ตอนที่ 19 ดมกลิ่นยาจีน
ไป๋เยี่ยยังไม่ได้ใช้ถุงค่าประสบการณ์ที่จับรางวัลมาได้ ในนั้นมีค่าประสบการณ์อยู่ห้าพันแต้ม
เมื่อคิดถึงรางวัลใหญ่มากมายจากการสอบแล้ว ไป๋เยี่ยก็รู้สึกว่าตัวเองเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ เขาคิดว่าตัวเขายังพอมีโอกาสอยู่บ้าง
หลังจากที่เขาแบ่งค่าประสบการณ์ทั้งห้าพันแต้มให้กับวิชาทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีนและวิชายาจีนแล้ว เลเวลของวิชาทฤษฎีพื้นฐานก็เพิ่มขึ้นเป็นเลเวลสาม ในขณะที่วิชายาจีนเพิ่มขึ้นเป็นเลเวลสอง
การอัปเกรดทักษะของสองวิชานี้ไม่ได้เปลี่ยนเพียงตัวเลขเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับทักษะการทำความเข้าใจของไป๋เยี่ยไปด้วย
ไป๋เยี่ยรู้สึกว่าสองวันก่อนหน้านี้เขาอ่านหวงตี้เน่ยจิงไม่เข้าหัวเลย แต่พอตอนนี้เขากลับรู้สึกเข้าใจขึ้นมาก ความเข้าใจเช่นนี้เองที่ทำให้เขาบรรลุได้
แต่ว่า…แค่นี้มันยังไม่พอหรอกนะ!
นี่ยังไม่ใช่ไม้เด็ดของเขา ไป๋เยี่ยคิดว่าตนยังพอมีช่องว่างให้พัฒนาอยู่
อย่างเช่น…
เขาพบว่าตอนนี้เขาสะสมแต้มสมาชิกได้หนึ่งร้อยแต้มแล้ว!
เมื่อลองดูยอดเงินในบัญชี ตั้งแต่ก่อนสอบยันหลังสอบเสร็จเขาก็ทำวิเคราะห์สถิติไปหนึ่งร้อยชุดแล้ว เขาคิดราคาชุดละแปดร้อยหยวน ตอนนี้ในบัตรเขาจึงมีเงินแปดหมื่นกว่าหยวน
เพียงพอสำหรับค่าวีไอพีเลเวลสองเดือนละหนึ่งหมื่นหยวน คิดได้เช่นนั้น ไป๋เยี่ยก็เอ่ยถามระบบ
“ตอนนี้ฉันอัปเลเวลวีไอพีได้หรือยัง”
[ติ๊ง! เงื่อนไขของท่านเพียงพอต่อการเลื่อนขั้น หลังจากหักแต้มสะสมและค่าบริการในเดือนถัดไปแล้วจะเลื่อนขั้นเป็นวีไอพีเลเวลสองโดยอัตโนมัติ เมื่อถึงเวลาท่านจะปลดล็อกสิทธิพิเศษใหม่ๆ ได้]
ไป๋เยี่ยคาดไม่ถึงว่ากว่าเขาจะได้อัปเลเวลก็เดือนหน้า โอเค งั้นแบบนี้แล้วกัน ไหนๆ วันนี้ก็วันที่สามสิบแล้ว อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
ทว่าตัวเขายังเหลือโอกาสจับรางวัลอีกสองครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ ไป๋เยี่ยก็แทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว
ไม่สิ…
เมื่อกี้ฉันเพิ่งแบ่งค่าประสบการณ์ให้วิชายาจีนไป วิชายาจีนก็อัปเลเวลแล้วนี่นา!
[เพิ่มเลเวลวิชายาจีนขึ้นเป็นเลเวลสอง ได้รับแต้มสมาชิกยี่สิบแต้ม และโอกาสจับรางวัลสองดาวจำนวนหนึ่งครั้ง]
โอกาสจับรางวัลตั้งสองครั้ง! มัวรออะไรเล่า!
สุ่ม!
ไป๋เยี่ยเลือกจับรางวัล ทันใดนั้นเข็มบนจานหมุนก็เริ่มหมุนอย่างบ้าคลั่ง
หยุด!
ณ วินาทีนั้น เข็มหยุดลงบนพื้นที่ที่กำลังส่องแสง ทำเอาไป๋เยี่ยช็อก!
ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวเขา รางวัลใหญ่เหรอ!
ต้องเป็นรางวัลใหญ่แน่ๆ ต้องใช่แน่!
ไป๋เยี่ยค่อยๆ มองดูอย่างระแวดระวัง เขาเห็นข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นบนพื้นที่สว่างๆ นั่น
[สกิลเสริม: ดมกลิ่นยาจีน! แจ้งเตือน: สกิลนี้ไม่มีเลเวล อัปเกรดไม่ได้ เป็นสกิลเสริม ประเภทเดียวกันกับสกิลสกัดยาจีน เงื่อนไขการใช้งาน: ต้องเพิ่มเลเวลวิชายาจีนถึงเลเวลสามจึงจะใช้งานได้]
ไป๋เยี่ยงงเป็นไก่ตาแตก…
ดมกลิ่นยาจีน? ฟังดูเจ๋งว่าไหม ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นวิชาลับในยุทธภพเลย!
แต่ยังใช้มันไม่ได้!
ต้องอัปเลเวลวิชายาจีนขึ้นเป็นเลเวลสามก่อนถึงจะใช้ได้ แต่ตอนนี้ค่าประสบการณ์วิชายาจีนกลับมีเพียงเลเวลสอง: 0/5000 ขาดอีกห้าพันแต้มกว่าจะเลเวลสาม
ไป๋เยี่ยส่ายหัวไปมาด้วยความจนปัญญา จะว่ามันเป็นของดีก็ใช่ แต่เราดันใช้ไม่ได้นี่สิ
สุ่มต่อเลยงั้น!
ครั้งนี้ไป๋เยี่ยจับได้สิ่งของที่เคยเห็นมาแล้ว แคปซูลเพิ่มความจำนั่นเอง! ทว่าครั้งนี้มันดูจะไม่เหมือนของครั้งที่แล้วสักเท่าไหร่
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับแคปซูลเพิ่มความจำระดับกลาง*10 หลังใช้งานจะเพิ่มความจำจำนวนมากต่อเนื่องห้าชั่วโมง]
ไป๋เยี่ยมีความสุข เขารู้ว่าแคปซูลเพิ่มความจำมีดีตรงไหน ตอนที่เขาใช้มันตอนจะสอบ เขาก็อ่านหนังสือได้ไวปานสายฟ้าแลบ
ระหว่างที่ไป๋เยี่ยกำลังมองผลจับฉลาก พ่างจื่อก็เดินมาพร้อมกับตะโกนโหวกเหวก “เยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อ! มาดูนี่เร็ว ให้ตายสิ นายเห็นนี่หรือยัง การแข่งขันความรู้พื้นฐานแพทย์แผนจีนน่ะ! ฉันรู้สึกเหมือนอนาคตกำลังโบกมือให้กับฉันเลย!”
พ่างจื่อพูดต่อ “นายดูสิ สิบคนที่เข้ารอบระดับมณฑลจะได้เหรียญเกียรติยศด้วย มีประโยชน์ต่อการสอบป.โท ป.เอก เลื่อนตำแหน่งงานมากเลยละ! ถ้าติดสิบอันดับของระดับประเทศยิ่งเจ๋ง จะได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หมอระดับประเทศ ทางการจะเซ็นให้ด้วย ทั้งอาจารย์หมอ ทั้งได้เป็นศิษย์อาจารย์หมอ ต่อให้เป็นแค่ฝันก็อดคิดไม่ได้เลย!”
ไป๋เยี่ยกระแอม “พ่างจื่อ นายไม่ได้ฝันอยากเป็นอาจารย์หมอระดับประเทศหรอกหรือ ไหงกลายเป็นศิษย์อาจารย์หมอไปได้ล่ะ ทำเป็นเนียนลดตัวลงเหรอ”
พ่างจื่อยิ้มแหย “เขาเรียกว่าค่อยเป็นค่อยไปต่างหาก ก็เป็นศิษย์ก่อนไง แล้วถึงค่อยเป็นอาจารย์!”
ไป๋เยี่ยหัวเราะ เขาไม่ได้แกล้งพ่างจื่อ ได้แต่เพียงส่ายหัวให้กับความเชื่อมั่นและความสลดใจของชายผู้นี้
อย่างไรเสียการแข่งขันครั้งนี้คงจะไม่ง่ายนัก ทั้งประเทศมีคนมีความรู้เรื่องแพทย์แผนจีนสักกี่คน แสนกว่าคนละมั้ง หนึ่งมณฑลมีสักหมื่นคนได้ การสอบให้ได้ท็อปสิบมันง่ายเสียที่ไหนกัน
แล้วยังมีพวกบัณฑิตป.โท ด็อกเตอร์ แพทย์ที่ทำงานมาหลายปี ฯลฯ อีกเยอะแยะ
ข่าวการแข่งขันความรู้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ วตอนนี้เหล่าคนหนุ่มสาวที่มีความรู้ด้านแพทย์แผนจีนก็รู้ข่าวนี้กันหมดแล้ว ไม่ใช่แค่ไป๋เยี่ยและพ่างจื่อ ประชาชนทั่วไปก็เข้าร่วมได้
ไม่นานนัก ไป๋เยี่ยก็เห็นว่าแอปงานแข่งได้ประกาศข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการแข่งขันรอบที่หนึ่ง
[การคัดเลือกรอบที่หนึ่งเป็นการสอบแบบออฟไลน์ โปรดล็อกอินเข้าแอปพลิเคชั่นและเข้าสู่หน้าเว็บไซต์การแข่งขัน รอเริ่มต้นการแข่งขันแล้วจึงเริ่มทำข้อสอบได้ มีเวลาสอบทั้งสิ้นสามชั่วโมง ให้สิทธิ์ผู้เข้าแข่งขันตามลำดับคะแนน]
[กฎเกณฑ์การสอบ: ตอบถูกหนึ่งข้อได้รับหนึ่งคะแนน และจะไม่ได้คะแนนในข้อที่ตอบผิดหรือข้อที่ไม่ได้ตอบ ให้สิทธิ์ผู้เข้ารอบการแข่งขันระดับมณฑลตามลำดับคะแนนภายในเวลาสอบสามชั่วโมง]
[ระเบียบการสอบ: แบ่งสนามสอบโดยอิงตามข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ หมดเขตลงทะเบียนวันที่31 ธันวาคม เวลา 24.00 น. หลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันลงทะเบียนเสร็จแล้ว จะถูกจัดให้ไปสนามสอบที่ใกล้ที่สุด เวลาสอบคือวันที่ 1 ธันวาคม 2017 เวลา 15.00 น.]
ชายชราทั้งสามเดินมาตรงหน้าพร้อมมองคนทั้งคู่ก่อนจะกล่าวทั้งรอยยิ้ม “เป็นอะไรไป ข่าวการสอบออกแล้วเหรอ”
พ่างจื่อชะงัก พลางมองไปทางชายชราด้วยท่าทีสงสัย “คุณปู่ฉินก็รู้เรื่องเหรอ”
ฉินฉางเจิงยกยิ้ม “ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ประกาศนี้มันออกมาตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนแล้ว ให้จัดเตรียมที่นี่เป็นสนามสอบ ถึงจะสอบในโทรศัพท์ก็เถอะ แต่ก็อย่าได้คิดโกงข้อสอบเชียว เพราะว่าแต่ละคนจะได้ข้อสอบไม่เหมือนกัน เป็นข้อสอบแบบสุ่ม อีกอย่าง ทุกสนามสอบก็มีกล้องวงจรปิดทั้งนั้น”
“เหอะๆ นี่คือยุคที่ดีที่สุดจริงๆ เด็กๆ เอ๋ย พวกคุณต้องสู้ๆ ล่ะ อนาคตของการแพทย์แผนจีนอยู่ในกำมือของพวกคุณแล้ว”
หลังจากที่เลิกงานตอนบ่าย ไป๋เยี่ยกินข้าวไปแค่นิดเดียว ระหว่างทางมีแต่คนพูดเรื่องงานแข่งขันความรู้
สามสิบห้าปีก็พอจะเป็นอายุของแพทย์ที่ทำงานมาได้หลายปีแล้ว คนเรียนจบด็อกเตอร์ก็เช่นกัน แม้ว่าจะจำกัดอายุไว้ที่สามสิบห้าปี แต่ก็ยังมีทั้งด็อกเตอร์ หมอ ฯลฯ จำนวนมาก บัณฑิตวุฒิปริญญาตรีอย่างไป๋เยี่ยจะมีโอกาสมากน้อยสักเท่าไรกันเชียว
ไป๋เยี่ยรีบกินข้าวและกลับไปยังศูนย์ค้นคว้าที่ชั้นยี่สิบสี่
‘เฉินหนงเปิ๋นเฉ่าจิง’[1] ‘เปิ๋นเฉ่ากังมู่‘[2] ‘เหลยกงเพ่าจื้อหลุน’[3] ‘ทังเยี่ยเปิ๋นเฉ่า’[4] ‘สู่เปิ๋นเฉ่า’[5] ‘จงหวาเปิ๋นเฉ่า’[6] และ ‘เภสัชตํารับของสาธารณรัฐประชาชนจีน’[7]…
ต้องขอบคุณที่นี่ที่มีหนังสือเยอะ มิเช่นนั้นไป๋เยี่ยคงจะหาหนังสือได้ไม่เยอะเท่านี้
วันนี้เป็นวันที่สามสิบ ธันวาคม พรุ่งนี้เป็นวันหยุดปีใหม่ แม้ว่าจะเป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่ตอนนี้ไป๋เยี่ยกลับไม่คิดถึงสิ่งอื่นเลย
เขาแค่อยากอัดความรู้แพทย์แผนจีนเข้าหัวสมอง จึงไปหาหนังสือมาตั้งหลายเล่ม เขาไม่คิดจะจำทั้งหมดนั่น แค่อยากจะอ่านดูสักรอบให้พอคุ้นตา อย่างไรความไวในการอ่านหนังสือของเขาก็ไวกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว
[1] เฉินหนงเปิ๋นเฉ่าจิง คือตำราเกี่ยวกับการเกษตรและพืชสมุนไพร
[2] เปิ๋นเฉ่ากังมู่ คือตำราที่รวบรวมประวัติของสมุนไพร พืช และยา เขียนขึ้นโดยหลี่สือเจิน
[3] เหลยกงเพ่าจื้อหลุน คือตำราเกี่ยวกับวิธีการปรุงยา เพื่อเพิ่มสรรพคุณและบรรเทาอาการข้างเคียง
[4] ทังเยี่ยเปิ๋นเฉ่า คือตำรายาจีน ที่เขียนขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน
[5] สูเปิ๋นเฉ่า คือตำรายาจีน ที่เขียนขึ้นในยุคห้าราชวงศ์ ที่แคว้นโฮ่วสู
[6] จงหวาเปิ๋นเฉ่า คือตำรายาจีน ที่ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Scientific and Technology Publishers) เมื่อปี 1999
[7] เภสัชตํารับของสาธารณรัฐประชาชนจีน คือตำรับยาทางการซึ่งรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของทั้งยาจีนและยาตะวันตกไว้ เรียบเรียงโดยคณะกรรมการเภสัชกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน