นฤเบศวร์พูดอย่างร้อนตัวเล็กน้อย
ตระกูลเดชอุปของพวกเขาไม่ได้ปรองดองกันเหมือนตระกูลอริยชัยกุล
ไม่รู้ว่าผู้ชายตระกูลอริยชัยกุลคิดยังไง ใครไม่อยากเป็นผู้นำกัน? แต่พวกเขากลับไม่คิด หลังจากยศพัฒน์รับตำแหน่งผู้สืบทอด ลูกพี่ลูกน้องคนอื่นๆ ต่างก็เต็มใจที่จะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน
นฤเบศวร์รู้สึกอิจฉายศพัฒน์มาก
ขอแค่ยศพัฒน์ไม่ทำเกินเหตุ เขาก็สามารถนั่งในตำแหน่งผู้นำตระกูล เสพสุขกับความเป็นใหญ่ได้ตลอด
ทุกคนต่างก็พูดว่าวิถีชีวิตตระกูลอริยชัยกุลนั้นดีมาก
ลูกหลานตระกูลอริยชัยกุลทุกคนล้วนโดดเด่นมีความสามารถ ขอแค่สามารถแต่งงานเข้าตระกูลอริยชัยกุลได้ ไม่เพียงสามารถเสพสุขกับเกีรยติยศและความมั่งคั่งที่ไม่สิ้นสุด แต่ยังได้รับความรักที่ซื่อสัตย์จากสามีอีกด้วย
เพราะกฎของตระกูลอริยชัยกุลกำหนดไว้ว่าห้ามบุตรหลานในตระกูลหย่าร้างกัน
การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่น
ก่อนจะแต่งงานต้องคิดทบทวนให้ดี
“หมายความว่าคุณปู่เร็นจัดงานดูตัวให้นายสินะ”
ถึงแม้ทั้งสองจะเป็นคู่แข่งกัน แต่อย่างไรพวกเขาก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ยศพัฒน์ก็ยังรู้จักตระกูลเดชอุปดี
บางครั้ง ตอนที่เขาได้พบกับคุณปู่เร็น เขาก็จะกล่าวทักทายทักทายทุกครั้ง
อย่ามองว่าทั้งสองตระกูลจะต่อสู้กันมาตลอด แต่ตอนที่คุณปู่เร็นเจอเขา ก็จะยิ้มอย่างใจดีเหมือนเป็นปู่แท้ๆของเขาเลย
คุณปู่เร็น: นั่นมันรอยยิ้มแห่งความอิจฉาต่างหาก
ถ้ายศพัฒน์เป็นหลานชายของเขาจริงๆ ก็คงจะดี
ในรุ่นของตาพัฒน์ไม่มีลูกสาว มิฉะนั้นคุณปู่เร็นคงให้หลานชายของเขาตามจีบลูกสาวของตระกูลอริยชัยกุลแน่นอน
“ยศพัฒน์ อย่าดีใจบนความทุกข์ของคนอื่น”
ยศพัฒน์ยกยิ้ม “ถูกฉันเดาถูกแล้วล่ะสิ นฤเบศวร์ ถึงแม้นายจะอิจฉาฉันมาตลอด แต่ฉันขอเตือนนายไว้เลย เปรมาไม่คุ้มค่ากับความทุ่มเทของนาย อยู่ห่าง ๆ เธอและรีบแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีสักคนจะดีกว่า”
“อายุไม่น้อยแล้ว นายกับฉันอายุเท่ากัน ตอนนี้ฉันมีเมียแล้ว แต่นายยังไม่มีแม้แต่แฟน ถ้าฉันได้เป็นพ่อ นายยังอยู่คนเดียว ในด้านความรัก นายก็ยังตามหลังฉันอีกหลายร้อยเมตร สุดท้ายนายก็ยังแพ้ฉันอยู่ดี”
นฤเบศวร์ “…”
“เทวิกามีดีอะไร นอกจากหน้าตาดี และเด็กกว่าเปรมาแล้ว ตรงไหนที่ทำให้นายยุติการเป็นโสดไปได้”
นฤเบศวร์พูดยุยงขึ้นมา
“ตระกูลอริยชัยกุลของนายเป็นแบบไหน แล้วนายยังกล้าแต่งงานกับผู้หญิงที่เติบโตมาในชนบท นายไม่กลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะหรือไง”
ยศพัฒน์หน้านิ่ง และพูดอย่างเย็นชา “วิกาของฉันโตมาในชนบทแล้วมันยังไง ชนบทแล้วยังไง พวกนายมีคนไหนที่ไม่กินข้าวและผักที่คนในชนบทปลูกขึ้นมา”
