บทที่ 44 มีความสุขมาก
บทที่ 44 มีความสุขมาก
เซี่ยชิงหยวนจะยอมให้ถูกจับง่าย ๆ ได้ยังไง? เธอเหวี่ยงหมัดตรง ต่อยใส่ผู้บุกรุกปริศนาทันที
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายทั้งยังสูงและแข็งแรงมาก เขาจับหมัดของเธอแล้วบิดมือของเธอไปข้างหลัง
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังจะพ่ายแพ้
หญิงสาวกำลังจะเปิดปากและตะโกนขอความช่วยเหลือ ทว่าเมื่อเธอกำลังจะเปล่งเสียงออกไป เสียงของเสิ่นอี้โจวก็ดังขึ้นข้างหลัง “ชิงหยวน?”
เมื่อได้ยินว่าเสียงนี้เป็นเสียงของผู้เป็นสามี หัวใจของหญิงสาวก็ผ่อนคลายลงทันที ทว่าด้วยความตกใจกลัวเมื่อครู่ก็ทำให้หญิงสาวสะอื้นไห้ออกมา “คุณทำให้ฉันกลัวแทบตาย!”
เธอคิดว่าโจรบุกเข้ามาและซุ่มโจมตีเธอจากด้านหลังซะอีก
เสิ่นอี้โจวดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว “ผมขอโทษ ผมขอโทษนะ”
ร่างบางถูกกอดแน่นในอ้อมแขนของผู้เป็นสามี ลมหายใจที่คุ้นเคยโอบล้อมตัวเธอ ความตกใจที่หญิงสาวได้รับในตอนแรกก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย “ทำไมคุณถึงกลับมาล่ะ”
โจวหยางไม่ได้บอกว่าเขาต้องทำงานล่วงเวลาหรอกเหรอ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการตอบกลับอย่างรวดเร็วของเซี่ยชิงหยวนแล้ว เสิ่นอี้โจวดูจะกังวลมากกว่ามาก
เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง “โจวหยางกลับมาส่งอาหารให้คุณ แต่เขากลับบอกว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้าน”
ชายหนุ่มหยุดพูดไปชั่วครู่ และคิดว่าตนไม่ควรซ่อนเรื่องนี้ไม่ให้เธอรู้ “มีขโมยบุกเข้ามาในสำนักงานช่วงเย็น ผมเป็นห่วงคุณ เลยกลับมาดู”
เมื่อเซี่ยชิงหยวนกลับมา เสิ่นอี้โจวก็เพิ่งออกมาจากห้องข้างในพอดี และเมื่อชายหนุ่มเห็นเงาดำแวบผ่านประตู จากนั้นเงานั่นก็ก้มลงหยิบบางอย่างที่ใต้ประตู เขาจึงคิดว่าเธอเป็นหัวขโมย
เมื่อได้ยินแบบนั้น เซี่ยชิงหยวนก็หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ของตนเอง “มีหัวขโมยจริง ๆ เหรอคะ?”
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นอี้โจวเข้าใจความหมายในคำพูดของหญิงสาว เขาจึงกล่าวว่า “คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ”
เซี่ยชิงหยวนไม่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก ตอนนี้เธอแค่นึกถึงหลี่กวงหัว
ถึงอย่างไร ผู้ชายคนนั้นก็ดูไม่น่าไว้ใจ แต่อีกฝ่ายทำงานอยู่แผนกเดียวกันกับอี้โจว ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการบอกเรื่องนี้กับเขา เพราะเกรงว่าชายหนุ่มจะยิ่งกังวล
จากนั้นเธอก็พยักหน้า “อืม ฉันเพิ่งได้ยินเรื่องนี้มา”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสบายดี ชายหนุ่มก็รู้สึกโล่งใจ
เขาสัมผัสร่างกายที่เปียกปอนของหญิงสาวแล้วก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงเปิดไฟ
จากนั้นเขาก็เพิ่งตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายกำลังสวมชุดผู้หญิงชาวไต และเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า
ชุดสีชมพูปิดผิวขาวราวหิมะของเธอไว้ เมื่ออีกฝ่ายดิ้นไปมาเมื่อครู่ก็ทำให้ผ้าคลุมไหล่ร่วงลงกับพื้น ร่องเว้าลึกตรงเนินอกนั้นปรากฏให้เห็น และเอวบางที่ถูกบดบังด้วยชุดเปียกชุ่มก็แสดงส่วนโค้งเว้าออกมาอย่างชัดเจน
ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มผมที่ยาวและเปียกห้อยละลงมา เธอต้องเป็นสาวงามที่ดูมีน้ำมีนวลมากแน่ ๆ
เสิ่นอี้โจวเพียงเหลือบมอง ก่อนจะรีบหันหน้าหนี แล้วหยิบผ้าคลุมไหล่ขึ้นมายื่นให้อีกฝ่าย “คุณเพิ่งไปอาบน้ำที่แม่น้ำมาเหรอครับ”
เซี่ยชิงหยวนเพิ่งตระหนักได้ว่า ผ้าคลุมไหล่ของเธอหลุดออกไปโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวจึงต้องการคว้ามันมาคลุมไหล่ไว้เพื่อปกปิดร่างกายของเธอทันที
แต่เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของอีกฝ่าย เธอก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป
เธอก้าวไปข้างหน้าและกอดเอวของเขาเอาไว้ “ใช่ ฉันลืมเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน มันหนาวมากเลย”
ขณะที่พูด ใบหน้าเรียวเล็กของเธอก็อิงแนบกับแผ่นอกแกร่ง พลางถูไถกับร่างกายของเขา
เสื้อผ้าเปียกโชกของเธอแนบชิดกับเสื้อผ้าของผู้เป็นสามี ทำให้เสื้อผ้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยด่างดวง และความร้อนจากร่างกายของกันและกันก็ส่งผ่านกันใต้ร่มผ้าอย่างชัดเจน
ยิ่งเป็นแบบนี้ เสิ่นอี้โจวก็ยิ่งกลั้นหายใจและไม่กล้าลืมตาขึ้น
หลังจากหายใจเข้าออกอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็หาเสียงของตนเองพบ “มีน้ำเดือดอยู่ในหม้อ เดี๋ยวผมจะเอาน้ำมาให้คุณล้างตัว ไม่งั้นคุณจะเป็นหวัด”
หลังจากพูดจบ เขาก็บีบแขนของผู้เป็นภรรยาเบา ๆ ด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลาง เพื่อผละออกจากตัว ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป
เซี่ยชิงหยวน “…”
เธอก้มมองหน้าอกของตนอย่างไม่มั่นใจ ขณะกำลังคิดว่าขนาดของมันใหญ่ไม่พอหรือไม่น่าดึงดูดกันแน่?
ทั้ง ๆ ที่คัพซีเป็นขนาดที่กำลังพอดีแท้ ๆ
…
อารมณ์หดหู่ของหญิงสาวยังคงอยู่ จนกระทั่งเสิ่นอี้โจวเทน้ำอุ่นให้เธออาบกลางสวนหลังบ้านที่ค่อนข้างมืด
ในท้องฟ้ายามค่ำคืน สนามหญ้าอันว่างเปล่ามีเพียงเสียงร้องของแมลงและกบที่ดังข้ามกำแพงมา ทันใดนั้น คำพูดของเซวียไฉ่เฟิ่งในช่วงกลางวันก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
หญิงสาวรู้สึกว่า ประตูลานบ้านในตอนนี้เป็นเหมือนกับสัตว์ร้ายตัวใหญ่ที่กำลังอ้าปากกว้างพร้อมที่จะเขมือบเธอเข้าไปได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นเธอจึงมองตามชายหนุ่มที่กำลังจะจากไปด้วยสายตาดูน่าสงสาร “ฉันกลัว…”
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวพูดขึ้น เสิ่นอี้โจวก็หยุดอยู่กับที่และมองมายังหญิงสาว
เซี่ยชิงหยวนถือผ้าคลุมไหล่ไว้ ร่างกายของเธอเปียกโชก ขณะที่กำลังทำหน้าตาน่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้
เสิ่นอี้โจวคิดจะพูดด้วยประโยคเดิมของเขาว่า “อย่ากลัวเลย” แต่มันติดอยู่ในลำคอและไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป
แล้วเขาก็เชื่อฟังหัวใจของตนอีกครั้ง “ผมจะไปที่หน้าประตูกับคุณ”
เซี่ยชิงหยวนยังคงส่ายหัว “ถึงประตูจะปิด ฉันก็ยังกลัวอยู่ดี”
เสิ่นอี้โจวรู้สึกปวดขมับทันที
ชายหนุ่มนวดขมับข้างหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ผมจะเอาตะเกียงมาให้คุณ”
“ไม่” เซี่ยชิงหยวนกล่าวขัดขึ้นในทันที “มันกั้นกับประตูด้วยรั้วไม้ ไม่ว่ารั้วจะหนาแน่นแค่ไหน แสงก็ส่องเข้ามาได้อยู่ดี ถ้าอย่างนั้นคุณจะไม่เห็นหมดเลยเหรอ”
ที่นี่ไม่มีอ่างล้างหน้า และพวกเขาก็ไม่สามารถยกเข้าไปในบ้านได้เช่นกัน
ชายหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขบกรามแน่น “ถ้างั้นก็ไม่ต้องล้างตัวดีไหม?”
หญิงสาวอยากจะบีบคอเขาเสียจริง!
เธอไม่มีทางเลือกนอกจากพูดตรง ๆ ว่า “ฉันต้องการให้คุณมาอยู่กับฉันด้วย!”
เมื่อได้ยินประโยคนั้น เสิ่นอี้โจวก็เกือบจะสำลัก
หลังจากพูดจบ หญิงสาวก็ไม่รีรออีกต่อไป “ฉันหลับนอนกับคุณมาตั้งนาน แต่คุณกลับยังกลัวที่จะเห็นร่างกายของฉันอยู่อีกเหรอ? แล้วอีกอย่างข้างนอกนั่นก็มืดจะตาย คุณจะมองเห็นอะไรเล่า?”
เสิ่นอี้โจวขบฟันแน่นขึ้น “ก็ได้”
จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินตามเธอไป เขาหันหลังให้เซี่ยชิงหยวน แล้วหันหน้าไปทางบ้านของหลี่กวงหัวที่อยู่ติดกัน เพื่อบดบังร่างของเธอในขณะที่อีกฝ่ายกำลังอาบน้ำ
เสียงน้ำกระเซ็นและเสียงวักน้ำดังเข้ามาในหูของเสิ่นอี้โจวเป็นครั้งคราว เมื่อใดที่เขาเผลอตัว ความคิดของเขาจะล่องลอยไปกับเสียงน้ำที่เธออาบ เขาอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงรูปร่างที่น่าหลงใหลและผิวที่เนียนนุ่มของเธอ
เสิ่นอี้โจวหยิกตัวเองอย่างแรงอีกครั้ง
ไม่! เขาคิดแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!
เมื่อเห็นอีกฝ่ายหันหลังให้เธอและไม่พูดอะไร เซี่ยชิงหยวนจึงพูดขึ้นว่า “อี้โจว ฉันมีคำถามอยากจะถามคุณ”
เสิ่นอี้โจวตอบกลับ “คุณพูดมาได้เลย”
เธอพูดขึ้นว่า “คุณคิดยังไงตอนที่แม่สื่อจับคู่ครอบครัวของเราสองคน คุณยินดีกับมันหรือเปล่าคะ?”
เธอเคยได้ยินจากเซี่ยโยว่หมิงว่าปู่ของเธอกับพ่อเฒ่าเสิ่นรู้จักกัน ตั้งแต่ตอนที่ครอบครัวเสิ่นยังเป็นครอบครัวใหญ่ พ่อเฒ่าเสิ่นได้ช่วยชีวิตคุณปู่ของเธอไว้ เพื่อไม่ให้อดอยากจนตาย
ก่อนที่เธอและเสิ่นอี้โจวจะถูกแม่สื่อจับคู่ให้ เธอกับเขาก็เคยเห็นหน้ากันที่โรงเรียนหลายครั้งแต่แทบไม่ได้คุยกันเลย
แต่มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา
เธอเคยแอบมองเขาร่วมกับเพื่อนร่วมชั้น และทุกคนก็บอกว่าเขาดูดีกว่าดาราในหนังเสียอีก
เวลาต่อมา เธอจึงประหลาดใจมากเมื่อเซี่ยโยว่หมิงบอกว่าแม่สื่อได้จับคู่ระหว่างเธอกับเสิ่นอี้โจว
ตอนนี้เธออยากรู้ว่าเขาคิดยังไงกับเรื่องนี้
เมื่อเสียงของเธอเบาลง เสิ่นอี้โจวก็ไม่ได้ตอบเธอในทันที
หญิงสาวเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเขาที่ยังคงยืนตัวตรง แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ขณะที่กำลังคิดว่าเขาจะไม่ตอบคำถามของเธอ จู่ ๆ ชายหนุ่มก็พูดขึ้นว่า “ผมมีความสุขมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงสาวก็ตื่นเต้นมากเสียจนแทบทำน้ำในอ่างกระเซ็น
เธอจ้องมองแผ่นหลังกว้างของเขา เสียงของเธอสั่นเครือ “คุณพูดจริงเหรอ?”