การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 124 ไปก่างเฉิงกันเถอะ

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 124 ไปก่างเฉิงกันเถอะ

บทที่ 124 ไปก่างเฉิงกันเถอะ

เมื่อได้ยินเสียงร้องของป้าหวง เฮ่อหลานรีบเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วตะโกนว่า “คุณป้าเข้ามาได้เลยค่ะ”

เฮ่อหลานยังไม่ทันพูดจบ ถังซวงก็ไปเปิดประตูแล้ว

ป้าหวงเดินเข้ามาทันทีและทักทายทุกคนอย่างอบอุ่น “อาหลานไปกันเถอะ”

แต่ในไม่ช้าหญิงชราก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของเฮ่อหลานกับเฮ่อจื่อกุยนั้นแดงก่ำจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พวกเธอเป็นอะไรรึเปล่า?” เนื่องจากเป็นญาติกัน สถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายายเฒ่าเฮ่อก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เมื่อพวกเขาพบความจริงเข้า ย่อมต้องเสียใจเป็นธรรมดา

เฮ่อหลานรีบพูดว่า “คุณป้าคะ เราสบายดีค่ะ”

เฮ่อจื่อกุยก็ยืนขึ้นและพูดว่า “คุณป้าครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้มีเวลาที่จะขอบคุณคุณป้าเลย ผมขอบคุณคุณป้ามากนะครับที่นำทางพวกเรามาที่นี่”

“แค่นิดหน่อยเอง ฉันยินดีอยู่แล้ว รีบไปเถอะ ไปกินข้าวกันเร็ว”

เฮ่อจื่อกุยกับเฮ่อเจียรุ่ยถูกป้าหวงลากออกไปทันที

ป้าหวงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับยายเฒ่าเฮ่อมาก่อน ดังนั้นเธอจึงปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับเป็นลูกหลานจริง ๆ และคอยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงตลอดทาง เมื่อพบว่าตระกูลเฮ่อกำลังตามหายายเฒ่าเฮ่อ เธอจึงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้

ขณะที่พูดคุยกัน ทุกคนก็มาถึงบ้านของป้าหวงแล้ว

เมื่อเห็นถังซวงและคนอื่น ๆ มาด้วย ลูกสะใภ้สองคนของป้าหวงก็ทักทายพวกเขาอย่างเป็นมิตรและเชิญทุกคนให้นั่งลงทันทีพลางมองไปที่เฮ่อจื่อกุยกับเฮ่อเจียรุ่ยอย่างอยากรู้อยากเห็น “คุณเป็นญาติของอาหลานสินะคะ เชิญนั่งลงก่อนค่ะ”

เฮ่อจื่อกุยกับเฮ่อเจียรุ่ยรู้สึกเคอะเขินเมื่อเห็นครอบครัวของป้าหวงกระตือรือร้นเช่นนี้ พวกเขามองทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ มันแตกต่างจากชีวิตก่อนหน้านี้มาก บรรยากาศที่เรียบง่ายแต่กลับอบอุ่น สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นมากหลังจากที่ต้องเศร้าเสียใจจากข่าวเศร้าก่อนหน้านี้

ในตอนนี้ พวกผู้ชายนั่งอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง และป้าหวงก็พาเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ ไปที่อีกโต๊ะหนึ่ง

“อาหลาน นี่เป็นอาหารที่ป้าทำเองทั้งหมด อย่าถือสากันเลยนะ”

แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงหญิงชราในชนบท แต่เธอก็ยังรู้สถานะของพวกเขาอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นจิงเจ้อหรง โม่เจ๋อหยวน เฮ่อจื่อกุย เฮ่อเจียรุ่ย เธอสามารถรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา หญิงชราเพียงหวังว่าพวกเขาจะชอบอาหารที่เธอทำ

เฮ่อหลานได้ยินอย่างนั้นจึงรีบพูดว่า “คุณป้าคะ อาหารอร่อย ๆ อย่างนี้คงหากินได้เฉพาะช่วงวันสิ้นปีเท่านั้น เราจะไม่ชอบได้ยังไง ตรงกันข้ามเลยค่ะ ครั้งนี้คุณป้าใช้เงินมากเกินไปแล้ว”

เมื่อเห็นความจริงใจของเฮ่อหลาน ป้าหวงก็หัวเราะ “ดีจังที่เธอไม่ถือสาอะไร งั้นกินเร็วเข้าเถอะ”

หลังจากร้องไห้ไปเมื่อไม่นาน เฮ่อหลานก็หิวมาก เมื่อเห็นว่าคนอื่น ๆ กำลังกินข้าวอยู่ เธอก็รีบกินด้วย

ด้านถังซวงกับถังเซวี่ยที่นั่งด้วยกัน ทั้งสองกินเยอะมาก หลังจากกินซาลาเปาและข้าวหนึ่งชาม พวกเธอก็อายเกินกว่าจะขยับตะเกียบอีกครั้ง แต่ป้าหวงก็ยังเพิ่มซาลาเปาอีกลูกให้ และพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ยกินเยอะ ๆ เถอะ พวกเธอกำลังโต จะทนหิวไม่ได้นะ”

สูจ้าวตี้และเหรินชุยฮวาเห็นว่าอาหารบนโต๊ะเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ หัวใจของพวกเธอก็เต้นรัว มื้ออาหารเหล่านี้อุดมสมบูรณ์กว่าที่พวกเธอได้กินในช่วงวันสิ้นปีซะอีก ครั้งนี้แม่สามีใจกว้างมาก นำส่วนผสมที่ดีทั้งหมดออกมาทำอาหารซะหมด

แต่เมื่อมองไปที่เฮ่อหลาน ถังซวงและถังเซวี่ยตรงหน้า สูจ้าวตี้กับเหรินชุยฮวาก็พยายามฉีกยิ้ม

“อาหลาน เธอไม่ต้องสุภาพหรอก กินเยอะ ๆ เถอะ”

ตอนนี้ทั้งสามแม่ลูกแตกต่างไปมากหลังจากหย่าร้าง ทั้งมีญาติ ๆ มาตามหา ถังซวงก็สามารถซื้อจักรเย็บผ้าและจักรยานให้ครอบครัวได้เพียงแค่เรียนหนังสือ ซึ่งทำเงินได้มากกว่าคนวัยกลางคนที่ใช้แรงงานซะอีก ไม่ต้องพูดถึงเฮ่อหลานที่มีผู้นำระดับสูงเป็นคนรัก ดังนั้นจึงยังไม่สายเกินไปที่พวกเธอจะประจบคนพวกนี้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหลานก็รีบพูดว่า “ขอบคุณนะ”

สำหรับโต๊ะของผู้ชาย ลุงหวงกำลังดื่มกับจิงเจ้อหรงอย่างจริงจัง

“คุณจิง ดื่ม ๆ”

“ขอบคุณครับคุณลุงหวง ขอบคุณที่ดูแลเฮ่อหลานและลูก ๆ ด้วยนะครับ” เขาดื่มก่อนจะพูด

เมื่อเห็นว่าจิงเจ้อหรงดื่มแล้ว ลุงหวงก็รีบดื่มด้วยเช่นกัน

เมื่อเฮ่อจื่อกุยได้ยินคำพูดของจิงเจ้อหรง เขาก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองอย่างใคร่รู้ จากนั้นยืนขึ้นและอวยพรลุงหวง “ลุงหวงครับ ขอบคุณที่ดูแลน้องหลาน และคนอื่น ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานะครับ ผมขอดื่มเพื่อแสดงความเคารพต่อคุณลุง” เขาพูดและดื่มหมดถ้วย

เมื่อเห็นเช่นนี้ ลุงหวงก็เริ่มดื่มเช่นกัน

สำหรับหวงต้าจู่และหวงเออร์จู่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะทั้งจิงเจ้อหรง เฮ่อจื่อกุย เฮ่อเจียรุ่ย และโม่เจ๋อหยวนที่อายุน้อยกว่าล้วนไม่ใช่คนธรรมดา ราวกับว่าทุกคนมาจากโลกที่แตกต่างจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

ในทางตรงกันข้าม หวงเฉียงลูกชายของหวงต้าจู่นั้นกล้าหาญกว่า เขาดื่มกับเฮ่อจื่อกุยก่อน จากนั้นก็ดื่มให้จิงเจ้อหรง ในท้ายที่สุดแม้แต่เฮ่อเจียรุ่ยและโม่เจ๋อหยวนก็ไม่ได้ถูกลืม

เดิมที โม่เจ๋อหยวนนั้นไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่พวกเขาได้มารวมตัวกันในคืนนี้ เด็กหนุ่มจึงดื่มเพียงเล็กน้อย

เมื่อทานอาหารใกล้เสร็จแล้ว ป้าหวงก็ดึงเฮ่อหลานเข้ามากระซิบ

“อาหลาน เธอนี่โชคดีจริง ๆ ดูเขาสิ คงมีผู้หญิงหลายคนอยากโผเข้าหาคุณจิงแน่ ๆ เธอต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดและจับเขาไว้ให้แน่น อย่าให้หลุดมือเด็ดขาด”

เฮ่อหลานไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินคำพูดของป้าหวง “คุณป้าคะ จริง ๆ แล้ว… เขาไม่ใช่คนรักของฉันหรอกค่ะ”

ในตอนแรกป้าหวงมีท่าทางไม่เชื่อ

“อาหลาน ป้าเห็นเธอมาตั้งแต่เล็ก ๆ ดังนั้นอย่าโกหกเลย สายตาที่คุณจิงมองเธอมันบอกได้ชัดเจนเลยว่าเขารักเธอมาก เพราะงั้นอย่ามัวชักช้า”

เมื่อเฮ่อหลานได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง

ไม่คาดคิดเลยว่าจิงเจ้อหรงเองก็มองมาที่เธอเช่นกัน และสายตาของทั้งสองก็สอดประสานกัน

ราวกับถูกฟ้าผ่า เฮ่อหลานรีบหันศีรษะของเธอ แต่ใบหน้าที่งดงามของเธอพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง

โต๊ะทั้งสองค่อนข้างชิดกัน และจิงเจ้อหรงเองก็เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเฮ่อหลานได้ในทันที ดวงตาของเขาฉายแววความสุข และหัวใจของเขาก็อบอวลไปด้วยความอบอุ่น หรือนี่คือความรู้สึกชอบใครสักคนและต้องการมองตลอดเวลา เพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำให้ชายหนุ่มมีความสุขที่หอมหวานราวดื่มน้ำผึ้ง

หลังจากรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ถังซวง และคนอื่น ๆ ก็กลับไป

“น้องหลาน ฉันไม่รู้ว่าเราพอจะค้างคืนที่บ้านชาวบ้านคนไหนได้บ้างไหม พอดีเราสองคนไม่มีแผนที่จะกลับไปที่บ้านพักในเมืองคืนนี้น่ะ”

แต่ก่อนที่เฮ่อหลานจะพูดอะไร จิงเจ้อหรงก็พูดไปแล้วว่า “พี่เฮ่อครับ ผมหาที่อยู่ให้ได้นะ งั้นคืนนี้พวกพี่มากับผมสิ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อจื่อกุยเลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพียงพยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นรบกวนคุณจิงด้วยนะครับ”

วันรุ่งขึ้น เฮ่อหลานจึงตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมของ เดิมทีเธอวางแผนเพียงว่าจะพาเฮ่อจื่อกุยและลูกชายขึ้นภูเขา แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าทุกคนจะขึ้นไปบนภูเขาด้วยกัน

หลังจากที่เฮ่อจื่อกุย และลูกชายแสดงความเคารพหลุมฝังศพของยายเฒ่าเฮ่อแล้ว จิงเจ้อหรงกับโม่เจ๋อหยวนก็แสดงความเคารพด้วยเช่นกัน

เฮ่อหลาน ถังซวงและถังเซวี่ยเห็นภาพนั้นก็ตาแดงก่ำ พวกเขาต่างพูดคุยกันถึงความสุขที่ได้พบคนที่รัก และความคิดถึง หลังจากที่ทุกคนเก็บของแล้ว ก็ลงจากภูเขา

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เฮ่อจื่อกุยก็มองไปที่เฮ่อหลานและพูดว่า “น้องหลาน พวกเธอสามคนแม่ลูกไปที่ก่างเฉิงกับเราสิ”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท