รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 548 เปรมาเป็นเหมือนคนปลูกต้นไม้ ส่วนกนกอรเป็นคนใช้ร่มเงา
ปัจจุบันถึงเขาจะลงจากตำแหน่งประธานRA กรุ๊ป เขาก็ไม่อดตาย และสามารถเป็นเจ้าของที่ที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
“หลังจากยศพัฒน์เข้าบริหารบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป เขาก็ชอบลงทุนหรือเข้าซื้อบริษัทอื่นๆ ทว่าทรัพย์สินแต่แรกของเขา ก็เป็นที่น่าประทับใจคนอยู่แล้ว เพราะยังไงตอนนั้นพวกเราก็ยังเป็นวัยรุ่นกันอยู่เลย
หลังจากที่นฤเบศวร์พูดจบ เขาก็ถอนหายใจ: “ปู่ของฉันมักพูดเสมอว่าฉันเทียบกับเขาไม่ได้เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันจะไม่ยอมแพ้แน่ แต่ตอนนี้พอคิดๆดูแล้ว ฉันเทียบไม่ติดกับเขาจริงๆ”
เพราะตอนเขาอายุสิบกว่าปี เขาซื้อตามยศพัฒน์ก็จริง ทว่าบางครั้งก็เพื่อเอาใจเปรมา
ปู่ก็เคยบอกว่าสักวันหนึ่งเปรมาจะทำลายชีวิตเขา
เขายังเคยทะเลาะกับปู่เลย
กนกอรมองมาที่เขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เป็นเรื่องยากที่นายจะยอมรับว่านายเทียบคุณพัฒน์ไม่ติด นี่ก็คือความก้าวหน้าของนาย”
“อันที่จริงนายก็ยอดเยี่ยม ในเมืองแอคเซสซ์นายและคุณพัฒน์ถือเป็นประธานบริษัทที่อายุน้อยที่สุด เป็นหนุ่มหล่อที่ยอดเยี่ยม เมื่อก่อนพวกนายสองคนเป็นคนที่สูงส่งจนฉันยื่นคอจนเมื่อยก็ยากที่จะเอื้อมถึง”
ไม่คิดไม่ฝันว่าเธอและวิกาจะสามารถได้หนุ่มหล่อที่ยอดเยี่ยมของเมื่องได้
เป็นนิทานเจ้าชายและซินเดอเรลล่าในความเป็นจริง
วิกาไม่ใช่ซินเดอเรลล่า แต่เป็นเจ้าหญิงที่หลงอยู่ในสามัญชน ทว่าเธอต่างหากที่เป็นซินเดอเรลล่าของจริง
นฤเบศวร์หยุดเป่าผมเธอชั่วคราว ก้มตัวลงและพูดข้างๆหูของเธออย่างอ่อนโยนว่า: “ต่อไปนี้ฉันจะก้มหัวลง ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องยื่นคอจนเมื่อยหรอก”
ขณะที่เขาพูด เขาก็จูบใบหน้าของกนกอร
กนกอรหันกลับมา โอบกอดคอของเขาไว้แล้วจูบปากของเขา
หลังจากจูบกัน เสียงของกนกอรก็อ่อนโยน: “เบศวร์ ฉันรักนายมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันหวังว่าต่อไปนี้เราจะรักใกล้ชิดกันเหมือนทุกวันนี้ ไว้วางใจและเข้าใจซึ่งกันและกัน”
นฤเบศวร์สัญญาว่า: “แน่นอนอยู่แล้ว เราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มีลูกมีหลานเต็มบ้านเต็มเมือง”
เขาช่วยเธอเป่าผมใหม่จนผมแห้ง แล้วช่วยเธอมัดผมอย่างชำนาญ
ดูจากฝีมือความชำนาญของเขา กนกอรรู้ทันทีว่าเขาเคยมัดผมให้เปรมาบ่อยครั้ง ไม่อย่างงั้นคงไม่มีฝีมือชำนาญแบบนี้หรอก
เธอไม่ได้หึงหรอกนะ
แต่ยังอยากขอบคุณเปรมาที่ฝึกนฤเบศวร์ให้มีน้ำใจและดูแลเอาใจใส่ผู้หญิง เพราะสุดท้ายก็เป็นเธอกนกอรที่เสวยสุข
เปรมาเป็นคนปลูกต้นไม้ ส่วนกนกอรเป็นคนใช้ร่มเงา แล้วทำไมเธอต้องไปอิจฉาเปรมาด้วยล่ะ
เธอเป็นผู้ชนะ!
ไม่ไปจุกจิกกับผ่ายแพ้หรอก
ชั้นล่างได้เตรียมอาหารกลางวันมากมายให้เรียบร้อยแล้ว กนกอรนั่งลงที่โต๊ะและเห็นว่าบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศที่เธอชอบ
อันที่จริงเธอไม่เลือกกินเลย เธอกินอะไรก็ได้ แต่ก็มีอาหารที่เธอชอบกินเป็นพิเศษเช่นกัน
จำนวนครั้งที่เธอกินข้าวกับนฤเบศวร์นั้นมีไม่มาก และส่วนใหญ่พวกเขาจะสั่งเดลิเวอรี่กัน ซึ่งเขาสามารถรู้อาหารที่เธอชอบได้นั้น เขาต้องสืบมาอย่างดีแน่เลย
“เมื่อคืนนี้ฉันคิดจะลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าสุดที่รักให้กับนาย มันเป็นอาหารมื้อแรกที่ฉันอยากทำให้สามีในฐานะภรรยา ใครจะรู้ว่าฉันจะนอนจนถึงตอนนี้ ไว้คราวหน้าฉันจะทำให้กินล่ะกัน ฉันก็เก่งนะ”
กนกอรชมตัวเอง
นฤเบศวร์ยิ้ม “ทำไมฉันจำได้ว่าตอนนั้นที่ฉันชวนเธอมาดูแลฉัน และให้เธอทำอาหารให้ฉัน แต่เธอกลับบอกว่าทักษะการทำอาหารของเธอไม่ค่อยดีนัก”
“ยังไงก็กินแล้วไม่ตายหรอก เว้นแต่นายจะคิดว่าอาหารที่ฉันทำแย่มาก แล้วฉันจะไม่ทำอีก นายคิดว่าอาหารที่ฉันทำแย่มากไหม”
นฤเบศวร์เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะอยู่รอด: “ไม่แย่เลย ไม่แย่เลย มันอร่อยมาก!“
ต่อไปนี้ถ้าเธอจะทำอาหาร เขาก็จะไปแย่งงานเธอ ปล่อยให้เธอคอยดูอยู่ห่างๆแล้วเขาเป็นคนทำ
พ่อบ้านเฝ้าดูคู่หนุ่มสาวโต้ตอบด้วยรอยยิ้มทั่วใบหน้า
คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวไม่ต้องการมีคนคอยรับใช้ และในไม่ช้าพ่อบ้านก็ออกจากห้องอาหารเพราะไม่อยากเป็นกขค.
หลังมื้ออาหาร ทั้งคู่จับมือกันและเดินเล่นย่อยอาหารในสวน
ไม่ว่าจะเป็นสวนหน้าบ้านหรือสวนหลังบ้านก็จัดตกแต่งมาอย่างดี มีน้ำพุและทางคดเคี้ยวราวสไตล์สวนป่า
ทางเดินในสวนหลังบ้านคดเคี้ยวมาก แต่เมื่อผ่านสวนหลังบ้านไม่ว่าจะมีแดดหรือมีฝนก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการชมวิว
กนกอรเดินอยู่ใต้ทางเดินที่คดเคี้ยว และถามชายที่อยู่ข้างๆว่า: “นายเลียนแบบทิวทัศน์บางส่วนของคฤหัสน์เมเปิลใช่ไหม มันคล้ายกันมาก”
“ไม่ใช่แค่คฤหัสน์เมเปิลเท่านั้นที่มีทิวทัศน์แบบนี้ คฤหัสน์เมเปิลยังไม่ใช่รูปแบบสไตล์สวนป่า บรรพบุรุษของบรรพบุรุษพวกเขาเป็นลูกสาวของเศรษฐี จึงอยู่คุ้นชินกับสวนป่า”
นฤเบศวร์ไม่อยากยอมรับว่าเขาเลียนแบบส่วนหนึ่งของทิวทัศน์คฤหัสน์เมเปิล เป็นเพราะเปรมาชอบคฤหัสน์เมเปิล แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถอาศัยอยู่ในคฤหัสน์เมเปิลได้
เดิมทีวิลล่าหลังนี้ตั้งใจให้เป็นบ้านในอนาคตของเขาและเปรมา ทิวทัศน์หลายอย่างจึงเลียนแบบมาจากคฤหัสน์เมเปิล
“คฤหัสน์เมเปิลดีมากจริงๆ และฉันก็ชอบมันมาก ตอนตกแต่งทิวทัศน์ของสวนจึงเลียนแบบคฤหัสน์เมเปิลโดยไม่รู้ตัว”
กนกอรยิ้มและพูดว่า: “ยอมรับเถอะ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะยอมรับ ใครก็ตามที่เคยไปคฤหัสน์เมเปิลต่างก็ชอบคฤหัสน์เมเปิลกัน ซึ่งคนที่มีเงินต่างก็อยากจะเลียนแบบคฤหัสน์เมเปิล แต่ฉันไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอก ไม่อย่างงั้นฉันก็อยากสร้างสวนที่เหมือนกับคฤหัสน์เมเปิลเหมือนกัน”
ครั้งนี้นฤเบศวร์ไม่ได้บอกว่าจะสร้างสวนให้เธอ
คฤหัสน์เมเปิลได้รับการสร้างและปรับปรุงใหม่โดยตระกูลอริยชัยกุลมาหลายชั่วอายุคน จึงจะมีรูปลักษณ์ในแบบปัจจุบันนี้ ดังนั้นทรัพยากรและเวลาที่ใช้นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะรับไหว
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้น้อยมากที่จะมีที่ดินและเนินเขาขนาดใหญ่ให้ซื้อได้
บางครั้งมีเงินก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง
“ฉันได้ยินมาว่าตระกูลสาระทาก็เป็นคฤหาสน์ ไม่รู้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคฤหัสน์เมเปิลแล้วจะเป็นอย่างไร”
กนกอรหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและเปิดดูสตอรี่ แต่เพื่อนสนิทของเธอไม่ได้โพสต์อะไรเลย เทวิกาไม่ได้โพสต์ทิวทัศน์และแผนผังของคฤหาสน์สาระทาในสตอรี่เลย”
“ฉันไม่รู้ว่าวิกาเป็นอย่างไรบ้างในคฤหาสน์สาระทา ถามเธอ เธอมักจะบอกข่าวดีเสมอ เบศวร์ หลังจากสองอาทิตย์หน้าเราไปเมืองซูเพร่ากันเถอะ ฉันคิดถึงวิกาจะแย่อยู่แล้ว”
นฤเบศวร์ไม่หยุดฝีเท้า เขาจูงเธอไปข้างหน้าและพูดว่า: “ที่รัก ถ้าเธอทำให้ฉันมีความสุขได้ ฉันสัญญาว่าวันหยุดสุดสัปดาห์จะพาเธอไปเมืองซูเพร่า”
กนกอร: “……”
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ดึงมือออกจากเขา แล้วควงแขนของเขาอย่างเสน่หาและเย้ายวนว่า: “ที่รัก เค้าอยากไปเมืองซูเพร่า พาเค้าไปหน่อยสิ”
นฤเบศวร์สะดุดไปที ตามด้วยร่างกายของเขาสั่นสะเทือน
กนกอรหน้ามืดทันที
เธอแอ็บเสียงไม่ดีพอเหรอ?
นฤเบศวร์รีบถอยหลังไปสองสามก้าว ยกมือทำท่าขอร้องต่อกนกอร และยิ้มอย่างน่ารักว่า: “อร ขอร้องเธออย่าแอ็บเสียงอ้อนเลย ทำเอาฉันขนลุกไปหมด”
กนกอรเตะเท้าไปทีหนึ่ง
“ฮ่าๆๆ! ฉันชอบเธอแบบนี้มากกว่า อย่าแอ็บเสียงอ้อนอีกเลยนะ ฉันตกลงกับเธอก็ได้ ที่จริง แค่เธอเรียกฉันว่าที่รัก ฉันก็สบายไปทั้งตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องแอ็บเสียงอ้อนเลย มันน่าขนลุกมาก”
เมื่อเขาพูดจบ กนกอรก็เตะเขาอีกครั้ง
ไอ้สารเลวนี่ อ่อนโยนกับเขาไม่ได้เลยจริงๆ!