ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ – ตอนที่ 703 คนหรือจะสู้แมว

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ครั้น​ฉี​อ๋อง​เห็นท่า​ที​เมินเฉย​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​ทราบ​ได้​โดยทันที​ว่า​ฮ่องเต้​ไม่เชื่อ​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​อธิบาย​ ​ใน​ใจ​ร่ำร้อง​โอดครวญ​แต่​คำ​ที่​เอื้อน​เอ่ย​มี​เพียง​ ​“​เสด็จ​พ่อ​…​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว​ ​“​หรือว่า​เจ้า​รอทา​นอา​หาร​ที่​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน​”

ฉี​อ๋อง​ยัง​จะ​อธิบาย​อะไร​ได้​อีก​ ​เขา​ทำได้​เพียง​เดิน​คอตก​กลับ​ออก​ไป

“​ฝ่า​บาท​ ​พระองค์​จะ​เสวย​พระ​กระยาหาร​ที่นี่​หรือ​เพ​คะ​”​ ​แม้​เสียน​เฟย​จะ​ข้องใจ​ที่​บุตรชาย​ถูก​เข้าใจผิด​ ​และ​ยิ่ง​นาง​ทราบ​สาเหตุ​ ​นาง​ยิ่ง​ไม่สบอารมณ์​ ​แต่​ทำได้​เพียง​เก็บความ​รู้สึก​นั้น​ไว้​

การ​ที่​ฮ่องเต้​เสด็จ​ไป​แล้ว​และ​เสด็จ​กลับมา​อีก​ช่วย​ปลอบประโลม​นาง​ได้มาก​ทีเดียว

ฝ่า​บาท​คง​เห็นใจ​นาง​ที่​ถูก​เจ้า​คนชั่ว​เร้า​โทสะ​จึง​กลับมา​ทาน​มื้อ​เที่ยง​เป็นการ​ปลอบใจ​นาง​อย่างนั้น​หรือ

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​นาน​แล้ว​ที่​ฝ่า​บาท​ไม่ได้​อยู่​เสวย​มื้อ​อาหาร​กับ​นาง

เสียน​เฟ​ยมี​ความสุข​ได้​เพียง​ชั่วครู่​ก็ได้​ยิน​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เอ่ย​ว่า​ ​“​อ้าย​เฟ​ยพัก​ผ่อน​เถิด​ ​ข้า​ยัง​มีธุระ​ต้อง​ไป​จัดการ​ ​คง​ไม่ได้​อยู่​ทานอาหาร​ด้วย​”

เสียน​เฟย​ผิดหวัง​ยิ่ง​แต่​มิได้​แสดงออก​ ​นาง​เพียง​ฝืนยิ้ม​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ยกมือ​ปราม​ ​“​อ้าย​เฟย​ไม่สบาย​ ​ไม่ต้อง​ออก​ไป​ส่ง​ข้า​หรอก​”

เสียน​เฟย​จำใจ​ยืน​ถวาย​ความเคารพ​อยู่​ตรงนั้น​ ​นาง​รอ​จน​เงา​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เดิน​หาย​ไป​ทาง​ประตู​แล้วจึง​เดิน​กลับมา​นั่ง​อยู่​ที่​เก้าอี้ยาว​ ​สีหน้า​ของ​นางใน​ตอนนี้​ซีดเซียว​ยิ่งกว่า​เก่า

วันนี้​คง​เป็น​วัน​ซวย​ของ​นาง​จริงๆ​ ​นอกจาก​จะ​โดน​ลูก​ทรพี​ยั่วโมโห​จน​เกือบจะ​สิ้นใจ​ ​เจ้า​สี่​ยัง​ถูก​ฝ่า​บาท​เข้าใจผิด

ใน​ช่วงเวลา​สำคัญ​เช่นนี้​ ​การ​ที่​ฝ่า​บาท​ทรง​คิด​ว่า​เจ้า​สี่​ทราบ​ความเป็นไป​ของ​วัง​หลวง​มิใช่​เรื่อง​ดี

แม้​ฮ่องเต้​ใน​วัยกลางคน​จะ​มี​ความคิด​ว่า​จะ​เลือก​องค์​รัชทายาท​ ​แต่​ถึงกระนั้น​การ​เห็น​โอรส​มี​ความทะเยอทะยาน​มาก​จน​เกินไป​ก็​ทำให้​เขา​รู้สึก​ไม่ปลอดภัย

ความสัมพันธ์​ของ​องค์​จักรพรรดิ​และ​องค์​รัชทายาท​เปรียบเสมือน​หอก​กับ​โล่​ ​ฮ่องเต้​คาดหวัง​ให้​รัชทายาท​เก่งกล้า​สามารถ​เพื่อ​จะ​ได้​มี​คน​สืบทอด​บัลลังก์​ได้​อย่างราบรื่น​ ​แต่​ก็​มิใช่​ว่า​อยาก​ให้​รัชทายาท​โดดเด่น​กว่า​ตน​ ​ตราบใดที่​เขา​ยัง​ไม่​ลง​จาก​บัลลังก์​ ​เขา​ก็​ไม่​อยาก​เป็น​คนที​่​ถูก​ลืม

ตำแหน่ง​ที่สูง​ที่สุด​มี​คน​ครอบครอง​ได้​เพียง​หนึ่งเดียว​ ​ไม่ว่า​ผู้ใด​ต่อให้​เป็น​คนใกล้ชิด​ ​หาก​คนที​่​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​มังกร​รับรู้​ได้​ถึง​ภยันตราย​ ​เขา​ก็​จะ​สั่ง​ลง​ดาบ​โดย​ไม่​ลังเล​

เสียน​เฟย​ทราบ​ใน​จุด​นี้​ดี​ ​นั่น​ยิ่ง​ทำให้​นาง​เป็นทุกข์​หนัก​ ​นาง​เรียก​ข้าหลวง​เข้ามา​ถาม​ ​“​ก่อนที่​ฝ่า​บาท​จะ​เสด็จ​ไป​ได้​ตรัส​อะไร​ไว้​หรือไม่​”

ฝ่า​บาท​มิได้​ตั้งใจ​มาร​่ว​มมื​้​ออา​หาร​กับ​นาง​ ​แล้ว​การก​ลับ​มาที​่​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน​อีกครั้ง​หมายความว่า​อย่างไร​ ​คง​มิใช่​เพราะ​ได้ยิน​ว่า​เจ้า​สี่​เข้ามา​ที่​วัง​หลวง​ ​ถึง​ได้มา​จัดการ​เจ้า​สี่​ถึงที่​หรอก​กระมัง

แต่​ตาม​สัญชาตญาณ​ของ​นาง​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ไม่ได้​มีนิ​สัย​เช่นนั้น

ข้าหลวง​ลังเล​ก่อน​จะ​เอ่ย​แผ่วเบา​ ​“​พาน​กง​กง​มาถาม​ว่า​เห็น​จี๋​เสียง​บ้าง​หรือไม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

เสียน​เฟย​ชะงัก​ไป​ใน​ทันใด​ ​หน้าซีด​เซียว​ของ​นาง​แดง​ระเรื่อ​ก่อน​จะ​เปลี่ยนเป็น​สี​คล้ำ​หม่น​ ​มือ​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​แขน​เสื้อ​สั่น​ระริก

ที่แท้​ฝ่า​บาท​ก็​มาตา​มหา​แมว​!

ที่แท้​แมว​ก็​สำคัญ​กว่านาง

กับ​อี​แค่​แมว​ตัว​เดียว​!

เสียน​เฟย​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​แค้น​ ​จิตใจ​ปั่นป่วน​ชวน​อึดอัด​ประหนึ่ง​มีบา​งอย​่าง​จุก​อยู่​ที่​คอ

ฉี​อ๋อง​ที่​เดิน​ออกมา​จาก​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน​หงุดหงิด​ใจ​ไม่​แพ้​กัน​ ​ขา​แต่ละ​ข้าง​ถูก​ลาก​ให้​เดิน​ไป​ในขณะที่​สติ​ยังคง​ล่องลอย

เขา​ยัง​ไม่ทัน​ทำ​อะไร​เลย​ ​เหตุใด​เสด็จ​พ่อ​ถึง​กลอกตา​ใส่

แม้​จะ​อธิบาย​แล้วแต่​ก็​ไม่​เป็นผล

ใน​วินาที​นั้น​ ​ฉี​อ๋อง​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​อดีต​ไท่​จื่อ

กว่า​อดีต​ไท่​จื่อ​จะ​รวบรวม​ความกล้า​ที่จะ​โค่น​บัลลังก์​ก็​เล่น​เอา​อายุ​ปา​ไป​ตั้ง​เท่าไหร่​ ​การ​ทำ​เช่นนั้น​ก็​มิใช่​เรื่อง​ง่าย​สำหรับ​เขา​เสียด​้วย

ในขณะที่​ฉี​อ๋อง​เดิน​ออกจาก​วัง​ด้วย​อาการ​มึนงง​ ​ลม​เย็นเยือก​ก็​พัด​ปะทะ​เข้า​ร่าง​ของ​ชายหนุ่ม​จน​เขา​ค่อยๆ​ ​ได้สติ​ ​ใน​เพียง​ชั่วแล่น​ ​สายตา​ของ​เขา​กลับ​ขับ​ประกาย​แน่วแน่

เสด็จ​พ่อ​แค่​เข้าใจผิด​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​มิได้​หนักหนา​ ​รัก​มาก​ก็​เข้มงวด​มาก​เป็นธรรมดา​ ​คง​เป็น​เพราะ​เสด็จ​พ่อ​ให้ความสำคัญ​กับ​เขา​ ​เห็น​ว่า​เขา​มีคุณ​สมบัติ​ที่จะ​ได้​เป็น​องค์​รัชทายาท​จึง​เข้มงวด​กับ​เขา​ถึง​เพียงนี้

จริง​ด้วย​ ​เหมือนกับ​เวลา​ที่​เสด็จ​พ่อ​ทำ​กับ​อดีต​ไท่​จื่อ

แต่​กับ​เจ้า​เจ็ด​หรือ​เจ้า​แปด​ที่​ไม่มี​โอกาส​จะ​ได้​ขึ้น​มานั​่​งอยู​่​ใน​ตำแหน่ง​นี้​ ​เสด็จ​พ่อ​ถึง​ได้ใจ​กว้าง​กับ​ทั้งคู่​เสมอ

ไม่มี​ผู้ใด​ตั้งความหวัง​อัน​สูงส่ง​กับ​ท่าน​อ๋อง​ที่อยู่​ว่าง​ไป​วัน​ๆ​ ​การ​ที่​ท่าน​อ๋อง​ไม่เอาไหน​เหล่านั้น​ไม่​เข่นฆ่า​ราษฎร​ ​หรือ​เอาใจ​ฝักใฝ่​ใน​เรื่อง​ประเวณี​ก็ดี​แค่ไหน​แล้ว

ในขณะที่​ฉี​อ๋อง​กำลัง​ปลอบใจ​ตัวเอง​ก็​เห็น​อวี​้​จิ​่​นอยู​่​ห่าง​ออก​ไป​ไม่​ไกล

“​น้อง​เจ็ด​ ​ช้าก่อน​…​”​ ​ฉี​อ๋อง​ควบ​ม้า​ตาม​ไป

อวี​้​จิ​่น​ดึง​สาย​บังเหียน​ ​เมื่อ​หันไป​เห็น​ฉี​อ๋อง​ ​ชายหนุ่ม​ก็​มิได้​กล่าว​คำ​ใด

ฉี​อ๋อง​ถอนหายใจ​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​พบ​หน้า​ข้า​จะ​ไม่​เรียก​พี่ชาย​สัก​คำ​เลย​รึ​”

แม้ว่า​ใบหน้า​จะ​เศร้า​หม่น​ ​แต่​เมื่อ​เห็นท่า​ที​ของ​อีก​ฝ่ายใน​ใจ​ของ​เขา​กลับ​เริงร่า

ยิ่ง​อวี​้​จิ​่น​ไม่​ทำตัว​ไม่เอาไหน​มาก​เท่าไหร่​ ​เสด็จ​พ่อ​ก็​ยิ่ง​ใจดี​กับ​เขา​มาก​เท่านั้น

“​มี​อะไร​”​ ​อวี​้​จิ​่น​เอ่ย​ถาม​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ ​ความเกลียด​ทวี​ขึ้น​เรื่อยๆ

เสียน​เฟย​และ​ฉี​อ๋อง​นี่​มัน​แม่​ลูก​กัน​โดยแท้​ ​ชอบ​แสดงละคร​เหมือนกัน​ไม่มี​ผิด

“​น้อง​เจ็ด​ ​วันนี้​ข้ามา​เยี่ยม​หมู่​เฟย​ ​ได้ยิน​หมู่​เฟย​ตรัส​ว่า​…​”​ ​ฉี​อ๋อง​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ประโยค​ก็​ถูก​ตัดบท​ด้วย​คำ​ว่า​ ​“​เหอะ​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​มุม​ปาก​ ​“​เสด็จ​พ่อ​มิได้​ตรัส​ชม​ว่า​พี่​สี่​เป็น​ลูก​กตัญญู​หรอก​หรือ​”

ฮ่องเต้​รีบ​ไล่​เขา​กลับ​ไป​เพื่อ​ที่ว่า​ตัวเอง​จะ​ได้​รีบ​กลับ​ไปหา​แมว​ที่​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน​ ​หาก​คำนวณ​เวลา​ดูแล​้ว​ ​น่าจะเป็น​จังหวะ​เดียวกัน​กับ​ที่​เจ้า​สี่​กำลัง​เข้าเฝ้า​เสียน​เฟย

แค่​ลอง​จินตนาการ​ภาพ​เหตุการณ์​ ​รอยยิ้ม​ของ​อวี​้​จิ​่​นก​็​ลุ่มลึก​กว่า​เก่า

ไม่ว่า​ฉี​อ๋อง​จะ​มีส​ภาวะอารมณ์​มั่นคง​เพียงใด​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​อวี​้​จิ​่​นก​ล่าว​เช่นนั้น​ก็​อด​ถาม​ไม่ได้​ ​“​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​”

ไม่​แปลกที่​ฉี​อ๋อง​จะ​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​จิ​่ง​หมิงอ​ฮ่องเต้​พูด​คำ​ว่า​ ​‘​ลูก​กตัญญู​’​ ​กับ​เขา​จริง​ ​แต่​นั่น​มิใช่​คำชม​ ​แต่​เป็นการ​พูด​กระแทกกระทั้น

เรื่อง​ที่​เสด็จ​พ่อ​พูด​กระแทก​ใส่​เขา​ ​เจ้า​เจ็ด​รู้​ได้​อย่างไร

ฉี​อ๋อง​ฉงน​หนัก​ ​ในขณะที่​อวี​้​จิ​่น​ส่ง​ยิ้ม​จางๆ​ ​ด้วย​ความรู้สึก​สงบนิ่ง​ ​“​ใคร​ต่าง​ก็​รู้​ว่า​พี่​สี่​เป็น​คน​กตัญญู​ ​แล้ว​ข้า​จะ​ไม่ทราบ​ได้​อย่างไร​”

