ตอนที่ 75 ค้นพบสิ่งใหม่ๆ
หลังจากบันทึกข้อมูลทั้งหมดลงในคอมพิวเตอร์แล้ว ไป๋เยี่ยก็เริ่มคำนวณและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น
เนื่องจากเขาใช้เวลาสรุปข้อมูลนานกว่าสิบวัน แสงไฟจากคอมพิวเตอร์ของไป๋เยี่ยจึงเริ่มกะพริบอ่อนลง แต่เขาต้องวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อทำความเข้าใจกับมันต่อ!
ต้องวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ก่อให้เกิดผลทั้งหมด!
ยากเกินไป!
ทั้งช่วงเวลา ภูมิภาค สิ่งแวดล้อม ยา แหล่งที่มาของโรค ปัจจัยรบกวน ฯลฯ ล้วนแตกต่างกันทั้งหมด!
การจะหากำลังใจเพื่ออ่านข้อมูลเหล่านี้ทำเอาไป๋เยี่ยท้อ เพราะว่ามันยากเกินไปจริงๆ!
คุณคงจินตนาการไม่ออกว่าตลอดเวลาสิบห้าปีนี้มีข้อมูลเยอะมากแค่ไหน มีการบันทึกข้อมูลลงไปทั้งหมดยี่สิบเก้าล้านชุด ไป๋เยี่ยใช้เวลาคัดกรองข้อมูลเหล่านั้นอีกสองวัน จนในที่สุดเขาก็ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ที่สุดจำนวนสิบเจ็ดล้านชุด
เขาจะต้องตามหาความเชื่อมโยงกันระหว่างข้อมูลทั้งสิบเจ็ดล้านชุดนี้ เฮ้อ! ยากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรเลย
แต่ในเมื่อมีแนวทางแล้ว ไป๋เยี่ยก็มั่นใจว่าเขาจะต้องหาผลลัพธ์ได้แน่นอน เขาคำนวณซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อแยกปัจจัยต่างๆ ออกเป็นรายการ
เขาจะเลือกใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุด จึงเริ่มวิเคราะห์ตามแนวดิ่งเป็นอันดับแรก โดยลบตัวแปรเวลาออกก่อน แล้วจึงค่อยแบ่งสรรตัวแปรสถานที่
โรคมาลาเรียเป็นโรคที่แพร่หลายมากในทวีปแอฟริกา ข้อมูลส่วนใหญ่จึงมาจากทางภูมิภาคต่างๆ ของทวีปแอฟริกา
ไป๋เยี่ยเลือกกลุ่มควบคุมตามตัวแปรแต่ละชนิดแล้วเริ่มคำนวณ
ทว่าข้อมูลพวกนั้นเยอะเกินไป ไป๋เยี่ยจึงเพิ่งจะรู้สึกถึงประโยชน์ของคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงบอกกันว่าคอมพิวเตอร์เป็นก้าวสำคัญต่อความก้าวหน้าของมนุษย์ ข้อมูลเหล่านั้นต้องผ่านการคำนวณหลายชั้นและต้องใช้รูปแบบการจับคู่ที่ซับซ้อน ทำเอาไป๋เยี่ยมึนเล็กน้อย
จนกระทั่งตีสาม ไป๋เยี่ยรู้สึกล้ามาก เขาทำงานที่ต้องใช้สมาธิมาทั้งวันแล้วจึงรู้สึกเวียนหัว สมองตื้ออยู่พักหนึ่ง!
พักก่อนสักหน่อยดีไหม
ไม่ได้!
ไหนๆ วันนี้เป็นวันศุกร์แล้ว วันเสาร์เป็นวันหยุด และวันอาทิตย์ก็จะมีงานเลี้ยงกับซาลอนด้วย ไป๋เยี่ยไม่อยากพลาดงานแลกเปลี่ยนความรู้ครั้งยิ่งใหญ่นี้เลย อื้ม! แน่นอนว่าเหตุผลหลักๆ ก็คือเขาไม่อยากพลาดโอกาสกอบโกยค่าประสบการณ์ครั้งนี้ไป!
เขาจะสู้เต็มที่ การวิเคราะห์ข้อมูลมุ่งเน้นไปที่ความต่อเนื่องเหมือนกับการทดลองต่างๆ ถ้าขาดช่วงไปก็จะปะติดปะต่อยาก
ก็เหมือนกับการเขียนบทความนั่นแหละ แรงบันดาลใจจะคงอยู่เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นไป๋เยี่ยจะปล่อยโอกาสนี้ไปไม่ได้!
จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็นึกถึงเครื่องดื่มต้งม่ายที่เขาจับรางวัลมาได้ เขาหยิบขวดออกมาอ่านฉลากคร่าวๆ ดูผ่านๆ แล้วก็เหมือนเครื่องดื่มชูกำลังธรรมดาๆ
มันจะวิเศษขนาดนั้นเลยเหรอ
ต้องลองสักหน่อย!
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็บิดฝาขวดออกและดื่มเครื่องดื่มในขวดจนหมดในรวดเดียว
ทันทีที่เครื่องดื่มไหลลงสู่ท้องของเขา ร่างของเขาก็สั่นระริก ความรู้สึกแบบนี้ช่างน่าตื่นเต้นเหลือเกิน!
ไป๋เยี่ยรู้สึกว่าหัวของเขาปลอดโปร่งขึ้นมาก เขาค่อยๆ ตื่นตัว ความเหนื่อยล้าทั้งหมดล้วนหายเป็นปลิดทิ้ง!
มันวิเศษขนาดนั้นจริงดิ ไป๋เยี่ยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเครื่องดื่มนี่…จะเจ๋งขนาดนี้!
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องเครื่องดื่มต้งม่ายแล้ว เขาต้องกลับมาจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาลนี้ก่อน
การวิเคราะห์ข้อมูลดำเนินมาถึงจุดไคลแมกซ์แล้ว ในที่สุดไป๋เยี่ยก็ค้นพบประเด็นสำคัญของข้อมูลแต่ละตัวแล้ว
แต่ผลการวิเคราะห์ก็ยังออกมาไม่ดีสักเท่าไหร่!
เกิดอะไรขึ้น
มีการเปลี่ยนแปลงงั้นเหรอ
หรือว่าข้อมูลแต่ละตัวจะไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันเลย
ไป๋เยี่ยไม่เชื่อเรื่องโชคลาง จึงก้มหน้าก้มตาจัดการกับข้อมูลตรงหน้าต่อไป เขาล้างข้อมูลทั้งหมดทิ้งและตั้งสมมติฐานใหม่อีกครั้ง โดยสมมติว่า u1=u2: การทดลองมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
แต่ผลลัพธ์ที่ไป๋เยี่ยได้กลับเป็น p<0.05! ความแตกต่างนี้มีนัยสำคัญทางสถิติ เพราะฉะนั้น…
ไป๋เยี่ยรู้สึกตันเล็กน้อย ยิ่งคำนวณต่อไปก็ยิ่งงง เพราะไม่ว่าจะคำนวณอย่างไร เขาก็วนกลับมาที่จุดเดิมตลอด
เวลาผ่านไปจนแปดโมงเช้า ไป๋เยี่ยไม่มีอารมณ์จะกินข้าว เขาจึงเปิดขวดต้งม่ายขึ้นมาดื่มต่อพร้อมกับหยิบกระทิงแดงอีกขวดออกมาวางทิ้งไว้เผื่อฉุกเฉิน
ไป๋เยี่ยเป็นคนมุ่งมั่นมาก แนวคิด ‘ลูกผู้ชายห้ามมีน้ำตา’ ที่เถ้าแก่ไป๋ปลูกฝังมาเขามาตั้งแต่เด็กนั้นหยั่งรากลึกในจิตใจของเขาแล้ว
ล้มเหลว!
เริ่มต้นใหม่!
ล้มเหลว!
เอาใหม่!
ไป๋เยี่ยไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่สมองของเขาล้าไปหมดแล้ว
เราคิดผิดจริงๆ เหรอ
ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีความสัมพันธ์กันจริงเหรอ
ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ!
ไม่งั้นกลุ่มอัจฉริยะพวกนั้นก็คงรู้แล้วเหมือนกัน
ไป๋เยี่ยคิดไปคิดมาก็พลอยหงุดหงิดตามไปด้วย!
คิดดูสิว่าในห้องแล็บพวกนั้นมีนักวิเคราะห์ข้อมูลระดับแนวหน้าตั้งกี่คน ถ้าข้อมูลเหล่านี้มีความสัมพันธ์ต่อกันจริงๆ พวกเขาจะหาไม่เจอจริงๆ เหรอ
เป็นเพราะเราโง่เง่าเกินไปสินะ
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็รู้สึกหมดหวัง นี่เรากำลังล้มเหลวงั้นเหรอ ไม่มีทาง!
ไป๋เยี่ยคิดว่าเขาน่าจะพลาดอะไรไป!
แต่ว่าสิ่งที่เขาพลาดไปมันคืออะไรกันนะ
ไป๋เยี่ยนอนเอาหมอนคลุมหัวอยู่บนเตียง เขากำลังใช้ความคิดอยู่
ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่นะ
การอ่านข้อมูลมาเยอะทำให้ไป๋เยี่ยสัมผัสได้ว่าข้อมูลเหล่านั้นต้องมีความสัมพันธ์ต่อกัน!
ความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไรกัน
แล้วตัวเราแตกต่างจากผู้คนในห้องแล็บนั้นยังไงบ้าง
ความรู้สึกนี้มันมาจากไหน!
ทันใดนั้น ความคิดบางอย่างก็แวบขึ้นมาในหัวของไป๋เยี่ย!
ใช่แล้ว!
ฉันเป็นหมอยังไงล่ะ!
ฉันเป็นหมอแผนจีนนะ!
นี่เราลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง!
ไป๋เยี่ยวิเคราะห์ข้อมูลตลอดเวลาจนลืมไปว่าทักษะขั้นสูงที่เขาเชี่ยวชาญในตอนแรกมาจากทักษะการแพทย์แผนจีน
ไป๋เยี่ยรู้แล้วว่าแสงสู่ความสำเร็จนั้นอยู่ตรงไหน!
ต้องปรับการวิเคราะห์เวลากับสถานที่!
ไป๋เยี่ยนำสภาพอากาศมารวมกับเวลาและสถานที่ แล้วจึงเลือกข้อมูลที่ง่ายต่อการวิเคราะห์มาจำนวนหนึ่ง
หลังจากที่คำนวณออกมาแล้ว
ถูกต้อง!
มันเชื่อมโยงกัน!
ต่อไปเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสภาพอากาศกับเวลาและสถานที่
สามตัวแปรนี้มีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไร
ทันใดนั้นไป๋เยี่ยก็นึกถึงคำถามในการประกวดความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนขึ้นมาได้ อู่อวิ้นลิ่วชี่!
นี่มัน…บางทีความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลอาจจะขึ้นอยู่กับอู่อวิ้นลิ่วชี่ก็ได้!
ถ้าเราประยุกต์แนวคิดทางการแพทย์แผนจีนและจัดการกับปัจจัยพวกนี้ได้แล้ว…ก็แค่หาตัวแปรคงที่…จากนั้นก็วิจัยข้อมูล…มาดูกันว่าเราจะค้นพบอะไรบ้าง!
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็ลงมือคำนวณทันที!
ผ่านไปห้าชั่วโมง ในที่สุดไป๋เยี่ยก็ลุกขึ้น!
ได้แล้ว!
แก้ได้แล้วจริงๆ
แต่…
นี่คืออะไร
ไป๋เยี่ยมองสารประกอบที่ต้องใช้ร่วมกับอาร์เทแอนนิวอินจำนวนน้อยนิดบนกระดาษ นี่คือ…อะไร
ไป๋เยี่ยมองสารตรงหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ไม่มีคำแนะนำเกี่ยวกับสารชนิดนี้เลย!
มันคือสารอะไรกันแน่
ไป๋เยี่ยจดบันทึกโครงสร้างของสารไว้และจะลองค้นคว้ามันต่อในวันพรุ่งนี้!