รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 701 คุณชลผู้กลัวตาย
“แม่ก็เตรียมของขวัญแต่งงานไว้ให้กนกอรแล้ว วางที่บ้านของแม่สามีลูกทางนั้น ลูกกลับไปแล้ว ช่วยเอาของขวัญแต่งงานไปให้เธอแทนแม่ด้วยนะ ขอโทษเธอแทนแม่ด้วย ที่แม่อาจจะไปร่วมงานแต่งงานของเธอไม่ได้แล้ว”
ญาณินชอบเพื่อนสนิทของลูกสาวหลายคนมาก
โดยเฉพาะกนกอร
เดิมทีเธอจะไปร่วมงานแต่งงานของกนกอรด้วย แต่ตอนนี้ไซม่อนต้องการจัดการเรื่องภายในครอบครัวสาระทา เธอจะไม่ยอมให้เขาขับไสไล่ส่งอีกแล้ว จะตายก็จะขอตายเคียงข้างเขา
ดังนั้นงานแต่งงานของกนกอร เธอจึงไม่ไปแล้ว
ยังดีที่ของขวัญวันแต่งงานของกนกอร เธอเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“ค่ะแม่ หนูเข้าใจแล้ว”
“เอาละ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ลูกก็กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ พิรัตน์ให้แม่บ้านดูแลก็ได้”
เพื่อต้องการดูแลพิรัตน์ให้ดี ในตอนแรกตระกูลสาระทาจ้างแม่บ้านเก่ากลับมาไม่น้อย
หญิงชราบ่นพึมพำลับหลัง ไม่ใช่ลูกแท้ๆเสียหน่อย ทำไมต้องดีกับพิรัตน์ขนาดนั้น
ถ้าเกิดเป็นคนอกตัญญู ต่อไปเทวิกาก็จะต้องเสียใจภายหลัง
แน่นอนว่าหญิงชราไม่มีทางบ่นต่อหน้าเทวิกา เทวิกากับแม่รักและเอ็นดูพิรัตน์มากขนาดนั้น ถ้าเธอบ่น เกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งกับหลานสาว
ญาณินเป็นฝ่ายวางสาย
ไซม่อนถามเธอว่า “เพื่อนสนิทของวิกานั้นจะจัดงานแต่งงานแล้วเหรอ เมื่อไหร่ล่ะ”
“อีกสามวันค่ะ”
“คุณเตรียมของขวัญแต่งงานให้เธอแล้วเหรอ ได้เตรียมเผื่อผมชิ้นหนึ่งหรือเปล่า เด็กคนนั้นเป็นคนที่รักเพื่อนมากคนหนึ่ง ช่วยทวงความยุติธรรมให้เพื่อนอย่างมาก วิกาได้เพื่อนแบบนี้ เป็นความโชคดีของเธอ เธอจะแต่งงานทั้งที ผมก็อยากจะมอบของขวัญเป็นการอวยพรเธอสักชิ้น”
ความประทับใจของไซม่อนที่มีต่อกนกอรนั้นดีมาก
“ฉันไม่ได้เตรียมเผื่อคุณค่ะ พรุ่งนี้คุณออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านแล้ว ก็เปิดห้องเก็บของของคุณหยิบเอาเครื่องประดับสักสองสามชุดให้วิกาเอาไปให้กนกอรเป็นของขวัญแต่งงานก็ได้ค่ะ”
ของขวัญที่เธอเตรียมไว้ตอนอยู่เมืองแอคเซสซ์นั้น ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ให้อภัยไซม่อนอย่างแท้จริงเลย จะไปช่วยคิดแทนเขาได้อย่างไร และก็ไม่รู้ว่าเขาจะให้ของขวัญหรือเปล่าด้วย
“ก็ได้ ที่รัก ของขวัญที่คุณเตรียมไว้คืออะไรเหรอ”
“ก็เป็นเครื่องประดับสองสามชุดค่ะ”
ไซม่อนรู้ดีอยู่แก่ใจแล้ว
……
ประตูบ้านพักตากอากาศย่านชานเมืองหลังหนึ่งของตระกูลสาระทาเปิดออก พวกเขามาต้อนรับนายน้อยของพวกเขา
รถประจำตัวของประยสย์ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของบอดี้การ์ด ค่อยๆขับเข้ามาในบริเวณบ้านพัก สุดท้ายก็จอดลงที่ลานจอดรถ
พนักงานที่ดูแลบ้านพักทั้งหมดต่างก็มาที่ลานจอดรถ รอประยสย์ลงจากรถ
“นายน้อย”
“นายน้อย”
หลังจากที่ประยสย์ลงมาจากรถ เสียงทักทายของผู้คนต่างก็ดังต่อเนื่องขึ้นมาเป็นระลอก
ประยสย์พยักหน้าให้เล็กน้อย
เขาถามพ่อบ้านใหญ่ว่า “อาสามเป็นยังไงบ้าง”
“คุณชลอยู่ในห้องครับ”
ในตอนแรกชลถูกขังไว้ในห้องใต้ดิน ไม่นาน ไซม่อนก็ให้พ่อบ้านใหญ่ปล่อยเขาออกมา อนุญาตให้เขาเดินไปมาภายในบริเวณบ้านพักได้อย่างอิสระ แต่ไม่ให้เขาออกไปด้านนอกของบ้านพัก และไม่อนุญาตให้เขาติดต่อกับคนที่อยู่ภายนอก
เขายังคงเป็นนายสามของตระกูลสาระทา ก็แค่ก้าวขาออกจากบ้านพักตากอากาศแม้แต่ก้าวเดียวไม่ได้เท่านั้น
ชลให้สัญญาว่าจะมอบผลประโยชน์ให้กับทุกคน เพราะต้องการให้พวกเขาเอาโทรศัพท์มือถือให้เขา หรือว่าให้เขาสามารถใช้โทรศัพท์ได้บ้าง แต่ก็ถูกปฏิเสธ
ชลร้อนใจ อยากจะรู้ว่าพี่ชายใหญ่ของเขาคิดจะทำอะไรต่อไป อยากรู้เรื่องการทำสงครามระหว่างพี่ชายใหญ่กับตระกูลเลิศธนโยธาใครแพ้ใครชนะ แน่นอนว่าเขาคาดควังให้พี่ชายใหญ่ของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทางที่ดีที่สุดให้พี่ชายใหญ่ของเขาถูกตระกูลเลิศธนโยธากำจัดทิ้งไป แล้วก็ประยสย์ ตายไปด้วยถึงจะดี
เช่นนั้น เขาก็มีความหวังที่จะได้นั่งบนตำแหน่งผู้นำของตระกูล
แต่น่าเสียดายที่เขาอยู่ในบ้านพักตากอากาศติดต่อโลกภายนอกไม่ได้ บ้านพักตากอากาศหลังนี้เป็นบ้านที่ใช้พักอาศัยในช่วงวันหยุดภาคฤดูร้อน ตอนนี้อากาศหนาวจัด ภรรยาและลูกชายลูกสาวของเขาก็คงไม่มีทางมาที่นี่ ทำให้เขาจนปัญญา
การถูกเลี้ยงดูอยู่ที่นี่ ทำให้เขาอ้วนขึ้นมาห้ากิโลกรัม
“ท่านผู้นำให้ผมมาพาตัวอาสามกลับไป”
ประยศย์พูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
เขาเป็นนายน้อย แล้วยังเป็นลูกชายของผู้นำตระกูลด้วย ไม่มีใครสงสัยว่าคำพูดเขาเป็นเรื่องเท็จ ข่าวตระกูลเลิศธนโยธาสิ้นอำนาจ ทุกคนต่างก็รู้ดี แต่แค่ปิดบังชลเอาไว้เท่านั้น
ชลยังคงมีความฝันลมๆแล้งๆอยู่เลย ข่มขู่พ่อบ้านใหญ่ทุกวันไม่หยุด บอกว่ารอให้เขาได้ออกไปก่อน จะไม่ปล่อยพวกเขาเลยสักคนแน่นอน
“นายน้อยเชิญตามผมมาครับ”
พ่อบ้านใหญ่เป็นคนที่ดูแลบ้านพักหลังนี้ พ่อบ้านคนอื่นๆอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
แน่นอนว่าต้องเป็นเขาที่พาประยสย์ไปที่ห้องที่ซึ่งชลอยู่เป็นประจำ
บริเวณบ้านใหญ่มาก ต้องนั่งรถไป
มีคนเตรียมรถรางชมเมืองจำพวกนั้นเอาไว้เรียบร้อยนานแล้ว พ่อบ้านใหญ่ขับรถด้วยตัวเอง พาประยสย์รวมทั้งบอดี้การ์ดไปที่ห้องชล
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ประยสย์ก็มาปรากฏตัวที่ประตู
เมื่อก่อนตอนที่ชลพามาภรรยาและลูกชายลูกสาวมาพักร้อนที่นี่ คนในครอบครัวก็ชอบมาพักอยู่ที่นี่ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่กลับมีทิวทัศน์งดงามอย่างยิ่ง ตอนนี้ ที่นี่กลับมีแค่ชลพักอยู่เพียงคนเดียว
บอดี้การ์ดที่มากับชลในตอนแรกพวกนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะพักในอยู่ในบ้านพักเล็กๆเหล่านี้ พวกเขาก็ไม่ได้มีอิสระเหมือนกับชล
ตอนที่ประยสย์เดินเข้ามา ได้ยินเสียงคุณอาสามของเขาก่นด่าพ่อกับเขาให้ตายเร็วๆ
“ทำให้อาสามต้องผิดหวังแล้วนะครับ พวกเราสองคนพ่อลูกยังมีชีวิตอยู่ดีครับ”
ประยสย์พูดต่อชลคำพูดอย่างเยือกเย็น
ชลหันควับกลับมาทันที หลังจากมองเห็นประยสย์แล้ว ก็ตกใจจนเซถอยหลังไปสองสามก้าว ถอยเร็วเกินไป ไม่ทันได้ระวังจึงล้มลงบนพื้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเลย มองดูแล้วหมดสภาพ
นัยน์ตาประยสย์มีความเยาะเย้ย
ใบหน้าชราภาพของชลเดือดแดงขึ้นมา ตัวเองปีนลุกขึ้นมา ยังคงถอยหลังไปอีกหลายก้าว ระยะห่างจากประยสย์ไกลสิบกว่าเมตรเลย
เขาชี้ไปที่ประยสย์ ตะคอกถามว่า “ประยสย์ แกมาทำไม ฉันจะเตือนแกไว้นะ ถ้าแกกล้าลงไม้ลงมือกับฉัน ฟ้าจะผ่าแก ฉันเป็นอาสามของแก เป็นญาติผู้ใหญ่ของแกนะ แล้วปู่กับย่าของแกก็ไม่ไว้ชีวิตแกแน่ และลูกสาวฉันก็ต้องไปล้างแค้นแกด้วย”
การมาของประยสย์ ทำให้ความฝันว่าตระกูลเลิศธนโยธาจะสามารถกำจัดพี่ชายใหญ่กับลูกชายของเขาได้นั้นพังทลายลง
ชลเดาว่าตระกูลเลิศธนโยธาอาจจะเจอหายนะแล้ว มิเช่นนั้นประยสย์คงไม่มาที่นี่
และยิ่งกลัวว่าพี่ชายใหญ่จะมาคิดบัญชีกับเขา จึงให้ประยสย์มาจัดการกับเขา
เขายังไม่อยากตาย
สีหน้าประยสย์สุขุมเยือกเย็น เขาก้าวมาข้างหน้าทีละก้าว
ชลก้าวถอยหลังไปทีละก้าว และยังร้องตะโกนใส่พ่อบ้านใหญ่ว่า “ลุงทศ ลุงตายไปแล้วเหรอ ทำไมยังไม่มาขวางเขาเอาไว้อีก ถ้าเขาทำอะไรผม พ่อกับแม่ผมก็ต้องมาคิดบัญชีกับลุง ลุงก็ต้องเดือดร้อนแน่ อย่าคิดว่าไซม่อนยิ่งใหญ่จะทำอะไรก็ได้ พ่อกับแม่ผมยังอยู่ทั้งคนนะ!”
“ประยสย์ แกอย่าเข้ามา ถ้าเข้ามาอีก ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ อย่าคิดว่าอาสามของแกแก่แล้ว สุขภาพร่างกายฉันยังแข็งแรงมาก”
ชลร้องตะโกนไปพลางถอยหลังไปพลาง ถอยมาถึงผนัง ไม่มีที่ให้หนีต่ออีกแล้ว เขาก็เริ่มออกท่าทางกังฟู แน่นอนว่าท่าทางแบบนั้นในสายตาของประยสย์นั้นก็คือท่าดีทีเหลว
ประยสย์เข้ามาใกล้แล้ว ก็เอามือทั้งสองข้างของอาสามเขาไพล่ไว้ด้านหลัง แล้วค่อยผลักไปด้านหน้า ดันอาสามเขาไปที่ผนัง หันหน้าเข้าผนัง
“ประยสย์ ฉันคืออาสาม อาแท้ๆของแกนะ พวกเราเป็นอาหลานกัน ไม่ว่าในอดีตอาจะเคยทำอะไรไว้ พวกเรามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน แกอย่าทำอะไรบ้าๆนะ”
ชลกลัวจนถึงขั้นเอาความสัมพันธ์ทางสายเลือดมาอ้าง เพราะรู้มาตลอดว่าหลานชายคนนี้เป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยม
ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีวันใดวันหนึ่ง ตนเองจะถูกหลานชายกำจัด