คุณสามีพันล้าน – บทที่ 507 วิกาฟ้อง

คุณสามีพันล้าน - บทที่ 507 วิกาฟ้อง

รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 507 วิกาฟ้อง

“วิกา ลูกเอาเสื้อกันหนาวตัวนี้ไปให้แม่ใส่”

ไซม่อนรีบยัดเสื้อกันหนาวให้ลูก สั่งให้ลูกสาวช่วยเหลือ

“ได้ค่ะ”

เทวิกายินดีที่จะช่วยพ่อเต็มที่อยู่แล้ว

“ยศพัฒน์ ไปห้องหนังสือกับพ่อหน่อย”

“เดี๋ยวค่อยกินข้าว รอประยสย์กับธนัทกลับมาก่อน”

ธนัทไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร ไม่ได้กลับมาเมืองแอคเซสซ์พร้อมคุณป้าด้วย และเลือกที่จะกลับมาตอนเย็น

“ได้”

ยศพัฒน์ตอบรับออกมาเสียงทุ้มต่ำ

ไซม่อนชอบลูกเขยคนนี้เพราะไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไรก็ตั้งสติเผชิญปัญหาได้ตลอดเวลา ระดับความสุขุมแบบนี้ เก่งกว่าลูกชายของเขาเยอะเลย และแน่นอน เป็นเพราะยศพัฒน์ก็อายุมากกว่าลูกชายเขาห้าปีเช่นกัน

วัฒนธรรมของตระกูลอริยชัยกุลดีมาก พี่น้องลุงหลานอยู่ด้วยกันอย่างรักใคร่ปรองดองกัน ทุกคนดูแล้วเป็นคนใจดี แต่จริงๆ แล้วต่างถูกอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี ในฐานะลูกของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด ครอบครัวมีทรัพย์สินเป็นแสนล้าน ลูกชายของตระกูลอริยชัยกุลจะเป็นคนใจดีและอ่อนโยนจริงๆ ได้อย่างไร?

ต่างเป็นผู้ชายที่เผด็จการทั้งนั้น

ขอแค่ไม่ไปทำให้พวกเขาโกรธ พวกเขาก็จะเป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่ถ้าไปเหยียบหางพวกเขา ก็จะกลายเป็นคนกินเสือทันที

ยศพัฒน์เดินตามพ่อตาเข้าไป

เมื่อเข้าไปถึงห้องหนังสือของไซม่อน ยศพัฒน์ทึ่งในความละเอียดอ่อน ความระวังตัว ของพ่อตาเป็นอย่างมาก

ห้องหนังสือของพวกเขาออกแบบไว้ชั้นสอง ถึงแม้จะห้ามไม่ให้คนอื่นเข้าไปโดยพละกาล แต่เมื่อเทียบด้านความปลอดภัยแล้ว เทียบไม่ได้กับของพ่อตาเลย

นอกเสียจากห้องหนังสือของพวกเขาจะมีระบบกันเสียง มิฉะนั้นพูดอะไรก็จะถูกคนอื่นได้ยินหมด

ถึงแม้จะมีระบบกันเสียง ก็ยังคงมีปัจจัยที่ไม่ปลอดภัยแฝงไว้อยู่ และอาจมีคนแอบเข้าไปในห้องวางอุปกรณ์ดักฟังอะไรต่างๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่ห้องหนังสือของพ่อตาอยู่ห่างไกลจากสิ่งปลูกสร้าง บริเวณรอบๆ ก็ไม่มีดอกไม้ต้นไม้ต่างๆ ทำให้ไม่สามารถมีคนแอบฟังอยู่บริเวณรอบๆ ได้เลย อีกอย่างบริเวณรอบๆ ของห้องหนังสือก็มีบอดี้การ์ดที่จงรักภักดีต่อไซม่อนเฝ้าระวังอยู่

ในห้องหนังสือก็มีระบบกันเสียงเช่นเดียวกัน

พ่อตากับลูกเขยพูดคุยอะไรกันในห้อง ไม่มีคนรู้

เทวิกาช่วยพ่อเอาเสื้อกันหนาวเข้าไปในบ้าน หลังจากสวมใส่ให้คุณแม่เรียบร้อยแล้ว คุณปู่กับคุณหญิงย่าก็กลับเข้ามาพอดี

“คุณปู่ คุณย่า”

นักแสดงมืออาชีพสิงร่างเทวิกาทันที เมื่อเห็นคนแก่ทั้งสองเข้ามาในบ้าน ก็รีบเดินเข้าไปต้อนรับทันที คล้องแขนคุณหญิงย่าไว้อย่างสนิทสนม ความเอาอกเอาใจแบบนี้ทำให้คุณหญิงย่าพอใจมาก และอดไม่ได้ที่จะมีความคิดอื่นออกมา

ขอแค่เธอมีใจที่จะชดเชยเทวิกา คิดว่าเทวิกาคงจะยกโทษให้เธอที่เป็นคุณย่าแน่นอนสินะ?

“ย่ายังเดินไหวอยู่ ไม่ต้องพยุงหรอก”

ถึงแม้ปากของคุณหญิงย่าจะพูดแบบนั้น แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

คุณปู่พูดกับคุณหญิงย่าขึ้นมาว่า: “เธอได้ใจไปเถอะ วิกาพยุงเธอ ไม่พยุงฉัน”

“เชอะ คุณมีหลานเยอะขนาดนั้น ก็ให้หลานคนอื่นมาพยุงคุณสิ”

“หลานของผมไม่ใช่หลานของคุณเหรอ”

“ยศพัฒน์หล่ะ?”

เมื่อคุณปู่ไม่เห็นหน้าหลานเขยอยู่ข้างในบ้าน จึงถามออกมา

“อยู่กับพ่อหนูค่ะ”

เทวิกาไม่รู้ว่าพ่อตากับลูกเขยไปไหน แต่เขาสองคนอยู่ด้วยกันจริงๆ เธอไม่ได้พูดผิด

ญาณินก็แค่เปลี่ยนที่นั่ง เว้นโซฟาให้คนแก่ทั้งสองคนนั่ง เป็นเพราะว่าเธอไม่อยากนั่งกับพ่อแม่ของสามี

วิกาทำตัวสนิทสนมกับคนแก่ทั้งสองคนเป็นอย่างมาก นั่นเป็นปู่และย่าแท้ๆ ของวิกา เธอไม่ห้ามปรามอยู่แล้ว แต่จะให้เธอทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน เธอทำไม่ได้

ญาณินที่ตัดสินใจจะหย่าร้างอย่างเด็ดขาดแล้ว จึงไม่รู้สึกกลัวพ่อแม่สามีอีกต่อไป

แม้แต่บ้านหลังนี้เธอก็ไม่อยากได้แล้ว ยังต้องไปสนใจว่าพ่อแม่สามีจะมองเธอแบบไหนด้วยเหรอ?

หลังจากที่คนแก่ทั้งสองนั่งลงแล้ว คุณหญิงย่าได้เหลือบตาไปมองญาณิน สีหน้าดิ่งลงเล็กน้อย

ตาบอดหรือยังไง?

แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่รู้จักทักทาย!

การสั่งสอนอบรมทางบ้านของตระกูลธวัชพลังกรใช้ไม่ได้จริงๆ ลูกสาวที่สอนออกมาถึงทำการใหญ่ไม่ได้

คุณหญิงย่าไม่พอใจการสั่งสอนอบรมทางบ้านของลูกสะใภ้ ถ้าหากพ่อของลูกสะใภ้ยังอยู่ เธอต้องไปฟ้องเขาแน่นแน

ปีหน้าวันสารทจีน เธอต้องไปหน้าสุสานของพ่อตาลูกชาย ฟ้องเขาให้ได้

เมื่อนึกถึงตระกูลธวัชพลังกรวันนี้มีแค่ธนัทคนเดียวที่ยังประคับประคองตระกูลอยู่ แต่ความจริงแล้วตระกูลธวัชพลังกรพึ่งพาการดูแลของตระกูลสาระทา ทำให้คุณหญิงย่ายิ่งไม่ชอบญาณิน แต่เนื่องจากเทวิกาอยู่ด้วย คุณหญิงย่าเลยไม่อาละวาดใส่ญาณิน “เรื่องของอาสามกับป้าสะใภ้ พ่อหนูรู้เรื่องแล้วหรือยัง?”

จู่ๆ คุณหญิงย่าก็ถามเทวิกาออกมา

“พ่อหนูเหนื่อยมาก ช่วงพักกลางวัน หลับไปนานมาก หลังจากที่พ่อตื่น อาสามกับป้าสะใภ้ได้ถูกหนูไล่ออกไปข้างนอกแล้ว คิดว่าน่าจะไม่รู้”

เทวิกาไม่ได้เล่าเรื่องที่คุณพ่อยืนดูหนังตั้งนานออกมา

แต่เธอกลับฟ้องคุณปู่คุณย่าขึ้นมาว่า: “คุณปู่ คุณย่า อาสามทำเกินไปจริงๆ เขากับป้าสะใภ้ยังไม่ได้หย่ากันเลย ก็พาชู้รักเข้าบ้านอย่างเปิดเผย ยั่วยุป้าสะใภ้ไม่พอ แถมวิ่งมาบ้านใหญ่ของเราอาละวาดอีก และลงมือตบตีกันอีกด้วย”

“คิดว่าที่นี่ของเราเป็นอะไรเหรอ?ตลาดเหรอ?เป็นสถานที่ที่พวกเขาทะเลาะวิวาทกันเหรอ?พ่อหนูที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแม้แต่ที่พักก็ไม่ได้รับความสงบ แล้วจะมีความน่าเกรงขามของหัวหน้าครอบครัวได้ยังไง?”

“ปรกติพ่อหนูก็รักลุงทั้งสองคนมาก จะไปตำหนิ่ลุงทั้งสองก็ไม่ถูก คุณย่า คุณย่ากับคุณปู่ที่เป็นพ่อแม่ อบรมสั่งสอนได้ไม่ดี เป็นความผิดของพ่อ นั่นเป็นความรับผิดชอบของพวกท่าน ต้องไปตักเตือนพวกอาสามหน่อย ต่อไปอย่ามาทะเลาะวิวาทกันที่บ้านหนูเด็ดขาด”

“และคุณพลอยนั่นอีกคน เป็นชู้ ยังกล้าเข้ามาในบ้านไม่เกรงกลัวใคร ถ้าคนที่ไม่รู้อาจคิดว่าเธอคือฮองเฮาเลยก็ได้ แต่เธอคือชู้ หน้าด้านไร้ยังอาย!”

คุณหญิงย่า:……

เมื่อกี้เธอด่าญาณินในใจว่าพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปอบรมสั่งสอนลูกได้ไม่ดี แต่ตอนนี้หลานสาวกลับประชดเธอกับสามีต่อหน้าว่าอบรมสั่งสอนลูกๆ ได้ไม่ดี

“อาสามของหนูทำเกินไปจริงๆ เดี๋ยวปู่จะเรียกเขามาด่าสั่งสอน”

คุณปู่แสดงท่าทีออกมา

คุณหญิงย่าพูดขึ้นมาเหมือนกันว่า: “เรียกอาสะใภ้สามของหนูมาด้วย อยู่ด้วยกันได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็หย่า ทะเลาะกันแบบนี้ทุกวัน ใช้ได้ที่ไหน?”

ทั้งสองคนต่างคิดกันในใจว่าหลานสาวคนนี้เหมือนจิ้งจอกที่คลุมหนังอ่อนแอไว้ภายนอกเท่านั้น

นี่เมื่อฟ้องร้องขึ้นมา พวกเขาต้านทานไม่ไหวจริงๆ

“ญาณิน ตอนที่พวกเขาทะเลาะวิวาทกันเสียงดังที่นี่นั้น เธอเป็นคุณผู้หญิงของที่นี่ และเป็นภรรยาของหัวหน้าครอบครัว ทำไมถึงไม่ออกหน้ามาจัดการ?เธอให้วิกาออกหน้า ก็หมายความว่าให้วิกาไปผิดใจกับอาสามและอาสะใภ้สามของเธอ เพราะไม่ว่ายังไง พวกเขาก็เป็นผู้ใหญ่ของวิกา”

คุณหญิงย่าไม่พอใจ จะเอาอารมณ์ไปลงที่ญาณิน

“คุณย่า ตอนนั้นแม่หนูยังพักผ่อนอยู่เลย หนูไม่กลัวที่จะผิดใจกับอาสาม ใครกล้าทำให้แม่หนูไม่ได้รับความสงบ หนูก็จะไม่ให้ครอบครัวเขาได้รับความสงบเด็ดขาด!”

คุณหญิงย่า:……

หลานสาวที่ปกป้องแม่ขนาดนี้ เธอยังสามารถดึงมาเป็นพวกเดียวกันกับเธอได้ไหม?

การกลับมาของเทวิกา กลัวว่าจะทำให้ตระกูลสาระทาเกิดความโกลาหลอลหม่านมากแน่นอน

เนื่องจากเทวิกามาฟ้องร้อง ตอนกินข้าว คนแก่ทั้งสองกินข้าวไม่ค่อยลงเท่าไหร่

แต่เทวิกาและคนอื่นๆ กลับกินอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนคุณหญิงย่ากลับกลัดกลุ้มใจมาก

หลังจากพวกเขากลับไปแล้ว เทวิกาผ่อนคลายลงทันที และพูดเสียงเบาออกมากับสามีว่า: “ถอดหน้ากากออกได้ชั่วคราวแล้ว”

เงียบไปสักพัก เธอได้ถามยศพัฒน์เสียงเบาออกมาว่า: “ที่รัก คุณรู้สึกไหมว่าฉันยิ่งอยู่ยิ่งร้าย”

“ผมเองก็ไม่ใช่คนดี คุณร้ายขึ้น พวกเราก็ยิ่งเหมาะสมกัน เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก”

เทวิกาถูกคำพูดหวานๆ ของเขาหยอกล้อจนหัวเราะฮิๆ ออกมา

ไม่มีใครร้ายตั้งแต่กำเนิด

แต่เป็นเพราะถูกสภาพแวดล้อมบีบบังคับ ถูกบีบจนไม่มีทางเลือกต่างหาก

ถ้าไม่ใช่เพราะคนของตระกูลสาระทาทำเกินไป มีหรือที่เทวิกาจะทำแบบนี้?

คุณสามีพันล้าน

คุณสามีพันล้าน

Status: Ongoing
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้านเป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?เทวิกาถูกบังคับแต่งงานซ้ำๆจนบ้านก็ไม่กล้ากลับ เพื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบ เช่าพี่ชายเพื่อนอย่างยศพัฒน์มาเป็นสามี นึกว่าเค้านั้นจะเป็นแค่ผู้ชายที่เกิดในครอบครัวธรรมดาๆ ใครจะรู้ว่าครอบครัวเค้าเป็นตระกูลร่ำรวยเชียว ……พันธะสัญญาของเทวิกาเป็นโมฆะ ยศพัฒน์:คุณภรรยา อย่างอแงสิครับ เด็กดี กลับบ้านกลับสามีเถอะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน