ตอนที่ 208 ดู ควายบินอยู่บนท้องฟ้า
เยียนอวิ๋นฉวนออกมาจากสำนักหยาเหมิน
เขาไม่ได้รีบร้อนเดินทางไปจวนท่านหญิง หากแต่เดินทางกลับเรือนพักในเมืองก่อน
มีบางเรื่อง เขาต้องหารือกับหวังกุนซือให้รอบคอบ
“น้องสองมาแต่งงานในเมืองหลวง ซินแสคิดว่าข้าควรทำอย่างไร”
หวังกุนซือมีแผนการสำหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว
เขาพูด “นายน้อยสามารถปฏิบัติด้วยใจปกติ ตราบใดที่ท่านโหวไม่เปลี่ยนใจ ถึงแม้นายน้อยสองจะแต่งงานกับคุณหนูหลิวก็เปลี่ยนแปลงสิ่งใดไม่ได้ อีกอย่างนายน้อยใฝ่ฝันที่จะเป็นขุนนาง นายน้อยสองเดินทางแม่ทัพ ไม่มีความขัดแย้งกัน นายน้อยกระตือรือร้นต่อนายน้อยสองดีกว่า อย่างไรก็เป็นพี่น้องที่ไม่เจอหน้ากันมานานหลายปี หากมีเรื่องดีๆ ของพี่น้องเผยแพร่ออกไปก็เป็นเรื่องดีไม่น้อย”
เยียนอวิ๋นฉวนครุ่นคิดอย่างละเอียด รู้สึกว่าคำพูดของหวังกุนซือมีเหตุผลอย่างมาก
เขาพูด “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะเตรียมของขวัญเดินทางไปจวนท่านหญิง ยามค่ำดื่มสุรากับน้องสอง ซินแสตามข้าไป”
หวังกุนซือครุ่นคิด พลันส่ายหน้า “ข้าไม่เหมาะที่จะติดตามนายน้อยเดินทางไปจวนท่านหญิง อย่างไรก็ไม่ใช่การรับมือทางราชการ คือนนี้ที่จวนท่านหญิงเป็นงานเลี้ยงครอบครัว ในเมื่อเป็นงานเลี้ยงครอบครัว นายน้อยพาข้าไปด้วยจะทำให้คนคิดมาก”
“ซินแสพูดมีเหตุผล คืนนี้ข้าจะไปเอง”
เมื่อเข้าใกล้พลบค่ำ เยียนอวิ๋นฉวนก็เดินทางมาถึงจวนท่านหญิงพร้อมของขวัญ
พี่น้องพบหน้ากัน ดูสนิทสนิทกันอย่างมาก
“พี่ใหญ่!”
“น้องสอง!”
เยียนอวิ๋นถงเดินทัพตลอดปี มือของเขาตบลงบนไหล่ของเยียนอวิ๋นฉวนอย่างหนักหลายครั้ง บนใบหน้าเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ
เยียนอวิ๋นฉวน “…”
เหตุใดมือของเขาจึงหนักเพียงนี้
เหตุใดจึงตบไม่หยุด
อยากจะตบไหล่ของเขาให้แหลกหรือ
ซ่อนเร้นเจตนาไม่ดี!
เยียนอวิ๋นฉวนหัวเราะ ดึงมือของเยียนอวิ๋นถงเอาไว้ จัดการวิกฤตของตนเองอย่างไร้เสียง
“น้องสองเชิญด้านใน!”
“พี่ใหญ่เชิญด้านใน! วันนี้พวกเราต่างเป็นแขก อย่าได้เกรงใจ”
คำพูดนี้…
เยียนอวิ๋นฉวนหัวเราะ ไม่รู้ควรตอบอย่างไร
พี่น้องสองคนล้วนเป็นแขก คำพูดนี้มีนัยยะอย่างมาก!
เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโถง
วันนี้เป็นงานเลี้ยงครอบครัวจึงไม่มีพิธีมากมาย
เซียวฮูหยินดื่มไปสามจอกก็ออกจากงานเลี้ยงก่อน ปล่อยพื้นที่ให้สองพี่น้อง
เยียนอวิ๋นเกอยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะกับพี่ใหญ่ เยียนอวิ๋นเฟย
“พี่ใหญ่การงานราบรื่น ข้าใช้น้ำแทนเหล้าคารวะท่าน หวังว่าวันหนึ่งบนราชสำนักจะมีพื้นที่ของท่าน”
“ขอบใจอวิ๋นเฟย ตอนนั้นลำบากเจ้าแล้ว แต่ข้าก็ช่วยสิ่งใดไม่ได้ จอกนี้ข้าควรคารวะเจ้า ถือว่าไถ่โทษ”
เยียนอวิ๋นฉวนพูดจาสวยงาม
เยียนอวิ๋นถงรีบยืนขึ้นกดมือของเขาเอาไว้ “ดื่มน้ำไม่สนุก พี่หญิงไม่อาจดื่มสุราได้ ข้าดื่มแทนนาง พี่ใหญ่ยอมดื่มกับข้าสามจอกหรือไม่ จอกแรกข้าดื่มแทนพี่หญิง จอกสองข้าผู้เป็นน้องคารวะท่าน จอกสามหวังว่าพวกเราสองพี่น้องจะประสบความสำเร็จ”
เยียนอวิ๋นฉวนหัวเราะ “น้องสองมีน้ำใจ ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร”
พูดจบเขาก็ยกจอกสุราขึ้น ดื่มร่วมกับเยียนอวิ๋นถงสามจอก
หลังจากสุราสามจอกลงท้อง คอของแสบร้อนเล็กน้อย เขาจึงกินอาหารสองคำเพื่อกลบกลิ่นสุราในปาก
เยียนอวิ๋นเฟยพูดอย่างไร้เสียง “น้องสองกำลังจะแต่งงาน เมื่อใดเรื่องงานแต่งของพี่ใหญ่จะมีข่าวดี ท่านในฐานะบุตรชายคนโตของตระกูล คงจะล่าช้าไปมากไม่ได้”
เยียนอวิ๋นฉวนยิ้มขมขื่น “เจ้าดูข้า ข้าเป็นเพียงบุตรจากอนุภรรยา บุตรสาวของตระกูลขุนนางในเมืองหลวงผู้ใดจะยอมแต่งงานกับข้า ข้าก็อยากแต่งงาน แต่ไม่มีผู้ใดเหมาะสม ข้าอยากจะบากหน้าของให้ฮูหยินและน้องอวิ๋นเฟยเจ้าช่วยสอดส่องให้ข้า แต่ก็กลัวลำบากพวกเจ้าเกินไป”
เยียนอวิ๋นเฟยเลิกคิ้วยิ้ม “เหตุใดพี่ใหญ่ต้องดูถูกตนเอง นอกจากชาติกำเนิดแล้ว ท่านโดดเด่นในทุกด้าน มีแต่ตระกูลขุนนางเหล่านั้นที่กล้าดูถูกท่าน หากท่านยินดี ข้าจะสอดส่องให้ท่าน แต่ว่าอย่ารอข้าพบหญิงสาวที่เหมาะสม ท่านก็รังเกียจแทน”
เยียนอวิ๋นเกอกระแอมไอเตือนพี่ใหญ่เสียงเบา “ตระกูลเยียนก็เป็นตระกูลขุนนาง ตระกูลสือยิ่งเป็นตระกูลขุนนาง ท่านพี่ต่อว่าตระกูลขุนนางก็เหมือนต่อว่าตนเอง”
เยียนอวิ๋นเฟยเหลือบมองนาง
เยียนอวิ๋นเกอกระจ่าง นางรีบหุบปากทันที
คืนนี้นางจะพยายามไม่พูด นั่งอยู่เฉยๆ
มีเรื่องมากมายที่พี่ใหญ่ เยียนอวิ๋นเฟยสามารถพูดกับเยียนอวิ๋นฉวน แต่เยียนอวิ๋นเกอทำไม่ได้
อาทิ งานแต่งของเยียนอวิ๋นฉวน เยียนอวิ๋นเกอเป็นคุณหนูที่ยังไม่ออกเรือน นางจะพูดด้วยจุดยืนใด
หรือจะให้นางช่วยเยียนอวิ๋นฉวนสอดส่องหรือ
คุณหนูที่ยังไม่ออกเรือนช่วยผู้อื่นสอดส่องคู่หมาย ตลกสิ้นดี
ตัวเองยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของการแต่งงาน ย่อมไม่มีคุณสมบัตินั่งหารือเรื่องนี้กับบรรดาสตรีตระกูลขุนนาง…
อย่างไรแล้วก็ไม่มีคุณสมบัติ
การสนทนาในคืนนี้ นางจะเป็นใบ้ ไม่เข้าร่วม
เยียนอวิ๋นฉวนผงะ “น้องอวิ๋นเฟยจะช่วยข้าจริงหรือ”
“ท่านเห็นว่าข้าล้อเล่นหรือ หรือท่านมีคู่หมายที่เหมาะสมอยู่ก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้ขอให้ข้าช่วยเพียงแค่เกรงใจ”
เยียนอวิ๋นเฟยยิ้ม พลันจ้องมองเยียนอวิ๋นฉวน
เยียนอวิ๋นฉวนรู้สึกกดดัน เขารีบปฏิเสธ “น้องอวิ๋นเฟยเข้าใจผิดแล้ว หากข้ามีคู่หมายที่เหมาะสมก็คงแต่งงานไปแล้ว เหตุใดต้องรอจนถึงวันนี้ น้องสองใกล้จะแต่งงาน แต่ข้ายังไม่เป็นฝั่งเป็นฝา ในใจของข้าก็ร้อนใจอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน”
“พี่ใหญ่อย่ารีบ!” เยียนอวิ๋นถงตบลงบนไหล่ของเยียนอวิ๋นฉวนอย่างหนัก
เยียนอวิ๋นฉวนเจ็บจนกัดฟันกรอด โชคดีที่เขาก็ฝึกฝนร่างกายมาบ้าง อย่างน้อยก็สามารถควบคุมสีหน้าเอาไว้ได้
เยียนอวิ๋นถงทำท่าทางตรงไปตรงมา เขาพูดเสียงดัง “มีหญิงสาวมากมายในแผ่นดิน จากความสามารถของพี่ใหญ่ อย่าว่าแต่คุณหนูตระกูลขุนนาง แม้แต่บุตรสาวของฮ่องเต้ก็แต่งได้”
“อย่าๆ น้องสองอย่าได้พูดจาเหลวไหล คุณหนูตระกูลขุนนางข้ายังไม่กล้าอาจเอื้อม ยิ่งไปกว่านั้นจะเป็นองค์หญิงในวัง”
เยียนอวิ๋นฉวนกลัวจนเหงื่อตก เกรงว่าเยียนอวิ๋นถงจะโหวกเหวกเหลวไหล สร้างความเดือดร้อนให้เขา
“มีสิ่งใดไม่กล้าคิด!” เยียนอวิ๋นถงราวกับไม่รับรู้ความหมายแฝงในคำพูดของเยียนอวิ๋นฉวน คิดว่าเขาเพียงแค่ถ่อมตน
เขาให้กำลังใจเยียนอวิ๋นฉวนต่อ “พี่ใหญ่เป็นบุรุษที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลเยียน ท่านพ่อให้ความสำคัญกับท่านมาก ท่านมีทั้งความสามารถ มีทั้งชาติตระกูล เวลานี้ยังเป็นขุนนาง พี่ใหญ่สามารถเลือกสรรคุณหนูตระกูลขุนนางเหล่านั้นได้ตามใจ”
เยียนอวิ๋นฉวนไม่อาจดีใจขึ้นมาได้
เขาจ้องมองเยียนอวิ๋นถง อยากรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจ
อยากจะกลั่นแกล้งเขาหรือว่าคิดเช่นนี้จริง
เสียดายที่เขามองไม่เห็นสิ่งใดบนใบหน้าของเยียนอวิ๋นถง
หากจะบอกว่าเห็นสิ่งใดก็คงมีเพียงความจริงใจ
แต่เยียนอวิ๋นฉวนไม่กล้าเชื่อ!
ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เขารู้ดีอย่างยิ่ง เยียนอวิ๋นถงดูเหมือนซื่อบื้อ แต่ความจริงแล้วมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างมาก
หากเชื่อคำพูดของเขา คนที่จะโชคร้ายย่อมต้องเป็นตนเอง
เขาหัวเราะ “ข้ารับรู้น้ำใจของน้องสองแล้ว แต่ที่นี่เป็นเมืองหลวง น้องสองอย่าได้พูดจาเช่นนี้อีก”
เยียนอวิ๋นถงทำหน้าไม่เห็นด้วย “พี่ใหญ่มาเมืองหลวงก็กลายเป็นคนไม่เด็ดขาด ข้าแต่งงานก่อนท่าน หากพูดตามความจริง ภายในใจข้าไม่สบายใจนัก ดังนั้นข้าอยากให้พี่ใหญ่ได้ภรรยาที่ดีในเร็ววันด้วยใจจริง”
เยียนอวิ๋นฉวนทำหน้าซาบซึ้ง “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น หวังว่าข้าจะไล่ตามน้องสอง แต่งงานในเร็ววันได้”
เยียนอวิ๋นถงหัวเราะ “เรื่องนี้ง่ายดาย มีท่านแม่กับพี่ใหญ่ช่วยท่าน เชื่อว่าไม่นานนักก็จะมีข่าวดี หากเวลานั้นข้ายังอยู่เมืองหลวง ข้าจะช่วยดูให้ท่านด้วย”
“น้องสองรีบกลับไปหรือ” เยียนอวิ๋นฉวนถามด้วยความสงสัย
เยียนอวิ๋นถงถอนหายใจ “ค่ายทหารห่างไกลคนไม่ได้ ข้าต้องรีบกลับไป รอข้าแต่งงานแล้ว อยู่ต่ออีกสักพักก็ควรเดินทางกลับโยวโจวแล้ว”
เยียนอวิ๋นฉวนพูด “งานแต่งกำหนดไว้เมื่อใด ระยะนี้มีฤกษ์มงคงที่เหมาะสมกับการแต่งงานหรือ น้องสองอย่าเลือกวันที่ไม่มงคลเพียงเพื่อต้องการกลับค่ายทหาร”
เยียนอวิ๋นถงหัวเราะ “พี่ใหญ่วางใจ เลือกวันไว้แล้ว หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน”
“เช่นนี้ย่อมดี!”
เมื่อเห็นบทสนทนาของสองพี่น้องจบลง เยียนอวิ๋นเฟยก็เอ่ยถาม “พี่ใหญ่อยากแต่งงานกับหญิงสาวแบบใด ท่านชื่นชอบคุณหนูตระกูลใดในเมืองหลวง”
เยียนอวิ๋นฉวนยิ้มขมขื่น “น้องอวิ๋นเฟยอย่าหยอกล้อข้าเลย มีแต่คุณหนูในเมืองหลวงเลือกข้า ข้าจะมีคุณสมบัติไปเลือกพวกนางได้อย่างไร”
เยียนอวิ๋นเฟยเลิกคิ้วยิ้ม “ท่านถ่อมตนเองเกิน ทั้งที่มีความสามารถเต็มที่ กลับบอกมีเพียงเล็กน้อย ในใจของท่านหากมีคุณหนุที่ชื่นชอบก็รีบบอกมา ข้ากับท่านแม่จะรีบดูให้ท่าน พยายามเร่งให้งานแต่งนี้ประสบความสำเร็จ หากท่านปิดบังไว้ไม่พูด ไม่แน่ว่าอาจจะพลาดพลั้งกับคุณหนูที่ชอบไป”
เยียนอวิ๋นฉวนรีบปฏิเสธ “แต่ละวันข้างานยุ่งจนเท้าไม่ติดดิน ไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับคุณหนูแม้แต่น้อย หลายปีนี้ไม่เคยมีคุณหนูที่ชื่นชอบ”
อ่อ!
เยียนอวิ๋นเฟยเปลี่ยนประเด็น นางถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “ท่านพ่อมีแผนการต่องานแต่งของท่านอย่างไร งานแต่งของท่านเป็นเรื่องใหญ่ในตระกูล ท่านพ่อไม่มีทางไม่สนใจ”
“ท่านพ่อย่อมหวังให้ข้าแต่งงานกับบุตรสาวจากภรรยาเอกในตระกูลสูง แต่ข้าไม่ปิดบังพวกเจ้า แทบจะไม่มีความหวัง”
เยียนอวิ๋นเฟยเลิกคิ้ว แลกเปลี่ยนสายตากับเยียนอวิ๋นถงอย่างเงียบๆ
เยียนอวิ๋นถงทำท่าทางเปิดเผย ฝ่ามือโอบลงบนไหล่ของเยียนอวิ๋นฉวน
ไหล่ของเยียนอวิ๋นฉวน…
วันนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ฮือๆ…
เยียนอวิ๋นถงพูดเสียงดัง “พวกเราไม่สนใจคุณหนูในเมืองหลวง ดวงตาของพวกนางล้วนอยู่เหนือหัว อย่างมากก็กลับไปหาตระกูลในโยวโจว คุณหนูในโยวโจวล้วนชั้นเลิศ มีคุณหนูมากมายที่รู้ว่าพี่ใหญ่ยังไม่แต่งงาน ล้วนรอท่านอยู่ พี่ใหญ่ ท่านอย่าได้ทรยศต่อหัวใจของเหล่าคุณหนู!”
เยียนอวิ๋นฉวนชี้เขา “น้องสองอย่าหยอกล้อข้า คนที่ทรยศต่อหัวใจของเหล่าคุณหนูคือเจ้าต่างหาก”
เยียนอวิ๋นถงส่ายหน้าระรัว สีหน้าจริงจังอย่างมาก “เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่เป็นที่นิยมในสายตาของเหล่าคุณหนู พี่ใหญ่ท่านมีความสามารถกว่า คุณหนูในโยวโจวล้วนคิดถึงท่านจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ หากท่านตัดสินใจกลับไปแต่งงานที่โยวโจว เมื่อข่าวแพร่ออกไป เพียงชั่วพริบตา ธรณีประตูของจวนโหวต้องถูกคนเหยียบย่ำจนแตกละเอียดอย่างแน่อน”
เกินไปแล้ว!
คำพูดนี้เกินจริงไปแล้ว!
พี่น้องสองคนต่างเยินยอกัน ยิ่งเยินยอยิ่งปลอม
ดู!
ควายบินอยู่บนท้องฟ้า
เยียนอวิ๋นเกอไม่อาจทนดูต่อไปได้ นางทำท่าหาว พลันหาข้ออ้างจากไป
เยียนอวิ๋นเฟยมีครรภ์ก็ไม่อาจอยู่นานได้ นางลุกขึ้นขอตัว ปล่อยให้พี่น้องสองคนดื่มต่อ
———————————————-