กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 108 ผิดไปแล้ว

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 108 ผิดไปแล้ว

บทที่ 108 ผิดไปแล้ว

เซี่ยชิงหยวนเดินออกมานอกบ้านทันที ขณะที่กำลังคิดว่าตัวเองจะซื้ออาหารจากที่ไหนมาให้เซี่ยจิ่งเฉินดี

เสิ่นอี้โจวจะไม่กลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้านอยู่แล้ว เธอจึงได้กินผักที่อาเซียงนำมาส่งให้

ทว่าเมื่อเซี่ยจิ่งเฉินอยู่ที่นี่ด้วยในตอนนี้ เธอจึงต้องออกไปหาซื้อเนื้อเสียหน่อย

เมื่อเห็นเขาผอมขนาดนี้ เจ้าตัวคงจะไม่ได้กินอาหารดี ๆ มานานแล้ว

ตอนที่คิดว่าพี่รองจะซื้อตำแหน่งงานให้กับจางอวี้เอ๋อด้วยเงินหนึ่งร้อยห้าสิบหยวนที่เขาเก็บออมไว้ หญิงสาวอยากจะด่าอีกฝ่ายว่าโง่เต็มที

แต่ว่าตอนนี้หญิงสาวไม่มีเวลามาคิดมาก จากนั้นจึงขี่รถสามล้อออกจากบ้านไป

ตอนนี้ใกล้จะสิบเอ็ดโมงแล้ว แต่ยังพอจะซื้อเนื้อได้อยู่บ้าง

เมื่อหญิงสาวไปถึงตลาด ร้านค้าบางส่วนก็ปิดไปแล้ว

หลังจากคำนวณดูแล้ว เธอก็คิดจะซื้อไก่กลับไปทำซุป

และเผอิญมีร้านของเนื้อสัตว์ปีกเปิดอยู่ มีหญิงชราสองสามคนกำลังซื้อเนื้อไก่กับเนื้อเป็ดเช่นกัน

ทว่าไก่ส่วนใหญ่ที่ขายเป็นแม่ไก่แก่

เนื่องจากพวกเขาไม่เต็มใจที่จะขายไก่ที่ยังออกไข่ได้อยู่

เมื่อคำนึงถึงเวลา เซี่ยชิงหยวนจึงไม่ได้คิดที่จะซื้อไก่ที่ดูแก่เกินไป

เธอเลือกหนึ่งในพวกมัน และมีอยู่ตัวหนึ่งที่ดูไม่แก่มาก ทั้งยังมีขนเป็นมันเงา และดูมีสุขภาพดี

เธอจับมันขึ้นมา พินิจที่กรงเล็บของไก่ซึ่งทั้งเรียวและยาว

เธอถามคนขายว่า “คุณขายไก่ตัวนี้ยังไงคะ”

เขายกนิ้วหนึ่งนิ้วให้หญิงสาว “หนึ่งหยวนหนึ่งเหมาต่อจิน”

ราวกับเขารู้ว่าตัวเองขายราคาแพงว่าคนอื่น จึงกล่าวเสริมว่า “ไก่ของฉันเลี้ยงและออกไข่บนภูเขา ไก่แก่พวกนี้พอออกไข่แล้วก็ไม่มีโภชนาการทางอาหารเท่าไหร่”

เซี่ยชิงหยวนก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน

ไก่ของชายชราคนนี้ดูจะได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี และราคาของมันก็แพงกว่าไก่ทั่วไปเพียงหนึ่งเหมาเท่านั้น

หญิงสาวไม่ลังเลอีกต่อไป “งั้นฉันเอาตัวนี้ค่ะ”

ชายชราคิดว่าเซี่ยชิงหยวนจะต้องการต่อรองราคา เขากลับไม่คาดคิดว่าเธอจะซื้อเลยแบบนี้

เขายิ้มด้วยใบหน้าที่เหี่ยวย่น “ได้ ๆ ฉันจะชั่งให้เดี๋ยวนี้เลย!”

ระหว่างที่พูดนั้น ชายชราก็จับแม่ไก่มัดเท้าด้วยเชือกฟาง แล้วเกี่ยวเชือกฟางกับตะขอของตราชั่ง ก่อนจะปล่อยให้ไก่ห้อยหัวเพื่อชั่งน้ำหนัก

แน่นอนว่าแม่ไก่ไม่ยอมโดนจับแบบนี้แน่นอน

มันกระพือปีกและสร้างลมแรงรอบตัวของมัน

ฝุ่นและเส้นขนต่าง ๆ บนพื้นทำให้เซี่ยชิงหยวนต้องถอยหลังสองสามก้าว

ชายชรายิ้มอย่างกระอักกระอ่วนใจ “ไก่ตัวนี้ดีและมีกำลังมากทีเดียว”

ในที่สุด เมื่อชั่งเสร็จก็เห็นว่าไก่ตัวนี้หนักสองจินเก้าเหลี่ยง*[1] ซึ่งต้องซื้อในราคาสามหยวนสองเหมา

เช้านี้เธอขึ้นไปบนภูเขาและได้เก็บเห็ดมาด้วย เมื่อนำมาตุ๋นกับไก่ก็จะยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งยังอร่อยมาก

เธอเดินไปหั่นตับหมูและซื้อมาอีกชิ้นก่อนจะรีบกลับบ้าน

หญิงสาวยังไม่ทันได้วางไก่ ก็เดินไปยังห้องที่เซี่ยจิ่งเฉินนอนอยู่แล้ว

เธอแง้มเปิดประตูก่อนจะเห็นว่าเขานอนหลับสนิทไปบนเตียง

เขานอนขดตัวอยู่ที่ริมเตียง

ริมฝีปากของเขาเผยอเล็กน้อยพร้อมกับกรนเบา ๆ

เขาดูจะเหนื่อยมากทีเดียว

เซี่ยชิงหยวนยิ่งเศร้าใจ

หญิงสาวเดินไปหยิบผ้าห่มผืนบางด้านข้างคลุมตัวของเขาเอาไว้ แล้วเดินออกจากห้องไป

เซี่ยชิงหยวนเดินมาที่ห้องครัว ต้มน้ำ ฆ่าไก่และถอนขน ซึ่งทั้งหมดนั้นเธอทำเสร็จเรียบร้อยมาก

เมื่อเซี่ยจิ่งเฉินตื่นขึ้น เขาก็ได้กลิ่นฉุนแรงของไก่

เขาจึงเห็นว่ามีผ้าห่มผืนบางอยู่บนตัว และรู้ได้ในทันทีว่าเซี่ยชิงหยวนจะต้องเข้ามาและห่มผ้าให้เขาแน่

เขาดูเวลา ตอนนี้ก็บ่ายสองโมงกว่าแล้ว

เขารีบลุกขึ้น จัดที่นอนและเดินออกไปหาน้องสาว

ทันทีที่ประตูเปิดออก เซี่ยชิงหยวนก็เดินเข้ามาพร้อมซุปไก่ชามใหญ่พอดี

เมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้ว เซี่ยชิงหยวนส่งยิ้มให้และพูดว่า “ฉันคิดว่าพี่คงจะตื่นเร็ว ๆ นี้เหมือนกัน พี่ไปล้างมือแล้วรีบมากินเร็ว”

ยังมีอาหารจานผัดอีกสองจานวางอยู่บนโต๊ะ

จานหนึ่งคือผัดมันฝรั่งเผ็ดเปรี้ยว อีกจานหนึ่งคือตับหมูผัด และสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนถืออยู่คือซุปไก่ตุ๋นกับเห็ด

แม้ว่าเซี่ยจิ่งเฉินจะกลับไปที่หมู่บ้านซิ่งฮวา เขาก็อาจจะไม่ได้กินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้อีก

ชายหนุ่มรู้สึกแสบตรงปลายจมูก

เซี่ยชิงหยวนเอ่ยทักเขาอีกรอบ “เร็วเข้า พี่ไม่ได้บอกเหรอว่ายังต้องไปส่งสินค้าอีก?”

เซี่ยจิ่งเฉินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “โอ้ ใช่”

ขณะที่เซี่ยจิ่งเฉินกินอาหาร เซี่ยชิงหยวนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จะคอยตักอาหารให้เขาเรื่อย ๆ จนชามของเขาพูนเหมือนเนินเขา

หญิงสาวกล่าวว่า “ถ้าพี่ผ่านมาแถวนี้เมื่อไหร่ พี่แวะเข้ามาหาฉันได้ตลอดนะ การทำงานอยู่คนนอกคนเดียว มันดูแลตัวเองได้ไม่ดีนักหรอก”

จางอวี้เจียวเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากและครอบครัวของเธอก็เช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะหวังผิงดูแลทุกอย่างในบ้าน จางอวี้เจียวคนนั้นคงเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากของเซี่ยจิ่งเฉินไปให้ครอบครัวของตัวเองหมด โดยไม่สนใจลูกสาวของตัวเองด้วยซ้ำ

ทว่าเรื่องระหว่างสามีภรรยา คนเป็นน้องสาวอย่างเธอไม่ควรพูดมาก

ตราบใดที่จางอวี้เจียวไม่ปฏิบัติต่อพ่อแม่ของเธออย่างเลวร้ายจนเกินไป เซี่ยชิงหยวนก็จะทำเป็นมองไม่เห็น

เซี่ยจิ่งเฉินยัดอาหารเข้าปากตัวเอง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ จู่ ๆ น้ำตาก็ร่วงเผาะ เขาจึงรีบก้มหัวอย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องการให้เซี่ยชิงหยวนเห็นท่าทางเป็นทุกข์ของตน

เซี่ยชิงหยวนแสร้งทำเป็นไม่เห็นเช่นกัน เธอหยิบชามขึ้นมาแล้วก้มหน้าลงกินข้าวต่อไป เธอคิดว่านี่อาจเป็นครั้งแรกที่พี่น้องทานอาหารร่วมกันอย่างกลมเกลียวเช่นนี้

เซี่ยจิ่งเฉินจากไปหลังทานมื้อกลางวันเสร็จ

เซี่ยชิงหยวนเดินไปส่งเขาที่หน้าประตูใหญ่ จากนั้นก็ยัดไข่ต้มฟองกลม ๆ ให้เขา “กินไข่พวกนี้ตอนพี่หิวระหว่างทางนะ แล้วก็อย่าลืมหาที่จอดพักผ่อนตอนที่ง่วงล่ะ”

เซี่ยจิ่งเฉินพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เธอควรกลับไปข้างในได้แล้ว”

แม้ว่าอยากจะถามเรื่องของจางอวี้เอ๋ออีกครั้ง แต่เขาก็ไม่มีความกล้าที่จะพูดอีก น้องสาวใจดีกับเขามาก มันจะดูไร้มนุษยธรรมเกินไปถ้าเขาพูดถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาอีก

เซี่ยชิงหยวนมองตามแผ่นหลังที่กำลังจากไปของเซี่ยจิ่งเฉินก่อนจะถอนหายใจออกมา

เธอหวังว่าพี่รองจะเข้าใจได้ในไม่ช้า

และเรื่องพ่อของเธอ…เอาไว้กลับบ้านไปคราวนี้ค่อยว่ากันอีกที

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็ไม่ได้พักและเริ่มเตรียมสลัดเย็นที่ยังทำไม่เสร็จต่อ

เธอไม่มีเวลาเตรียมหน่อไม้ หญิงสาวจึงเตรียมอาหารจานอื่นในตอนเช้าและออกจากบ้านไป

อาหารในวันนี้มีเพียงหนึ่งร้อยจิน ซึ่งไม่มากเท่าเมื่อวาน เซี่ยชิงหยวนจึงปิดร้านก่อนเวลาและกลับบ้านทันที

หลังจากทำงานมาทั้งวัน เอวของเธอเมื่อยล้าเกินกว่าจะยืดให้ตรงได้

หลังจากนี้ เซี่ยชิงหยวนก็รู้สึกว่าเธอต้องหาคนมาช่วย

เมื่อเธอกลับบ้าน เสิ่นอี้โจวก็กลับมาแล้ว

หญิงสาวประหลาดใจเล็กน้อย “ทำไมช่วงสองวันที่ผ่านมา คุณกลับมาเร็วจัง”

และมันก็เร็วขึ้นทุกวัน

เซี่ยชิงหยวนพูดอีกครั้ง “เอ๊ะ หรือว่าคุณขอเลิกงานก่อนอีกแล้ว?”

เสิ่นอี้โจวเองก็ประหลาดใจเช่นกัน “พี่รองไปแล้วเหรอ?”

หลังจากนั้น หญิงสาวก็เข้าใจทันทีว่า อีกฝ่ายคงกลับมาให้ทันพบกับเซี่ยจิ่งเฉิน

จากนั้นเธอก็เอ่ยว่า “เขาพักผ่อนที่บ้านครู่หนึ่งและกลับไปหลังกินข้าวเสร็จ”

เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “งั้นก็ไม่เป็นไร ไว้เขามาคราวหน้า คุณบอกให้เขาพักที่บ้านก่อนก็ได้ ตอนที่ได้ข่าว ผมกำลังประชุมพอดีเลยปลีกตัวออกมาไม่ได้”

ชายหนุ่มเห็นว่าเซี่ยชิงหยวนดูเซื่องซึม

จึงได้ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น พี่รองพูดอะไรกับคุณหรือเปล่า”

เขารีบกลับมาทันทีที่ทำงานเสร็จ ถึงกับขอเลิกงานก่อนเวลาด้วยซ้ำ เพราะเขากังวลว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นระหว่างพี่ชายน้องสาวคู่นี้

แต่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะยังสายเกินไปอยู่ดี

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเพียงว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในใจของเธอ และก็ไม่รู้ว่าจะพูดมันออกมาอย่างไรอยู่ครู่หนึ่ง

เธอรู้สึกราวกับตัวเองทำอะไรผิดไป แต่ก็เหมือนกับว่าเธอไม่ได้ทำผิด

เมื่อเห็นว่าเสิ่นอี้โจวดูเหนื่อยล้าเช่นกัน เธอก็ส่ายหัว “แค่เรื่องทั่วไปน่ะ”

จากนั้นเธอก็จูงเขาไปที่โต๊ะอาหาร “วันนี้ฉันทำซุปไก่ตุ๋นกับเห็ด มันอร่อยมากเลยล่ะ”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มฝืน แววตาของชายหนุ่มพลันมืดมน

เขาคิดกับตัวเองว่า ไว้ค่อยถามเธอดี ๆ ในภายหลัง

ดังนั้น เมื่อเสิ่นอี้โจวเอนกายอ่านหนังสืออยู่บนเตียงในเย็นวันนี้ หญิงสาวจึงตกใจ

ขณะเป่าผมหมาด ๆ ของตัวเอง เธอก็เดินเข้ามาหา “คุณไม่ต้องทำงานแล้วเหรอคะ”

เพราะปกติเขาจะนำกองเอกสารกลับมาทำทุกวัน

ชายหนุ่มวางหนังสือในมือลง ก่อนจะเอื้อมมือไปหาเธอ “มานี่สิ”

[1] เหลี่ยง เป็นหน่วยตวงวัดของจีน มีค่าเท่ากับ 50 กรัม

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด! หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท