รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 711 ผมจะแสดงความกตัญญูอย่างเต็มที่!
เมื่อเห็นว่าลูกชายคนโตไม่ตอบ แถมไม่ปลอบใจคู่สามีภรรยาชราทั้งสองคน
ชายชราได้แต่ตบหลังมือของภรรยา
หญิงชราเช็ดน้ำตาและค่อยๆ สงบลง
พวกเรารู้ว่าเรื่องนี้ ต่อให้พวกเขาสองสามีภรรยาร้องไห้จนตายไปต่อหน้าต่อตาลูกชายคนโตก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
สิ่งที่พวกเขาทำได้เพื่อลูกชายสองคนของพวกเขา คือการใช้เงินจำนวนมากจ้างทนายความเก่ง ๆ มาช่วยแก้ต่างให้กับลูกชายอีกสองคนเท่านั้น
“เมียกับลูกชายของแกอยู่ไหน ฉันกับพ่อแกจะเป็นลมอยู่แล้ว ทำไมพวกเขาถึงไม่มาคอยดูแลพวกเราสองคน”
หลังจากหญิงชราหยุดร้องไห้แหกปากด่าทอแล้ว ก็เริ่มคิดจะหาเรื่องลูกสะใภ้และหลานชายอีกแล้ว
“แม่ นี่แม่คิดว่าณินจะยังเห็นแม่เป็นแม่สามีอยู่อีกเหรอครับ แม่ไม่เห็นเธอเป็นลูกสะใภ้มาตั้งนานแล้ว ยังคิดอยากให้เธอมาดูแลอยู่อีกเหรอครับ ที่ผมไม่ให้ณินอยู่ดูแลแม่ก็เพราะอยากให้แม่มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักสองสามปีไง เดี๋ยวจะโมโหณินจนอกแตกตายซะก่อน”
หญิงชราสะอึก
สักพักเธอก็พูดขึ้นว่า “ประยสย์กับวิกาเป็นหลานชายหลายสาวแท้ ๆ ของฉัน ฉันกับพ่อแกเป็นขนาดนี้แล้ว ในฐานะที่พวกเขาเป็นหลานไม่ควรจะแสดงความกตัญญูสักหน่อยเหรอ”
“ทำไมเหรอครับ แม่คิดว่าผมที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ดูแลแม่กับพ่อไม่ดีพออย่างนั้นเหรอครับ ถึงไม่อยากให้ลูกชายแสดงความกตัญญู อีกอย่างหลานชายหลานสาวของแม่ก็ไม่ได้มีแค่วิกากับพี่ชายแค่สองคนนะครับ ถ้าแม่อยากให้พวกหลาน ๆ มาดูแลละก็ไว้พรุ่งนี้เช้า ผมจะไปคุยกับพวกเขาเองว่าให้พวกเขาจัดการผลัดกันมาดูแลพ่อกับแม่”
“แน่นอน ต้องมั่นใจว่าพวกเจนสันบริสุทธิ์จริง ๆ พวกเขาถึงสามารถมาดูแลพ่อแม่ได้นะครับ”
หญิงชราพูดอย่างกระวนกระวาย “พวกเจนสันยังเด็ก สิ่งที่พ่อแม่ของพวกเขาทำไปทั้งหมด พวกเขาต้องไม่รู้เรื่องด้วยแน่ ๆ เจนสันก็แค่เคยแข่งขันแย่งอำนาจในบริษัทกับประยสย์ก็เท่านั้นเอง แล้วเขาก็แพ้และถูกพวกแกสองพ่อลูกไล่ออกจากสำนักงานใหญ่ของโอเอ กรุ๊ป แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไซม่อน แกบอกว่าพวกน้องชายของแกลงมือกับแกอย่างโหดเหี้ยมใจร้าย หลักฐานของแกของแน่นหนา แล้วนังณิชกานต์นังสารเลวคนนั้นก็ยอมรับแล้ว แม่ไม่มีอะไรจะพูด แต่พวกหลานสาวหลานชายทุกคนบริสุทธิ์จริง ๆ แกอย่าโหดร้ายกับพวกเขา อย่าทำลายทุกคนจนหมดหนทาง”
“ถือเสียว่าสะสมบุญความดีไว้ให้ลูกสาวลูกชายของแกเถอะนะ ตอนนี้วิกาก็กำลังตั้งท้อง ถือสะว่าเป็นการสั่งสมบุญให้ลูกในท้องของวิกาก็ได้”
ไซม่อนยังคงแสดงสีหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม เขาพูดขึ้นว่า “พวกเขาบริสุทธิ์หรือเปล่า ผมเชื่อว่าตำรวจจะสอบสวนให้กระจ่างแน่นอน และผมจะไม่เข้าไปก้าวก่ายด้วย”
หญิงชราอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ถูกสามีสะกิด จึงไม่ได้พูดอะไร
ตราบใดที่ไซม่อนไม่เข้าไปก้าวก่าย พวกหลาน ๆ ก็ยังนับว่ายังมีโอกาสที่จะเป็นอิสระอยู่
แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนบริสุทธิ์จริง ๆ
“ไซม่อน ฉันกับแม่แกก็ได้สติแล้ว แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอก กลับไปพักผ่อนเถอะ มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “ฉันกับแม่แกก็จะพักผ่อนเหมือนกัน”
ไซม่อนไม่ออกไป แต่กลับพูดขึ้นว่า “ไว้พ่อกับแม่กินยาแล้วผมค่อยกลับไปพักผ่อน เพราะตอนนี้คงจะเหลือแค่ลูกชายคนโตที่พ่อกับแม่ไม่เคยชอบคนนี้มาแสดงความกตัญญูต่อหน้าพ่อแม่แค่คนเดียวแล้ว ฉะนั้นผมต้องแสดงความกตัญญูให้เต็มที่”
คู่สามีภรรยาชรายิ่งถูกลูกชายพูดแบบนี้ใส่ยิ่งรู้สึกวิงเวียนหัวยิ่งกว่าเดิม
หญิงชราลำเอียง แต่ตอนนั้นชายชรากลับยืนกรานที่จะให้ลูกชายคนโตขึ้นรับช่วงต่อ
เขาให้ความสำคัญกับลูกชายคนโตมาตลอด การสั่งสอนที่ลูกชายคนโตได้รับมาตั้งแต่เด็กล้วนสั่งสอนเพื่อเป็นผู้สืบทอด ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกอาจจะไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่นัก เพราะตอนนั้นเขาเป็นพ่อที่เข้มงวดมากด้วย
สำหรับลูกชายคนโต ชายชราจะบอกว่าไม่ชอบก็ไม่ได้
“มีอีกเรื่องที่ผมจะต้องเตือนพ่อกับแม่ไว้”
ชายหญิงชราทั้งคู่มองไซม่อนอย่างประหม่า
“คนในตระกูลบางคนเหยียดแขนยาวจนเกินไป ยุยงเจ้าสองกับเจ้าสามลับหลังให้ทำเรื่องโหดร้ายก็ไม่น้อย พวกนั้นผมก็จะจัดการไปพร้อมกันเลย พรุ่งนี้เช้าพวกลุง ๆ ป้า ๆ พวกนั้นคงจะแห่กันมาขอร้องอ้อนวอนพ่อกับแม่กันทั้งโขยง”
“ถ้าพ่อแม่ไม่รู้สึกรำคาญจะไปเจอพวกเขาก็ได้ แต่ถ้ารำคาญเสียงดังก็นอนเฉย ๆ อยู่บนเตียงไม่ต้องออกไปเจอแขก”
เพราะถึงยังไงชายหญิงชราทั้งสองคนก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าตระกูลแล้ว ต่อให้พวกลุง ๆ ป้า ๆ ทั้งหลายมาหาพวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี
ชายหญิงชราทั้งสอง “…”
พวกเขาจะทนเป็นลมได้กี่วัน
คนใช้เตรียมยาให้สำหรับชายหญิงชราทั้งสองคน หลังจากไซม่อนเฝ้าดูพ่อแม่ชราทั้งสองกินยาขมสีดำชามใหญ่เสร็จแล้ว เขาถึงเดินออกไปจากห้องของพ่อแม่
ข้างนอกท้องฟ้าเริ่มจะสว่างแล้ว
เขาไม่ได้นอนหลับเลยทั้งคืน
ไซม่อนไม่ได้ออกไปจากคฤหาสน์ แต่กลับไปที่ห้องที่ญาณินอยู่ซึ่งเป็นห้องหอของพวกเขาสองสามีภรรยาตอนที่พวกเขาแต่งงานกัน
หลังจากเขาเดินออกไป หญิงชราก็หันไปคร่ำครวญกับสามีของเธอ “ดูสิ ผู้สืบทอดของคุณทำแบบนี้กับลูกชายของฉัน สงสารลูกชายทั้งสองคนของฉันจริง ๆ เลย”
ชายชราพูดอย่างปวดหัว “แล้วไซม่อนไม่ใช่ลูกชายของคุณเหรอ เขาเป็นลูกชายและหลานชายคนโต เดิมทีก็เป็นผู้สืบทอดอยู่แล้ว ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่คุณกับผมสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ คุณเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าตอนนั้นพ่อกับแม่ของผมรักเขามากขนาดไหน”
“เรื่องนี้ สุดท้ายแล้วจะโทษไซม่อนก็ไม่ได้ แต่เป็นเพราะเจ้าสองกับเจ้าสามที่เจตนาร้าย ทำเรื่องที่ผิด ตอนนี้พวกเขาก็แค่กำลังรับผลกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้เท่านั้นเอง เอาล่ะ คุณก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว สิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือช่วยหาทนายเก่ง ๆ มาช่วยว่าความให้เจ้าสองกับเจ้าสามก็เท่านั้น”
“นี่ฉันทำบาปทำกรรมอะไรมาเนี่ย ลูกชายของฉันถึงได้ลงมือทำร้ายกันเองแบบนี้”
หญิงชราเองก็รู้ว่าเรื่องนี้จะโทษลูกชายคนโตก็ไม่ได้
เพียงแต่ว่าคนที่แพ้คือลูกชายคนเล็กทั้งสองคน เธอก็แค่สงสารลูกชายคนเล็กทั้งสองคนของเธอ
ถ้าคนที่แพ้คือลูกชายคนโต เธอก็คงจะสงสารลูกชายคนโตเหมือนกัน คนเป็นพ่อเป็นแม่ จะมีสักกี่คนที่อยากเห็นลูกชายลูกสาวมาทะเลาะทำร้ายกันเองแบบนี้
“เป็นเพราะณิชกานต์ นังสารเลวคนนั้นคนเดียวเลย! เธอเก็บหลักฐานทุกอย่างเอาไว้หมดแถมส่งมันให้ไซม่อน แบบนี้เธอพยายามจะทำให้ชลของฉันพังทลายชัด ๆ ชลก็แค่เป็นคนเจ้าชู้ไปหน่อย แถมเธอก็แก้แค้นไปแล้ว จนทำให้ชลสูญเสียความสามารถในการมีบุตรไปแล้ว ส่วนพวกผู้หญิงข้างนอกทั้งหลายของชล ต่อให้ตั้งท้องก็ถูกเธอพาไปทำแท้งจนหมด”
“แถมเธอยังคิดจะฆ่าชลให้ตายอีก นังผู้หญิงร้ายกาจ! ฉันมองพลาดไปจริง ๆ ถึงได้ให้ชลแต่งงานกับผู้หญิงร้ายกาจคนนี้”
ยิ่งหญิงชราคิดถึงเรื่องที่ชลเอาหลักฐานการกระทำความผิดทั้งหมดให้ลุกชายคนโตของเธอ เธอก็ยิ่งโมโห
กร่นด่าณิชกานต์จนเลือดขึ้นหน้า
ส่วนชายชราจะพูดอะไรได้?
ที่ณิชกานต์ทำแบบนั้นก็คงเพราะมองทุกอย่างชัดเจนแล้ว และพยายามทิ้งทางรอดเอาไว้ให้ลูกสาวลูกชายทั้งสามคนของเธอก็เท่านั้น
ข้างนอกเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ
พวกผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลแห่กันมาอีกแล้ว
ทุกคนต่างมาตะโกนร้องอยากจะขอพบชายชรา
คนใช้ต้องมาเคาะประตูอย่างช่วยไม่ได้
ชายชราเปิดประตูห้อง
“คุณท่านคะ พวกพี่น้องของคุณท่านมาร้องตะโกนอยากจะขอพบคุณท่านค่ะ คุณท่านจะไปพบพวกเขาไหมคะ”
ชายชราปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด เขาพูดขึ้นว่า “เธอโทรไปที่ห้องบอดี้การ์ด ฉันกับคุณหญิงป่วย ลุกไม่ขึ้น ไม่สามารถออกไปพบแขกได้”
คนรับใช้น้อมรับคำสั่ง
ชายชราหันหลังกลับและปิดประตูห้อง
เฮ้อ!
ตระกูลสาระทาของพวกเขาอยู่ในมือของลูกชายคนโต มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่สามารถลงรอยกันได้เหมือนเดิมแล้ว
ก็ดีเหมือนกัน ยิ่งพยายามบิดให้ลงรอยกันเท่าไหร่ ข้อจำกัดก็ยิ่งมาก ยิ่งทำให้พวกเขาได้ใจ คิดแต่จะทำในเรื่องที่ไม่ควรคิด
เขาซึ่งเคยนั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมานานหลายสิบปี ในใจของเขาเข้าใจดีว่ากฎตระกูลสาระทาของพวกเขามันล้าหลังมากแค่ไหน ซึ่งมันไม่เหมาะกับการพัฒนาสถานภาพครอบครัวในปัจจุบันนี้