“ผู้ชายตระกูลอริยชัยกุลของเราแต่งงานกับผู้หญิงที่จิตใจดีมีเมตตา และแต่งงานกับคนที่ตนเองรัก ไม่น่าสงสารเหมือนบางคนที่ต้องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ชอบ”
การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ นอกจากว่าทั้งสองฝ่ายต่างพึงพอใจซึ่งกันและกัน ไม่อย่างนั้นชีวิตหลังแต่งงานไม่มีทางมีความสุขแน่นอน
การแต่งงานแบบนั้นเกิดขึ้นมาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ทางธุรกิจ
นฤเบศวร์ “…ฉันแค่พูดภรรยานายคำเดียว นายก็พูดมากถึงขนาดนี้ ยศพัฒน์ นายคงรักเทวิกามากสินะ”
“ไม่รักเธอแล้วฉันต้องรักนายหรือไง”
นฤเบศวร์สีหน้าบึ้งตึง “ถุย ฉันไม่มีทางรักนายแน่”
ยศพัฒน์พ่นลมหายใจ “นายต่อกรกับฉันมาตลอด ทำให้ฉันสงสัยจริงๆ ว่านายแอบชอบฉัน ดังนั้นจึงใช้เรื่องเปรมาเป็นข้ออ้างมาเข้าใกล้ฉัน”
สีหน้าของนฤเบศวร์เปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง
คู่แข่งคนนี้แม้แต่คำพูดแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาอีก
“ไม่พูด ไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ นายแอบรักฉันจริงๆ ด้วยสินะ เฮ้อ จะให้ทำยังไงได้ ฉันแต่งงานแล้ว พื้นที่ในหัวใจของฉัน มีไว้ให้วิกาของฉันเพียงคนเดียว…”
“ยศพัฒน์!”
นฤเบศวร์คำรามออกมาทางโทรศัพท์ “รักบ้าบออะไรกัน ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆ นายต่างหากที่ชอบผู้ชาย”
ยั่วโมโหคู่แข่งได้สำเร็จ ยศพัฒน์ระเบิดหัวเราะออกมา
ยิ่งเขาหัวเราะ นฤเบศวร์ก็ยิ่งโมโห เขาอยากปีนข้ามสายอินเทอร์เน็ตไปล้มยศพัฒน์จริงๆ ไม่สิ เขาจะบีบคออีกฝ่ายต่างหาก!
“เมียของฉันรู้ว่าฉันเป็นผู้ชายแท้หรือเทียม แต่นายล่ะ ใครจะรู้ว่านายเป็นผู้ชายแท้หรือเทียม”
นฤเบศวร์ “…”
ใจเย็นไว้! ใจเย็นไว้!
อย่าถูกไอ้เวรนี่ยั่วโมโหเด็ดขาด
คุณปู่มักจะพูดเสมอว่าความอดทนของเขาไม่ดีเท่ายศพัฒน์
ยศพัฒน์เจอคนจะพูดภาษาคน เจอผีพูดภาษาผี ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้นดีมาก ต่อให้ภูเขาพังทลายไปตรงหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
ตอนที่เขาเผชิญหน้ากับยศพัฒน์ เขามักจะถูกยศพัฒน์ยั่วโมโหได้อย่างง่ายดาย
“ยศพัฒน์ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว”
นฤเบศวร์ระงับความโกรธของเขาไว้ และพูดอย่างเย็นชา “มาพูดถึงเรื่องเปรมากันเถอะ”
“ฉันเห็นตลาดหุ้นวันนี้ RA กรุ๊ปของพวกนายตกฮวบเลยไม่ใช่หรือไง”
คำพูดของยศพัฒน์เหมือนจะแฝงไปด้วยความสงสาร แต่ที่จริงแล้วกลับเต็มไปด้วยความสะใจ
นฤเบศวร์รู้สึกว่าตลอดหลายปีมานี้เขาไม่ได้บีบคอยศพัฒน์ให้ตาย เพราะเขาจิตใจดี และใจกว้าง ไม่คิดแค้นยศพัฒน์
“เปรมาพาคนมาทุบร้านเมียของฉัน แล้วยังทำร้ายคนในร้านด้วย ตอนนี้มือคุณกนกอรได้รับบาดเจ็บ จนบวมเหมือนหมั่นโถวที่บวมเป่ง ไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อชีวิตในอนาคตของเธอไหม”
“แค่จับเปรมาขังคุกถือว่าเป็นการลงโทษที่เบามากแล้ว ส่วนนายพูดจาหยาบคายใส่คนอื่นเพื่อเปรมา และถูกนำไปเปิดเผยบนอินเทอร์เน็ต สร้างไม่พอใจให้ทุกคน ทำให้พวกไม่พอใจคนรวยโมโหเป็นกรรมตามสนอง จะโทษใครได้
ยศพัฒน์พูดอย่างเย็นชา “อย่ามาพูดว่าโตมาด้วยกัน น่าจะมีมิตรภาพที่แนบแน่น เปรมากับฉันไม่เคยเป็นคนสนิทในวัยเด็กกันเลย”
“นฤเบศวร์ คนอื่นๆ ไม่รู้ว่าฉันคิดยังไงกับเปรมา แต่นายไม่มีทางไม่รู้ อย่าคิดว่าเรื่องเมื่อสิบปีก่อนจะปกปิดฉันได้ นายทำเพื่อเปรมาถึงขั้นนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกว่านายมัน… …”
“น่าสงสาร น่าสมเพช!”
นฤเบศวร์ “…”
น่าโมโหมากจริงๆ!
ผู้หญิงที่เขามองว่าเป็นสมบัติล้ำค่ามาตลอด คู่แข่งของเขากลับไม่เคยสนใจเลย
“บัญชีความแค้นเมื่อสิบปีที่แล้ว เราหาเวลามาเคลียร์ให้ชัดเจน”
ยศพัฒน์พูดอย่างเย็นชา
นฤเบศวร์ “…ไม่ใช่ว่าไม่สำเร็จหรือไง นายเองไม่ได้เสียหายอะไร”
“นฤเบศวร์ นายนี่รักษาไม่หายแล้วจริงๆ ฉันเตือนนายแล้วนะ ถ้านายโจมตีวิกาของฉันเพื่อเปรมาอีกครั้ง อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”
“ฉันไม่เคยรักเปรมา และไม่เคยสัญญาอะไรกับเธอด้วย นายรักเธอ นายยินดีที่จะเป็นม้าให้เธอ ยอมให้เธอใช้งาน ยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อเธอ นั่นเป็นเรื่องของนาย”
“แต่ว่า อย่าคิดจะมายุ่งกับวิกาของฉัน อย่ามายุ่งกับฉัน ถ้าเพราะเรื่องนี้ทำให้ วิกาของฉันเข้าใจฉันผิด นฤเบศวร์ฉันจะทำให้เปรมาไม่มีอะไรเหลือ แม้แต่ชื่อเสียง”
นฤเบศวร์ขนลุกซู่
ยศพัฒน์โกรธแล้วจริงๆ แม้แต่เขายังต้องถอยให้สามส่วน หนีไปให้ไกล
เขานิ่งเงียบไปนาน ก่อนจะพูดว่า “นายไม่ชอบเปรมาจริงๆ เหรอ?”
“ในเมื่อรู้คำตอบอยู่แล้วทำไมต้องถามอีก”
นฤเบศวร์ยกยิ้มอย่างขมขื่น “ตั้งแต่เธอกลับประเทศ ก็เอาแต่คิดถึงนาน แต่นาย… กลับแต่งงานแล้ว เธอจะยอมตายใจได้ยังไง ถึงแม้ฉันจะไม่ช่วยเธอ เธอก็จะทำทุกวิธีเพื่อสร้างปัญหาให้พวกนายสองสามีภรรยาแน่นอน”
“ยศพัฒน์ ฉันอิจฉานายจริงๆ คนที่ฉันรักมากแต่ไม่ได้ครอบครอง แต่นายกลับไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา และคนที่นายรัก นายก็ได้แต่งงานกับเธอ”
ยศพัฒน์เป็นลูกรักของพระเจ้าจริงๆ
ได้รับความเอาใจใส่จากสวรรค์
ไม่ว่าจะด้านธุรกิจหรือด้านความรัก เขาล้วนแต่เป็นผู้ชนะ เป็นคนที่ทุกคนต้องรู้สึกอิจฉาริษยา
