การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 38 การค้นพบ(รีไรท์)

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 38 การค้นพบ(รีไรท์)

บทที่ 38 การค้นพบ(รีไรท์)

หลังจากได้ยินสิ่งที่ลุงของเขาพูด โม่เจ๋อหยวนยังคงตั้งคำถามให้เด็กสาวทั้งสองต่อไป โดยการถามคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น

ถังเซวี่ยบางครั้งติดขัด แต่ในที่สุดเธอก็ตอบคำถามทุกข้อได้ สำหรับถังซวง เธอตอบคำถามทั้งหมดได้อย่างง่ายดายมาก

เมื่อเห็นถังซวงตอบได้อย่างสบายใจ โม่เจ๋อหยวนจึงถามลึกลงไปอีกโดยไม่รู้ตัว แต่ถังซวงก็ยังคงตอบได้

ตอนนี้แม้แต่หลินหมิงซู่ก็ได้รู้ว่าถังซวงนั้นเก่งแค่ไหน

แต่โม่เจ๋อหยวนเองก็ยังไม่หยุดมือ ยังคงถามคำถามต่อไป และถังซวงก็ไม่หยุด ยังคงตอบเขาอย่างสบาย ๆ

ในตอนท้ายของคำถาม โม่เจ๋อหยวนพยายามถามคำถามคณิตศาสตร์ระดับมัธยมปลายออกไป

ถังซวงลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถาม เธอไม่รู้ว่าควรตอบหรือไม่ เธอตอบคำถามมัธยมต้นไปหมดแล้ว หากเธอตอบคำถามมัธยมปลายได้ คงไม่มากเกินไปใช่ไหม?

และด้วยความลังเลของถังซวง ทำให้คนอื่นที่ดูอยู่ต่างคิดกันว่านี่คือขีดจำกัดของเธอแล้วสินะ

แต่ถึงอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนก็มองไปที่ถังซวงด้วยความชื่นชมและพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ เธอเก่งจริง ๆ นะ เธอเคยอ่านคณิตศาสตร์มัธยมต้นมาก่อนไหม?”

ถังซวงพยักหน้าโดยตรงและพูดว่า “ใช่ บังเอิญฉันมีหนังสือเรียนระดับมัธยมต้นสองสามเล่มน่ะ ยังไงฉันก็ว่างอยู่แล้วเลยหยิบมาอ่าน อันที่จริง คณิตศาสตร์ระดับมัธยมต้นค่อนข้างง่ายมากเลยนะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินหมิงซู่ก็หัวเราะ

“ถังซวง ถ้าคนอื่นได้ยินอย่างนี้ พวกเขาคงหมั่นไส้เธอแน่ รู้ไหมว่าบางคนอาจไม่เก่งเท่าเธอที่เรียนรู้ด้วยตัวเองเลยนะ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเรียนหนังสือที่โรงเรียนมาตั้งหลายปี”

ยิ่งกว่านั้น เขาเพิ่งรู้ว่าพี่น้องทั้งสองได้เรียนด้วยตัวเองเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง แถมพวกเธอยังเก่งถึงขนาดนี้ ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริง ๆ

หลี่จงอี้ที่ฟังอยู่ก็หัวเราะออกมาดัง ๆ

“ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยของเราเก่งจริง ๆ ฉันคิดว่าเธอสองคนสามารถเข้าเรียนมัธยมต้นได้เลยนะ แล้วแบบนี้เธอและเพื่อนร่วมชั้นคงจะอายุไล่เลี่ยกันสิ”

หลินหมิงซู่ก็คิดว่ามันดีเช่นกัน

“ใช่ พวกเธอสามารถเข้าโรงเรียนมัธยมต้นได้ทันทีเลย”

ถังซวงรู้สึกประทับใจกับข้อเสนอแนะนี้ เพราะเธอก็รู้สึกว่าการไปโรงเรียนประถมอีกครั้งคงจะน่ารำคาญไปหน่อย แต่…

“คุณลุงคะ ทั้งเสี่ยวเซวี่ยและหนูไม่ได้เรียนจบชั้นประถม แล้วจะมีโรงเรียนไหนยินดีรับพวกเราไหมคะ?”

“ให้ฉันจัดการเรื่องนี้เถอะ อีกสักพักเจ๋อหยวนก็จะเข้าเรียนเหมือนกัน ฉันกำลังจัดการเรื่องโรงเรียนให้เขาอยู่ เดี๋ยวยังไงฉันจะจัดการให้เธอทั้งสองคนด้วย”

เฮ่อหลานรู้สึกตื้นตันเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แต่สงสัยว่ามันจะลำบากอีกฝ่ายมากเกินไปหรือเปล่า

“อย่ากังวลเลยพี่หลาน ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรหรอก มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเอง คุณสมบัติของซวงเอ๋อร์ และเสี่ยวเซวี่ยจะต้องไม่ถูกฝังเอาไว้ พวกเธอต้องได้ไปโรงเรียน และเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมได้อย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเฮ่อหลานก็เต็มไปด้วยความตื้นตันและภูมิใจ “ทั้งคู่เป็นเด็กฉลาด พวกแกอ่านหนังสือไปเยอะมาก คงต้องรบกวนคุณหมิงซูแล้วค่ะ”

เรื่องนี้ถูกจัดการหมดแล้ว หลินหมิงซู่จะช่วยถังซวงกับถังเซวี่ยให้ผ่านขั้นตอนการรับเข้าเรียนเอง

เดิมทีเฮ่อหลานต้องการชวนโม่เจ๋อหยวนและหลินหมิงซู่อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันก่อน แต่เวลานี้มันก็สายเแล้ว กว่าพวกเขาจะกลับไปที่ตำบลอีก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เตรียมของสำหรับอาหารเย็น แต่ได้เตรียมสิ่งต่าง ๆ มากมายอย่างอื่นสำหรับพวกเขาแทน

“พี่หลาน ไม่ต้องเตรียมของพวกนี้ให้เราหรอก เจ๋อหยวนกับฉันซื้อทุกอย่างนี่ได้ในตำบล”

“ทุกที่ในตำบลอะไรก็ต้องเสียเงินทั้งนั้น แม้แต่จะกินผักก็เสียเงินซื้อ เพราะฉะนั้นคุณนำผักนี่กลับไปเยอะ ๆ นะ”

เมื่อเห็นการแสดงออกที่กระตือรือร้นของเฮ่อหลาน หลินหมิงซูก็ไม่ปฏิเสธ “งั้นก็ขอบคุณพี่หลานมากครับ”

“ไม่มีอะไรจะต้องขอบคุณหรอก ทุกอย่างปลูกเองที่บ้านทั้งนั้นเลยค่ะ”

หลังจากที่เฮ่อหลานเตรียมข้าวของเรียบร้อยแล้ว หลินหมิงซู่และโม่เจ๋อหยวนก็พร้อมที่จะกลับไปในตำบล

“ซวงเอ๋อร์ แล้วเจอกันนะ”

ถ้าสองพี่น้องเข้าเรียนชั้นมัธยมต้นได้ พวกเธอก็จะไปเรียนในตำบล แล้วพวกเขาก็จะได้เจอหน้ากันทุกวัน

“งั้นไว้เจอกันใหม่”

หลังจากที่ถังซวงได้ยินคำพูดของโม่เจ๋อหยวน เธอก็ตอบด้วยรอยยิ้มแล้วไปส่งพวกเขาที่หน้าหมู่บ้าน หลี่จงอี้ก็จากไปเช่นกัน แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นปู่ของพี่น้องทั้งสอง แต่ครอบครัวของเฮ่อหลาน มีผู้หญิงถึงสามคน มันจึงไม่ดีหากเขาจะอยู่ต่อ ดังนั้นอาหารเย็นจึงไร้ประโยชน์ และพวกเขาก็กลับไปหมดแล้ว

หลังจากที่ถังซวงไปส่งพวกเขา ในบ้านก็เหลือเพียงสามแม่ลูก

เฮ่อหลานยังคงตื่นเต้นเล็กน้อย

“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย พวกลูกจะได้ไปโรงเรียนหลังจากปิดภาคเรียนฤดูร้อนเลยนะ”

เมื่อเห็นแม่ของเธอมีความสุขมาก ถังเซวี่ยก็พูดตามจริงว่า “แม่คะ เรายังคงต้องรอข่าวจากลุงหลินก่อน ถ้าเราต้องเริ่มเรียนจากโรงเรียนประถมล่ะ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาวคนเล็ก เฮ่อหลานก็ชำเลืองมองและพูดว่า “ในเมื่อลุงหมิงซูพูดแบบนั้น มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน พวกลูกอย่ากังวลไปเลย แค่มีตั้งใจอ่านหนังสือก็พอ และพยายามทำให้ดีที่สุดนะ เหมือนพี่สาวของลูกไง”

ถังเซวี่ยโบกมืออย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำพูดนั้น และพูดว่า “แม่คะ หนูจะตั้งใจอย่างหนักเลย”

เมื่อเห็นใบหน้าของถังเซวี่ยที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เสี่ยวเซวี่ยอ่านต่อไปนะ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามพี่ได้”

“ได้ค่ะพี่สาว”

เมื่อเห็นว่าสองสาวทุ่มเทให้กับการเรียน เฮ่อหลานก็ยิ้มอิ่มเอม และสนับสนุนพวกเขาอยู่ด้านหลัง

แม้ว่าถังเซวี่ยจะฉลาดมาก แต่เธอก็อ่อนในแง่ของความเข้าใจและความสามารถในการคิด ดังนั้นเธอจึงมีปัญหากับเรื่องนี้มาก

“เสี่ยวเซวี่ย จะอ่านหนังสือทุกวันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เรามาเดินเล่นกันบ้างเถอะ”

ถังเซวี่ยเองรู้สึกว่าเห็ดน่าจะกำลังเติบโตบนตัวเธอ หลังจากที่เธอนั่งอ่านหนังสืออยู่สองวันอย่งไม่หยุดพัก เธอจึงพยักหน้าและพูดว่า “เอาสิ พี่คะ งั้นไปที่ภูเขากันเถอะ”

“ตกลง”

หลังจากที่พี่น้องทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน พวกเขาก็หยิบเครื่องมือและไปที่ภูเขา

“ลูกสองคนรีบกลับมานะ”

เมื่อเห็นว่าพี่น้องทั้งสองกำลังจะออกไป เฮ่อหลานรีบร้องเรียก

“ค่ะแม่ เราจะรีบกลับมา”

ครั้งนี้ถังซวงต้องการเก็บสมุนไพร เพราะครั้งที่แล้วเธอยังขาดรากหัวแห้ง และเธอไม่รู้ว่าคราวนี้เธอจะหามันเจอหรือเล่า แต่ก่อนที่เธอจะเริ่มมองหา ถังเซวี่ยก็พบมันโดยไม่ตั้งใจเสียก่อน

“พี่สาว ดูนี่สิ มันคืออะไรเหรอ หนูคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์นะ”

ทันทีที่ทั้งสองมาถึงบนภูเขา ถังเซวี่ยก็ชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งและถามถังซวง

ถังซวงหันไปมองก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือรากหัวแห้งที่เธอกำลังมองหา เธอจึงยกนิ้วโป้งให้ถังเซวี่ย “เสี่ยวเซวี่ย เธอนี่น่าทึ่งจริง ๆ”

“อะไร…”

ถังเซวี่ยยังคงสับสน

ถังซวงไม่ได้พูดอะไรอีก แต่รีบหยิบรากหัวแห้งทันที

“พี่สาว มันมีประโยชน์จริง ๆ หรือ?”

จากประสบการณ์การเก็บโสมครั้งที่แล้ว ถังเซวี่ยรู้สึกว่าตอนนี้เธอสามารถเห็นสรรพคุณของสมุนไพรต่าง ๆ ได้มากขึ้น

หลังจากเก็บรากหัวแห้งที่เลือกไปแล้ว ถังซวงพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ มันมีประโยชน์ มีประโยชน์มาก… ไว้ค่อยกลับมาใหม่กันนะ”

“อื้ม”

หลังจากนั้นสองพี่น้องก็รวบรวมสมุนไพรมาจำนวนมาก และถังเซวี่ยก็นำรังกระต่ายมาด้วย

ทั้งสองกลับบ้านด้วยของที่แบกกลับมาเต็มตระกร้า

หลังจากกลับถึงบ้าน ถังซวงมองไปที่ห้องว่างอย่างไม่วางตาและร้องขอเฮ่อหลาน “แม่คะ หนูอยากได้ห้องว่างหน่อย เพื่อทดลองอะไรบางอย่างน่ะค่ะ”

ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป เฮ่อหลานตอบตกลงโดยตรง “เอาสิจ้ะ ยังไงที่บ้านก็ยังมีห้องว่างอยู่ เดี๋ยวแม่จะจัดห้องให้ทีหลังนะ”

หลังทานอาหาร สามแม่ลูกเริ่มจัดระเบียบห้องที่ว่างอยู่ แต่เมื่อพวกเขาจัดแจง ถังซวงก็พบว่าความยาวและความกว้างของห้องนี้มันผิดไปเล็กน้อย

“แปลกแหะ น่าจะมีอีกช่องตรงนี้สิ”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน