้วยนะคะ”
เทวิกาเองก็รู้ว่า ในบ้านคนรวยนั้น การแบ่งหน้าที่ของคนรับใช้ต้องชัดเจนและละเอียดมาก
เธอที่เป็นคุณนายใหญ่คนนี้ถ้าไปแย่งงานคนใช้ทำ อืม คงจะทำให้คนรับใช้เกิดความกดดันในใจเป็นอย่างมาก และกลัวว่าจะตกงานไปด้วย
แล้วเธอก็เอางานเก็บโต๊ะคืนให้ป้ามะนาวไป แล้วพูดกับยศพัฒน์ขึ้นว่า “พี่พัฒน์ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเลือกเสื้อผ้ากับพี่ข้างบนดีกว่านะ”
ยศพัฒน์ตอบอืมขึ้นมาคำหนึ่ง
แล้วเดินเข้ามา ยื่นมือไปก็วางลงบนบ่าเธอ โอบไหล่เธอไว้แล้วเดินออกห้องอาหารไป ฉวยโอกาสตอนที่เทวิกาไม่ทันสังเกตเห็น เขาก็หันหน้าไปชูนิ้วโป้งให้ป้ามะนาวทีหนึ่ง
เดือนนี้ โบนัสที่จะให้ป้ามะนาวต้องเพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว ช่างเป็นคนที่สายตาเฉียบคมจริง ๆ
พอป้ามะนาวเห็นสองสามีภรรยาขึ้นตึกไปแล้ว ก็ถอนหายใจยาว ๆ ออกมาทีหนึ่ง
โชคยังดี ที่คุณผู้หญิงไม่ได้ทะเลาะกับคุณชายใหญ่เพราะการปรากฏตัวออกมากะทันหันของคุณกชนิภา ไม่งั้นถึงคุณกชนิภาจะเป็นแมวเก้าชีวิตก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้ยากแล้ว
คุณชายใหญ่ได้เสียเวลารอคุณผู้หญิงเติบโตขึ้นมาเป็นสาวตั้งสิบปีเลยนะ กว่าจะได้แต่งงานกับคุณนายน้อย ใครกล้ามาทำลายความรักของสองสามีภรรยานี้ อย่าพูดว่าคุณชายใหญ่เลย เธอป้ามะนาวจะเป็นคนแรกที่ไม่ยอมปล่อยไปเด็ดขาด
พอกลับมาถึงห้องแล้ว เทวิกาก็เข้าไปเอาเสื้อผ้าชุดหนึ่งมาให้ยศพัฒน์ ตอนที่เอาเสื้อผ้ายื่นให้เขานั้น เธอถามขึ้นมาว่า “วันนั้นที่คุณช่วยฉันเลือกเสื้อผ้า เสียเวลาไปนานแค่ไหนคะ?”
“ผมไม่ได้เป็นคนเลือก ผมขอให้เพื่อนช่วยเลือกตามสัดส่วนของคุณ แล้วผมก็เอากลับมาเท่านั้น”
ที่ยศพัฒน์พูดมานั้นเป็นความจริง
เรื่องเลือกเสื้อผ้านั้น เขาสู้กับชัยเดชไม่ได้
ชัยเดชนั้นเป็นดีไซเนอร์ชั้นนำเลยนะ สามารถเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมที่สุดตามรูปร่าง หน้าตาภายนอก ผิวพรรณ และบุคลิกภาพของแต่ละคน
เทวิกาพูดอ๋อขึ้นมาคำหนึ่ง ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง
นี่เขาชอบตัดสินใจยากลำบากจริง ๆ เหรอ?
“ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของคุณ นอกจากสูทแล้ว ก็มีแต่เสื้อเชิ้ต สีก็แทบจะเหมือน ๆ กัน ยังมีอะไรให้ต้องเลือกอีกคะ?”
สูทของเขาเป็นสีดำหมดเลย เสื้อเชิ้ตก็เป็นสีขาว หรือไม่ก็เป็นสีฟ้าอ่อน ๆ สีขาวมีเยอะกว่าหน่อย ดูท่าเขาน่าจะชอบใส่สีขาวดำคู่กัน
ชุดอยู่บ้านก็เหมือน ๆ กัน สีแต่สีดำกับสีขาว ไม่ค่อยมีสีที่สามซะเท่าไหร่เลย
“ถ้าเกิดว่าสีเยอะกว่านี้ ผมก็ยิ่งเลือกยาก แค่เป็นแบบนี้แต่ละวันผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะใส่ชุดไหนแล้ว”
พอโกหกไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะต้องใช้คำโกหกอีกมากมายมาโกหกต่อไปด้วย
ยศพัฒน์รับรู้ถึงจุดนี้อย่างลึกซึ้งแล้ว
เทวิกาอึ้งไปเล็กน้อย
ที่เขาพูดมามันก็เป็นความจริง
พอเห็นเขาถอดชุดออกกำลังกายออกต่อหน้าตัวเอง เทวิกาก็หน้าแดงขึ้นมา แล้วพูดกับเขาขึ้นว่า “ทำไมคุณไม่เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำคะ ฉันยังอยู่ตรงนี้อยู่เลยนะคะ”
“วิกา ปีนี้คุณอายุยี่สิบสี่ปีแล้วนะ”
เทวิกาจ้องมองเขา
เธออายุยี่สิบสี่แล้วยังไง?
“ไม่ใช่เด็กแล้ว มาดูผมถอดเสื้อผ้า พอดีเลยจะได้มาดูรูปร่างผมให้ดี ๆ สักหน่อย และไม่ต้องเอาแต่ไปคิดว่าจะถอดเสื้อผ้าไอ้นฤเบศวร์ให้หมดตัวแล้วให้เขาไปวิ่งกลางถนน รูปร่างของไอ้หมอนั่นไม่มีทางดีกว่าผมหรอก”
เทวิกา “……”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็หลุดขำออกมา “เมื่อวานฉันพูดไปแบบนั้นประโยคหนึ่ง คุณยังเก็บไปใส่ใจอีกเหรอคะ”
เขาโน้มตัวลงมา ลมหายใจที่เร่าร้อนเป่าลงมาบนใบหน้าเธอ แล้วได้ยินเขาพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คำพูดทุกประโยคของคุณ ผมจะเก็บไว้ในใจเสมอ วิกา คุณจำไว้นะ อยู่ในเมืองแอคเซสซ์ สามีของคุณหล่อที่สุด รูปร่างของสามีคุณดีที่สุด อยากเห็นคนหล่อ คุณก็มองสามีของคุณเลย”
เทวิกาทนความยั่วยุจากความเร่าร้อนของเขาไม่ไหว จึงรีบผลักเขาออกไปเล็กน้อย ใบหน้าเรียวเล็กแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
เธอพูดอย่างออดอ้อนขึ้นว่า “พี่พัฒน์ พี่ทำตัวปกติหน่อยได้ไหมคะ? ถ้าไม่ได้เจอกับตัวจริง ๆ ฉันก็ไม่กล้าเชื่อจริง ๆ ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้จะเป็นคุณ”
แล้วพี่พัฒน์คนที่เป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายคนนั้นหายไปไหนแล้ว?
เอาคืนให้เธอนะ!
ยศพัฒน์ยืดตัวตรง ดวงตามีแววขำขันขึ้นมา
“ตอนอยู่ข้างนอก มักจะต้องเป็นคนที่ใส่หน้ากาก พอกลับมาบ้านแล้ว มาอยู่ต่อหน้าภรรยาผม ผมก็ต้องเผยธาตุแท้ออกมา หรือว่าผมจะต้องใส่หน้ากากเข้าหาคุณด้วยเหรอ?”
“……พี่พัฒน์ สมแล้วที่เป็นประธานใหญ่แห่งบริษัทยักษ์ใหญ่ ฝีปากถึงได้ดีขนาดนี้ ฉันต้องขอยอมแพ้เลย คุณรีบไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเลยค่ะ เดี๋ยวจะไปทำงานสายแล้วนะคะ”
พอเทวิกาพูดจบ ก็ตั้งใจหยิกไปบนตัวเขาเบา ๆ อย่างซุกซน เขายังไม่ทันได้ตั้งสติกลับมา เธอก็หมุนตัวหนีไปเลย
“วิกา!”
ยศพัฒน์ถูกการกระทำของเธอยั่วยุกลับ ยั่วจนไฟลุกโชนขึ้นมา ท่วงท่าว่องไว แล้วก็ไปรวบตัวเธอไว้ได้ก่อนที่เธอจะหนีออกจากห้องไป
จากนั้นก็จูบระลอกหนึ่งก็เกี่ยวพันกันขึ้นมา
จูบจนเทวิกาหายใจหอบ เขาถึงจะปล่อยตัวเธอออก
เขาใส่เสื้อผ้าไปด้วย แล้วก็มองเทวิกาที่พิงอยู่กับกำแพง ด้วยสภาพที่หมดเรี่ยวแรง ด้วยสายตาเร่าร้อนแล้วก็แฝงแววขำขันไว้เล็กน้อยด้วย
เทวิกา ……
ปีศาจ!
นี่เธอถึงกับเกิดภาพลวงตาขึ้นมา แล้วรู้สึกว่ายศพัฒน์เป็นปีศาจ เป็นปีศาจที่ตั้งใจมาทำให้เธอลุ่มหลง
จนแทบจะทำให้ใจที่สงบนิ่งมานานของเธอเกิดความว้าวุ่นขึ้นมาแล้ว