ตอนที่ 105 ความสุขถาโถม
เช้าวันที่สิบ เมษายน ไป๋เยี่ยได้รับสายจากต่างประเทศ
ไป๋เยี่ยไม่ได้รู้จักชาวต่างชาติเยอะขนาดนั้น และยิ่งเป็นเบอร์บ้านอีก ทันทีที่ไป๋เยี่ยรับสาย เสียงแหลมพ่วงด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษสไตล์นิวยอร์กก็ดังแว่วมาจากอีกฝั่ง ‘คาร์ล’ บรรณาธิการวารสารเซลล์นั่นเอง
“สวัสดีไป๋เยี่ย ที่นั่นเช้าแล้วใช่ไหม”
ไป๋เยี่ยยิ้ม “ใช่แล้ว ดีครับคุณคาร์ล มีอะไรเหรอครับ”
“วารสารเซลล์ฉบับเดือนเมษายนเพิ่งจะออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมเลยส่งไปรษณีย์ให้คุณไปสองฉบับ อีกสองสามวันน่าจะได้รับแล้ว”
ไป๋เยี่ยได้ยินดังนั้นก็ตาตื่นทันที เขามีความสุขมากๆ ในที่สุดเขาก็จะได้มีชื่อในวารสารแล้ว! บทความใน ‘เซลล์’ ตั้งสองบทความ! นี่แหละไพ่ตายสำหรับการสอบสัมภาษณ์!
แม้แต่เฮ่ออันยังไม่เคยได้ตีพิมพ์บทความลงวารสารที่ได้คะแนนไอเอฟสูงขนาดนี้เลย คิดได้เช่นนั้นไป๋เยี่ยก็ยิ่งตื่นเต้น
“ขอบคุณมากครับคุณคาร์ล! ขอโทษที่รบกวนนะครับ แต่คุณส่งมาได้ทันเวลาพอดีเลย!”
คาร์ลยิ้ม “ก็เราดีลกันแล้วนี่ คุณก็ตั้งใจเตรียมตัวสอบซะเถอะ ไว้ผมไปหาคุณที่จีนแล้วกันนะ ยังจำที่เราเคยตกลงไว้ได้ใช่ไหม”
แน่นอนว่าไป๋เยี่ยไม่มีทางลืมข้อตกลง ทว่าเขาก็งุนงงเล็กน้อย “คุณจะมาหาผมเองเลยเหรอ ส่งข้อมูลมาให้ผมก็พอ”
คาร์ลกระซิบกระซาบ “นี่แหละของดี! ลืมมันไปเถอะ ถึงตอนนั้นเดี๋ยวคุณก็รู้เอง ส่วนตอนนี้ผมก็ขออวยพรให้คุณโชคดีกับการสอบแล้วกันนะ”
ไป๋เยี่ยวางสายโทรศัพท์ไปโดยที่ยังตั้งคำถามถึงสิ่งที่คาร์ลต้องการให้เขาช่วยวิเคราะห์ว่ามันจะลึกลับขนาดไหนเชียว
ไม่อยากคิดเลยว่าอีกไม่นานก็จะได้รับวารสารแล้ว ยังมีความสุขอยู่เลย
ไป๋เยี่ยไปที่สำนักงานกิจการนักศึกษาในตอนเช้าเพื่อพิมพ์สำเนาใบรับรองผลการศึกษาระดับปริญญาตรีของเขา เมื่อสวี่จงเหล่ยซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานกิจการนักศึกษารู้ว่าไป๋เยี่ยกำลังจะไปสอบเข้าที่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนไห่ซื่อ ก็ฝากฝังไป๋เยี่ยไว้กับเพื่อนที่ทำงานที่นั่น เผื่อว่าพวกเขาจะพอช่วยอะไรไป๋เยี่ยได้บ้าง
ไป๋เยี่ยรู้สึกขอบคุณสวี่จงเหล่ยมาก การได้รู้จักกับสวี่จงเหล่ยนั้นน่าทึ่งมาก กว่าจะผ่านมาจนวันนี้ได้มันไม่ง่ายเลย
เมื่อไป๋เยี่ยกลับมาในตอนเที่ยง เขาก็ได้รับสายจากไปรษณีย์ จึงรีบกลับไปเปิดพัสดุที่หอพักทันที
วารสารฉบับล่าสุดอยู่ในมือของเขาแล้ว!
บนหน้าปกวารสารเป็นรูปของถูโยว มีพื้นหลังเป็นการประชุมที่ประเทศเดนมาร์ก ถูโยวยืนในที่ประชุมด้วยท่าทีอันมุ่งมั่น เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงผลักดัน แม้ว่าเธอจะอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว แต่แววตาของเธอก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น!
ไป๋เยี่ยหยิบวารสารออกมาหนึ่งเล่ม เขาพบว่าบทความของเขาทั้งสองคนอยู่คนละส่วนกัน
เมื่อลองอ่านอย่างละเอียดแล้ว ไป๋เยี่ยก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ!
ต้องพูดเรื่องวารสารเล่มนี้ตอนสอบสัมภาษณ์!
คิดได้ดังนั้นไป๋เยี่ยก็อดตื่นเต้นไม่ได้!
ทันใดนั้นก็มีแจ้งเตือนจากกล่องข้อความเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์!
ไป๋เยี่ยจึงกดเข้าไปดู!
มันคือใบแสดงความยินยอมจากวารสาร ‘การส่งเสริมการใช้สัตว์ทดลอง’ ของเอ็มไอโอ!
“บทความ ‘การคาดเดาเกี่ยวกับผลกระทบของหนูทดลองที่มีต่อการทดลองและระบบการประเมินคะแนน’ ของคุณได้รับการอนุมัติแล้ว…จะถูกตีพิมพ์ในเดือนกันยายน 2017…”
ใบแสดงความยินยอมมาแล้ว!
ทว่าด้านล่างของประกาศขอให้ไป๋เยี่ยทิ้งที่อยู่ไว้ด้วย เพื่อความสะดวกต่อการส่งวารสาร
ไป๋เยี่ยจึงส่งที่อยู่ของมหาวิทยาลัยไปทางอีเมล์ของเอ็มไอโอ
วารสารทั้งสามฉบับทำให้ไป๋เยี่ยมั่นใจเต็มเปี่ยม!
ถึงจะมีไม่กี่บทความ ทว่าแต่ละบทความก็อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาเข้มข้น ถ้าส่งสักบทความไปให้มหาวิทยาลัยได้คงเป็นเรื่องที่ดีมาก!
ช่วงบ่าย ไป๋เยี่ยไปที่ร้านถ่ายเอกสารในมหาวิทยาลัยเพื่อถ่ายหน้าปก สารบัญ และหน้าที่มีบทความในวารสารเซลล์ออกมาอย่างละสามชุดพร้อมกับใบแสดงความยินยอมที่แนบมาด้วย
ป้าที่ร้านถ่ายเอกสารไม่เข้าใจเนื้อหาในวารสารจึงคิดว่าไป๋เยี่ยกำลังหาสื่อการเรียนดีๆ เธอยิ้มพร้อมกับเอ่ยชมไป๋เยี่ยถึงความรักในการเรียนรู้ เพราะสื่อที่เขาหามาได้มีแต่ภาษาอังกฤษทั้งนั้น
ไป๋เยี่ยยิ้มรับโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม
ตกดึก จู่ๆ เดซี่ก็เฟซไทม์มาหาไป๋เยี่ย
เฟซไทม์อะไรตอนนี้
ไป๋เยี่ยช็อก! มีเพียงคำเดียวเท่านั้นที่แล่นเข้ามาในหัวเขา…ไป๋เยี่ยจึงรีบกระโดดขึ้นเตียง ใส่หูฟังให้พร้อม!
ทว่าเมื่อกดรับสาย ก็พบว่ามีคนเจ็ดแปดคนกำลังมองมาที่เขา!
“ไป๋เยี่ยเหรอ ตั้งแต่ออกจากห้องแล็บไปก็ขี้เกียจซะงั้น เพิ่งจะกี่โมงเอง จะนอนแล้วเหรอ” คาริสเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ไป๋เยี่ยไม่มีวันบอกพวกเขาว่าที่เขารีบเข้านอนก็เพราะเดซี่นั่นแหละ…เขาจึงโกหกไป
“ฮ่าๆ ช่วงนี้ผมกำลังเขียนหนังสือน่ะ ไม่ได้นอนมาตั้งหลายวัน กำลังว่าจะนอนเลยครับ…”
อีกฝ่ายได้ยินก็ปักใจเชื่อทันทีเพราะภาพลักษณ์นักศึกษาดีเด่นของไป๋เยี่ย
“เอาเถอะ เรามีข่าวดีมากบอก!” เดซี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ไป๋เยี่ยชะงัก หรือว่าสิ่งที่เขาคิดค้นจะสำเร็จแล้ว
“เราได้ทำการทดลองใช้โพลีคาร์บอกซิลิกอาร์เทแอนนิวอินในสัตว์แล้ว! ผลลัพธ์ออกมาดีมาก! ฮ่าๆ…” คาริสรีบพูดแทรก
ร…เร็วมาก
ไป๋เยี่ยไม่คิดเลยว่าทีมของเขาจะยอดเยี่ยมขนาดนี้!
ผ่านไปแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น แต่พวกเขากลับทำการทดลองในสัตว์สำเร็จแล้ว
น่าทึ่งจริงๆ
“พวกคุณเก่งมากเลยครับ ผ่านไปตั้งนานแล้ว แต่ศักยภาพของพวกคุณก็ยังสูงเหมือนเดิมเลยนะครับ!” ไป๋เยี่ยกล่าวอย่างจริงใจ มีทีมแบบนี้จะไม่สำเร็จได้อย่างไรล่ะ
คาริสยิ้ม “เอาน่า อย่าชมพวกเราอีกเลย ถ้าไม่มีคุณ ตอนนี้พวกเราก็คงอยู่ที่ไหนไม่รู้แล้วแหละ! อ้อ ผมมีเรื่องอยากถามคุณอีกเรื่องหนึ่ง”
“มีอะไรเหรอครับ” ไป๋เยี่ยถาม
เดซี่ผลักคาริสออกพร้อมกับสางเส้นผมสีบลอนด์ยาวของเธอไปด้วย “ก็ประมาณนั้นแหละ หลังจากที่พวกเราใช้เวลาช่วงนั้นไปกับการทดลอง ต่างคนก็ผุดไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาเยอะแยะเลย และพร้อมที่จะเขียนบทความด้วย ใครๆ ก็อยากให้คุณเป็นผู้เขียนนะ!”
ไป๋เยี่ยตะลึง!
ทำงานด้วยกันงั้นเหรอ
ไป๋เยี่ยถามด้วยความงุนงง “แล้ว…พวกคุณตีพิมพ์ไปแล้วกี่ฉบับล่ะ”
เดลี่ยิ้ม “กลุ่มทดลองทั้งห้าของเราได้ตีพิมพ์บทความไปทั้งหมดสิบบทความ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ได้ตีพิมพ์ลงในวารสารชั้นนำในสาขาต่างๆ ด้วย หมายความว่าคุณเองก็เป็นผู้เขียนร่วมของทั้งสิบฉบับด้วย!”
หัวใจของไป๋เยี่ยเต้นตึกตัก นี่…ความสุขมันถาโถมเข้ามาใส่เราจนตั้งตัวไม่ทันเลย
จะบอกว่ายังไงดีล่ะ ความสุขมันถาโถมเข้ามาเหมือนโดนพายุพัดเลยงี้เหรอ
“มันจะดีเหรอ ผม…ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ไป๋เยี่ยฝืนยิ้ม
“ดีสิ การทดลองนี้ขาดคุณไปไม่ได้เลย ทั้งการทดลอง แนวคิด และงานในห้องแล็บที่คุณทำ…แค่นี้ก็เพียงพอต่อการเป็นผู้เขียนแล้ว ทุกคนคิดแบบนั้นแหละ! คุณอย่าปฏิเสธเลย…”
หลังจากวางสาย ไป๋เยี่ยก็รู้สึกมีความสุขจนหุบยิ้มไม่ลง
บ้าจริง ลองนึกถึงตอนสอบสัมภาษณ์สิ เราจะได้ถ่ายรูปคู่กับวารสารเป็นสิบฉบับ ลองคิดดูสิ! ภาพมันต้องสวยมากจนจินตนาการไม่ออกแน่ๆ!
หลังจากวางสายไปได้ไม่กี่นาที โทรศัพท์ของไป๋เยี่ยก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง!
ไป๋เยี่ยตัวสั่นไปหมด มีสายเข้าแสดงว่าจะมีข่าวดี!
จางฮั่นหลินนั่นเอง
มีเสียงเสียงหนึ่งแว่วขึ้นมาในหัวของไป๋เยี่ย ติ๊ง! ธีสิสของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว…
ทันทีที่รับสาย ไป๋เยี่ยก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นก่อน “สวัสดีครับอาจารย์จาง ธีสิสเสร็จยังครับ”
จางฮั่นหลินได้ยินก็สะดุ้ง!
“ธีสิสเสร็จหรือยัง หืม เดี๋ยวนะ! คุณรู้ได้ไงว่าผมส่งธีสิสไปให้คุณ!”
ไปเยี่ยหัวเราะเบาๆ “ผมเดา!”
จางฮั่นหลินกระแอมแก้เขิน “ตอนแรกผมว่าจะเซอร์ไพร์สคุณน่ะ เอาเถอะ ไหนๆ รู้แล้วก็ลืมมันไปซะ ผมจะบอกให้เสียวสวี่เอาไปให้คุณพรุ่งนี้ พอดีว่าบทความนี้ถูกตีพิมพ์แล้วน่ะ ผมได้ยินมาว่าคุณกำลังเตรียมตัวสอบด้วย เลยว่าจะเอามาให้คุณ เผื่อว่ามันจะพอช่วยอะไรได้บ้าง!”
“แต่ว่า… เกณฑ์มันคงไม่สูงขนาดนั้นหรอก มีวารสารฉบับเดียวก็เพียงพอแล้ว”
………………………………………………………………