การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 11 เสร็จสิ้นพิธีการ

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 11 เสร็จสิ้นพิธีการ

บทที่ 11 เสร็จสิ้นพิธีการ

เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อเฒ่าถัง ทั้งแม่เฒ่าถังและถังเจี้ยนกั๋วมองเขาด้วยความไม่เชื่อ แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอีกหลังจากเห็นว่าพ่อเฒ่าถังมองมาอย่างโกรธเคือง

ถังเยว่หมินไม่เห็นด้วยเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อเฒ่าถังพูด เขามองไปที่ถังเจี้ยนกั๋วและเฮ่อหลานแล้วถามว่า “พวกเธอตัดสินใจจะหย่ากันจริง ๆ ใช่ไหม?”

เฮ่อหลานพูดโดยไม่ลังเลว่า “ใช่ค่ะ ฉันต้องการหย่า”

เดิมทีเธอรู้สึกท้อแท้ต่อถังเจี้ยนกั๋วอยู่แล้ว แต่หลังจากเรื่องการตั้งครรภ์ของแม่ม่ายหลิว และเรื่องของถังเจี้ยนกั๋วกับแม่เฒ่าถังที่ต้องการขายลูกสาวของเธอให้กับพ่อม่าย ในที่สุดเธอก็ได้เห็นความเป็นจริงอย่างแจ่มแจ้ง ถ้ายังอยู่ที่นี่ มันก็มีแต่หายนะเท่านั้นที่รอเธอและลูกสาวอยู่

ดังนั้นในขณะนี้ นัยน์ตาของเฮ่อหลานเต็มไปด้วยความแน่วแน่

ในทางกลับกัน ถังเจี้ยนกั๋วลังเลอยู่พักหนึ่งและก่อนจะหันไปสบเข้ากับตาของพ่อเฒ่าถัง จนสุดท้ายก็พยักหน้าและพูดว่า “เราจะหย่ากัน”

“ได้ งั้นฉันจะประทับตราให้”

ในตอนแรก ถังเยว่หมินพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เฮ่อหลานหย่า แต่หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เขาก็รู้แล้วว่าสามแม่ลูกไม่สามารถอยู่ในตระกูลถังได้อีกต่อไป และเนื่องจากทั้งสองฝ่ายกล่าวว่าพวกเขาต้องการหย่าร้าง เขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะหยุดมัน

ถังเหยาหัว รองหัวหน้าหมู่บ้านมองไปที่ถังเจี้ยนกั๋วด้วยความไม่เชื่อ โดยคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับเขา ที่อีกฝ่ายเลือกจะแต่งงานกับหญิงม่ายมากกว่าภรรยาและลูกสาวของเขา

แต่ในขณะนี้ ถังเจี้ยนกั๋วได้แสดงทะเบียนสมรสของเขา เฮ่อหลานกับลูกสาวก็ไปที่อำเภอด้วยกัน

หลังจากที่ถังเยว่หมินประทับตราแล้ว ถังซวงก็ขอร้องอีกครั้ง

“คุณลุงคะ ช่วยเขียนใบรับรองอีกใบให้เราทีค่ะ เป็นหลักฐานว่าฉันกับถังเซวี่ยจะอยู่กับเฮ่อหลาน แม่ของฉัน”

“ไอ้เด็กเวร สกุลของแกคือถัง และแกก็เกิดมาจากตระกูลถังของเรานะ” ตามจริงถังเจี้ยนกั๋วไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่เมื่อจ้องมองที่ถังซวงและถังเซวี่ย เขาก็โกรธเคือง

“ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวสำหรับฉันกับน้องสาวที่จะเปลี่ยนเป็นสกุล ‘เฮ่อ’ นะ”

“แก…”

เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเขาไม่เชื่อฟัง ถังเจี้ยนกั๋วก็ต้องการที่จะทุบตีเหมือนเมื่อก่อน แต่เมื่อเขาเห็นนัยน์ตาที่เย็นชาของถังซวง เขาก็รู้ทันทีว่าลูกสาวคนโตคนนี้ไม่ใช่ลูกพลับนิ่มที่เขาสามารถบีบได้อีกต่อไป และเมื่อเห็นแววตาแบบนั้น เขาก็รู้สึกกลัวอยู่ไม่น้อย

เมื่อเห็นว่าถังเจี้ยนกั๋วไม่พูดอะไรอีก ถังเยว่หมินก็มองไปที่เฮ่อหลาน และถามว่า “เธอวางแผนที่จะพาลูกสาวสองคนไปด้วยจริง ๆ ใช่ไหม?”

เฮ่อหลานพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดว่า “ค่ะ ซวงเอ๋อร์และเสี่ยวเซวี่ยเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตของฉัน ฉันจะพาทั้งสองคนไป ถังเจี้ยนกั๋วมีลูกชายอีกคนอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นพ่อของลูกฉัน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเยว่หมินก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และออกใบรับรองทันทีพลางพูดเกี่ยวกับทะเบียนบ้าน “ในเมื่อลูกสาวสองคนจะติดตามเธอ ดังนั้นเธอทั้งสามคนก็จะมีทะเบียนบ้านเดียวกันในเวลานี้”

เฮ่อหลานพยักหน้าและพูดว่า “ค่ะ นั่นเป็นแผนของฉันเหมือนกัน ทะเบียนบ้านของฉันและลูกสาวย้ายออกไปให้หมดเลยค่ะ”

เมื่อเห็นว่าเฮ่อหลานตัดสินใจแล้ว ใบหน้าของถังเจี้ยงกั๋วก็แดงก่ำด้วยความโกรธ

แต่เมื่อคิดถึงพฤติกรรมของลูกสาวทั้งสองในวันนี้ เขาก็เข้าใจดีว่าถึงเขาจะเลี้ยงไว้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เชื่องได้เหมือนแต่ก่อน และอาจมีบางอย่างเกิดขึ้น ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีลูกชายแล้ว ดังนั้นในที่สุดก็ตัดสินใจลงนาม

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังซวงโค้งริมฝีปากเป็นรอยยิ้มแล้วกระตุ้นจากด้านข้าง “ตอนนี้ไปที่อำเภอเพื่อทำตามขั้นตอนการหย่าร้างและเปลี่ยนทะเบียนบ้านกันเถอะ”

ถังเจี้ยนกั๋วมองที่ถังซวง อยากทุบลูกสาวคนโตให้ตายจริง ๆ รีบร้อนอยากเห็นพ่อแม่หย่าร้างขนาดนั้นเลยเหรอ?

เฮ่อหลานก็เห็นด้วยกับลูกสาวเช่นเดียวกัน ดังนั้นทั้งกลุ่มจึงไปที่อำเภอ และใช้เวลาไม่นานเพื่อหย่าร้างกับเปลี่ยนที่อยู่

หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น เฮ่อหลานก็ตระหนักได้ว่าเธอไม่ได้เศร้าเลย กลับรู้สึกผ่อนคลาย โซ่ตรวนที่พันธนาการเธอมานานหลายปีได้หายไปแล้ว และเธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการที่ถูกแม่สามีดุด่าหรือถูกสามีทุบตีอีกแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำงานบ้านที่ไม่สิ้นสุดด้วย

“แม่ เรากลับไปเก็บของกันก่อนแล้วค่อยออกจากตระกูลถังเถอะ”

“ตกลง”

เฮ่อหลานพยักหน้าอย่างรีบร้อนเมื่อได้ยินสิ่งนี้

ถังเจี้ยนกั๋วอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่นเมื่อเห็นท่าทีที่รีบร้อนของแม่และลูกสาว

ฮึ่ม…เขาอยากเห็นนักว่าชีวิตที่มีความสุขของสามแม่ลูกจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ออกจากตระกูลถัง

ถังซวงไม่สนใจว่าถังเจี้ยนกั๋วคิดอย่างไร ในขณะนี้เธอพาเฮ่อหลานและถังเซวี่ยกลับไปทำความสะอาด และเอาทุกอย่างที่เป็นของทั้งสามออกไป

แม่เฒ่าถังรู้แล้วว่าลูกชายคนสุดท้องของเธอและเฮ่อหลานหย่ากัน และถังซวงกับถังเซวี่ยกำลังจะตามเฮ่อหลานไป ทั้งยังย้ายออกจากทะเบียนบ้านด้วย ดังนั้นพวกตระกูลถังจึงต่างสาปแช่งพวกเธอ

“เฮ่อหลาน แกมันเป็นผู้หญิงไร้ประโยชน์ และยังอยากจะออกจากตระกูลถังของเราอีก ถ้าเจี้ยนกั๋วไม่แต่งงานกับแก แกมันก็เป็นแค่เด็กกำพร้าที่แม่บุญธรรมตายไป ไม่รู้ต้องไปอยู่ที่ไหนแล้ว ตอนนี้แกไม่เพียงแต่อยากจากไปด้วยตัวเอง แต่แกยังพาหลานสาวของตระกูลถังของเราไปด้วย ทำไมแกถึงไร้ยางอายแบบนี้ คนอย่างแกจะต้องตายอย่างทรมานแน่!”

เมื่อได้ยินคำสาปแช่งของแม่เฒ่าถัง ถังซวงก็ถือเก้าอี้อย่างเย็นชา และขว้างมันออกไปเกือบโดนเท้าของแม่เฒ่าถังโดยตรง

“โอ๊ยย…”

แม่เฒ่าถังทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ และเมื่อเธอพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลันรู้สึกเดือดดาลขึ้นมา “ถังซวง แก…”

แต่ก่อนที่เธอจะดุด่าอะไร เธอเงยหน้าขึ้นสบกับสายตาที่ไม่แยแสของถังซวง คำสบถที่เหลือติดอยู่ในลำคอของเธอทันที นัยน์ตาคู่นั้นเหมือนกำลังมองสิ่งที่ตายแล้ว ซึ่งทำให้หญิงชรารู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจของเธอ

พ่อเฒ่าถังมาทันเวลาเพื่อดูฉากนี้ เขามองถังซวงอย่างลึกซึ้งแล้วพูดกับแม่เฒ่าถังว่า “พอแล้ว ปล่อยพวกเขาไป”

แม่เฒ่าถังอ้าปาก แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก ทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างสิ้นหวังเมื่อทั้งสามจากไป

ถังซวงและคนอื่น ๆ ไม่ได้ออกจากหมู่บ้านหลู่ฮวาทันที แต่ไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน “คุณลุง เรายังคืนเงินที่ยืมมาก่อนหน้านี้ไม่ได้ ดังนั้นเราจะเขียนใบยอมรับหนี้ให้ก่อนนะ”

เมื่อถังเยว่หมินได้ยินคำพูด ก็โบกมือพัลวันแล้วพูดว่า “ไม่ ๆ ค่อยจ่ายคืนเมื่อมีเงินเถอะ”

เมื่อเห็นสามีของเธอเป็นเช่นนี้ หวังฮุ่ยเฟินก็อดไม่ได้ที่จะมองเขา ตอนนี้เฮ่อหลานหย่ากับถังเจี้ยนกั๋วแล้ว ถ้าแม่และลูกสาวทำเป็นไม่รู้จักพวกตน เงินที่ยืมไปก็สูญเปล่า

แต่ก่อนที่หวังฮุ่ยเฟินจะพูดอะไร ถังซวงได้ส่งมอบใบยอมรับหนี้แล้ว

“ไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะจ่ายคืนให้เร็วที่สุด”

เมื่อเห็นใบยอมรับหนี้ การแสดงออกของถังเยว่หมินก็ค่อนข้างซับซ้อน และเขายังเห็นได้ว่าถังซวงแตกต่างไปจากเมื่อก่อน ถังซวงที่เคยเงียบ และพูดไม่เก่งกลายเป็นคนพูดจาฉะฉาน รอบคอบ

เป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเลยล่ะ

“ตกลง ฉันจะยอมรับใบยอมรับหนี้นี้ไว้”

“คุณลุงเป็นคนดี ฉันจะมาจ่ายคืนเมื่อฉันมีเงินนะคะ และฉันจะพยายามจ่ายคืนภายในหนึ่งปี”

ในเวลานี้ หวังฮุ่ยเฟินอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ตราบใดที่เธอมีเงินก็ขอให้จำได้ว่าต้องจ่ายคืน แต่ก็ไม่ต้องรีบร้อนจ่ายภายในหนึ่งปีหรอก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็อดยิ้มไม่ได้ แล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะคุณป้า”

“ยินดีด้วยนะ หวังว่าทั้งสามจะมีชีวิตที่ดีในอนาคต”

แต่เฮ่อหลานมีลูกสาวไปด้วยถึงสองคน และไม่รู้จะทำอย่างไรต่อในอนาคต หวังฮุ่ยเฟินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

เฮ่อหลานไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เธอแค่คิดว่าตนกับลูกสาวจะไม่อดตายอย่างแน่นอน และสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหาที่อยู่อาศัย ดังนั้นเธอจึงพาลูกสาวสองคนไปที่หมู่บ้านเถาฮวา

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท