รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 684 โปรยอั่งเปาอีกแล้ว
เนื่องจากพสธรกับลูกสาวพาคนไปซุ่มโจมตี คิดจะฆ่าประยสย์ หลังจากผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือด ก็จบลงด้วยพสธรบาดเจ็บสาหัส ดังนั้น คนโชคร้ายอย่างยศกรที่โดนหลานชายคนโตทุบจนสลบไปนั้น จึงไม่ได้ถูกพาตัวไปเจอกับชล
ประยสย์สั่งให้คนส่งยศกรกลับไปคฤหัสน์สาระทา ในเวลาเดียวกันก็ออกคำสั่งเด็ดขาด ถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากพวกเขาสองพ่อลูก ตอนนี้คนในคฤหัสน์ห้ามออกไปจากคฤหัสน์แม้เพียงครึ่งก้าว
กำจัดศัตรูภายนอกได้แล้ว แน่นอนว่าก็ต้องกำจัดข้าศึกภายในเช่นกัน
แต่ทว่าไซม่อนยังไม่ฟื้น ประยสย์เองก็บาดเจ็บ จึงต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสักกี่วันก่อน ช่วงนี้จึงยังไม่มีเวลามาสะสางข้าศึกภายในบ้าน
ตอนที่ประยสย์รอให้คนมาส่งที่โรงพยาบาล ฟ้าก็สว่างจ้าแล้ว
เพียงแต่ท้องฟ้าไม่สดใส หม่นหมองอึมครึม ไม่นานนัก ก็เริ่มมีหิมะปลิวลงมา
เทวิกากับสามีรีบร้อนมาดูประยสย์
เพิ่งผลักประตูห้องคนไข้ พอก้าวเท้าเข้าไป เทวิกาก็เห็นกัญณิศานั่งอยู่ข้างเตียง มือของเธอโดนพี่ชายตนเองจับเอาไว้แน่น
เทวิกาจึงรีบถอยออกมาจากห้องคนไข้ แล้วยังดันพัฒน์ที่อยู่ข้างหลังออกไปด้วย
“เป็นอะไรไป?”
ยศพัฒน์ถามด้วยความเป็นห่วง
“ณิศาอยู่ข้างใน กำลังจู๋จี๋กับพี่ฉันอยู่”
เรื่องที่กัญณิศาคือผู้หญิงที่ใส่หน้ากาก ประยสย์บอกน้องสาวแล้ว
แต่ทว่ายังปิดบังคนอื่นอยู่ แม้กระทั่งกิติยาก็ยังไม่รู้เลยว่าน้องสาวเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจคนหนึ่ง
ยศพัฒน์ยิ้มอย่างเข้าใจ พูดขึ้น: “พี่คุณคงไม่ได้เจ็บหนักเท่าไหร่ สายๆเราค่อยมาอีกทีก็ได้”
“อื้ม”
รู้ว่าคนของตระกูลเลิศธนโยธาเข้าคุกกันหมดแล้ว เทวิกาจึงสบายใจมากๆ ไม่รีบร้อนที่จะเข้าไปดูพี่ชายตอนนี้
“วิกา ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว คุณอยากพักหน่อยไหม?”
เมื่อคืน พวกเขาต่างไม่ได้นอนกันทั้งคืน
“ฉันไม่ง่วง แม่ฉันใกล้ถึงแล้ว อีกเดี๋ยวเราไปรับแม่ที่สนามบินด้วยกันนะ”
ยศพัฒน์อืมตอบรับ
เวลานี้ มือถือของเทวิกาก็ดังขึ้น
เป็นกนกอรที่โทรมา
เทวิกาจึงรับสายเพื่อนรัก
“วิกา พวกเธอยังสบายดีกันอยู่ใช่ไหม?”
กนกอรถามอยู่ที่ปลายสาย “อิตาแบตบอสไม่บอกฉันเลย ปิดบังฉันซะมิด ถ้าเขาบอกฉันหน่อย ฉันก็จะไปกับเขาด้วย”
“คุณเบศวร์ก็มาแล้วเหรอ?”
เทวิกาขยับมือถือออกไปก่อน แล้วถามผู้ชายข้างกายเบาๆ
ยศพัฒน์อืมออกมา “เมื่อเช้าผมก็เพิ่งรู้เรื่อง”
ครั้งนี้นฤเบศวร์เท่มาก มาด้วยตัวเองเลย
สมแล้วที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขา กลัวเขาตายแล้วจะไม่เหลือศัตรูอีก ชีวิตคงเงียบเหงาราวกับอยู่ท่ามกลางหิมะ ดังนั้นถึงได้รีบมาช่วยเหลือทันควัน
นฤเบศวร์: ทำดีไม่ได้ดีจริงๆ ไม่ขอบคุณกันสักคำ
เทวิการู้สึกขอบคุณนฤเบศวร์มากขึ้นอีกหน่อย แนบมือถือกลับไปที่ข้างหู พูดกับเพื่อนรัก: “ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราสบายดี เธอท้องอยู่ แบตบอสของเธอไม่อยากให้เธอกังวลไปด้วยไง เธออย่ามาเชียวนะ ถ้ามาพวกฉันคงใจหายใจคว่ำแน่ๆ”
เพื่อนรักท้องอยู่นี่นา
กนกอรบ่น: “เขาปิดบังฉันหนีไปน่ะสิ ฉันถึงได้โกรธ เดี๋ยวเธอเจอเขา ก็บอกเขาด้วย ว่าฉันยังโกรธเขาอยู่ ต่อให้เขาบินกลับมา ฉันก็ไม่หายเคืองง่ายๆหรอก ให้เขาอยู่ที่เมืองซูเพร่าไปหลายๆวันหน่อย รอฉันหายโกรธแล้วค่อยกลับมา”
ทางฝั่งเพื่อนรักยังต้องการความช่วยเหลือ ในเมื่อแบตบอสของเธอมีน้ำใจ ตามไปช่วยด้วยตนเองแล้ว ก็ให้เขาอยู่ที่เมืองซูเพร่าไปหลายๆวันหน่อย จนกว่าตระกูลสาระทาจะสงบ ค่อยกลับมาจัดงานแต่งแล้วกัน
“ได้ ถ้าฉันเจอผู้ชายของเธอแล้ว จะส่งต่อข้อความของเธอไปให้เขานะ”
เทวิการู้ดีที่กนกอรพูดอย่างนั้น เพื่อช่วยเธอต่างหาก ยิ้มอย่างเข้าใจในตัวเพื่อนรัก
“พวกเธอคงจะยุ่งอีกสักระยะสินะ งั้นฉันไม่รบกวนพวกเธอแล้ว กลับไปในร้านก่อน อ้อ ใช่สิ ใกล้ถึงวันแต่งงานของฉันกับแบตบอสแล้วนะ วันที่จัดงาน เธอต้องมาด้วยล่ะ”
กนกอรเตือนให้เพื่อนรักกลับมาร่วมงานแต่งของเธอกับนฤเบศวร์นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
เทวิกายิ้มตอบ: “แหงอยู่แล้ว งานแต่งพวกเธอ ฉันต้องไปร่วมแน่นอน”
เธออยากเห็นเพื่อนรักเดินเข้าหอประชุมแห่งความสุข ใช้ชีวิตที่เหลือกับนฤเบศวร์ไปจนแก่
กนกอรกำชับเพื่อนรักอีกไม่กี่ประโยค ถึงได้วางสายไป
มือถือของเธอดังไม่หยุด เป็นข้อความใหม่จากทางวีแชท เมื่อเธอเปิดดู จึงเห็นอั่งเปาที่โปรยลงมาเต็มหน้าจอ
นฤเบศวร์รู้ว่าที่ตนเองปิดบังภรรยาที่รักหนีมาเมืองซูเพร่าเอง ภรรยาผู้ยิ่งใหญ่คงโมโหมาก
ดังนั้น เขาจึงใช้วิธีเดิม โปรยอั่งเปาให้ภรรยา
เริ่มแรกกนกอรไม่ยอมเก็บอั่งเปา
แต่เธอกลับส่งข้อความไปให้นฤเบศวร์: แบตบอส นี่มันไม่ใช่ปัญหาของเงินนะ
นฤเบศวร์ยังคงโปรยอั่งเปาต่อไป
กนกอร: “……”
เธอยังไม่อยากเก็บอั่งเปาอยู่ดี หลังจากกลับเข้ามาถึงร้าน นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เก็บเงินสักพัก ถึงได้หยิบมือถือออกมา เริ่มกดเปิดซองอั่งเปา
แต่ละซองมีเงินอยู่หนึ่งพันบาท
เธอกดเปิดซองเก็บเงิน กดจนเมื่อยมือ
การมีแฟนรวย คุยกันไม่รู้เรื่องทีไรก็แจกอั่งเปาน่ะ บางครั้ง มันก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนะ
ในที่สุดนฤเบศวร์ก็เห็นภรรยาที่รักยอมกดเปิดซอง รับอั่งเปาแล้ว ถึงได้คลายกังวล
หลังจากที่โปรยอั่งเปาได้ผลแล้ว เขาก็ไม่ส่งอั่งเปาไปอีก เปลี่ยนเป็นโอนเงินเข้าบัญชีแทน โดยโอนมาสองครั้งซึ่งเป็นเงิน520และ1314
กนกอรเก็บอั่งเปาจนเหนื่อย จึงอดไม่ได้ที่จะโทรหานฤเบศวร์
นฤเบศวร์รับสายเธออย่างรวดเร็ว
“เมียจ๋า”
ตอนที่นฤเบศวร์เรียกว่าเมียจ๋า ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเอาอกเอาใจ
“ที่รัก ยังมีอั่งเปาอีกเยอะ ค่อยๆเก็บนะ”
“ฉันเก็บอั่งเปาจนมือไม้อ่อนหมดแล้วเนี่ย นายไม่ใจกว้างหน่อยล่ะ โอนเงินเก็บทั้งหมดของนายมาให้ทีเดียวเลยเป็นไง?”
นฤเบศวร์หัวเราะร่า “อย่างนี้คุณถึงจะสนใจผม ถึงจะโทรมาหาผมไง”
ถ้าเขาโอนเงินเก็บส่วนตัวไปให้หมดในคราวเดียว เธอเก็บเงินแล้ว ก็ไม่สนใจเขาน่ะสิ เขาได้ไม่คุ้มเสียนี่นา
กนกอรต่อว่าเขาด้วยความหงุดหงิด
นฤเบศวร์หัวเราะอารมณ์ดี ยอมให้ภรรยาต่อว่าเขาอยู่ในสายโดยไม่ตอบโต้
รอให้กนกอรด่าเขาจบ เขาจึงพูดต่อ: “อีกเดี๋ยวก็จะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว อย่าโกรธเลย ที่ผมปิดบังคุณ เพราะไม่อยากให้คุณกังวล อีกอย่าง หลังจากที่คุณรู้แล้วคนที่คุณเป็นห่วงจะไม่ใช่ผม แต่เป็นเทวิกาต่างหาก”
กนกอร: “……”
ทั้งตัวและหัวใจของเธอเป็นของเขา ในท้องก็มีลูกเขาอยู่ด้วย เขายังจะหึงเทวิกาอีกเนี่ยนะ
ทนเห็นเธอเป็นห่วงเทวิกาไม่ได้เลย
“ในเมื่อไปแล้ว ก็อยู่หลายๆวันหน่อย รอให้เรื่องทางฝั่งนั้นจัดการเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา”
“ที่รัก คุณไม่คิดถึงผมเหรอ?”
นฤเบศวร์ถามขึ้นอย่างน่าสงสารทันที
ที่เขามาที่นี่ด้วยตนเอง ประเด็นหลักเพราะรู้ว่าสถานการณ์ที่เมืองซูเพร่าอันตรายมาก แค่เรื่องราวสิ้นสุดลง ถึงตัวเขาจะยังไม่กลับไป แต่ใจลอยกลับไปอยู่ข้างกายภรรยาแล้ว
โดยเฉพาะยิ่งใกล้วันแต่งงานเท่าไหร่ นฤเบศวร์ก็อยากจะตัวติดกับภรรยาที่รักทุกวันซะเหลือเกิน
“ไม่คิด”
“รู้อยู่แล้วว่าคุณไม่คิดถึงผม คุณคงคิดถึงเทวิกาสินะ ถ้าเทวิกาเป็นผู้ชาย ผมรับรองเลยว่าถ้าได้เจอเขาเมื่อไหร่ก็จะต่อยเขาทุกครั้งที่เจอแน่ๆ”
กนกอรขำพรืดออกมา
“ใจแคบชะมัด วิกาเป็นแม่สื่อให้เราสองคนนะ ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันคงไม่รู้จักนายหรอก แล้วเราคงไม่ได้กลายเป็นสามีภรรยากัน”
ด้วยฐานะของเธอ มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรู้จักนฤเบศวร์
ดังนั้นบอกได้เลยว่า เทวิกาเป็นแม่สื่อของสองสามีภรรยาคู่นี้