กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 209 สาวสวยคนนี้มาจากไหน

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 209 สาวสวยคนนี้มาจากไหน

บทที่ 209 สาวสวยคนนี้มาจากไหน

ระหว่างทาง นอกเหนือจากที่เสิ่นอี้โจวถามฉู่ซิงอวี่สองสามคำถามแล้ว ทุกคนในรถก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

พวกเขาออกเดินทางก่อนเวลาเจ็ดโมงเช้า เมื่อพวกเขาไปถึงเมืองหลวงของมณฑลก็เป็นเวลาเที่ยงไปแล้ว

สถานที่พักของพวกเขาเป็นอาคารของราชการส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีคนอื่น ๆ ที่มาประชุมด้วยเช่นกัน

ห้องของเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวอยู่ชั้นสอง มีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง และห้องน้ำหนึ่งห้อง ไม่ใหญ่เกินไปแต่ก็ไม่เล็กหากอยู่กันสองคนและการตกแต่งก็ประณีต

ฉู่ซิงอวี่และเสี่ยวหลิวจัดการตัวเอง คนหนึ่งอาศัยอยู่ในหอพักรับรองที่อาคารส่วนหน้าและอีกคนกลับบ้าน

ฉู่ซิงอวี่เรียกหาพวกเขาเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันก่อนจะบอกลาเสิ่นอี้โจว

“เลขาธิการเสิ่น ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ ผมจะมารับคุณอีกครั้งก่อนการประชุมในตอนบ่ายนะครับ”

เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ไปเถอะ”

เซี่ยชิงหยวนกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ เมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขาแล้วเสิ่นอี้โจวเดินกลับเข้ามา เธอก็ถามว่า “ครอบครัวของฉู่ซิงอวี่นี้อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของมณฑลเหรอ?”

ดวงตาของเสิ่นอี้โจวแข็งค้างไปชั่วขณะ จากนั้นจึงพูดว่า “ใช่ พ่อแม่ของเขาก็ทำงานให้รัฐด้วยน่ะ”

“ต่อมาผมก็ได้รู้เรื่องพ่อของฉู่ซิงอวี่จากหยวนหงหลี่ว่าเป็นเพียงข้าราชการระดับหัวหน้าแผนกเล็ก ๆ ธรรมดา แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวตนที่สามารถกระทืบเท้าแล้วเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นชายชราที่มีความสำคัญ”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าและตอบรับเพียง ‘อ้อ’ แล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

เสิ่นอี้โจวมองไปที่การแสดงออกบนใบหน้าของเธอ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

เขาหยิบกล่องอาหารกลางวันมาสองกล่องแล้วพูดว่า “เที่ยงนี้กินธรรมดา ๆ ไปก่อนนะ แล้วตอนเย็นผมจะพาคุณไปกินอะไรอร่อย ๆ”

เซี่ยชิงหยวนหยิบมากล่องหนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันไม่ใช่คนเลือกกินอยู่แล้ว”

เธอเปิดกล่องอาหารกลางวัน ในนั้นมีเนื้อสามอย่างและผักสองอย่างอยู่ในนั้น ซึ่งถือว่าดีมาก

เธอเปิดกล่องอาหารกลางวันให้เสิ่นอี้โจวอีกครั้ง คีบผักและข้าวครึ่งหนึ่งในกล่องอาหารกลางวันของเธอใส่ให้เขา “ฉันกินไม่หมดหรอก”

เมื่อมองไปที่คิ้วและดวงตาของเธอที่สงบนิ่ง ไร้ซึ่งร่องรอยของความผิดปกติใด ๆ

เหมือนกับที่ผ่านมา เธอตักข้าวให้เขาเสมอ

จู่ ๆ หัวใจของเสิ่นอี้โจวก็อบอุ่นขึ้น

เขาเดินไปข้างหลังเธอและกอดหญิงสาวไว้ “ชิงหยวน ขอบคุณนะ”

เซี่ยชิงหยวนรู้เลยว่าเขาหมายถึงอะไร

เธอหันกลับมาในอ้อมแขนของเขา เผชิญหน้ากับเขา พลางยื่นมือไปสะกิดหน้าผากของผู้เป็นสามี และพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณ” และผลักเขาออก “รีบไปกินข้าวเลย คุณยังมีอะไรต้องทำตอนบ่ายไม่ใช่เหรอไง?”

ต่อมา ก่อนเวลาบ่ายสองโมง ฉู่ซิงอวี่ก็เข้ามา

พวกเขาจะต้องไปประชุมที่ศาลากลางมณฑล

เสิ่นอี้โจวหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นมาและพูดกับเซี่ยชิงหยวน “ผมจะกลับมาตอนห้าหรือหกโมงเย็นนะ ถ้าคุณเบื่อ คุณสามารถไปซื้อของใกล้ ๆ ได้ เลี้ยวซ้ายและเดินจากที่นี่ไปไม่กี่ร้อยเมตรจะมีถนนคนเดิน ซึ่งมีของให้ดูมากมายเลย”

เซี่ยชิงหยวนคิดเพียงว่า เสิ่นอี้โจวได้ถามใครบางคนไว้ล่วงหน้าแล้ว และไม่ได้คิดอะไรมาก

เธอยิ้มและพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันเคยไปที่เมืองกว่างโจวด้วยตัวเองมาแล้วนะ ฉันดูแลตัวเองได้ คุณไปทำงานเถอะไม่ต้องห่วง”

ขณะที่เซี่ยชิงหยวนกำลังคุยกับเสิ่นอี้โจว ฉู่ซิงอวี่ก็ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร

แม้ว่าเขาจะไม่อยากฟัง แต่คำพูดของทั้งสองคนก็ยังติดอยู่ในหูของเขา

นี่มันคล้ายกับพ่อและแม่ของเขา แม้เป็นเพียงบทสนทนาในครอบครัวระหว่างสามีและภรรยา แต่ฟังดูอบอุ่นมาก

เซี่ยชิงหยวนยังคงเป็นเซี่ยชิงหยวน ความประทับใจในอดีตของเขา และดวงตาของเสิ่นอี้โจวก็เป็นประกายแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ในขณะนี้เขาเชื่อจริง ๆ แล้วว่าเสิ่นอี้โจวรักภรรยาจริง ๆ ตามที่ลือกัน

เมื่อเขากำลังคิดไปเรื่อย เสิ่นอี้โจวก็เข้ามาอยู่ข้าง ๆ เขาแล้ว “ไปกันเถอะ”

พอพูดจบเสิ่นอี้โจวก็เดินลงไปข้างล่าง สีหน้าของเสิ่นอี้โจวที่เพิ่งดูสดใสเมื่อครู่ก็กลับมาเป็นแบบแปลกแยกตามปกติ

หลังจากที่เสิ่นอี้โจวออกไป เซี่ยชิงหยวนก็ออกไปเช่นกัน

สำหรับสถานที่นี้ที่เธออาจต้องมาอยู่ในอนาคตอีกครึ่งปี มันเป็นเรื่องดีที่จะออกไปสำรวจก่อน เซี่ยชิงหยวนเดินออกจากประตูหอพักไปสู่ถนนกว้าง

ต้องบอกว่าเมืองหลวงของมณฑลนั้นสมคำร่ำลือ มีรถยนต์สี่ล้อวิ่งบนถนนมากกว่าในเมืองเตียนเฉิงมากนัก

นอกจากนี้การแต่งกายของผู้คนเกือบจะเข้าใกล้มาตรฐานของเมืองใหญ่ ๆ มาก

แต่ในใจของเธอ หญิงสาวชอบความรู้สึกของเมืองเตียนเฉิงที่มีชนกลุ่มน้อยและชาวฮั่นอาศัยอยู่ร่วมกันมากกว่า ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงขนบธรรมเนียมที่แตกต่างกันมากขึ้น

เธอเดินไปสองสามร้อยเมตรตามทิศทางที่เสิ่นอี้โจวบอก และเห็นถนนคนเดินที่เสิ่นอี้โจวกล่าวถึง

ทว่าหลังจากเดินไปอีกไม่นานนัก เธอก็รู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อนที่พัดมากระทบ เธอคิดว่าที่นี่คงไม่มีฝนตกมาพักใหญ่แล้ว

เธอมักจะกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เลวร้าย

ใช้เวลาสักครู่เธอก็ตระหนักว่าเสิ่นอี้โจวไม่ได้อยู่ในสถาบันธรณีวิทยาอีกต่อไป

ทว่าตอนนี้เขาเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลากลางที่ดูแลเกี่ยวกับประชาชน เขายังคงควรให้ความสนใจกับประเด็นเหล่านี้

เซี่ยชิงหยวนถอนความคิดของเธอ และมองไปที่ร้านค้าทั้งสองฝั่งของถนนคนเดินขณะเดินเที่ยว

ถนนคนเดินของที่นี่มีรูปแบบเหมือนถนนสายการค้าในยุคหลังจากนี้พอสมควร มีทั้งของกิน ของใช้ และของเล่นเต็มไปหมด

พวกที่ขายเสื้อผ้าและผ้าจะเปิดติดกัน ส่วนร้านอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน

เธอเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าสตรีชื่อเหม่ยเซียง

ร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปแห่งนี้ถือเป็นร้านที่มีการตกแต่งและเสื้อผ้าที่ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา และเสื้อผ้าก็ค่อนข้างเป็นสไตล์ใหม่

เหตุผลที่เธอพูดว่า ‘ค่อนข้าง’ คือตอนที่เธอไปกว่างโจวครั้งก่อน คนขายที่นั่นเลิกขายเสื้อผ้าเหล่านี้ไปสักพักแล้ว

แต่สำหรับเสื้อผ้าของร้านนี้นับได้ว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของกระแสนิยมในมณฑลยูนนาน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยชิงหยวนก็มั่นใจในเสื้อผ้าของเธอมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการตกแต่ง

การตกแต่งของร้านนี้นับว่าดีมาก หากเทียบกับร้านขายเสื้อผ้าอื่น ๆ

ผนังร้านเป็นสีขาวและแขวนเชือกดอกไม้ไว้ที่ราวแขวนเสื้อผ้าด้านใน

แม้ว่าจะมีของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ้าง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ร้านนี้ดูแตกต่างแล้ว

เซี่ยชิงหยวนมีแผนสำหรับร้านในอนาคตของเธออยู่แล้ว

เนื่องจากร้านของเธอกำลังจะเปิด มันจะกลายเป็นร้านที่โดดเด่นและน่าจดจำที่สุดบนถนนสายนี้

อย่างไรก็ตามค่าเช่าคงไม่ถูกอย่างแน่นอน

เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะแตะกระเป๋าเงินของเธอ

เนื่องจากเธอมาที่เมืองหลวงของมณฑล และเธอคิดว่าตัวเองน่าจะได้พบกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของเสิ่นอี้โจวและคนอื่น ๆ เธอจึงนำและใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุดที่เธอซื้อจากเมืองกว่างโจวมาด้วย

เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้ดูดีมาก แถมเธอยังสวยและมีหุ่นที่ดีอีก ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนทันทีที่เข้ามาในร้าน

เดิมทีลูกค้าในร้านเสื้อผ้าแห่งนี้คิดว่าเสื้อผ้าในร้านสวยงามมาก แต่เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนสวมใส่และเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าในร้าน พวกเขาก็พลันรู้สึกว่าของในร้านเริ่มไม่ค่อยน่าสนใจ

เสื้อผ้าในร้านนี้ราคาไม่ถูก และคนส่วนใหญ่ที่สามารถซื้อเสื้อผ้าในร้านนี้ได้นั้นมาจากครอบครัวที่มีรายได้สูง ดังนั้นพวกเขาจึงรู้เรื่องเสื้อผ้าค่อนข้างมาก

ผู้หญิงที่โดดเด่นมากคนหนึ่งก้าวมาข้างหน้าและเอ่ยถาม “สาวน้อย เธอซื้อชุดนี้ที่ไหนเหรอ? มันสวยมากเลยน่ะ!”

จากนั้นคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะพูดตาม “ใช่ ๆ ฉันไม่เคยเห็นชุดแบบนี้ในร้านไหนเลย”

ทันใดนั้นเซี่ยชิงหยวนก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คน

ภาพนี้ดึงดูดความสนใจของเจ้าของร้านโดยธรรมชาติ

เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงอายุสามสิบ ผมหยักศก และสวมชุดสีแดงที่มีจุดสีขาวที่เอว

เธอฝ่าฝูงชนและเบียดเข้ามา

เมื่อสายตาของเธอจับจ้องไปที่เซี่ยชิงหยวน เธอก็ไม่สามารถละสายตาไปได้

ทันทีที่คิดได้ว่าเซี่ยชิงหยวนอาจเป็นคนของร้านอื่นที่ส่งมา รอยยิ้มเย้ยหยันก็เกิดขึ้นที่มุมปากของเธอ

เธอพ่นลมหายใจแล้วพูดว่า “นี่ สาวน้อยแสนสวยคนนี้มาจากไหนกันน่ะ?”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท