คุณสามีพันล้าน – บทที่ 562 แปลกประหลาด

คุณสามีพันล้าน - บทที่ 562 แปลกประหลาด

รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 562 แปลกประหลาด

ไซม่อนถูกคำพูดนั้นยั่วยุจนโกรธมาก ทำให้พูดอะไรไม่ออกเป็นเวลานาน: “เลี้ยงหมาเวลาเห็นฉันยังรู้จักกระดิกหางให้ เลี้ยงลูกชายมีแต่ยั่วโมโหฉันให้กระอักเลือดตาย เป็นเพราะฉันไม่มีลูกชายคนที่สอง ไม่งั้นเปลี่ยนแกไปนานแล้ว ไม่ให้แกมาทำตัวจองหองแบบนี้หรอก!”

คำพูดนี้เขาพูดให้พสธรฟัง

พสธรรีบปลอบใจเขาขึ้นมาว่า: “ไซม่อน คุณอย่าโกรธไปเลย ลูกชายของคุณถึงแม้จะยั่วโมโหคุณจนอยากกระอักเลือดตาย แต่อย่างน้อยก็ยังแบ่งเบาเรื่องในบริษัทให้คุณได้บ้าง ลูกชายผมสิวันๆ เอาแต่เที่ยวๆ กินๆ ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ผมคาดหวังอะไรกับเขาไม่ได้เลย”

“มีแต่คนเขาพูดกันว่าเลี้ยงลูกไว้พึ่งพายามแก่ ผมเลี้ยงลูกเหมือนเลี้ยงบรรพบุรุษไว้ สักวันหนึ่ง ถ้าผมล้มป่วย ไม่แน่ลูกชายผมอาจถอดสายออกซิเจนผมออกก็ได้ พึ่งพายามแก่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”

“ใช่เลย ตอนนี้เลี้ยงลูกเหมือนเลี้ยงบรรพบุรุษ อย่าไปคาดหวังว่าจะพึ่งพาได้ตอนแก่ ไม่มายั่วโมโหจนทำให้กระอักเลือดตายก็ถือว่าดีมากแล้ว”

คุณพ่อทั้งสองกำลังบ่นลูกชายของกันและกันอยู่

พสธรรู้สึกว่าลูกชายและลูกสาวของไซม่อนดีกว่าลูกชายและลูกสาวของเขาเยอะเลย

ไม่พูดถึงประยสย์ พูดถึงเทวิกาที่เพิ่งกลับมาก็พอ เทวิกาได้แต่งงานกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองแอคเซสซ์และกลายเป็นคุณหญิงไปแล้ว แล้วลูกสาวเขาหล่ะ?ตอนนี้ไซม่อนไม่ทางแต่งงานกับลูกสาวของเขาอีกเป็นอันขาด ให้ลูกสาวแต่งงานกับชลเหรอ อย่าว่าแต่ลูกสาวเขาไม่ยอมเลย แม้แต่เขาก็ไม่ยินยอมเลย

ลูกสาวเขาที่ยังสาวยังสวยถูกไอ้แก่ชลรังแก พสธรอยากหั่นชลให้ละเอียดเป็นชิ้นๆ แต่ที่ทำให้เขาโกรธยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นความผิดของลูกสาว และข่าวก็กระจายไปทั่วจนทุกคนรู้กันหมด ทำให้เขาที่อยากฆ่าชลให้ตายก็ไม่สามารถทำได้

หลังจากที่ประยสน์กลับไปถึงออฟฟิศรองประธานห้องทำงานของเขาแล้ว ก็ได้รับผลสรุปที่ไปตรวจสอบเด็กคนนั้นจากลูกน้องของเขา

“ไม่ใช่คนเมืองซูเพร่า?ตรวจสอบอะไรไม่เจอเลย?”

หลังจากที่ประยสย์ได้รับผลตรวจสอบมาแล้ว หัวสมองว่างเปล่าไปหมด จนทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน

เด็กน้อยที่ยังเดินไม่ได้ ไม่สามารถโผล่ออกมาจากอากาศและปรากฏตัวอยู่บนถนนที่เข้าออกเพียงเส้นทางเดียวของตระกูลสาระทาได้ เป็นไปไม่ได้ที่ตรวจสอบอะไรไม่เจอหรือร่องรอยถูกคนเจตนาลบทิ้ง?

“ถ้าฝั่งของพสธรมีความเคลื่อนไหวอะไรไหม?”

ประยสย์สงสัยว่าเรื่องนี้พสธรเป็นคนทำ

ลูกน้องตอบออกมาว่า: “ตามรูปถ่ายที่คุณชายให้มา ผลสรุปที่ตรวจสอบมาได้คือทางฝั่งของตระกูลเลิศธนโยธา ก็ไม่เคยเห็นหน้าเด็กคนนี้มาก่อนเช่นกัน”

“เมืองซูเพร่าตรวจสอบไม่เจอ ก็ขยายวงกว้างไปตรวจสอบที่อื่นดู เรื่องนี้แฝงไปด้วยความแปลกประหลาดหลายอย่าง ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนให้ได้”

ลูกน้องตอบรับออกมาอย่างเคารพ

นั่งลงบนเก้าอี้หมุนสีดำ ประยสย์จ้องมองผลสรุปที่ว่างเปล่าได้สักพัก ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้องสาว หลังจากเทวิการับโทรศัพท์ขึ้นมาแล้ว เขาพูดขอโทษน้องสาวออกมาว่า: “วิกา พี่ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ตรวจสอบไม่เจอว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของบ้านไหน พี่ให้ลูกน้องไปตรวจสอบดูแล้ว ตรวจสอบอะไรไม่เจอเลย ”

“เด็กคนนั้นปรากฏตัวอยู่บนถนนได้ยังไง?บนถนนไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเหรอ?ลองตรวจสอบกล้องวงจรปิดถนนเส้นนั้นดู”

เทวิกาพูดแนะนำพี่ชายออกมา

“เดี๋ยวพี่จะให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดถนนเส้นนั้นดู”

ถนนเส้นนั้นเป็นทางผ่านเข้าไปคฤหาสน์ของตระกูลสาระทา และเป็นถนนที่ตระกูลสาระทาเป็นคนออกเงินสร้างเอง ทุกระยะเส้นทางจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ ถ้าไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดคงตรวจเจออะไรบ้าง อย่างน้อยก็สามารถตรวจเจอว่าใครเป็นคนเอาเด็กไปทิ้ง

“วิกา เดี๋ยวให้คำตอบเธอ”

ประยสย์พูดคำนี้จบ ก็วางสายลง แล้วสั่งให้ลูกน้องไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดถนนเส้นนั้น

เมื่อไปตรวจสอบก็ตรวจสอบเจอจริงๆ

สิบนาทีก่อนที่รถของเทวิกาและพวกจะขับผ่าน มีรถสีดำที่ถอดป้ายทะเบียนออกแล้วจอดอยู่ข้างถนน ผ่านไปสักพักประตูรถถูกเปิดออก มีหญิงสาวคนหนึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง อุ้มเด็กลงมาจากรถอย่างยากลำบาก โดยหันหลังให้กล้องวงจรปิด แล้ววางเด็กไว้ข้างถนน

ผู้หญิงคนนั้นได้คุกเข่าลงต่อหน้าเด็ก ก้มคำนับสามครั้ง ถึงคลานขึ้นไปบนรถ แล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

ใช่แล้ว ตอนที่ผู้หญิงขึ้นรถนั้นใช้วิธีคลานขึ้นไป

ดูเหมือนเธอจะได้รับบาดเจ็บ และบาดเจ็บหนักอีกด้วย

ทิ้งเด็กน้อยอยู่ข้างทาง อาจไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ แต่เป็นเพราะหมดหนทางจริงๆ

เธออาจคิดว่า ทิ้งเด็กไว้ข้างถนน ถ้าเด็กโชคดี อาจมีคนเก็บไปเลี้ยง แต่ถ้าถูกรถชนตาย ก็ถือว่าเป็นโชคชะตาของเด็ก

ผู้หญิงคนนั้นคือแม่แท้ๆ ของเด็กหรือเปล่า?

แต่ถ้าเป็นแม่แท้ๆแล้วเลี้ยงเด็กไม่ไหว ก็สามารถส่งเด็กไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ทำไมต้องทิ้งไว้ข้างถนนด้วย แถมเป็นถนนที่คนของตระกูลสาระทาต้องขับผ่าน หรือเพราะอยากให้คนของตระกูลสาระทาเจอเด็ก แล้วรับเด็กไปเลี้ยงเหรอ?

ก่อนที่หญิงสาวจะขึ้นรถ ได้คุกเข่าก้มกราบเด็กอีกด้วย

ถ้าเป็นแม่แท้ๆของเด็ก เวลาทอดทิ้งเด็กก็จะรู้สึกหัวใจเหมือนโดนมีดกรีด อาลัยอาวรณ์ ไม่มีทางคุกเข่าก้มกราบเด็กเด็ดขาด

หรือว่า เป็นแม่นมของเด็ก?

เป็นเพราะรู้สึกผิดต่อเจ้านาย หลังจากทอดทิ้งเด็กแล้ว จึงคุกเข่าก้มกราบเด็กเพื่อขอขมา?

ประยสย์โทรศัพท์หาน้องสาว บอกสิ่งที่มองเห็นในกล้องวงจรปิดให้น้องสาวรู้ สุดท้าย ได้คำหนึ่งขึ้นมาว่า: “ในเมื่อเด็กน้อยถูกพวกเธอส่งไปที่สถานีตำรวจแล้ว ก็ไม่ต้องไปสนใจอีก ตำรวจจะช่วยเขาตามหาญาติเอง ถ้าหาไม่เจอ ก็จะส่งเขาไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เมืองซูเพร่าเอง”

เทวิกฟังจบเงียบไปสักพักใหญ่ ถึงได้พูดขึ้นว่า: “คงต้องเป็นแบบนี้แหละ”

ถ้าหาบ้านของเด็กไม่เจอ เด็กก็จะถูกส่งไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ต่อไปถ้าเจอคนใจดีจะรับเลี้ยงเด็กก็จะถูกรับไปเลี้ยง แต่ถ้าไม่เจอก็จะเติบโตที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า

หลังจากวางสายของพี่ชายแล้ว เทวิกามองดูโทรศัพท์ แล้วหันหน้าไปมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ไม่พูดอะไรเลยเป็นเวลานาน

ในเวลาเดียวกันในเขตชานเมือง รถสีดำไม่มีป้ายทะเบียนรถชนเข้ากับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถที่ไม่มีป้ายทะเบียนถูกชนกลายเป็นเศษเหล็ก รถพังและคนในรถก็เสียชีวิตด้วย

ไม่ถึงสองนาทีหลังจากรถไม่มีป้ายทะเบียนถูกชนยับ ก็มีรถเก๋งสีดำคล้ายกันหลายคันขับเข้ามาใกล้จากระยะไกล แล้วจอดลงฉุกเฉินตรงเกิดอุบัติเหตุ คนบนรถไม่ได้ลงมาดู แค่กดกระจกรถลงมา จ้องมองรถที่ถูกชนจนกลายเป็นเศษเหล็กคันนั้น รู้สึกว่าคนบนรถคงไม่รอดแล้ว พวกเขาถึงขับรถออกไป

มีแต่เพียงคนขับรถบรรทุกใหญ่ใบหน้าซีดเซียว โทรศัพท์แจ้งตำรวจด้วยมือที่สั่นเทา และในเวลาเดียวกันก็ได้โทรแจ้งเบอร์โทรฉุกเฉินเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าคนบนรถจะช่วยเหลือได้หรือไม่ เขาก็ต้องโทรแจ้งเบอร์โทรฉุกเฉิน

นี่เหมือนอุบัติเหตุรถชนทั่วไป ไม่มีข่าวรายงานออกมา จึงทำให้คนรู้เรื่องนี้น้อยมาก

เทวิกาเองก็ไม่รู้

หลังจากที่สองสามีภรรยาเอารถได้แล้ว ตอนแรกเพลนไว้จะพาคุณแม่คนสวยไปเดินช็อปปิ้ง แต่เนื่องจากเรื่องของเด็กคนนั้น ทำให้สองแม่ลูกไม่มีกะจิตกะใจไปเดินช็อปปิ้ง ดังนั้นพวกเขาจึงออกจากร้าน4Sแล้วขับรถกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลสาระทาเลย

เพิ่งกลับมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลสาระทา เสียงโทรศัพท์ของยศพัฒน์ก็ดังขึ้นมา เป็นโทรศัพท์มาจากสถานีตำรวจ

ทันทีที่รับโทรศัพท์ขึ้นมา ยศพัฒน์ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กน้อยขึ้นมาทันที เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน หรือว่าหลังจากที่พวกเขาออกไป เด็กขี้แยคนนั้นร้องไห้มาจนถึงตอนนี้เลยเหรอ?

สถานีตำรวจมีคนเยอะขนาดนั้นก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมเด็กขี้แยคนนี้ได้เลยเหรอ

ในโทรศัพท์ก็สามารถได้ยินเสียงกรีดร้องอย่าเอาเป็นเอาตายของเด็กขี้แย

“คุณพัฒน์ เด็กคนนี้เอาแต่ร้องไห้ ร้องหาแม่อย่างเดียว พวกเราทุกคนผลัดกันดูแลแล้ว วิธีอะไรก็ลองดูแล้ว แต่ก็ไม่สามารถกล่อมเขาได้ เขาร้องไห้ไม่หยุด ร้องแบบจะขาดใจแบบนั้น พวกเราไม่มีวิธีแล้วจริงๆ ถึงต้องติดต่อคุณ”

คุณสามีพันล้าน

คุณสามีพันล้าน

Status: Ongoing
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้านเป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?เทวิกาถูกบังคับแต่งงานซ้ำๆจนบ้านก็ไม่กล้ากลับ เพื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบ เช่าพี่ชายเพื่อนอย่างยศพัฒน์มาเป็นสามี นึกว่าเค้านั้นจะเป็นแค่ผู้ชายที่เกิดในครอบครัวธรรมดาๆ ใครจะรู้ว่าครอบครัวเค้าเป็นตระกูลร่ำรวยเชียว ……พันธะสัญญาของเทวิกาเป็นโมฆะ ยศพัฒน์:คุณภรรยา อย่างอแงสิครับ เด็กดี กลับบ้านกลับสามีเถอะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท