กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 183 สวยขนาดนี้จะเหนื่อยได้ไง

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 183 สวยขนาดนี้จะเหนื่อยได้ไง?

บทที่ 183 สวยขนาดนี้จะเหนื่อยได้ไง?

เสิ่นอี้โจวพูดเสียงคลอ “ภรรยาครับ เล่นแบบนี้ไม่เหมือนกับเป็นคุณเลยนะ ขืนยังทำแบบนี้ต่อไป เราคงจะต้องรอจนถึงรุ่งสาง เพื่อคุยเรื่องจริงจังกันแล้วแหละ”

ขณะที่พูด เขาพลางจับมือเธอแล้วพลิกตัวกดร่างหญิงสาวไว้ใต้เขาอีกครั้ง

ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนเบิกกว้าง เธอจ้องมองผู้เป็นสามีด้วยสายตาว่างเปล่า “คุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่มือของเธอก็ยังคงเล่นจับเส้นขนเล็กๆ กำมือหนึ่งอยู่

เธอก็รู้สึกว่าตอนนี้สิ่งที่ทำอยู่ไม่ได้มีผลต่อเสิ่นอี้โจวเลย

เสิ่นอี้โจวมองเธอ “คุณสวยขนาดนี้ ผมจะเหนื่อยได้ไง?”

เขาหยุดพูดไปชั่วครู่ “อีกอย่างไม่ใช่ว่าผมพักผ่อนมาหลายวันแล้วหรอกเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนถึงกลับพูดอะไรไม่ออก “…”

เธอดันอกแกร่งของเขา พลางพูดว่า “คุณบอกว่าจะคุยธุระ ไม่ใช่เหรอ หรือคุณไม่คุยต่อแล้ว?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นอี้โจวที่นอนคร่อมร่างของเธออยู่ก็ซบลงที่คอของเธอ ท่าทีดูหงุดหงิดเล็กน้อย “ได้ เรามาคุยธุระกันต่อเถอะ”

เขาจับให้เธอมาอยู่ในท่าเดิม แล้วปล่อยให้หญิงสาวซบอยู่บนร่างกายของเขา “บอกผมสิ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าตอนที่คุณไปกว่างโจว?”

เซี่ยชิงหยวนผงะเล็กน้อย “คุณ…คุณรู้ได้ยังไง?”

เสิ่นอี้โจวแตะที่ปลายจมูกของเธอ “คุณคิดว่าคุณจะซ่อนท่าทีเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณได้เหรอ?”

เรื่องนี้ เซี่ยชิงหยวนรู้สึกละอายใจจริงๆ

ในทางกลับกัน เธอไม่ได้รู้เลยว่าในใจของเสิ่นอี้โจวรู้สึกอย่างไรบ้าง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอหัวทึบเกินไปหรือเขาปกปิดดีเกินไปกันแน่ จนเขาแก้ปัญหานั้นจนจบแล้ว เธออาจยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกว่าเรื่องในเมืองกว่างโจวไม่ใช่เรื่องใหญ่ และเธอก็กังวลว่าหลังจากบอกเสิ่นอี้โจวแล้ว เขาอาจห้ามเธอไม่ให้ไปกว่างโจวอีกในอนาคตก็ได้

เธอพิจารณาคำพูดของตัวเองแล้วพูดว่า “ใช่ ตอนที่เราอยู่ที่เมืองกว่างโจว ได้บังเอิญไปเจอกับพวกอันธพาลเข้า ฉันกับอาเซียงเลยต้องไปที่สถานีตำรวจด้วยกันเพื่อให้การน่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเสิ่นอี้โจวเหมือนถูกบีบรัด

เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนและพูดว่า “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเจอสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้มา ชิงหยวน ผมขอโทษนะ”

แม้ว่าเซี่ยชิงหยวนจะเล่าเพียงคร่าว ๆ ไม่กี่คำ ก็พอจะรู้ว่าสถานการณ์นั้นอันตรายแค่ไหน

เขาเอาแต่โทษตัวเองที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น และไม่ได้ปกป้องเธอ

เซี่ยชิงหยวนลูบหลังเขาเบา ๆ “ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ฉันก็สบายดีแล้วไง จริงไหม?”

เธอหยุดเพียงครู่และพูดว่า “โชคดีที่เจ้าถิ่นในตลาดค้าส่งที่ฉันพบครั้งนี้ไม่ใช่คนเลว อาเซียงกับฉันจึงไม่ได้เป็นอะไรน่ะ”

เธอเขย่าแขนของเขา “แต่ฉันสัญญานะว่าจะใส่ใจความปลอดภัยมากกว่านี้ ตกลงไหม?”

เธอกะพริบตาอ้อน เพราะกลัวว่าเสิ่นอี้โจวจะไม่ปล่อยให้เธอไปกว่างโจวอีก

การแสดงออกของเสิ่นอี้โจวค่อนข้างคลุมเครือ ราวกับว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ต่อมาเขาก็พูดว่า “ดูสิ คุณกำลังกลัวผมอยู่ ผมไม่ได้เป็นคนไร้เหตุผลแบบนั้นเสียหน่อย?”

เขาหยิกแก้มของเธอ “คุณวางใจได้”

เพียงแต่มีบางอย่างที่เขาต้องจัดการ

ถึงกระนั้นเรื่องนี้ก็จบลงแล้ว

เซี่ยชิงหยวนพิงอยู่ในอ้อมแขนของเสิ่นอี้โจว และในไม่ช้าก็ผล็อยหลับไป

ในความมืดยามค่ำคืน เสิ่นอี้โจวลืมตาขึ้น

เขามองดูพระจันทร์สว่างไสวที่ลอยเด่นอยู่นอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หลับตาลงอีกครั้ง พลางกอดเซี่ยชิงหยวนไว้แน่น และหลับไป

ในวันที่สอง เซี่ยชิงหยวนเลือกเสื้อผ้าประมาณห้าสิบชิ้น เพื่อเตรียมเอาไปขายที่ร้านตรอกเก่า

นอกจากนี้เธอยังสวมเสื้อผ้าใหม่ที่เธอเพิ่งซักเมื่อวานด้วย

จากสินค้าที่เธอหยิบมา เธอเลือกชุดเดรสสีขาวพร้อมเข็มขัดสั้นผูกรอบเอว

ปกเสื้อถูกพับ ช่วงเอวถูกรัดด้วยเข็มขัดจนเข้ารูป และแขนเสื้อก็เป็นแบบพองเล็กน้อย ซึ่งเป็นสไตล์ฮ่องกงย้อนยุค เมื่อเซี่ยชิงหยวนยืนอยู่หน้ากระจกเต็มตัวพร้อมมองเข้าไปในกระจก เสิ่นอี้โจวที่เดินมาจากห้องนั่งเล่นก็เดินเข้ามาหา

เขาก้าวมาข้างหน้าเพื่อโอบเอวเรียวของเซี่ยชิงหยวน พลางประคองศีรษะของเธอและมอบจุมพิตอีกครั้ง

เขากล่าวว่า “ภรรยาของผมไม่ว่าจะใส่อะไรก็สวยไปหมด”

เซี่ยชิงหยวนยิ้มอย่างดีใจ “นั่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”

เธอลองใส่เสื้อเชิ้ตสั้นและกางเกงยีนส์อีกชุดหนึ่ง ซึ่งจะเอาให้อาเซียงในภายหลัง

ในเมื่อจะขายเสื้อผ้า เธอจะต้องลองสวมใส่เสื้อผ้าที่เธอจะขายบนตัวของเธอเสียก่อน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดโดยธรรมชาติ

ในกองเสื้อผ้าที่จะเอาไปขายวันนี้มีสี่สิบชิ้นสำหรับผู้หญิง และเพียงสิบชิ้นสำหรับผู้ชาย

เพราะในช่วงนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะซื้อเสื้อผ้าสำหรับทั้งครอบครัว ดังนั้นเสื้อผ้าที่เธอขายในครั้งนี้จึงเป็นของผู้หญิงเป็นหลัก

โดยเธอจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าด้วยเสื้อผ้าผู้หญิงที่มีสีสัน และพวกเขาจะสังเกตเห็นเสื้อผ้าผู้ชายที่แขวนอยู่ด้านข้างได้อย่างเป็นธรรมชาติ

แน่นอนว่าลูกค้าจะซื้อทั้งชุดผู้หญิงและชุดผู้ชายอยู่แล้ว

เมื่อไปถึง ‘ตรอกเก่า’ เธอก็ซื้อไม้แขวนเสื้อแบบยืดหดได้จากร้านขายของชำที่อยู่ไม่ไกล

เธอจัดเสื้อผ้าและแขวนทีละชิ้น เจียงเพ่ยหลานเพ่งมองไปที่ชั้นวางเสื้อผ้าทั้งหมด พร้อมอุทานด้วยความชื่นชม “ชิงหยวน เสื้อผ้าของเธอสวยมาก! สวยกว่าในทีวีเสียด้วยซ้ำ”

ยิ่งกว่านั้นเนื้อผ้าตอนสวมก็รู้สึกสบายมาก ทั้งยังดูล้ำสมัยด้วย

เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “ใช่แล้ว นี่คือเสื้อรุ่นล่าสุดของฮ่องกงที่ฉันเลือกมาเลยน่ะ”

จากนั้นเธอหยิบถุงใบเล็กจากด้านล่าง แล้วยื่นให้เจียงเพ่ยหลาน “นี่สำหรับลูกสาวของเธอนะ”

มันเป็นเสื้อลายดอกไม้สีชมพูและกระโปรงทรงฟู ๆ สีขาวและชมพู ชุดแบบนี้มีแต่นางฟ้าตัวน้อยในทีวีเท่านั้นที่สวมใส่ เจียงเพ่ยหลานจะกล้ายอมรับของแบบนี้ได้ยังไง

เจียงเพ่ยหลานรีบผลักเสื้อผ้าคืนและปฏิเสธทันพลัน

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “ฉันยังซื้อชุดสำหรับอี้หลินมาสองสามชุดด้วย ของทั้งหมดซื้อในตลาดขายส่งและพวกมันไม่ได้แพงมากเลย ฉันไม่อยู่ที่นี่หลายวัน แม่สามีของฉันบอกว่าเธอทำงานหนักมาก ดังนั้นการให้สิ่งนี้ถือว่านี่เป็นรางวัลสำหรับเธอ อย่าเกรงใจอะไรมากเลย”

เสิ่นอี้หลินซึ่งกำลังเล่นอยู่ข้างๆ ได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งมาเป็นพิเศษ และบิดก้นไปทางเจียงเพ่ยหลานเพื่อให้เธอดูเสื้อผ้าใหม่ของเขา

เจียงเพ่ยหลานเช็ดน้ำตาของเธออย่างเงียบ ๆ สะอื้นไห้และพูดว่า “ชิงหยวน ขอบคุณนะ”

เงินที่ได้มาไม่ได้มาจากสายลม

แม้แต่กับเซี่ยชิงหยวนเอง เงินทุกบาททุกสตางค์ของเธอก็มาจากการขายสลัดเย็น

เจียงเพ่ยหลานรู้ว่าคนอื่นไม่จำเป็นต้องช่วยเธอเลย ดังนั้นเธอจึงขอบคุณเซี่ยชิงหยวนมาก

สำหรับเธอแล้ว เซี่ยชิงหยวนเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณ

เซี่ยชิงหยวนทำให้เธอกล้าที่จะหย่า และยังทำให้เธอสามารถลงหลักปักฐานได้หลังจากการหย่าร้าง

เซี่ยชิงหยวนสนับสนุน “พยายามทำหน้าที่ของเธอเองให้ดี แล้วอนาคตจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นแน่นอน”

เจียงเพ่ยหลานพยักหน้าและตอบว่า “อื้ม!”

หลังจากที่เซี่ยชิงหยวนจัดเสื้อผ้าที่จะขายแล้ว เธอก็ไม่รีบร้อนและไปที่สวนหลังบ้านเพื่อทำงาน

ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ลูกค้ายังไม่เยอะมาก เดี๋ยวค่อยออกมาขายก็ได้

ซึ่งบังเอิญกับที่อาเซียงและอาจ้วงกำลังแบกผักเข้ามาพอดี

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “อาเซียงพอเรียนจบวันนี้แล้ว เธอมาเรียนรู้เรื่องขายเสื้อผ้ากับพี่ด้วยนะ”

อาเซียงตอบอย่างตรงไปตรงมา “ได้ค่ะ!”

ถ้าเธอไม่เคยทำมาก่อนเธออาจจะยังไม่ค่อยแน่ใจ

แต่หลังจากไปกว่างโจว พอกลับมาความคิดของเธอแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

เสื้อผ้าทุกชิ้นที่นี่ถูกเลือกโดยเธอและเซี่ยชิงหยวน

อีกทั้งเซี่ยชิงหยวนยังสอนเธอเกี่ยวกับวัสดุ สไตล์ และความเหมาะสมของเสื้อผ้าแต่ละชิ้นด้วย

นอกจากนี้เธอยังเป็นแม่ค้าผักที่ดีและเก่ง ดังนั้นการขายของแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่อใกล้จะสิบเอ็ดโมง เซี่ยชิงหยวนและอาเซียงก็เริ่มขายเสื้อผ้ากัน

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท