รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 581 ในงานเลี้ยง
“สวัสดีค่ะคุณดวงดาว”
เทวิกายิ้มทักทายอย่างสุภาพ
คุณดวงดาวขานรับซ้ำๆ: “สวัสดีๆๆ คุณผู้หญิงเหมือนนายท่านหญิงมากจริงๆนะคะเนี่ย เห็นคุณผู้หญิงก็รู้แล้วว่าตอนนายท่านหญิงสาวๆเป็นคนที่สวยมากๆคนหนึ่งเลย”
นายท่านหญิงพูดขำๆ: “คุณดวงดาวชมเกินไปแล้วค่ะ หลานสาวฉันคนนี้หน้าบาง ดูสิหน้าเธอแดงหมดแล้ว”
เธอก็ภูมิใจมากเช่นกัน
หลานชายหลานสาวตั้งเยอะตั้งแยะ ในที่สุดก็มีคนหนึ่งที่สืบทอดใบหน้าที่งดงามในวัยสาวของเธอ เพียงอย่างเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกเสียดายคือเทวิกาไม่ได้เติบโตอยู่ข้างกายเธอ
แม้หลังจากเทวิกากลับมา จะอยู่ร่วมกับเธอได้เป็นอย่างดี แต่ท่านย่ากลับไม่กล้าเชื่อว่าเทวิกาจะไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรเลย เพียงแต่ได้เห็นใบหน้านั้นของวิกาทีไร ท่านย่าก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อนทุกที
เฮ้อ ก็เธอเองนี่แหละที่เมื่อก่อนตัดสัมพันธไมตรีเกินไปหน่อย จนทำร้ายญาณินเข้า
หลังจากที่นายท่านหญิงแนะนำเทวิกาแล้ว จึงแนะนำหลานเขยอย่างยศพัฒน์ด้วย
ภายหลังคุณดวงดาวถึงได้แนะนำลูกชายลูกสาวของเธอให้เทวิกากับสามีได้รู้จัก
คุณขวัญฤดีมองยศพัฒน์อยู่หลายครั้ง ก็ถือว่าเกรงใจเทวิกาอยู่เช่นกัน แต่ทว่าคนหนุ่มสาวสองคนราวกับไม่รู้จะคุยอะไรดี ทักทายกันนิดหน่อยก็แยกย้ายกันไป
ในใจของพวกลูกคุณหนูเมืองซูเพร่าน่ะ ถึงเทวิกาจะเป็นลูกสาวของตระกูลสาระทา ทั้งยังเป็นคุณนายน้อยของตระกูลอริยชัยกุลแห่งเมืองแอคเซสซ์ด้วย แต่เทวิกาเติบโตอยู่ในชนบท ถ้าไม่ใช่ว่ามีราศีคนรวยมาตั้งแต่กำเนิด คงเป็นแค่คนบ้านนอกคนหนึ่งแน่ๆ
ให้พวกเธอมาทักทายคนบ้านนอกอย่างนี้ ถึงยังไงก็ทำให้ในใจของพวกเธอรังเกียจอยู่บ้าง
ทั้งยังปะปนไปด้วยความอิจฉา เทวิกาที่เติบโตอยู่ในชนบทสามารถแต่งเข้าตระกูลมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพลอย่างตระกูลอริยชัยกุลได้ ไม่ได้โชคดีแบบธรรมดาๆจริงๆ
ยังเป็นเพราะแต่งเข้ามาในตระกูลที่ร่ำรวยมีอิทธิพล ถึงได้ทำให้พ่อแม่แท้ๆตามหาเจอ กลับสู่ฐานะคุณหนูของตระกูลสาระทา
เห็นตระกูลสาระทาตั้งใจจัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เพื่อจะแนะนำเทวิกาให้คนในสังคมไฮโซของเมืองซูเพร่าได้รู้จักโดยเฉพาะ ก็มองออกเลยว่าผู้หลักผู้ใหญ่ของตระกูลสาระทาให้ความสำคัญกับเทวิกามาก
ขุนเดชสนใจเทวิกา แต่ไม่สามารถแสดงออกมาชัดเจนจนเกินไปได้ เห็นประยสย์ เจนสันและจิรัตน์เข้ามากันแล้ว หลังจากที่ขุนเดชคุยกับยศพัฒน์เรื่อยเปื่อยไม่กี่ประโยค จึงเดินไปคุยกับคุณชายทั้งสามของตระกูลสาระทา
บรรดาแขกเหรื่อทยอยมากันแล้ว
วงศ์ตระกูลชั้นสูงที่ร่ำรวยมีชื่อเสียงของเมืองซูเพร่าซึ่งนายท่านหญิงได้เชื้อเชิญมาตั้งแต่แรก เธอต่างก็แนะนำเทวิกากับสามีให้คนอื่นรู้จักด้วยตนเอง แสดงให้คนอื่นรู้เป็นนัยว่าเธอให้ความสำคัญกับเทวิกาจริงๆ ทำใจไม่ได้ที่หลานสาวคนโตคนนี้ต้องแต่งงานไปอยู่ไกลบ้าน
งานเลี้ยงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เทวิกาและสามีกลับมาอยู่ข้างกายพ่อแม่แล้ว
ใครๆก็รู้ถึงตัวเอกของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ ตอนที่เห็นไซม่อนพาภรรยาลูกชายลูกสาวเดินมาที่ด้านหน้าของฝูงชน ทุกคนจึงหยุดคุยกันโดยอัตโนมัติ มองทั้งสี่คนนั้นอย่างเงียบๆ
ไซม่อนพูดทักทายไม่กี่ประโยค ก็แนะนำลูกสาวสุดที่รักให้ทุกคนได้รู้จักอย่างเป็นทางการ
เทวิกากลับมาที่เมืองซูเพร่าได้ระยะหนึ่งแล้ว แม้ตอนที่เธอกลับมาจะเป็นที่ฮือฮามาก แต่ทว่าคนที่ได้เจอเธอจริงๆกลับมีเพียงไม่กี่คน
ค่ำคืนนี้จึงถือว่าเธอได้โชว์ตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
รูปร่างของเธอสูงโปร่ง สวมชุดราตรีที่แสนงดงาม แต่งหน้าอ่อนๆ บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มสุภาพเป็นธรรมชาติ ยืนอยู่ข้างพ่อแม่ ออร่าความสูงส่งมีเกียรติไม่ได้ด้อยไปกว่าพ่อแม่พี่ชายของเธอแม้เพียงสักนิด สมแล้วที่ร่ำรวยมาตั้งแต่เกิด ต่อให้ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทมายี่สิบกว่าปี ก็หมดหนทางที่จะปกปิดราศีความสูงส่งของเธอ
สามีข้างกายเธอ ยศพัฒน์คุณชายใหญ่ของตระกูลอริยชัยกุล เป็นผู้ใหญ่สงบนิ่ง หล่อเหลาโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ยืนอยู่กับเทวิกาแล้ว เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
พวกคุณชายที่นายท่านหญิงเลือกมาจากหลายตระกูลพวกนั้น มองมาที่ยศพัฒน์ จึงเกิดความกดดันไร้รูปร่างอยู่ในใจ รู้สึกว่าพวกเขาอยากเอาชนะยศพัฒน์ อยากแย่งเทวิกามาให้ได้ แต่ระดับความยากก็สูงมากเป็นพิเศษ
จริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมไปกว่ายศพัฒน์เลย เพียงแต่เอาเปรียบคนในเมืองซูเพร่า ได้รับการแนะนำจากนายท่านหญิงก็เท่านั้น
“ยินดีด้วยที่ท่านผู้นำตระกูลสาระทาได้อยู่กันพร้อมหน้า ขอแสดงความยินดีที่คุณหนูกลับมา!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนนำออกมาก่อน ทุกคนจึงพากันแสดงความยินดีตามๆกันมา กล่าวแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง
ส่งเสียงกึกก้องราวกับฟ้าร้อง
กัญณิศาหลบอยู่ในมุม กำลังกินของอร่อย
ส่วนกิติยากลับอยู่เป็นเพื่อนข้างๆเธอ ระแวดระวังราวกับป้องกันเพศชายทุกคนที่อยู่ในงานนี้
โชคดีที่สไตล์การแต่งกายของกิติยา ถ้าไม่มีคนแนะนำ ทุกคนคงคิดว่ากิติยาเป็นผู้ชายแน่ๆ เพราะเธอตามติดน้องสาว ไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว ทำให้คนอื่นคิดว่าเธอเป็นผู้ชายที่มาตามจีบกัญณิศา แม้คนไม่น้อยจะตกตะลึงกับความงามของกัญณิศา แต่แค่เห็นใบหน้าเย็นชาของกิติยา ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาตีสนิทกัญณิศาแล้ว
“ณิศา แกอย่าเอาแต่กินๆๆสิ”
กิติยาเห็นน้องสาวสนใจแต่กินของอร่อย จึงพูดขึ้นขำๆ
“พี่ ฉันไม่สนิทกับพวกคนในงานเลย ตอนนี้วิกาไม่มีเวลามาคอยดูแลพวกเรา นอกจากพวกเราจะกินๆๆ จะยังทำอะไรได้ล่ะ”
กัญณิศาอยากมองเพื่อนสนิทสักหน่อย แต่ก็โดนคนมากมายบดบังสายตา ต่อให้สายตาของเธอดีกว่านี้ ก็คงจนปัญญาที่จะมองเห็นเทวิกาทะลุผ่านกลุ่มคนมากมายไปได้
แล้วเธอก็เบียดเข้าไปไม่ได้ด้วย
ค่ำคืนนี้เทวิกาเป็นนางเอกของงาน เป็นเป้าหมายที่ทุกๆคนจะแย่งกันเอาอกเอาใจ ประจบสอพลอ ตลอดทั้งคืน คนที่ห้อมล้อมเทวิกาอยู่รอบๆก็ไม่ได้น้อยลงเลย
เธอกับเทวิกาเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องประจบเอาใจเทวิกาอย่างคนพวกนั้นหรอก
“พี่ ก็กินหน่อยสิ”
ณิศาดันจานของตนเองไปที่ด้านหน้าพี่สาว
แต่กิติยาดันจานของเธอกลับไป พูดขึ้น: “ถ้าฉันจะกินเดี๋ยวไปเอาเอง แกอย่าดื่มไวน์นะ ฉันจะไปเทน้ำผลไม้มาให้”
พูดแล้ว เธอก็หยิบแก้วไวน์ด้านหน้าณิศาที่ดื่มไปเพียงนิดเดียว ลุกขึ้นเดินไป
ณิศา: “……”
เธอก็ดื่มแก้วเดียว ไม่เยอะสักหน่อย แต่พี่ดันไม่ยอมให้เธอดื่มจนหมด
เธอไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะ ให้เธอดื่มแต่น้ำผลไม้อยู่เรื่อย
จากนั้นไม่นาน
“ณิศา”
เสียงที่คุ้นเคยลอยมาเบาๆ แค่ณิศาเงยหน้า จึงยิ้มพูดขึ้น: “คุณเทวิกาของพวกเราฝ่าวงล้อมที่แน่นหนาออกมาได้ยังไงเนี่ย?”
“หลังจากพ่อฉันแนะนำฉันให้ทุกคนรู้จักแล้ว ฉันก็เอาห้องน้ำมาเป็นข้ออ้าง หลบมาหายใจหายคอที่เธอก่อน”
วิกานั่งลงข้างกายณิศา ก้มหน้า ท่าทางเหมือนกลัวคนอื่นๆเห็นเธอ พูดกับณิศาเบาๆ: “โชคดีที่งานเลี้ยงอย่างนี้มีแค่ครั้งเดียว ณิศา เธอฉลาดนะ ถึงได้เลือกซ่อนตัวตรงนี้”
กัญณิศาเห็นเจนสันรวมไปถึงผู้ชายตระกูลกิจอนันต์คนนั้นเดินเข้ามา จึงพูดกับเทวิกา: “อันที่จริงฉันอยู่ตรงนี้ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจหรอก แต่แค่เธอนั่งลงมา ตรงที่ฉันนี่ก็เหมือนเก็บไข่มุกที่เปล่งแสงแวววาวได้อย่างนั้นเลย ส่องสว่างขึ้นมาทันที ดูสิ มีคนมาแล้ว”
เทวิกา: “……”
ในทันทีก็มีคนพบว่าเธอหลบอยู่ตรงนี้
“พี่วิกา ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะครับ?”
หลังจากเจนสันเข้ามาใกล้ จึงยิ้มพูดขึ้น แล้วพยักหน้าไปทางกัญณิศา สายตาที่มองกัญณิศาก็เร่าร้อนมากขึ้นเล็กน้อย
ณิศาสวมชุดราตรีธรรมดาๆ ไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ หน้าสดเลยแหละ แต่ก็ยังคงดูดี สวยจนทำให้เขาเห็นแล้วไม่อยากจะเคลื่อนสายตาไปเลย
“ณิศาเป็นเพื่อนพี่ เชิญเธอมาร่วมงานเลี้ยง แต่พี่กลับไม่มีเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ก็เลยรู้สึกผิด จึงหาเวลาออกมาคุยกับณิศาน่ะ”
เทวิกาอธิบายอย่างไม่ใส่ใจ มองขุนเดชเล็กน้อย แล้วดึงณิศาลุกขึ้น พูดกับผู้ชายสองคนนั้น: “เจน นายคุยกับคุณขุนเดชไปนะ พี่กับณิศาจะไปฝั่งนั้น”