รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 726 งานแต่ง งานมงคล
ใบหน้าของประยสย์เกรี้ยวกราด ถามออกมาว่า: “คุณย่า คุณย่าต้องการให้ผมแต่งงานกับคุณหนูรองของตระกูลนนท์สัจทัศน์จริงเหรอ?”
“ณิศามีอะไรไม่ดี?เธอกับวิกาเป็นเพื่อนสนิทกัน ถ้าเธอไม่ดี วิกาก็คงไม่เป็นเพื่อนกับเธอ”
ประยสย์หน้าบึ้งไม่พูดอะไร
เมื่อคุณหญิงย่าเห็นเขาไม่รับปาก ก็ร้องไห้จะไปตายอีกครั้ง ประยสย์ทนไม่ได้กับพฤติกรรมของเธอที่ร้องไห้งอแงแล้วจะไปตาย
จึงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “คำพูดของแม่ผม คุณย่าก็ได้ยินแล้ว ถ้าคุณย่ามีปัญญาทำให้คุณกิอ้วกรับปากตอบตกลงก็แล้วกัน
ยกณิศาให้แต่งงานกับผม ผมก็ยินดีที่จะแต่งงานกับเธอ”
พูดจบ ประยสย์ก็เปิดประตูเดินออกไปทันที
“ประยสย์ ประยสย์”
ญาณินทำท่าเหมือนสงสารลูกชาย วิ่งไล่ตามลูกชายออกไป
ไซม่อนดันคุณแม่ให้นั่งลงบนโซฟา แล้วพูดออกมาอย่างไม่มีทางเลือกว่า: “แม่ การแต่งงานเป็นเรื่องของสองตระกูล ยสย์กับกัญณิศาถึงแม้จะรู้จักกันแล้ว แต่เขาสองคนไม่ได้ชอบพอกัน ไม่มีความรักต่อกัน ถ้าแต่งงานกันไป ก็มีแต่จะกลายเป็นคู่รักคูแค้นกัน ทำไมแม่ต้องบังคับเขาให้แต่งงานกับคุณหนูรองของตระกูลนนท์สัจทัศน์ด้วย?”
“อีกอย่างตระกูลนนท์สัจทัศน์ก็เหลือแค่สองคนพี่น้องแล้ว ถึงแม้คุณกิติยาจะสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองแล้ว แต่สมาชิกคนในครอบครัวน้อยมาก เดิมที่ผมคิดว่าอยากให้ประยสย์แต่งงานกับญาติฝั่งภรรยาของผมจะได้ช่วยเหลือกันได้ คุณกิติยารักน้องสาวของเธอมาก คิดว่าคงไม่ยอมให้คุณหนูรองแต่งงานมาที่ตระกูลเราหรอก เพราะไกลเกินไป”
เมื่อคุณหญิงย่าเห็นทั้งสามคนเริ่มมีท่าทีที่อ่อนลง จึงรีบคว้าโอกาสไว้ พูดขึ้นมาทันทีว่า: “เรื่องไปสู่ขอ พวกแกไม่ต้องยุ่ง ฉันจัดการเอง ฉันจะพาประยสย์ไปสู่ขอเอง แต่ว่าก่อนที่ฉันจะไปสู่ขอ ให้ประยสย์ไปเมืองแอคเซสซ์บ่มเพาะความสัมพันธ์กับณิศาหน่อย อย่างน้อยให้คุณกิติยารู้ถึงความต้องการขอตระกูลเรา”
เพราะถ้าจู่ๆ ก็ไปสู่ขอ อาจถูกคุณกิติยาไล่ออกมาได้
ไซม่อนคิดดูแล้ว ก็ได้พูดขึ้นมาว่า: “ถ้างั้นวันมะรืนก็ให้ประยสย์ไปเมืองแอคเซสซ์เลย ยังสามารถเข้าร่วมงานแต่งของคุณนฤเบศวร์ได้ หลังจากนั้นก็ให้เขาบ่มเพาะความสัมพันธ์กับคุณหนูรองหน่อย แม่ นี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว อากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ สุขภาพของแม่ก็ไม่ค่อยดี แม่ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองดีๆ รอหลังปีใหม่ค่อยว่ากันอีกที
เมื่อคุณหญิงย่าสามารถบีบบังคับให้ประยสย์ใจอ่อน ยอมรับปากแต่งงานกับณิศา เธอก็หายป่วยทันที เพราะเธอแกล้งป่วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ร่างกายเธอยังแข็งแรงมากอยู่ ขอแค่ดูแลบำรุงดีๆ หน่อย เธอยังสามารถอยู่ทรมานประยสย์ได้จนถึงเขามีลูกเลยก็ยังได้
ประยสย์อาจไม่มีลูกก็ได้ เพราะเขาไม่ชอบกัญณิศา ถึงแม้จะแต่งงานกับกัญณิศา อาจเป็นไปได้ที่เขาปล่อยไว้กัญณิศาอยู่คนเดียว แล้วจะไม่ลูกได้ยังไง?
คุณหญิงย่าตอบอืมออกมา ถือว่าเห็นด้วยกับการจัดการของไซม่อน
“แม่ แม่เป็นหวัดแล้ว ให้หมอมาดูอาการหน่อยดูกว่า จัดยากินหน่อยจะได้หาย”
ไซม่อนพูดจบ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหมอประจำครอบครัว เพื่อให้หมอมาดูอาการให้คุณหญิงย่าแล้วจัดยาให้
เมื่อคุณหญิงย่าเมื่อได้ยินว่าต้องกินยาสมุนไพรจีน พูดออกมาด้วยสีหน้าขมขื่นว่า: “ให้คุณหมอสั่งยาแผนปัจจุบันให้กินสักสองวันก็พอ ฉันเป็นหวัดเพราะอากาศหนาว”
“แม่ กินยาสมุนไพรจีนมีผลข้างเคียงน้อย กินยาสมุนไพรจีนดีกว่า”
คุณหญิงย่า: “……”
เธอกล้าพูด ว่าลูกชายคนโตจงใจแกล้งเธอ
เมื่อนึกถึงเมื่อกี้ที่ตัวเองร้องไห้จะเอาเป็นเอาตายเพื่อให้หลานชายคนโตแต่งงานกับกัญณิศา ลูกชายคนโตรู้สึกโกรธก็เป็นเรื่องธรรมดา แค่ให้เธอกินยาสมุนไพรจีนดำๆ นั้นสองสามถ้วย ไม่ได้เป็นผลร้ายต่อชีวิตเธอ คุณหญิงย่าจึงไม่ปฏิเสธอีก
ภายใต้สถานการณ์ที่คุณหญิงย่าทนรอไม่ไหว ในที่สุดประยสย์ก็สามารถโยนงานที่ตัวเองต้องจัดการแก้ไขภายหลังจากเกิดเรื่องคืนกลับไปให้พ่อ จากนั้นพาบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขา นั่งเครื่องบินส่วนตัว บินไปเมืองแอคเซสซ์เพื่อตามหาภรรยาของเขาอย่างมีความสุข
วันที่เขาไปนั้นเป็นวันแต่งงานของนฤเบศวร์กับกนกอรพอดี
เพื่อรักษาคำพูดที่รับปากไว้จะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของนฤเบศวร์ ประยสย์ออกเดินทางไปเมืองแอคเซสซ์ตั้งแต่ตีสี่ เมื่อไปถึงบ้าน
นฤเบศวร์ นฤเบศวร์ได้เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวออกเดินทางไปสู่ขอกนกอร
เมื่อเห็นประยสย์รีบเดินทางมาเพื่อเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ นฤเบศวร์รู้สึกดีใจมาก เพราะเขาได้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับเพื่อนเจ้าบ่าวให้ประยสย์ตั้งนานแล้ว เมื่อประยสย์ถึง ก็ให้ประยสย์กินอาหารรองท้องก่อนเล็กน้อย จากนั้นเร่งให้เขาเป็นเปลี่ยนเสื้อ เพราะเขาจะไปบ้านกนกอรแล้ว
ชเนนทร์ก็เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
เขาพาประยสย์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
และถามออกมาอย่างเป็นห่วงว่า: “คุณลุงไซม่อนกับคุณป้าญาณินจะมาด้วยไหม?”
“พ่อแม่ผมไม่มีเวลามาร่วมงานแต่งด้วย ของขวัญที่พวกเขาเตรียมให้นฤเบศวร์ได้มอบหมายให้วิกาและสามีเอามาแล้ว”
ของขวัญที่ประยสย์เตรียมให้นฤเบศวร์ก็รบกวนน้องสาวเอามาให้พร้อมกันเช่นเดียวกัน
ชเนนทร์ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า: “เมื่อวันวิกาและยศพัฒน์ก็ได้นำของขวัญมาส่งให้นฤเบศวร์แล้ว ทำให้นฤเบศวร์ยิ้มจนตาหยีไปเลย”
งานแต่ง งานมงคล
นฤเบศวร์รับคนขวัญจนมืออ่อน แต่ว่าสิ่งที่เขาดีใจที่สุดคือ ในที่สุดเขากับกนกอรก็ได้จัดงานแต่งกันสักที ถึงแม้ทั้งสองคนจะจดทะเบียนสมรสกันแล้ว แต่ตอนนี้กนกอรก็ท้องแล้ว ทำให้เขารู้สึกว่าถ้าไม่ได้จัดงานแต่ง ก็เหมือนยังไม่ได้แต่งงาน
กนกอรไม่อยากไปจัดงานแต่งที่โบสถ์ ส่วนนฤเบศวร์ก็อยากจัดงานให้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงจัดเตรียมทางยาวเป็นพิเศษเพื่อต้อนรับเจ้าสาว เพื่อที่เขาจะได้อวดโชว์รถหรูของทีมแต่งงานที่เขาเชิญมา และอวดสินเดิมของกนกอร
สินสอดที่เขาให้กนกอร ตระกูลอริยชัยกุลไม่ได้รับไว้เลย ถือเป็นสินเดิมให้กนกอรเอากลับตระกูลเดชอุปหมด
ดังนั้น สินเดิมของกนกอรจึงเยอะมาก
เช้านี้ นฤเบศวร์ได้ประกาศข่าวที่กนกอรท้องให้ทุกคนได้รับทราบ แถมพูดอีกว่ากนกอรท้องตั้งนานแล้ว และที่ไม่ประกาศแจ้งให้ทุกคนทราบเป็นเพราะครรภ์ยังไม่นิ่ง
เมื่อทุกคนได้ยิน ว๊าย นี่มันเป็นข่าวดีสองชั้นเลยหนิ คำอวยพรไม่ต้องใช้เงิน จึงมีแต่คนพูดอวยพรออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นฤเบศวร์ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
ประยสย์ยิ้ม แล้วพูดออกมาว่า: “ทั้งชีวิตนี้มีข่าวดีข่าวใหญ่ด้วยกันสี่อย่าง นฤเบศวร์ทำข่าวดีสำเร็จไปหนึ่งอย่าง แถมเป็นข่าวดีสองเรื่องพร้อมกันด้วย จะไม่ดีใจได้ยังไง?ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเรา ถ้าได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก จนถึงแก่เฒ่า พวกเราก็คงยิ้มจนตาหยีเหมือนกัน”
งานแต่งของชเนนทร์กับกิติยาใกล้ถึงแล้ว เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “พูดแบบนี้ก็ถูก คุณกลับมาครั้งนี้ อย่าเพิ่งรีบกลับไปนะ รอร่วมงานแต่งผมก่อนค่อยว่ากัน และร่วมงานแต่งของวิกากับยศพัฒน์ด้วย”
“ผมคิดว่าคงจะกลับหลังตรุษจีน”
ประยสย์พูดออกมาอย่างมีความหมายอื่นแฝงอยู่ในคำพูด
“ก็ต้องรอร่วมงานแต่งของพวกคุณอยู่แล้ว เพื่อรับความโชคดีไปด้วย หลังจากนั้นผมถึงจะกลับไปตรุษจีน”
เขามาครั้งนี้เพื่อตามหาความสุขของเขา
“อืม”
“เพื่อนเจ้าบ่าวของนฤเบศวร์มีกี่คน?”
ในขณะที่ประยสย์เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้นได้ถามออกมาด้วย
เขามาจากเมืองซูเพร่า ใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ ถอดเสื้อกันหนาวออกมา แล้วใส่ชุดสูทเข้าไปก็ใช้ได้แล้ว
“นฤเบศวร์เพื่อจัดงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ให้กนกอร ทิ้งศักดิ์ศรีของเขาไป ก่อนหน้านั้นทำตัวหน้าด้าน ไปรบกวนคุณชายต่างๆ ของตระกูลอริยชัยกุล นอกจากคุณชายสิบที่อายุน้อยเกินไป และคุณชายรองที่แต่งงานแล้ว กับคนอื่นที่ภรรยาตั้งท้อง ไม่เป็นที่ต้องการของนฤเบศวร์แล้ว คนอื่นๆ ที่เหลือถูกเขาตามตอแยไม่เลิก”
“สุดท้าย เห็นแก่หน้าของยศพัฒน์และภรรยา คุณชายพวกนั้นยอมตกลงเป็นทีมเพื่อนเจ้าบ่าว ตามคำขอร้องของนฤเบศวร์ จากนั้นบวกคุณกับผม และธันวาอีกคน คิดว่าเพื่อนเจ้าบ่าวของเขาคงเป็นทีมเพื่อนเจ้าบ่าวที่สุดยอดที่สุด”
ประยสย์ได้ยินก็ยิ้มออกมา “ให้เขาเป็นตัวอย่างให้เรา เมื่อถึงตอนพวกเราแต่งงาน จะได้ลอกเลียนแบบพอดี เชิญคุณชายของตระกูลอริยชัยกุลเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้พวกเรา มีหน้ามีตาแค่ไหน พวกเขาเหล่านั้น ไม่เพียงแต่ฐานะดี แถมหน้าตาดีมากอีกด้วย”