รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 586 อยากมีลูกสักคน
“ก็ได้”
เทวิกาก็อยากขึ้นข้างบนไปเปลี่ยนชุดเช่นกัน
หนาวไม่ไหวแล้ว
แม้เธอจะสวมเสื้อคลุมหนาๆเอาไว้ ก็ยังหนาวอยู่ดี
สองสามีภรรยาลุกขึ้น อุ้มพิรัตน์ที่กำลังหลับเดินไป
ไซม่อนเห็นลูกสาวลูกเขยอุ้มเด็กขึ้นไปข้างบนแล้ว จึงส่งป้าอ้อยขึ้นข้างบนไปคอยดูด้วย
เพื่อแสดงภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าภรรยา งานเลี้ยงค่ำคืนนี้ไซม่อนจึงเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ใครก็ตามที่คิดไม่ดีต่อลูกสาวลูกเขยของเขา ก็อย่าคิดจะได้พูดคุยกับลูกสาวเขาแม้เพียงคำเดียว
ปีศาจเฒ่า อ้อ ไม่สิ ท่านผู้นำตระกูลเลิศธนโยธาจึงทำได้เพียงทักทายเทวิกาและสามีอย่างสุภาพเพียงไม่กี่คำเท่านั้น แล้วเทวิกาและสามีก็โดนไซม่อนแยกตัวออกไป ระมัดระวังท่านผู้นำตระกูลเลิศธนโยธาราวกับระวังโจรอย่างนั้น
จริงๆแล้วเทวิกาไม่รู้เลยว่าพ่อของเธอทำเพื่อเธอหลายอย่างมาก จนเมื่อกี้ที่ยศพัฒน์เพิ่งบอกเธอ เธอถึงรู้เรื่อง
ในใจ เธอรู้สึกซาบซึ้งมาก
ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่จะเป็นยังไง แต่ความรักที่พวกเขามีต่อเธอล้วนแต่ออกมาจากใจ
“คุณ”
ไซม่อนค่อยๆเดินมาถึงข้างกายภรรยา มองญาณินด้วยสายตาที่เร่าร้อน ปรารถนา
ญาณินไม่อยากทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ ชุดที่เธอสวมใส่จึงหรูหรากว่าที่เธอใส่ตามปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในสายตาของไซม่อน เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกนี้อยู่แล้ว
หลังชำเลืองมองเขา ญาณินก็เดินไป
“ณิน”
ไซม่อนหน้าด้านเดินตามเธอไป “คุณดูสิลูกสาวลูกเขยของเราพาเด็กคนนั้นไปดูเหมือนครอบครัวขนาดไหน ถ้าพวกเขาสองคนมีหลานให้เราเลี้ยง นั่นคงดีมากสินะ ถ้าวิกามีลูก ผมจะเกษียณ เราสองสามีภรรยาจะได้ลิ้มรสความสุขในวัยชราที่ได้เลี้ยงดูหลานๆกัน”
ญาณินหยุดฝีเท้าลง มองเขา โทนเสียงเรียบเฉย เสียงทุ้มต่ำ “ตอนนั้น แม้แต่เธอพวกเราก็ยังปกป้องไม่ได้ ถ้ามีหลาน คุณจะปกป้องได้ใช่ไหม? บ้านนี้ยังมีความวุ่นวายอีกพักใหญ่นะ”
ไซม่อนชะงักงัน
หลังจากญาณินพูดจบก็ไม่สนใจว่าเขาจะคิดยังไง เดินไปหากิติยาสองพี่น้องทันที คุยเป็นเพื่อนพวกเธอ
หลังรู้ว่านายท่านหญิงอยากจับคู่ประยสย์กับกัญณิศา ญาณินก็มองกัญณิศาเป็นลูกสะใภ้ไปแล้ว
เทวิกาไม่รู้เรื่องระหว่างพ่อแม่ เธอกลับเข้ามาในห้องกับสามี มองยศพัฒน์ที่นั่งอยู่ข้างเตียง ถอดเสื้อคลุม รองเท้าถุงเท้าให้เด็กน้อยอย่างระมัดระวัง ถึงวางเขาลงไปนอนบนเตียงอย่างเบามือ
จากนั้นจึงหยิบแพมเพิร์สมา ช่วยเปลี่ยนแพมเพิร์สอันใหม่ให้พิรัตน์อย่างนุ่มนวลอีกครั้ง ถึงได้ช่วยห่มผ้าให้เด็กน้อย
เห็นเขาทำทั้งหมดนี้ สายตาของเทวิกาที่มองเขาจึงเต็มไปด้วยความรัก อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปกอดเอวเขาจากด้านหลัง แนบหน้าไปบนหลังเขา พูดอย่างอ่อนโยน: “ที่รัก งั้น เรามีลูกกันสักคนเถอะ ฉันเห็นคุณรักเด็กมากเลย”
สองมือของยศพัฒน์จับมือเธอเอาไว้ ดึงออกเบาๆ หันหน้ามาหาเธอ พูดหยอกเย้า: “ไม่เบื่อที่เด็กวุ่นวายแล้วเหรอ?”
“พาไปไหนมาไหนก็วุ่นวายจริงๆน่ะแหละ แต่เห็นท่าทีน่ารักของพวกเขาแล้ว ก็ใจอ่อน อยู่ๆความรักของแม่ที่เกิดมาพร้อมกับผู้หญิงก็ถูกดึงออกมาซะอย่างนั้น”
“ถ้าอยากมีลูกตอนนี้ จนถึงตอนที่ลูกคลอด อากาศคงร้อนมาก คุณจะทนอยู่ไฟไม่ไหวนะ”
“ผลผลิตจากความรักของเรา ร้อนนิดหน่อย ฉันทนได้”
ยศพัฒน์ก้มหน้าจุ๊บไปบนริมฝีปากของเธอ พูดขำๆ: “ในเมื่อคุณยอมมีลูกแล้ว ผมก็จะทำให้คุณพอใจ แต่ตอนนี้เราไปเปลี่ยนชุดกันก่อน”
“เปลี่ยนเสื้อผ้าทำไม? ตัดสินใจมีลูกแล้ว ไม่ควรทำลูกเลยเหรอ?”
ยศพัฒน์ขำภรรยาสุดที่รัก “เราแต่งงานกันมาตั้งนาน นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่คุณรีบร้อนจะนอนกับผมน่ะ คุณไม่อยากช่วยอาสะใภ้สามของคุณหรือไง เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะดวกสบายหน่อย พวกเราจะออกไปทางหน้าต่าง ถ้าจะช่วยก็ต้องทำอย่างลับๆสิ”
จะพูดยังไง การคิดบัญชีผู้อาวุโสน่ะ พูดไปแล้วก็ต้องโดนตำหนิอยู่ดี
จึงต้องทำอย่างลับๆ
เทวิกาดวงตาเป็นประกาย “ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้ แต่จะออกไปทางหน้าต่างยังไง ฉันไม่เหมือนสาวสวมหน้ากากที่มีความสามารถนะ ที่จะเดินเหินอยู่บนหลังคาอย่างคล่องแคล่ว แบบจอมยุทธ์หญิงในนิยายกำลังภายในน่ะ ทำไมตอนเด็กๆฉันถึงไม่เคยคิดจะเรียนศิลปะป้องกันตัวไว้บ้างเนี่ย?”
เทวิกาพูดอย่างเสียดาย: “พี่ฉันบอกว่ามีเขาอยู่ เขาปกป้องฉันได้ ฉันไม่ต้องไปเรียนศิลปะป้องกันตัวอีก ยังบอกด้วยว่าถ้าเรียนศิลปะป้องกันตัวแล้ว จะเปลี่ยนเป็นคนมุทะลุดุดัน ขายไม่ออกขึ้นมา จะทำยังไง?”
ไม่เหมือนกนกอรที่ยังไงก็เคยเรียนกังฟูเพื่อป้องกันตัวอยู่บ้าง
เธอก็แค่แรงเยอะกว่าหน่อย ตอนเด็กๆเป็นลูกสมุนของพี่ไปทะเลาะกับเด็กๆในหมู่บ้าน ได้ฝึกฝนทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง แต่ถ้าสู้กับคนพวกนั้นที่เคยเรียนมาจริงๆ เธอคงแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
“พี่รักคุณมากจริงๆ แต่ก็ชอบอวดว่าเขามีน้องสาวคนหนึ่งมากๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แรกเริ่มในบรรดาเพื่อนผู้ชายในห้อง ส่วนมากจะมีพี่สาวหรือไม่ก็น้องชาย มีน้องสาวแค่ไม่กี่คนหรอก พี่คุณจึงชอบอวด บวกกับที่คุณก็โดดเด่นพอตัว ตอนที่พี่คุณแค่โม้กับพวกเพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้วยกัน ในห้าประโยคก็พูดถึงคุณไปสามประโยคแล้ว”
“พวกเพื่อนๆยกให้เขาเป็นพวก ‘คลั่งรักน้องสาว’ ผมได้ยินมาเยอะ ก็เลยเกิดความสงสัยในตัวคุณ ถึงได้จงใจนั่งรถไฟใต้ดินกลับบ้านกับพี่คุณ หลังจากได้เจอคุณ ทุกครั้งที่ปิดเทอม ผมก็จะนั่งรถไฟใต้ดินกลับบ้านมากับพี่คุณด้วย”
เทวิกาหัวเราะ: “เราสองคนต้องขอบคุณพี่ที่เป็นพ่อสื่อให้ ปากก็ชอบพูดอวดๆๆขนาดนั้น จนอวดฉันออกไป ตอนแรกเขาโมโหจะตาย ที่เขาเป็นคนเชิญหมาป่าเข้ามาในบ้านน่ะ”
ยศพัฒน์ก็ขำไปด้วย
เขาหมุนตัวเดินไป ในทันทีก็หยิบเสื้อผ้ามาสองชุด ส่งหนึ่งชุดในนั้นไปให้ภรรยาที่รัก พูดขึ้น: “นี่พี่รองของคุณเตรียมไว้ให้พวกเราล่วงหน้า เดิมทีผมคิดว่าคืนนี้คงไม่ได้ใช้หรอก แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีประโยชน์”
นั่นเป็นชุดพรางตัวที่เอาไว้ใส่ยามค่ำคืนสองชุด จริงๆก็เป็นชุดรัดรูปสีดำสองชุดนั่นแหละ สะดวกที่จะใส่เดินอยู่ท่ามกลางความมืด ทำเรื่องอะไรก็ไม่มีใครรู้
“พวกคุณปรึกษากันตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่นึกว่าจะไม่แพร่งพรายข้อมูลมาให้ฉันรู้เลย”
เทวิการับเสื้อผ้ามา บ่นสามีที่ปิดบังเธอ
“คุณฉลาดเกินไป แต่ก็บอกให้คุณรู้อยู่นี่ไง”
ยศพัฒน์จิ้มไปที่หัวของเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู “ที่รัก ถ้าจะแต่งงานก็ต้องแต่งงานกับผู้ชายอย่างผมนี่แหละ ฉลาด เอาใจใส่ รักเดียวใจเดียวอีก คุณดูสิ คุณแต่งงานกับผม อยู่กับผมมาตั้งนาน คุณก็เปลี่ยนไปฉลาดขึ้นเรื่อยๆเลย”
“พูดเอาดีเข้าตัวให้มันน้อยๆหน่อย พ่อแม่ให้กำเนิดฉันมาก็ฉลาดอยู่แล้ว คุณกล้าพูดอย่างนี้กับพ่อตาแม่ยายไหมล่ะ?”
ยศพัฒน์พูดด้วยความหวาดหวั่น: “ไม่กล้า ไม่กล้าแย่งความดีความชอบของพวกเขาหรอก”
“ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนะ”
เทวิกากอดชุดสำหรับพรางตัวยามค่ำคืนเข้าไปในห้องน้ำ
ยศพัฒน์หมุนตัวมองเธอเข้าไป บ่นออกมา: “นอนด้วยกันไม่รู้กี่รอบแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้ายังต้องหลบผมอีก”
หางตาชำเลืองไปเห็นพิรัตน์ที่กำลังหลับสนิท จึงพูดต่อ: “มีผู้ชายของครอบครัวคนอื่นอยู่ที่นี่ ก็ต้องหลบหน่อยแหละ”
พิรัตน์: ……
หึงขนาดนี้เลย เขายังเป็นแค่เด็กขวบเดียวเองนะ
รอให้เขาโต ตอนที่รู้จักแย่งภรรยาของคนอื่น น้าวิกาก็แก่แล้ว ถึงยังไงเขาก็ไม่สนใจน้าวิกาหรอก