การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 222 ชาวบ้าน

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 222 ชาวบ้าน

บทที่ 222 ชาวบ้าน

งานเปิดตัวโรงงานเย็บปักเถาฮวาคืองานสำคัญของหมู่บ้านเถาฮวาและตัวเฮ่อหลานเอง ดังนั้นจิงเจ้อหรงก็มาร่วมงานด้วย เขายืนเคียงข้างเฮ่อหลานตลอดเวลา และเมื่อเห็นแววตาเปล่งประกายของเธอ ชายหนุ่มถึงกับอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ถังซวงและถังเซวี่ยมองเฮ่อหลานด้วยเช่นกัน ทั้งคู่ต่างมีรอยยิ้มในแววตา วันนี้แม่ของพวกเธอไม่ใช่ผู้หญิงขี้ขลาดและอ่อนแอเช่นเมื่อก่อนอีกต่อไป เธอทั้งสดใส มั่นใจ และเป็นบุคคลที่ใครหลายคนอิจฉา

หลังพิธีเปิดเสร็จสิ้นแล้ว โรงงานเย็บปักเถาฮวาก็ถูกเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ และผู้คนรอบ ๆ ต่างแยกย้ายกันออกไปหลังจากผ่านช่วงเวลาน่ายินดี

ในที่สุด เวลานี้เฮ่อหลานก็ได้พักผ่อน

เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วจิงเจ้อหรงรีบเข้ามาด้วยความห่วงใย “อาหลาน เหนื่อยไหมครับ? เข้าไปนั่งพักข้างในสักหน่อยไหม?”

แม้ก่อนหน้านี้เขาค่อนข้างยุ่ง และรู้ดีว่าเฮ่อหลานยุ่งมากด้วยเช่นกัน หลังจากไม่ได้พบกันเสียนานเขาสัมผัสได้ว่าเฮ่อหลานดูซูบผอมลงไปไม่น้อย จึงค่อนข้างเป็นห่วง

แต่เฮ่อหลานยิ้มแล้วตอบกลับว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้เหนื่อยมาก คุณกลับไปก่อนก็ได้นะคะ ฉันต้องทำอะไรอีกสักหน่อย”

เมื่อเห็นว่าเฮ่อหลานยังคงยุ่งมากและไม่ได้มีเวลาแม้แต่จะพูดคุยกับเขา จิงเจ้อหรงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ทว่าก็ยอมรับอย่างว่าง่าย “ครับ งั้นผมจะกลับไปก่อน หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วคุณรีบกลับบ้านนะ”

“ค่ะ”

เดิมทีถังซวงก็ต้องการคุยกับแม่ด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเห็นจิงเจ้อหรงเดินเข้าไปแล้ว เธอจึงหยุดยืนดูอยู่ครู่หนึ่งก็เห็นว่าแม่กำลังยุ่ง เธอจึงต้องติดตามจิงเจ้อหรงกลับบ้านเช่นกัน

“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย นั่งพักก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปดูอะไรในห้องครัวสักหน่อย” จิงเจ้อหรงเห็นว่าทั้งถังซวงและถังเซวี่ยเหนื่อยไม่น้อย เขารีบอาสาเข้าครัวด้วยตนเอง

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ลุงจิงทำอาหารเป็นหรือคะ?”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว จิงเจ้อหรงตอบกลับอย่างสบาย ๆ “ไม่เก่งเท่าไร แต่ฉันทำบะหมี่ได้ ไม่ว่ากันนะ”

ถังซวงอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ลุงจิงคะ เดี๋ยวฉันไปทำเองดีกว่า”

โม่เจ๋อหยวนกล่าวขึ้นจากด้านข้าง “ใช่ครับ ลุงจิง ให้พวกเราทำเองดีกว่า” เป็นเพราะเขารู้ว่าจิงเจ้อหรงทำอาหารไม่เป็น และเพื่อความปลอดภัยของพวกเขาแล้ว อย่าปล่อยให้จิงเจ้อหรงทำซะดีกว่า

จิงเจ้อหรงเห็นว่าทั้งหมดยืนกรานอย่างนั้น เขาจึงไม่ได้ตอบอะไรอีก และเมื่อได้กินบะหมี่ร้อน ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม “ซวงเอ๋อร์ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้ เส้นบะหมี่นี้นุ่มจริง ๆ”

ถังซวงยิ้มแล้วพูดว่า “อย่างนั้นลุงจิงควรกินเยอะ ๆ นะคะ”

“อื้ม”

จิงเจ้อหรงตอบรับพร้อมยกยิ้ม ก่อนจะกินอีกชาม

ส่วนถังชุนหยานแอบชำเลืองมองจิงเจ้อหรงด้วยความอยากรู้อยากเห็น แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย

ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมาก และเธอได้ยินมาว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเมือง แต่ว่าเรื่องที่เธอประหลาดใจที่สุดคือเขาเป็นคู่หมั้นของเฮ่อหลาน นับตั้งแต่เฮ่อหลานกับถังเจี้ยนกั๋วหย่าร้าง คนรอบข้างของเธอก็เปลี่ยนไปราวกับฟ้ากับเหว อีกทั้งเวลานี้เฮ่อหลานก็ดูอ่อนเยาว์ขึ้นมาก เธอสวยวันสวยคืนและมีชีวิตที่ดี

ถังชุนหยานไม่กล้ามองเขานานเกินไป เธอรีบก้มลงอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกสายตาผู้อื่น

หลังจากรับประทานอาหาร พวกเขานั่งคุยกันต่อสักพัก จากนั้นเฮ่อหลานก็กลับมาพร้อมกับซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ย

“แม่กลับมาแล้ว”

ถังซวงเห็นว่าทั้งสามกลับมาแล้ว เธอจึงรีบจัดแจงที่นั่งให้พวกเขา

ขณะจิงเจ้อหรงกำลังจะเข้าครัว เฮ่อหลานก็พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราทานข้าวเรียบร้อยแล้ว”

หลังได้ยินอย่างนั้น จิงเจ้อหรงจึงหยุดชะงัก

ส่วนซูเหนียนอวิ๋นนั้นอายุมากแล้ว วันนี้เธอเหนื่อยจนหมดแรง เกอชิงเหม่ยจึงประคองแขนเธอไปส่งกลับห้องเพื่อพักผ่อน

หลังซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ยออกไปแล้ว เฮ่อหลานยังยืนอยู่ที่เดิมหันมองจิงเจ้อหรงแล้วถามว่า “คืนนี้คุณจะกลับเลยหรือเปล่าคะ?”

“ไม่ครับ ผมหยุดงานสองวัน เลยจะกลับพรุ่งนี้”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว รอยยิ้มปรากฏในแววตาของเฮ่อหลาน เห็นชัดว่าเธอมีความสุข

“อย่างนั้นฉันจะไปเตรียมห้องรับแขกให้นะคะ” บ้านหลังนี้ใหญ่มาก ต่อให้มีแขกมากมายก็ยังมีห้องว่าง ทว่าจิงเจ้อหรงเป็นผู้ชายการจะค้างที่นี่เป็นเรื่องยาก แต่วันนี้หลี่จงอี้มาด้วยและโม่เจ๋อหยวนก็พักอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงถูกจัดให้อยู่ในห้องด้านหลังของสวนหลังบ้าน มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก

“ครับ”

จิงเจ้อหรงติดตามเฮ่อหลานไปที่ห้องรับแขก

เมื่อเห็นว่าเฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงสนิทสนมกันเพียงใด ถังชุนหยานก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำ “ป้าหลานและคุณจิงเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันมาก ทั้งหน้าตาหรือความคิด ราวกับพวกเขาทั้งสองถูกสร้างมาคู่กันเลย”

อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามันงดงามจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่เธอรู้สึกว่าพอเฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงยืนเคียงข้างกัน พวกเขาทั้งสองเหมาะสมกันมากจริง ๆ

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังเซวี่ยเอ่ยพูดขึ้นว่า “ฉันเห็นด้วย”

ถังซวงยิ้มแล้วหันมองถังชุนหยานก่อนจะพูดว่า “บ่ายนี้เธอสามารถกลับบ้านได้เลยนะ แล้วค่อยมาใหม่วันพรุ่งนี้”

“ตอนบ่ายฉันไม่ต้องทำงานหรือคะ?”

ถังชุนหยานกลัวว่าตนเองทำอะไรผิดพลาด

ทว่าถังซวงพูดออกไปตามตรง “วันนี้เราต่างทำงานหนักกันทุกคน ช่วงบ่ายนี้เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ แล้วค่อยกลับมาทำงานวันพรุ่งนี้นะ”

“อ้อ ตกลงค่ะ”

หลังถังชุนหยานกลับไปแล้ว ถังเซวี่ยกลับไปที่ห้องและยุ่งกับการวาดภาพ ส่วนโม่เจ๋อหยวนต้องการพูดคุยกับถังซวงเพื่อถามไถ่ถึงปัญหาบางอย่าง ดังนั้นทั้งสองจึงตรงไปที่ห้องของโม่เจ๋อหยวนเพื่อดูพิมพ์เขียวของโทรทัศน์จอสี

การก่อตั้งโรงงานเย็บปักทำให้ผู้หญิงหลายคนในหมู่บ้านเถาฮวามีงานทำ ทว่าส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เป็นเด็กฝึกงานทั้งสิ้น โชคดีที่เด็กฝึกงานยังได้อาหารและเงินเล็กน้อยมอบให้ทุกเดือน ดังนั้นผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้านจึงอยากมาทำงาน แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำงานเย็บผ้าได้ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของพื้นฐานและพรสวรรค์บางอย่าง สุดท้ายจึงเหลือเด็กฝึกงานเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ข่งหม่านจูที่มีเรื่องบาดหมางกับเฮ่อหลานมานาน เธอคิดพูดเสียดสีเฮ่อหลานอีกครั้ง ทว่าตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านเถาฮวารู้แล้วว่าเฮ่อหลานสร้างงานให้แก่พวกเขา ต่อชีวิตให้กับคนในหมู่บ้าน เมื่อได้ยินถ้อยคำพึมพำพวกนี้อีกครั้ง ทุกคนถึงกับเมินหน้าหนีทันที

ข่งหม่านจูรู้สึกหงุดหงิดมาก และไม่รู้จะไประบายความโกรธของตนที่ไหน

ทว่าเฮ่อหลานไม่ทราบถึงเรื่องพวกนี้เลย เพราะเธอยุ่งเกินกว่าจะไปสนใจเรื่องไร้สาระ หลังจากจิงเจ้อหรงกลับไปทำงานในเมือง เธอก็ทุ่มเทเวลาให้กับงานของตนเองจนกระทั่งได้รับข่าวจากซ่างสยงเยี่ย

“ซวงเอ๋อร์ คุณชายซ่างจะมาถึงเมืองของเราในวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวเราไปรับเขาด้วยกันนะ”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงเลิกคิ้วขึ้นอย่างสับสน “คุณชายซ่างสยงเยี่ยหรือคะ? หนูไม่คิดเลยว่าเขาจะมาจริง ๆ”

เฮ่อหลานพยักหน้ารับก่อนจะตอบว่า “ใช่จ้ะ ก่อนหน้านี้เขาพูดว่าจะมาดูด้วยตาตัวเอง แม่ก็คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่น ไม่คาดคิดว่าเขาจะมาที่นี่จริง ๆ”

“แม่คะ อย่างนั้นพรุ่งนี้เราก็ต้องเข้าเมืองแต่เช้าน่ะสิ”

“จ้ะ เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมของก่อน แล้วพรุ่งนี้เข้าเมืองด้วยกัน น่าจะได้แวะไปหาลุงจิงแล้วชวนเขาไปด้วยกัน”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงยิ้มแล้วตอบว่า “ค่ะ แม่รีบไปเก็บของเถอะ ลุงจิงต้องดีใจมากแน่ ๆ ถ้าได้เจอแม่” นานแล้วที่ทั้งสองคนยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกัน ในที่สุดพรุ่งนี้พวกเขาก็จะได้พบกันแล้ว

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท