รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 584 คลุมกระสอบ
หลังจากเดินมาใกล้ๆรถของพลอยไพลินแล้ว ตัวแทนกำลังคิดจะเคาะประตูรถสักหน่อย ก็พบว่าประตูรถไม่ได้ปิดแน่น ยังเหลือร่องเอาไว้ เสียงเคลื่อนไหวบนรถจึงเล็ดลอดออกมาได้
เขาได้ยินเสียงหอบหายใจของชายหญิง
ตัวแทนคนนี้ได้รับความไว้วางใจจากรณภพอย่างลึกซึ้ง ทั้งยังได้อยู่ข้างกายรณภพบ่อยๆ รณภพเลี้ยงเมียน้อยเอาไว้มากมาย เพื่อให้เหมือนรณภพมากอีกหน่อย เขาจึงได้ลิ้มรสผู้หญิงมาไม่น้อยเช่นกัน
เสียงประเภทนี้ เขาจะไม่เข้าใจได้ยังไง
เขาจึงทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ไม่กล้าเคาะประตูรถด้วย แต่เดินกลับมาบนรถอย่างเงียบๆ
“เป็นอะไร?”
รณภพไม่ได้ลงจากรถ แต่เขาจ้องมองการเคลื่อนไหวของตัวแทนตนเองอย่างไม่คลาดสายตา บนรถต้องมีสถานการณ์อะไรแน่ๆถึงทำให้ตัวแทนของตนเองย้อนกลับมา
หลังจากตัวแทนเงียบไปชั่วครู่ ก็ยังคงพูดตามความจริง: “คุณชายครับ คุณหนูอยู่บนรถ……กำลังทำ กำลังทำ……”
รณภพ: “……ไม่นึกว่ายัยบ้านั่นจะอยู่บนรถ เธอช่างเปิดเผยซะจริง แล้วผู้ชายบนรถเป็นใคร?”
“ผมไม่ทราบครับ หลังจากที่ผมได้ยินเสียงอย่างนั้น จึงไม่กล้าเคาะประตูรถ เดาว่าน่าจะเป็นนายสามของตระกูลสาระทานะครับ”
จนถึงตอนนี้ชลยังไม่ปรากฏตัวอยู่ในงานเลี้ยง
และรถคุณหนูของพวกเขายังจอดอยู่ตรงนี้อีก ถ้าผู้ชายบนรถไม่ใช่ชลจะเป็นใคร?
รณภพจึงคิดจะผลักประตูรถออกไปทันที แต่กลับหดมือกลับมา พูดขึ้น: “ในเมื่อเธอปล่อยตัวเองให้ตกต่ำเช่นนี้ ท้องอยู่แท้ๆยังทำเรื่องโจ่งแจ้งประเภทนี้อีก ฉันจะยุ่งเรื่องคนอื่นทำไมนะ แต่ในเมื่อเธอไม่อยากเก็บเด็กในท้องไว้ ก็ทำแท้งไปสิ จะทรมานอย่างนี้เพื่ออะไร”
ตัวแทนไม่กล้าตอบ
“ออกรถ ไม่ต้องสนใจว่าเธอจะเป็นตายร้ายดียังไง เธอหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น”
รณภพสั่งให้ตัวแทนออกรถ ขี้เกียจสนใจเรี่องชู้สาวของน้องสาวเขา
เขายังบ่นต่อ: “ทำไมพ่อแม่ฉันถึงให้กำเนิดคนอย่างนี้มาเป็นน้องสาวของฉันนะ ประยสย์ก็มีน้องสาวเช่นกัน แต่ดูน้องสาวเขาสิ ให้ความช่วยเหลือประยสย์ได้ ส่วนน้องสาวฉัน พูดถึงก็ทำให้ฉันขายหน้าแล้ว”
พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็เป็นเมียน้อยของไซม่อน ทั้งยังเป็นเมียน้อยที่ไม่ผ่านเกณฑ์อีกต่างหาก
หลังจากหมดหวังที่จะได้แต่งงานกับไซม่อน ก็ปล่อยให้ตนเองตกต่ำ มั่วอยู่กับชลทั้งวัน ทำอย่างนี้แม้จะสามารถยั่วโมโหคุณนายสามของตระกูลสาระทาได้ แต่ตัวเธอเองได้อะไรดีๆบ้างเหรอ?
รถของรณภพขับออกไปอย่างรวดเร็ว ห่างไปไกลจากรถคนนั้นของพลอยไพลินแล้ว
แม้พลอยไพลินจะกำลังบ้าคลั่งอยู่บนรถกับชล แต่ตอนมีคนเข้ามาใกล้ เธอยังรู้สึกตัว ทั้งยังเห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่เข้ามาใกล้เป็นใคร
เดิมทีเธอไม่ได้สนใจหรอกว่าถ้าโดนพี่ชายเห็นเข้าจะอับอายขายหน้าขนาดไหน ในทางกลับกันเธอยิ่งเพิ่มความเร่าร้อน ให้ชลหลงรักความบ้าคลั่งของเธออย่างถึงที่สุด
อันที่จริงชลเป็นชายสูงวัยที่เกือบจะห้าสิบแล้ว ปกติก็เลี้ยงเมียน้อยอยู่มากมาย กำลังวังชาจึงเทียบไม่ติดคนวัยสาวอย่างพลอยไพลิน แต่พลอยไพลินจงใจให้เขากินยา ให้เขาคลุ้มคลั่ง ในเมื่อเขาลามกนัก ท้ายที่สุดก็ให้เขาตายอยู่บนตัณหาราคะซะเลย
นี่เป็นเป้าหมายสุดท้ายที่พลอยไพลินจะแก้แค้นชล
พลอยไพลินรู้นิสัยพี่ชายตนเอง หลังจากที่พบเธอเข้า ต้องไม่สนใจเธออยู่แล้ว
มีพี่ชายอย่างนี้ เท่ากับไม่มี
แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเป็นห่วงเธอ หลังจากที่เธอเกิดเรื่อง ในฐานะที่เป็นพี่ชายก็ไม่มีการทวงคืนความยุติธรรมแทนเธอ ระบายความโกรธแค้นแทนเธอ ตอนนี้พ่อแม่ยังอยู่ พี่ชายก็ปฏิบัติกับเธออย่างเลือดเย็นไร้ความรู้สึก ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่ เธอกับพี่ชายคงจะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันอย่างแท้จริง
ตระกูลเลิศธนโยธา เธอคงอยู่ต่อไปได้ยาก
เธอต้องครุ่นคิดเพื่ออนาคตของตนเอง
พลอยไพลินคิดจะแย่งชิงกับพี่ชาย หลังรอให้พ่อแม่อายุร้อยปี เธอจะแบ่งทรัพย์สมบัติออกมาครึ่งหนึ่ง ชีวิตที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลแล้ว
ต่อให้ไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายที่รัก แต่เธอมีเงิน อยากจะเลี้ยงเด็กหนุ่มกี่คนก็ได้
หลังจากที่รณภพออกมาประมาณสิบนาที รถของพลอยไพลินก็สตาร์ทออกไป แล่นไปข้างหน้า แน่นอนว่าจุดหมายก็คือคฤหัสน์ตระกูลสาระทา
ชลไม่กล้าและไม่คิดจะพาพลอยไพลินกลับบ้านไปเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยซ้ำ เขาเอาแต่กังวลว่าพลอยไพลินจะหวนกลับมาหลงใหลถ่านไฟเก่าอย่างพี่ใหญ่ของเขาอีก แต่เขาต่อต้านการโจมตีที่นุ่มนวลของพลอยไพลินเอาไว้ไม่อยู่ แค่ปล่อยริมฝีปาก ก็ตอบตกลงเธอทันที
วินาทีนี้ ทำได้เพียงกัดฟันพาพลอยไพลินกลับไปเข้าร่วมงานเลี้ยง
งานเลี้ยงดำเนินไปครึ่งหนึ่งแล้ว
คฤหัสน์ตระกูลสาระทา
เพราะชลพาพลอยไพลินมาถึงคฤหัสน์ตระกูลสาระทาจะก่อให้เกิดความโกลาหลแบบไหน ตอนนี้ยังไม่ต้องพูดถึง แต่พูดถึงหลังจากที่รณภพสั่งให้ตัวแทนขับรถออกไป ไม่สนใจเรื่องของน้องสาว ตอนที่รถแล่นมาถึงทางเข้าทางหลวงสายนี้ คิดไม่ถึงว่าล้อรถด้านหนึ่งจะรั่ว
รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ตัวแทนจึงรีบจอดรถที่ข้างทาง
“คุณชาย ล้อรถรั่วครับ”
รณภพขมวดคิ้ว “ไม่ได้บอกให้นายเอาไปตรวจเช็คสภาพตามระยะเวลาหรอกเหรอ?”
“ไม่นานนี้ก็เพิ่งเช็คสภาพไป ไม่มีปัญหานะครับ”
ตัวแทนพลางตอบ พลางเปิดประตูลงไปจากรถ ไปตรวจสอบสภาพล้อรถที่รั่วล้อนั้น
รณภพรออยู่บนรถนานแล้ว รู้สึกอึดอัด จึงตามลงมาจากรถด้วย เขาไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆ แต่ยืนอยู่ที่ริมถนน หยิบซองบุหรี่ออกมา ดึงบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจุดไฟ แล้วเริ่มสูบบุหรี่
“คุณชายครับ ล้อรถเหยียบตะปูเข้าครับ”
หลังจากที่ตัวแทนตรวจสอบดูแล้ว จึงเจอตะปูตัวที่ทิ่มเข้าไปในล้อรถ
“นายโทรตามคนมาลากรถ”
รณภพสูบไปสั่งไป
รู้สึกว่าคืนนี้ตนเองไม่ค่อยราบรื่นเลย เข้าไปในคฤหัสน์ตระกูลสาระทาถึงจะได้พูดคุยกับเทวิกา แต่เพราะประยสย์ตามมาสมทบ บีบให้เขาต้องหนีออกมา หลังหนีมาแล้ว ยังเดินเตร็ดเตร่อยู่ในคฤหัสน์ตระกูลสาระทาอีกรอบ แต่สำหรับพวกเขตหวงห้ามของตระกูลสาระทา เขากลับจนปัญญาที่จะเข้าใกล้
พื้นที่ที่ให้ใครๆเดินเล่นได้ตามใจ ล้วนแต่ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น
หลังจากที่เขารู้สึกได้ว่าหมดหนทางที่จะลงมือทำเรื่องเลวร้าย จึงทำได้เพียงหลบออกไป
ท้ายที่สุดระหว่างทางล้อรถกลับเหยียบตะปูเข้า
ถนนสายนี้เป็นเส้นทางไปคฤหัสน์ตระกูลสาระทา ทุกปีคนของตระกูลสาระทาจะทุ่มเงินไม่น้อยเพื่อบำรุงรักษาถนนเส้นนี้ ทำไมถึงมีตะปูได้ล่ะ?
จู่ๆรณภพก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
เขาหมุนตัวในทันที แต่น่าเสียดายที่ช้าไปครึ่งก้าว เขาแค่รู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดมิด คิดไม่ถึงว่าจะโดนคนคลุมกระสอบ
ต่อให้เขาจะพยายามต่อต้านขนาดไหน แต่เนื่องจากโดนคลุมกระสอบเอาไว้ สายตาโดนบดบัง แค่เริ่มต้นเขาก็ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบแล้ว ทั้งยังถูกกระทำ คนที่ห้อมล้อมเข้ามาโจมตีเขาฝีมือดีมาก เขามองไม่เห็นว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นยังไง แต่กลับรู้สึกได้ว่าแรงจากเท้าที่เตะมาบนร่างของเขาหนักขนาดไหน
กำปั้นแข็งขนาดไหน
ตอนที่หมัดนั้นโบกเข้ามามีลมมาด้วย จึงทำให้เขามั่นใจว่าคนที่รุมโจมตีเขาทักษะดีเป็นพิเศษ
คนพวกนี้โผล่มาจากไหนนะ?
ริมถนนนอกจากสนามหญ้า ก็ไม่มีที่ที่จะสามารถซ่อนตัวได้แล้ว
เมื่อกี้เขายืนสูบบุหรี่อยู่ จึงไม่ได้สังเกตว่าที่สนามหญ้าซ่อนใครไว้หรือเปล่า ต้องโทษเขาที่คืนนี้หุนหันพลันแล่นไปหน่อย
ตัวแทนก็โดนคลุมกระสอบเช่นกัน
คนที่ดักซุ่มอยู่ที่นี่แน่นอนว่าประยสย์เป็นคนวางแผน
บอดี้การ์ดของประยสย์ต่อยรณภพไปหนึ่งยก ก็รีบหนีไป เพราะหลังจากที่รณภพเจ็บตัวก็รีบดึงกระสอบออก
รณภพเป็นคนควบคุมอำนาจมืดของตระกูลเลิศธนโยธา ชอบต่อยตีฆ่าคนมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เรียกได้ว่าผ่านศึกมานักต่อนัก ทักษะเตะต่อยร้ายกาจสุดๆ ส่วนประยสย์เองก็ไม่ได้ส่งคนมาเยอะด้วย เพราะจะถูกเปิดโปงได้ง่าย
เพียงแค่สามสี่คน ถ้าไม่ใช่ว่าซ่อนตัวไว้อย่างดี และคลุมกระสอบใส่รณภพด้วย ไม่แน่พวกเขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของรณภพก็ได้
ดังนั้นหลังจากที่รณภพดึงกระสอบออก พวกเขาจึงรีบวิ่งหนีไป