รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 545 คู่สามีภรรยาหลังแต่งงานใหม่
เป็นความผิดพลาดที่นฤเบศวร์สามารถจดจำและป้องกันได้ตลอดชีวิต
ครั้งก่อนที่ทั้งสามคนไปโฮสต์คลับ พวกเธอไม่ได้แตะต้องแม้แต่เท้าของชายในโฮสต์คลับเลยด้วยซ้ำ
“คุณปู่พูดถูก ฉันจะขับรถที่เบศวร์ให้หนูไปกลับจากที่ทำงาน”
เมื่อเห็นว่ากนกอรยอมรับรถที่หลานชายของเขามอบให้ คุณปู่เร็นดูพอใจมากและเข้าไปในรถโดยมีลูกชายและหลานชายคอยพยุง
ชายชราตบหลังมือของนฤเบศวร์
ปู่และหลานชายสบตากัน
เป็นความหมายเฉพาะที่พวกเขาเข้าใจ
หลังจากที่คนของตระกูลเดชอุปจากไป นฤเบศวร์ก็พูดกับพ่อตาแม่ยายว่า: “พ่อครับ แม่ครับ ผมต้องการพาอรไปที่วิลล่าภายใต้ชื่อของผมเพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม นั่นคือที่ที่ผมมักจะอาศัยอยู่ ซึ่งหลังจากแต่งงานเราอาจจะอยู่ที่นั่นด้วย”
“ให้อรดูว่าเธอต้องตกแต่งใหม่ไหม และเธอชอบสไตล์ไหน”
วิลล่าที่เขาอาศัยอยู่นั้นตกแต่งหรูหรามาก แต่ก็เป็นสไตล์ที่เขาชอบเท่านั้น เขากังวลว่าภรรยาของเขาจะไม่ชอบ ดังนั้นให้กนกอรไปดูและถ้าเธอไม่ชอบเขาจะรีโนเวทใหม่ และทำให้เป็นบ้านหลังเล็กๆสำหรับคู่รักที่จะใช้ชีวิตกัน
ส่วนคฤหาสน์ ห้องแต่งงานของเขาจะรีโนเวทใหม่อย่างแน่นอน ซึ่งเขาไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย เพราะผู้ใหญ่ในบ้านจะช่วยเขาจัดการเอง
เขาแค่รอวันแต่งงานและเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุดของกนกอร
“ไปเถอะ”
พ่อตาและแม่ยายเข้าใจดี รู้ว่าหนุ่มสาวทั้งคู่ต้องการใช้เวลาตามลำพัง
พี่กอล์ฟทำหน้ามุ่ย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้ทั้งสองได้กลายเป็นคู่สามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายและยังเต็มใจกันและกัน ในฐานะพี่ชายคนโตเขาจะพูดอะไรได้อีกนอกจากคำอวยพร และพยายามปรับปรุงฐานะของครอบครัวให้สูงขึ้น เพื่อให้น้องสาวของเขามีความมั่นใจในครอบครัวสามีมากยิ่งขึ้น
การพยายามของชเนนทร์ ก็เพราะกังวลว่ากนกอรจะถูกรังแกหลังจากแต่งงานเข้าครอบครัวของสามี และทางครอบครัวของตัวเองก็ไม่เข้มแข็งพอ
แน่นอนว่าตอนนี้เทวิกาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลสาระทา จึงไม่มีใครกล้ารังแกเธอ แต่ถึงแม้เธอจะไม่มีอะไรเลย ตระกูลอริยชัยกุลก็ยังคงปฏิบัติดีต่อเธอเหมือนเดิม
ตราบใดที่ยศพัฒน์รักเธอ ตระกูลอริยชัยกุลจะเปรียบเธอเป็นเหมือนสมบัติ
Finnix Villaอยู่ไม่ไกลจากคอนโดกรีนทาวน์ และที่นฤเบศวร์ไปตั้งบ้านที่นั่นก็เพราะFinnix Villaเป็นย่านวิลล่าระดับไฮเอนด์ที่สร้างโดยRA กรุ๊ป และประการที่สองคืออยู่ไม่ไกลจากคอนโดกรีนทาวน์ ซึ่งยศพัฒน์มีบ้านอยู่ที่คอนโดกรีนทาวน์
คู่แข่งตัวฉกาจก็ต้องอยู่ใกล้ๆกันสิ
เป็นการสะดวกที่จะรู้การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายและยังสามารถโอ้อวดได้อีกด้วย
คอนโดกรีนทาวน์ก็มีวิลล่าอยู่หลายหลัง แต่ในแง่ของระดับไฮเอนด์ Finnix Villaนั้นล้ำหน้ากว่าเล็กน้อย
ด้วยความคิดนี้เอง นฤเบศวร์จึงสร้างบ้านหลังเล็กๆขึ้นในFinnix Villa
ถึงจะบอกว่าเป็นบ้านหลังเล็กๆ แต่วิลล่าที่เขาอาศัยอยู่นั้นเป็นวิลล่าที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณวิลล่านั้นและมีฮวงจุ้ยดีที่สุด มีสวนหน้าบ้าน หลังบ้าน สระว่ายน้ำทั้งในร่มและกลางแจ้ง และสนามกีฬาต่างๆ ซึ่งสภาพแวดล้อมไม่ด้อยกว่าคฤหาสน์ของตระกูลเดชอุปเลย
นฤเบศวร์เป็นคนที่รักสุกสบายนิ
รถจอดอยู่ที่ทางเข้าวิลล่า เพื่อรอให้คนออกมาเปิดประตู กนกอรมองออกไปข้างนอกรู้สึกคุ้นเคยมาก เธอถามผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอว่า: “นฤเบศวร์ ฉันเคยมาที่นี่มาก่อนใช่ไหม”
“เธอยังเรียกฉันว่านฤเบศวร์อยู่อีกเหรอ ที่รัก เธอต้องเปลี่ยนวิธีเรียกฉันแล้ว เรียกฉันว่าที่รัก ฉันชอบได้ยินเธอเรียกฉันว่าที่รัก”
“แบตบอส”
นฤเบศวร์: “……”
“ฉันเคยมาที่นี่จริงๆด้วย ฉันจำได้แล้ว ตอนนั้นนายเมามาก ไม่รู้เป็นอะไร มานอนหน้าบ้านฉัน ฉันตกใจมาก คิดว่าเป็นคนตายซะอีก ใครจะไปรู้ว่าคนที่นอนจะเป็นไอ้ขี้เมาอย่างนาย ฉันราดน้ำเย็นใส่นาย จากนั้นนายก็เป็นหวัด และให้พ่อบ้านพาบอดี้การ์ดมา ‘เชิญ’ ฉันไปดูแลนาย”
“และอยู่ที่วิลล่านี้แหละ นายแกล้งตายทำให้ฉันตกใจ ตอนนั้นฉันตกใจมาก ตกใจจนลืมโทรเบอร์ฉุกเฉินด้วยซ้ำ แบตบอส นายมันแย่จริงๆ ฉันช่วยนายตั้งชื่อว่าแบตบอส ไม่เกินไปเลยจริงๆ”
นฤเบศวร์: “……ฉันแค่แย่นิดหน่อย แต่ต่อเธอ ฉันไม่เคยแย่จนถึงที่สุดเลย”
เขาไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่ใช่คนเลวทรามเช่นกัน
ตอนพบกันครั้งแรก ความบาดหมางระหว่างเขากับกนกอรหากเป็นคนอื่น อาจเอากนกอรถึงตายได้เลย
แต่เขาไม่ได้ทำ
โชคดีที่เขาไม่ได้ลงโทษกนกอรมากเกินไป มิฉะนั้นเวลาไล่จีบภรรยาของเขาจะยาวนานขึ้นแน่
กนกอรนึกถึงสิ่งเล็กๆระหว่างพวกเขาและต้องยอมรับว่า: “นายเป็นคนไม่ดีที่มีมโนธรรม”
“ตอนนี้ฉันกลับตัวกลับใจแล้ว และดีมาก ฉันเปลี่ยนเพื่อเธอเลย”
ประโยคสุดท้ายเหมือนน้ำผึ้งที่เทลงในหัวใจของกนกอร
เธอเอื้อมมือไปตบไหล่เขา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ใช่ ตอนนี้นายดีมากแล้ว ฉันจะไม่ปฏิบัติต่อนายอย่างเลวร้าย และจะทำให้นายรู้สึกว่าการกลับตัวกลับใจของนายนั้นคุ้มค่า”
พ่อบ้านปริญออกมาเปิดประตูด้วยตนเอง
นฤเบศวร์ขับรถเข้าไปในวิลล่าและขับถึงประตูบ้านหลักค่อยหยุดรถ
พ่อบ้านปริญรีบวิ่งต๊อกแต๊กตามเข้ามา
“คุณชาย คุณหญิง”
พ่อบ้านปริญยิ้มจนตาของเขาหรี่เป็นเส้นตรง
เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าหญิงสาวที่เขาบังคับพากลับมาจากร้านกาแฟจะกลายเป็นคุณหญิงของพวกเขา
หลังจากรู้ว่าคุณชายและคุณหญิงแต่งงานใหม่กัน พ่อบ้านปริญย้องคิดถึงท่าทีที่เข้าปฎิบัติต่อคุณหญิงในตอนนั้น เมื่อรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร เขาค่อยโล่งใจ
เขาค่อนข้างกลัวว่าคุณหญิงจะสะสางบัญชีภายหลัง
“ลุงปริญ”
หลังจากที่กนกอรลงจากรถ เธอก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
พ่อบ้านปริญยิ้มอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น และรู้สึกปลื้มใจเล็กน้อย “คุณหญิง เรียกฉันว่าปริญก็พอครับ”
“คุณหญิง เชิญด้านในเลยครับ”
ลุงปริญเชิญกนกอรเข้าไปในบ้าน
กนกอรยิ้มและพูดว่า: “คุณชายของพวกคุณยังอยากอยู่ในรถนะ”
นฤเบศวร์: “……”
เขาแค่ลงช้านิดหน่อย ไม่ได้อยากอยู่สักหน่อย ปากของภรรยาเขาก็เหมือนปากหมาคายงาช้างออกมาไม่ได้เลย
ทว่าจริงอยู่ที่ปากหมาคายงาช้างออกมาไม่ได้
เขาลงจากรถ เดินไปที่ด้านข้างของกนกอร จับมือข้างหนึ่งของกนกอรวางไว้บนแขนของเขา ให้กนกอรควงแขนของเขา และพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่าว่า: “ลุงปริญ คุณหญิงของลุงแค่อยากควงแขนฉันเข้าไปด้วยกัน”
กนกอรหัวเราะและลุงปริญยิ้มปากกว้าง
ตอนนี้คุณชายดูมีความสุขไปทั่วร่าง
นี่คือผลลัพธ์ของคนที่ห่วงใยคุณชายต้องการจะเห็น
จริงๆด้วยที่เมื่อออกห่างจากคุณเปรมาแล้ว คุณชายของพวกเขาก็ราวกับมีชีวิตใหม่
คนที่ช่วยชีวิตนายน้อยคือคุณหญิง
ไม่น่าแปลกใจที่นายท่านถึงให้ความสำคัญกับคุณหญิง และได้ออกคำสั่งให้ทุกคนตามใจนายหญิงให้สุดขั้ว!
ลุงปริญคิดในใจ คุณชายเป็นคนประเภทหลงใหลและรักภรรยามาก มีคุณชายที่คอยเอาอกเอาใจคุณหญิง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม นายท่านออกคำสั่งมา พวกเขาก็ต้องเคารพคุณหญิงเป็นธรรมดา
กนกอรตอบสนองความปรารถนาของนฤเบศวร์ที่ต้องการอวดความรัก ควงแขนของเขา เอนศีรษะลงบนไหล่ของเขา และพูดอย่างเสน่หาว่า: “ที่รักคะ เข้าบ้านกันเถอะ”
การเรียก “ที่รัก” ทำให้นฤเบศวร์รู้สึกสบายใจไปทั่ร่าง
เขาพาภรรยาเข้าไปในห้องโถงที่สวยงามอย่างมีความสุข
สำหรับกนกอรแล้วนี่คือการเยี่ยมชมสถานที่เก่า
ตอนเธอถูกบังคับให้มาที่นี่ ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเธอจะมาเป็นคุณหญิงของที่นี่