บทที่ 114 อบรม
บทที่ 114 อบรม
เมื่อเห็นพี่ชุย การแสดงออกของเฮ่อหลานก็เย็นชาทันที
“คุณมาทำอะไรที่นี่อีก เมื่อวานฉันบอกชัดเจนมากแล้วนะ”
ถังซวงมองตรงไปยังคนที่อยู่ข้างหลังพี่ชุย ในหมู่พวกเขา คนที่อยู่ข้างหน้าสวมชุดนายทหารดูทรงภูมิ ในขณะนี้กำลังมองไปที่เฮ่อหลานด้วยความประหลาดใจในดวงตาของเขา
เมื่อเห็นบุคคลนี้ ถังซวงเดาได้ทันทีว่าคนนี้น่าจะเป็นสือจีสู เธอมายืนขวางหน้าเฮ่อหลานอย่างสงบและพูดอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนว่าในพวกคุณจะไม่มีใครเข้าใจภาษาคนเลยสินะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สือจีสูละสายตาจากเฮ่อหลานและมองถังซวงตรงหน้าเขา และดวงตาของเขาก็เป็นประกายอีกครั้ง
เฮ่อหลานแตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง เธอสวยมาก พอเห็นครั้งแรกถ้าไม่รู้จักเธอมาก่อน ก็บอกไม่ได้เลยว่าเธอเป็นแม่ที่มีลูกสองคนแล้ว และถังซวง ลูกสาวคนโตของเธอก็สวยมากเช่นกัน ใบหน้าที่บอบบาง ผิวที่ขาวใส รอจนโตเต็มที่ก่อนเถอะ ช่างเป็นความงามที่เย้ายวนใจอย่างแท้จริง
ในชนบทมีสาวงามอยู่มากมายจริง ๆ
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ สือจีสูก็เหลือบมองที่พี่ชุย
พี่ชุยเข้าใจทันทีและรีบพูดว่า “คุณน้องเฮ่อหลาน รองหัวหน้าหมู่บ้านสือของเรามาถึงที่นี่ด้วยตัวเองในวันนี้ เพราะอย่างนั้นมานั่งคุยกันดี ๆ กันเถอะ รองหัวหน้าหมู่บ้านสือของเราต้องการแต่งงานกับเธออย่างจริงใจ ดังนั้นอย่ารีบปฏิเสธเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้คนจากหมู่บ้านเถาฮวาที่ตามมาข้างหลังก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“เขาอยากแต่งงานกับเฮ่อหลานงั้นหรือ?”
ทุกคนในหมู่บ้านเถาฮวามองไปที่สือจีสูและคนอื่น ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น และมีคนถามอย่างตื่นเต้นว่า “เมื่อครู่นี้ แม่สื่อดูเหมือนจะพูดเกี่ยวกับสือจีสู เป็นไปได้ไหมที่คนคนนี้เป็นรองหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านตระกูลสือน่ะ?”
“ดูเหมือนจะใช่นะ แต่ชายหนุ่มข้าง ๆ คนนั้นดูคุ้น ๆ นะ”
“หื้ม… เด็กคนนี้ไม่ใช่คนที่รังแกเสี่ยวเซวี่ยเมื่อครั้งที่แล้วหรือ? ทำไมเขาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ”
ถัดจากสือจีสูคือเด็กจากหมู่บ้านตระกูลสือ ซึ่งเคยรังแกถังเซวี่ยเมื่อครั้งก่อน และต้องการเอาเปรียบเธอจากการที่เขาเป็นหลานชายของสือจีสู เขาชื่อสือเหล่ย
ในขณะนี้สือเหล่ยมองตรงไปที่ถังเซวี่ยโดยไม่คิดจะปกปิดสายตาน่ารังเกียจของตน แต่ในไม่ช้าเขาก็เห็นถังซวง และรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นใบหน้าของถังซวงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าถังเซวี่ยเป็นเด็กสาวที่ดูดีที่สุดที่เขาเคยเจอ แต่เมื่อเห็นถังซวงแล้ว ก็ได้รู้ว่าพี่สาวของเธอสวยกว่าน้องสาวเสียอีก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่ลุงของเขาจะแต่งงานกับเฮ่อหลาน ในอนาคต ทั้งสามแม่ลูกก็จะต้องแต่งงานเข้าตระกูลเขา และเข้าหมู่บ้านตระกูลสือ
ถังซวงชำเลืองมองสือเหล่ยเล็กน้อย จากนั้นหันไปหาถังเซวี่ย แล้วถามว่า “คนนี้เป็นคนที่รังแกเธอเมื่อครั้งก่อนใช่ไหม?”
ถังเซวี่ยพยักหน้าด้วยความโกรธและพูดว่า “ใช่ เขานั่นแหละ”
“นี่… มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะ”
สือเหล่ยเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและอธิบายว่า “ครั้งก่อนที่เจอเสี่ยวเซวี่ย ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอเท่านั้น แต่คงเป็นเพราะฉันไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน เลยทำให้เธอเข้าใจผิด เป็นความผิดของฉันเอง ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว คราวหลังจะพูดอะไรให้ชัดเจนนะ”
ในตอนท้าย สือเหล่ยมองไปที่เฮ่อหลานอีกครั้งและพูดว่า “คุณป้าครับ ลุงของผมขอแต่งงานด้วยความจริงใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นรองหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านตระกูลสือด้วย ฐานะทางบ้านคุณป้าเองก็ไม่ดี ไหนจะหย่าร้างแล้วยังมีลูกสาวสองคนอีก รีบตอบตกลงเถอะครับ ในอนาคตลุงของผมจะปฏิบัติต่อคุณป้าอย่างดีแน่นอน”
สือเหล่ยรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงใจมาก หากอีกฝ่ายปฏิเสธ เขาจะต้องเสียหน้าอย่างมากแน่
เฮ่อหลานแค่นหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ แก่ถึงขนาดนี้แต่ยังชอบทำร้ายเด็กสาวที่น่าสงสารเหล่านั้น แล้วยังถือว่าเป็นคนดีได้ แสดงว่าครอบครัวนี้คงมีแต่คนเลวสินะ
แต่ถังซวงไม่รีรออะไร เธอแค่นหัวเราะอย่างน่าสมเพชและชกเข้าที่หน้าของสือเหล่ย
“อ๊ากกก…!”
สือเหล่ยไม่ทันตั้งตัว เขาสูญเสียการทรงตัวและล้มไปกองกับพื้น
หลังจากที่รู้ว่าเขาถูกเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ต่อย ก็ลุกขึ้นมาด้วยความโกรธและพูดว่า “นังสารเลว แกกล้าดียังไงมาต่อยฉัน!” ขณะที่พูด เขาก็พุ่งไปข้างหน้า
โดยไม่พูดอะไรสักคำ ถังซวงก็เตะชายคนนั้นลงไปที่พื้นอีกครั้ง ในขณะที่เขานอนอยู่บนพื้น เธอก็ใช้เท้าขยี้ฝ่ามือขวาของอีกฝ่าย
“ครั้งที่แล้วเป็นมือนี้ใช่ไหมที่รังแกเสี่ยวเซวี่ยของฉัน?”
แม้ว่าถังซวงจะไม่ได้ถามถังเซวี่ยอย่างละเอียด แต่เธอก็ตรวจสอบสถานการณ์ในตอนนั้นแล้ว สือเหล่ยคนนี้เอื้อมมือไปจับเสี่ยวเซวี่ยอย่างน่ารังเกียจ ดังนั้นมือนี้จึงไม่มีประโยชน์และมีค่าอะไรทั้งนั้น
แต่เพราะพวกเขามีบางอย่างที่ต้องทำก่อนหน้านี้ เลยไม่ได้มีเวลาสั่งสอนบทเรียนให้เด็กคนนี้ และก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมาหาพวกเธอเองถึงที่
กร๊อบ…!
เสียงกระดูกหักดังขึ้น สือเหล่ยร้องลั่นเหมือนหมูโดนเชือด “นิ้วฉัน นิ้วฉันหัก!”
เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าพวกเขา สือจีสูและทุกคนในหมู่บ้านเถาฮวาที่ยืนอยู่ที่นั่นต่างตกใจ พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าถังซวงจะกล้าทำเช่นนี้
โหดร้ายมาก
ข่งหม่านจูซึ่งเคยขัดแย้งกับเฮ่อหลานมาก่อนก็ถอยหลังไปสองก้าวอย่างหวาดกลัว ลูกสาวคนโตของเฮ่อหลานคนนี้โหดเหี้ยมเกินไป เธอรู้ว่าถังซวงคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เธอไม่ได้คาดคิดว่าเด็กสาวจะเก่งขนาดนี้ แม้แต่ผู้ชายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ
เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของสือเหล่ยกำลังกรีดร้อง สือจีสูก็มองถังซวงอย่างงงงวย จากนั้นพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “สาวน้อย เธอทำให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตเองนะ”
ขณะที่เขาพูด เขามองไปยังคนที่อยู่ด้านหลังเขา
คนเหล่านั้นเข้าใจทันทีและก้าวมาข้างหน้าพร้อมกัน
เมื่อเห็นคนเหล่านี้ ถังซวงก็ยังไม่หยุด “เด็กคนนี้รังแกน้องสาวของฉัน ที่ฉันทำแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ชอบธรรมแล้ว ส่วนแก…”
ในตอนท้าย ใบหน้าของถังซวงเปลี่ยนเป็นเย็นชากว่าเดิมในทันที
“แกบังคับขืนใจจนเด็กสาวหลายคนจนทำให้พวกเธอต้องตาย แต่ยังหน้าด้านหน้าทนไม่รู้สึกผิด แล้วยังกล้ามาที่นี่เพื่อขอแต่งงาน แกไม่กลัวที่คนตายเหล่านั้นมาหักคอบ้างหรือ?”
“เกิดอะไรขึ้น? ใครตาย?”
“ใช่ เป็นไปได้ไหมว่าชายคนนี้ฆ่าคนตาย? น่ากลัวเกินไปแล้ว”
หมู่บ้านตระกูลสือและหมู่บ้านเถาฮวาค่อนข้างอยู่ห่างไกลกันเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้เรื่องเหล่านี้จริง ๆ
เมื่อเห็นความปั่นป่วนรอบ ๆ ถังซวงพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาและพูดต่อด้วยท่าทางที่จริงจัง “ทุกคนในหมู่บ้านของแกต่างรู้ว่าแกทำร้ายทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าแจ้งความ หรือว่าทั้งหมู่บ้านตระกูลสือนั้นเห็นด้วยกับสิ่งที่แกทำ?”
“อะไรนะ… ให้ตายเถอะ… น่ากลัวจัง มีคนตายด้วย”
“ใช่ ๆ หมู่บ้านตระกูลสือเป็นถ้ำหมาป่าชัด ๆ”
สือจีสูมองไปที่ถังซวงด้วยแววตาอาฆาต แต่ในไม่ช้า เขาก็ก้มศีรษะลงเพื่อซ่อนเร้นการแสดงออกในดวงตาของเขา จากนั้นเงยศีรษะขึ้นอีกครั้ง และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “สาวน้อย คำบางคำไม่สามารถพูดได้ตามอำเภอใจนะ สิ่งที่เธอพูดไม่มีเรื่องจริงอยู่เลย พูดออกมาแบบนี้มันเป็นการกล่าวหากันนะ”
“งั้นหรือ?”
การแสดงออกของถังซวงสงบนิ่งราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจสิ่งที่คนสารเลวพูดแม้แต่น้อย
สือจีสูละสายตาจากถังซวง และมองไปที่เฮ่อหลานแทน “คนในครอบครัวของเธอเป็นอะไรกันไปหมด พูดแต่เรื่องไร้สาระ ฉันคงตักเตือนอะไรพวกเธอมากไม่ได้ แต่ในอนาคตก่อนที่ลูกสาวทั้งสองคนของเธอจะแต่งงาน เธอต้องอบรมพวกเธอให้ดีด้วยนะ”