ฉี​อ๋อง​เก็บความ​สงสัย​นั้น​ไว้​ก่อน​และ​เอ่ย​โน้มน้าว​ด้วย​ท่าที​จริงจัง​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​ข้า​รู้ดี​ว่า​เจ้า​และ​เสด็จ​แม่​ไม่ลงรอยกัน​ ​แต่​ถึงอย่างไร​เจ้า​ก็​ควร​ระลึก​ไว้​เสมอ​ว่า​เสด็จ​แม่​อุ้มท้อง​เจ้า​มาตั​้ง​สิบ​เดือน​ ​ที่​เจ้า​ต้อง​ออกจาก​วัง​ไป​ตั้งแต่​เกิด​ก็​มิใช่​พระ​ประสงค์​ของ​เสด็จ​แม่​…​”

“​เอ๋​ ​หาก​จะ​เอ่ย​เช่นนี้​ ​ก็​หมายความว่า​เสด็จ​พ่อ​เป็นต้นเหตุ​ที่​ทำให้​มารดา​และ​บุตร​ต้อง​แยกจาก​กัน​งั้น​หรือ​”

สีหน้า​ของ​ฉี​อ๋อง​เปลี่ยนไป​โดยพลัน​ ​เขา​รีบ​เอื้อมมือ​ไป​ปิดปาก​อวี​้​จิ​่น​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​อย่า​พูด​เช่นนี้​ซิ​ ​ข้ามิ​ได้​หมายความ​เช่นนั้น​”

เขา​อุตส่าห์​ใช้​หลัก​ ​‘​ความกตัญญู​’​ ​มา​เสียดสี​เจ้า​เจ็ด​ ​แต่​กลายเป็น​ว่า​กลับ​ลาก​เสด็จ​พ่อ​เข้ามา​เอี่ยว​ด้วย​เสีย​อย่างนั้น

ความผิด​น้อย​ใหญ่​ทั้งหลายแหล่​จะ​โทษ​ผู้ใด​ก็ได้​ที่​มิใช่​เสด็จ​พ่อ

ฉี​อ๋อง​ไม่กล้า​ต่อความยาวสาวความยืด

ใน​วินาที​นั้น​ ​เขา​รับรู้​ได้​ทันที​ว่าการ​รับมือ​กับ​อีก​ฝ่าย​เป็นเรื่อง​ยาก​ยิ่ง

แม้​เจ้า​เจ็ด​จะ​ดูเหมือน​พวก​นักเลง​หัวไม้​ที่​พร้อม​จะ​ตีรันฟันแทง​ได้​ทุกเมื่อ​ ​เจ้า​ห้า​ก็​มีนิ​สัย​เช่นนี้​ ​แต่กลับ​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ว่า​เป็นเรื่อง​น่าขัน​เสียมา​กก​ว่า​ ​แต่​เจ้า​เจ็ด​มิได้​ให้ความรู้​สึก​เช่นนั้น

สาเหตุ​ชัดเจน​ใน​ตัว​อยู่​แล้ว​ ​ความ​ไม่​ยั้งคิด​ของ​เจ้า​ห้า​ทำให้​ตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​หลุดมือ​ไป​ ​แต่​ทุกครั้ง​ไม่ว่า​เจ้า​เจ็ด​จะ​ทำ​อะไร​ ​เคราะห์ร้าย​มักจะ​ตก​แก่​คนที​่​เจ้า​เจ็ด​หมายตา

หรือ​นี่​คือ​ประสงค์​ของ​สวรรค์

บางที​ ​คู่แข่ง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​เขา​อาจ​ไม่ใช่​เจ้า​หก​ ​แต่​เป็น​เจ้า​เจ็ด​…​ ​สายตา​จดจ้อง​ไป​ที่​คนที​่​กำลัง​ยิ้มอยู่​ตรงหน้า​ ​ใน​วินาที​นั้น​ฉี​อ๋อง​ก็​บรรลุ​ใน​ทันใด

เมื่อ​เห็น​ว่า​ท่าที​ของ​ฉี​อ๋อง​เปลี่ยนไป​แต่​ไม่กล้า​หาเรื่อง​เขา​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​ไม่​ใคร่​จะ​สนทนา​ต่อ​ ​เขา​เพียงแต่​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ข้ามี​เรื่อง​หนึ่ง​จะ​รบกวน​พี่​สี่​”

“​เรื่อง​อะไร​รึ​”​ ​ฉี​อ๋อง​ถาม​ด้วย​ความสงสัย

“​ทีหน้าทีหลัง​อย่า​ได้​สะเออะ​มาสอ​นข​้า​อีก​ ​เพราะ​พี่​มิใช่​คนที​่​มีคุณ​สมบัติ​จะ​ทำ​เช่นนั้น​”​ ​ครั้น​กล่าว​จบ​อวี​้​จิ​่​นก​็​ส่ง​ยิ้ม​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​ควบ​ม้า​ตะบึง​ไป

ฝุ่นละออง​ลอย​ฟุ้ง​เข้าที่​หน้า​ของ​ฉี​อ๋อง​จน​เขา​เกือบ​ตกลง​จาก​หลัง​ม้า

อวี​้​จิ​่น​ไม่ได้​ตรง​กลับ​ไป​ที่​จวน​อ๋อง​ ​แต่กลับ​มุ่งหน้า​ไป​ที่​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว

จวน​ตง​ผิงปั​๋​วจั​ดงาน​เลี้ยง​เป็นเวลา​สาม​วัน​สาม​คืน​เพื่อ​เป็นการ​เฉลิมฉลอง​การก​ลับ​มา​ของ​เจียง​จั้น​ ​และ​บอก​ให้​ทราบ​โดย​ทั่วกัน​ว่า​คุณชาย​รอง​เจียง​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​ฝ่าย​เจียง​ซื่อ​เดินทาง​ไป​ถึง​จวนปั​๋​วก​่อน​แล้ว

อวี​้​จิ​่น​ตั้งใจ​จะ​ไปร​่ว​มงา​นที​่​จวนปั​๋ว​และ​ถือโอกาส​รับ​ภรรยา​กลับมา​ด้วย

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

Status: Ongoing
นิยายโรแมนติกยุคโบราณ-แนวแต่งงาน ดราม่าในอดีตจะหายไป รักใหม่สุดหวานซึ้งจะเริ่มต้น…กับคนเดิม?!ชาติที่แล้วเพราะนาง ‘เจียงซื่อ’ คุณหนูสี่แห่งตระกูลตงผิงปั๋วดวงตามืดบอดทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรจนถึงแก่ความตายเมื่อได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตที่สองนางจะไม่ทำเรื่องผิดพลาดซ้ำอีกต่อไปคนที่หวังดีกับนางจากใจจริงนางล้วนเข้าใจและพร้อมตอบแทนด้วยสิ่งเดียวกันคนที่คิดร้ายวางแผนทำลายนาง นางก็พร้อมจะเอาคืนเป็นทบเท่าพันทวีชีวิตการแต่งงานที่ไม่สมหวังในชาติก่อนทำให้นางเข็ดขยาดไม่คิดจะมีความรักอีกแต่เหตุใดกัน ‘อวี้จิ่น’ สามีคนที่สองของนางในชาติก่อนกลับมาคอยตามตอแยนางไม่หยุดเช่นนี้!แม้ชาติก่อนข้าจะเคยชอบเจ้า แต่ชาตินี้อย่าหวังจะทำให้ข้าเสียน้ำตาได้อีกเป็นหนที่สองนางต้องอยู่ให้ห่างจากเจ้าคนเลวนั่นไว้ ยิ่งไกลยิ่ง

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท