กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 57 เจ็ดครั้งนั้น ผมจะพยายามให้ดีที่สุด

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 57 เจ็ดครั้งนั้น ผมจะพยายามให้ดีที่สุด

บทที่ 57 เจ็ดครั้งนั้น ผมจะพยายามให้ดีที่สุด

มันจบแล้ว!

ประโยคนี้ผุดขึ้นมาในจิตใจของเซี่ยชิงหยวน

ในโลกนี้มีใครที่น่าอายกว่าเธออีกไหม?

ชายคนนี้ได้ยินเธอโอ้อวดเกี่ยวกับตัวเขาเต็มสองรูหู!

หญิงสาวรู้สึกอยากจะหาเต้าหู้ชิ้นมาสับให้แหลกซะให้รู้แล้วรู้รอด

เดิมทีเซวียไฉ่เฟิ่งต้องการทำให้ตัวเองมีความรู้สึกที่เหนือกว่าต่อหน้าเซี่ยชิงหยวน ทว่าใครจะไปรู้ว่าเสิ่นอี้โจวจะกลับมากะทันหันแบบนี้?

แม้กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกอาย

แต่สายตาของเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังร่างหนาของเสิ่นอี้โจว

สายตาของเธอจับจ้องไปยังจมูกของเขา ลูกกระเดือก แขนอันแข็งแกร่งของเขาก่อน จากนั้นไปที่บั้นท้ายและ…เป้ากางเกง

น้ำลายของเซวียไฉ่เฟิ่งแทบจะไหลออกมา

ผู้ชายคนนี้น่าจะ ‘แข็งแรง’ มากทีเดียว

ทว่าก่อนที่เธอจะได้มองอย่างเต็มอิ่ม สายตาที่จ้องมองมาอย่างเย็นชาของเสิ่นอี้โจวก็ทิ่มแทงเข้ามาเสียก่อน

ราวกับมีดน้ำแข็งในสระน้ำเย็นจัดช่วงฤดูหนาว มันบาดใบหน้าของเธอจนทำให้รู้สึกเจ็บแปลบอย่างอธิบายไม่ได้

เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “ผมเพิ่งเจอกับหลี่กวงหัว ดูเหมือนเขาจะกำลังมองหาคุณอยู่นะครับ”

ความหมายของประโยคนี้คือการขับไล่อีกฝ่ายออกไป แต่ยังคงไว้หน้าอยู่

เซวียไฉ่เฟิ่งรู้สึกเพียงว่าเธอกำลังตื่นตระหนก ด้วยความลำบากใจในตอนนี้ เธอเพิ่งอวดกับเซี่ยชิงหยวนไปว่าหลี่กวงหัวนั้นทรงพลังเพียงใด

ทว่าตราบใดที่ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเอาหลี่กวงหัวกับเสิ่นอี้โจวมาเปรียบเทียบกัน ไม่ว่าด้านใดคนอื่นก็รู้ว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน

เธอก้มใบหน้าที่แดงก่ำลงและพูดอู้อี้ “งั้นฉันกลับก่อนนะ”

จากนั้นเธอก็วิ่งหนีไปด้วยความสิ้นหวัง

หลังจากที่เซวียไฉ่เฟิ่งจากไป ชายหนุ่มก็หันกลับมาจ้องมองใบหน้าของเซี่ยชิงหยวน และลังเลที่จะพูด

ทันทีที่หญิงสาวสบตากับผู้เป็นสามี เธอก็ก้มหัวลง ดูเหมือนนักเรียนประถมที่ทำอะไรผิดแล้วโดนครูจับได้

เสิ่นอี้โจวเดินเข้ามาหาเธอ “ชิงหยวน คุณ…”

เซี่ยชิงหยวนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฉันแค่พูดเรื่องไร้สาระ อย่าถือสาเลย”

ราวกับเธอยังคิดว่ามันยังไม่พอ หญิงสาวจึงรีบกล่าวเสริมว่า “อย่ากังวลเลย ฉันไม่ได้ไม่พอใจคุณ และฉันไม่ได้ตั้งใจจะขอให้คุณทำคืนละเจ็ดครั้งเลยนะ!”

หลังจากพูดจบ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังถลำลึกขึ้นเรื่อย ๆ

เสิ่นอี้โจวจะคิดว่าเธอเป็นคนนิสัยเสีย และคิดเรื่องอย่างว่าตลอดทั้งวันหรือเปล่านะ?

ทำยังไงดี?

ทำไมมันดูเหมือนเธอกำลังเดินลึกเข้าไปยังถนนที่กำลังล่มสลายเรื่อย ๆ เลย?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หญิงสาวก็อยากจะร้องไห้ออกมา

ในที่สุดเธอก็ก้มหน้าลงและไม่กล้ามองหน้าเขา

เสิ่นอี้โจวแทบสำลักออกมาจริง ๆ

หลังจากเรื่องไร้สาระจบลง เขาก็คิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนพูด

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ตำหนิตนเองทันที

อันที่จริง สิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์

และด้วยเหตุผลบางอย่างเขากลับหลบหน้าเธอ

เดิมที เขาคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของเซี่ยชิงหยวนในวันนี้เป็นเพียงการกลั่นแกล้งเขาเท่านั้น

แต่เมื่อได้เห็นอีกฝ่ายปกป้องเขาด้วยความโกรธเคือง เขารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องที่ตัวเองจะทำแบบนี้ต่อไป

ทว่าในขณะที่วางแผนจะจากเธอไป เขากลับยังคงใช้ชีวิตร่วมกับเธอราวกับเป็นเรื่องธรรมดาแบบนี้ มันไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยหรือ?

ดังนั้นชายหนุ่มจึงสับสนอยู่ในใจเช่นกัน

เมื่อฝ่ามือใหญ่วางบนศีรษะของหญิงสาว เสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยนของเสิ่นอี้โจวก็พูดขึ้นว่า “ชิงหยวน ไม่เป็นไรนะ”

เขาหยุดชั่วครู่ราวกับกำลังพยายามดิ้นรน “ถ้าคุณต้องการ…ผมก็ทำได้เหมือนกัน…”

“อะไรนะ? “

เสิ่นอี้โจวพูดอะไร?

เซี่ยชิงหยวนตกตะลึงมากจนเงยหน้าขึ้นทันที

ทำไมมันฟังดูแปลก ๆ ?

มันเหมือนกับว่า…เธอเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรซะเองและเสิ่นอี้โจวเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่ต้องการประนีประนอมกับเธอ

เมื่อเห็นใบหน้าประหลาดใจของเธอ เสิ่นอี้โจวก็อธิบายต่อไปว่า “การกระทำก่อนหน้านี้ของผมไม่ค่อยเหมาะสมนัก ก่อนหน้านี้ผมยุ่งอยู่กับงานมากเกินไป ซึ่งมันเป็นความผิดของผมจริง ๆ ที่ละเลยคุณ แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ เพราะมันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

เขาหยุดกะทันหันราวกับกำลังตัดสินใจ “ส่วนเจ็ดครั้งนั้น ผมจะพยายามให้ดีที่สุด!”

เขาคิดว่าตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ เขาก็ควรจะทำให้เธอพอใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

เซี่ยชิงหยวน “!”

หญิงสาวรู้สึกอยากจะวิ่งหนีไปในตอนนี้เลย!

ความแตกต่างระหว่างช่วงเวลานี้กับการเป็นคนเดิมในอดีตคืออะไรกัน?

เธอหน้าแดงและผลักเขาออกไป กึ่งอายกึ่งโกรธ

“ใครอยากได้เจ็ดครั้งของคุณกัน? ถ้าเก่งมากทำไมคุณไม่ทำร้อยครั้งเลยเล่า!”

หลังจากพูดจบ เธอก็ผลักเขาอีกครั้งและเผ่นออกจากห้องครัวไป

เสิ่นอี้โจวตัวแข็งทื่อทันทีและเมื่อได้สติเขาก็ขยับเท้าเพื่อไล่ตามผู้เป็นภรรยาออกไป

เซี่ยชิงหยวนดูเหมือนจะมีตาอยู่ข้างหลัง จากนั้นเธอก็หยุดและพูดว่า “อย่าตามฉันมา ฉันจะออกไปเดินเล่น!”

ชายหนุ่มหยุดไล่ตามเธออย่างเชื่อฟัง

สิ่งที่เขาพูดกับเธอหลังจากเกลี้ยกล่อมตัวเองได้ดูเหมือนจะไม่ทำให้เธอมีความสุขนัก

ต้องทำเป็นร้อยครั้งจริงเหรอ?

ใบหน้าของเสิ่นอี้โจวมืดมนลง

ขณะที่เดินออกไป เซี่ยชิงหยวนก็ตบตัวเองอย่างรำคาญใจ “ฉันพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้ไงกันนะ?”

เดิมที เธออยากจะดึงดูดเสิ่นอี้โจวด้วยเสน่ห์ของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างไร้ประโยชน์ซะแล้ว

ขณะที่เดินไปสักพัก หญิงสาวก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอมาถึงแถวบ้านของเจียงเพ่ยหลานโดยบังเอิญ

ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับ ก็เห็นเจียงเพ่ยหลานเดินถือถังมาทางนี้

ด้านที่เธอยืนอยู่คือก๊อกน้ำของซอยบ้านพวกเขา

เจียงเพ่ยหลานเดินก้มหน้าลงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

เซี่ยชิงหยวนเรียกเธอ “เพ่ยหลาน!”

เจียงเพ่ยหลานเงยหน้าขึ้นทันที แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเซี่ยชิงหยวน เธอก็กำลังจะหันหลังเดินกลับบ้านไปในทันที

แม้จะเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที เซี่ยชิงหยวนก็เห็นอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว

หญิงสาวก้าวไปคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ แม้จะไม่ได้คว้าข้อมืออย่างแรก แต่มันกลับทำให้เจียงเพ่ยหลานร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เซี่ยชิงหยวนปล่อยมือของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว และพบว่าแขนของเจียงเพ่ยหลานบวมช้ำไปหมด!

เธอมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายอีกครั้ง

มันมีรอยฟกช้ำและรอยสีม่วงทั่วผิวของเธอ

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกได้ถึงพายุอารมณ์ในใจของตนเองทันที

แต่เธอก็ระงับความโกรธของตัวเองอย่างรวดเร็ว “หลินจื่อเฉียงตีเธอเหรอ?”

เจียงเพ่ยหลานหันหน้าหนีและตอบด้วยเสียงต่ำ “ใช่”

ในความเป็นจริง หลินจื่อเฉียงไม่ใช่คนเดียวที่ทุบตี แม้แต่แม่สามีก็ทุบตีเธอเช่นกัน

เมื่อได้ยินแบบนั้น เซี่ยชิงหยวนก็ดุว่า “นี่มันจะเกินไปแล้ว!”

เซี่ยชิงหยวนมองรอยฟกช้ำจ้ำใหญ่เล็กบนร่างกายของเจียงเพ่ยหลาน ยิ่งดูมันเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตกใจเท่านั้น

มีรอยช้ำที่มุมปาก และมันก็มีรอยแตกที่ยังมีสะเก็ดเลือดอยู่

ตาอีกข้างหนึ่งบวมช้ำ และวงรอบดวงตาก็เป็นสีดำสนิท

นี่แค่ส่วนที่เปิดเผยออกมา ไม่ต้องพูดถึงส่วนที่ถูกปกคลุมด้วยเสื้อผ้าเลย

เจียงเพ่ยหลานไม่คิดเลยว่าเธอจะได้พบกับเซี่ยชิงหยวนในเวลานี้

เมื่อวานเธอไม่กล้าออกไปไหนและวันนี้ก็แอบออกมาหาบน้ำตอนที่ไม่มีใครอยู่

เมื่อเห็นคิ้วขมวดแน่นและดวงตาหลุบซ่อนจากเธอของเจียงเพ่ยหลาน อีกฝ่ายคงไม่ต้องการพูดถึงหลินจื่อเฉียงในตอนนี้ เซี่ยชิงหยวนจึงถามเพียงว่า “เธอไปโรงพยาบาลแล้วหรือยัง”

เจียงเพ่ยหลานส่ายหัว “ยัง”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ยิ่งข่มความโกรธยากขึ้น เธอพูดพร้อมกับถอนหายใจว่า “เธอคงมีอาการบาดเจ็บมากมายบนร่างกาย ฉันจะไปโรงพยาบาลกับเธอเพื่อให้หมอดูอาการ”

เมื่อหญิงสาวบอกว่าจะพาไปโรงพยาบาล เจียงเพ่ยหลานกลับส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า

“ไม่ ฉันไปโรงพยาบาลไม่ได้ ถ้าจื่อเฉียงรู้เข้า ฉันจะถูกซ้อมจนตายแน่ ๆ ”

เซี่ยชิงหยวนพูดอะไรไม่ออก “เขาทุบตีเธอแถมยังไม่ยอมให้เธอไปโรงพยาบาลอีกเหรอ!”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน