ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 670 พอดีว่า นางเองก็ชอบเขาเช่นกัน

ตอนที่ 670 พอดีว่า นางเองก็ชอบเขาเช่นกัน

“เมื่ออยู่บนเตียงบรรทม จะต้องทุ่มเทจิตใจถวายการปรนนิบัติ เทียนตี้ทรงมีพระวรกายแข็งแรง เจ้าจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี”

“…..”

ฮว๋ายยู่ร่ายยาวออกมาราวกับนับเม็ดไข่มุกในบ้าน ทั้งยังต้องการให้ตู๋กูซิงหลันจดจำเข้าไปให้หมด

พอเอ่ยถึงเทียนตี้ แววตาของนางก็ทอประกายสดใส ราวกับว่ารักใคร่บุรุษผู้นี้จนถึงแก่นกระดูก เกรงว่าผู้อื่นจะปรนนิบัติเขาได้ไม่ดี

ตี้เสียทรงยืนอยู่ที่ข้างนอหน้าต่าง รับฟังอย่างเงียบงัน

ฮว๋ายยู่อุปนิสัยนุ่มนวลกว่าผู้ใดเสมอมา หากว่าจู่ฮว๋ายจะมีความใส่ใจได้สักหนึ่งในสิบของนางบ้างเขาก็คงไม่เสียทีที่ต้องเฝ้าทนรอมาเนิ่นนานหลายปี

ตู๋กูซิงหลันฟังหูซ้ายก็ทะลุออกไปทางหูขวา ไม่เข้าใจเลยว่า ฮว๋ายยู่ไปถูกใจเจ้าพ่อม้านี่ที่ตรงไหน?

ถูกตราประทับดวงอาทิตย์บนหน้าผากของเขาทำเอาตาบอดไปหรือไง?

ตอนนี้ในสมองของนางมีแต่ความชอบของจีเฉวียน

เขาไม่ชอบให้คนผายลม ต่อไปนางจะต้องไม่ตดต่อหน้าเขาอีก

เขาไม่ชอบให้คนพูดมาก นางจะพยายามพูดให้น้อยลงหน่อยก็แล้วกัน

เขาชอบกินขนมกุ้ยฮวาเกา ตอนนี้นางทำเป็นแล้ว

เขาอยากให้โลกมีสันติสงบสุข นางก็จะทุ่มเททั้งชีวิตต่อสู้เพื่อสิ่งนี้

เขา…ชอบนาง

พอดีเชียว นางก็ชอบเขาเช่นกัน

พอคิดไปว่าอีกไม่นานก็จะได้เจอเขาแล้ว มุมปากของตู๋กูซิงหลันก็อดจะโค้งขึ้นมาไม่ได้ แม้แต่ด้วยตาก็ยังมีรอยยิ้ม

ฮว๋ายยู่กวาดพระเนตรมองมารอบหนึ่ง พอดีได้เห็นรอยยิ้มอบอุ่นในแววตาของนางเข้า

ประกายตาเช่นนั้นนางเองก็รู้จักดี นั่นเป็นประกายตาที่ีมีต่อคนรักอย่างแน่นอน

นางมารนั่นยังจะกล้ามาพูดกับนางว่าตนเองมิได้พอใจในตัวองค์เทียนตี้อีก?

ดูแววตานั่นสิ แทบจะรอคอยที่จะได้ร่วมสัมพันธ์กับเทียนตี้จนทนไม่ไหว!

ฮว๋ายยู่คลี่ยิ้มเย็นชาอยู่ในพระทัย ต่อให้นางได้เข้าวังมา แล้วจะอย่างไร?

เมื่ออยู่ใต้นัยตาของตน ยังจะไม่มีวิธีให้นางต้องใช้ชีวิตอย่างอยู่มิสู้ตายอีกหรือ!

“เห็นเจ้าดูมีความสุขเช่นนี้ แสดงว่าคงจะมีเทียนตี้อยู่ในหัวใจของเจ้าแล้ว ข้าก็พอจะวางใจได้แล้ว”

ว่าแล้ว ฮว๋ายยู่ก็ลุกขึ้นยืน

พวกนางทั้งสองไม่เพียงแต่มีดวงตาที่เหมือนกัน แม้แต่รูปร่างก็ละม้ายจนมิได้แตกต่างจากกันสักเท่าไร เพียงแต่ท้องของฮว๋ายยู่จะใหญ่กว่าเล็กน้อยเท่านั้น

นางยืนอยู่ข้างกายตู๋กูซิงหลัน ด้วยแววเนตรที่เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็ง แต่สีพระพักตร์ยังคงอบอุ่นดุจสายน้ำ

ตู๋กูซิงหลันยื่นริมฝีปากส่งจูบให้นาง “มั๊วะ..”

ฮว๋ายยู่ “….” หัวใจที่พึ่งจะสงบลงต้องว้าวุ่นขึ้นมาอีกในทันที ทั้งยังรู้สึกขนลุกไปทั้งร่าง!

นางไม่ต้องการมาเจอกับนางมารผู้นี้อีกแล้ว!

ดังนั้นนางจึงมิได้รั้งอยู่อีกต่อไป ร่างกายเป็นแสงสว่างกลุ่มหนึ่ง หายวับไปต่อหน้าต่อตาของตู๋กูซิงหลัน

ตู๋กูซิงหลันมองดูผ้ารัดอกที่ถูกม้วนเอาไว้และวางอยู่บนเตียง แววตาต้องเย็นยะเยือกขึ้นมา

…………..

ท้องฟ้าสว่างแล้ว หมอกในยามเช้าปกคลุมไปทั่วทั้งแดนสวรรค์

ขณะที่ตู๋กูซิงหลันกำลังจดจ้องไปยังเจดีย์กำราบมารที่อยู่ด้านนอก ตี้เสียก็ปรากฏพระองค์ขึ้นมาอย่างกระทันหัน

พอสลายแสงสีทองบนร่างออกไป ร่างท่อนบนของเขาก็แทบจะเปลือยเปล่า เส้นเกศาสีทองพลิ้วอยู่ในอากาศ ดวงพักตร์หล่อเหลาคมคายอย่างที่สุด

เขาเสด็จมาตรงหน้าตู๋กูซิงหลัน รัศมีสีทองที่ด้านหลังแทบจะสกัดกั้นแสงสว่างจากบนหลังคาเอาไว้จนหมดสิ้น

พระองค์หรี่ดวงเนตรลง ทอดเนตรมองดูตู๋กูซิงหลันที่นั่งอยู่บนพื้น “กำลังรอเราอยู่หรือ?”

ตู๋กูซิงหลัน “….”

“เรามีภารกิจมากมาย ย่อมไม่อาจมาหาเจ้าได้ตลอดเวลา”

ตู๋กูซิงหลันหัวเราะฮาฮาอยู่ในใจ เออเนอะ พ่อพันธุ์ม้าย่อมต้องวุ่นวายกับเรื่องผสมพันธุ์ไปทั่ว

“ฮว๋ายเอ๋อร์ เรื่องที่เราจะแต่งตั้งเจ้าเป็นพระสนม เจ้าคงจะได้ยินจากเทียนโฮว่มาแล้วสินะ?”

ตู๋กูซิงหลัน “จะไม่ได้ยินได้อย่างไร?” ตี้เสียทอดพระเนตรมองดูผิวพรรณที่ขาวสะอาจดุจหิมะของนาง ในพระทัยก็ยิ่งเปรมปรี

“พรุ่งนี้ยามพลบค่ำ เจ้าและข้าก็จะได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว” พระองค์ถอนพระทัยยาว วันเช่นนี้พระองค์รอคอยมานานแสนนานไม่รู้ว่าเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

ในที่สุดก็จะได้ตัวนางมาแล้ว

เพียงแต่ว่ายังมีปัญหาใหญ่อยู่ข้อหนึ่ง ตอนนี้นางยังเป็นเพียงแค่จิตวิญญาณ พอจะร่วมเตียงกันย่อมรู้สึกว่าแปลกๆอยู่บ้าง

ดังนั้นพระองค์จึงได้สั่งให้แม่ทัพสวรรค์และนักรบสวรรค์ลงไปยังโลกเบื้องล่างเพื่อตามหาร่างเนื้อของนาง

สัมผัสที่อบอุ่นนุ่มนวลประดุจหยก หากได้โอบกอดเอาไว้ย่อมรู้สึกสุขสบาย

ว่าแล้วตี้เสียก็เขยิบเข้าไปใกล้นางอีกนิด พลางยื่นพระหัตถ์ออกมา คิดจะโอบกอดนางเอาไว้

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงจิตวิญญาณ ก็ไม่อาจทำให้พระองค์หักห้ามพระทัยได้

พระทัยที่เฝ้าคะนึงหามาเนิ่นนาน ก็เหมือนกับลาที่หิวกระหายในแดนทะเลทรายพลันได้เห็นน้ำแร่หยดหนึ่ง พระองค์ย่อมอยากจะลงมือจนทนไม่ไหวอีกต่อไป

ตู๋กูซิงหลันยื่นมือออกไป สกัดตี้เสียเอาไว้

“อย่า ก็แค่เมียน้อย ใช่สามีภรรยาที่ไหนกัน?”

น้ำเสียงเช่นนี้เหมือนจะมีความขุ่นเคืองอยู่บ้าง

ตี้เสียทรงชะงักไปครู่หนึ่ง ก็เข้าใจไปว่านางคงจะกำลังโกรธที่ตนมิได้แต่งตั้งนางเป็นเทียนโฮว่

“ฮว๋ายเอ๋อร์ เทียนโฮว่ติดตามเรามานานหลายหมื่นปี ทั้งยังให้กำเนิดบุตรสาวคนหนึ่ง ตอนนี้ก็กำลังตั้งครรภ์ เราย่อมไม่อาจผิดต่อนางได้”

เมื่ออยู่ต่อหน้าตู๋กูซิงหลัน ตี้เสียก็ทรงมีความอดทนอย่างหาได้ยาก

พระองค์ตรัสต่อไปว่า “แต่ว่าเรารักเจ้าอย่างจริงใจ เจ้าคือสตรีที่เรารักที่สุด ตั้งแต่เมื่อก่อน จนถึงบัดนี้ก็ยังใช่”

ตู๋กูซิงหลันอยากจะขำแทบตายแล้ว เขาช่างตลกจริงๆ!

นางไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น คร้านจะพูดกับเขาต่อไป

เห็นนางไม่พูดไม่จา ตี้เสียก็เข้าใจว่านางคงจะโกรธเคือง จึงตรัสอย่างปลอบโยนว่า “หากว่าภายหน้าเจ้ามีบุตรชายให้เรา เราจะแต่งตั้งเจ้าเป็นเทียนโฮ่ววังตะวันออกดีหรือไม่?”

โอ้โห เอาแบบนี้เลยนะ?

“เทียนโฮว่วังตะวันออกมีฐานะทัดเทียมเทียนโฮว่วังตะวันตก เช่นนี้เราจะได้มิต้องผิดต่อทั้งสองฝ่าย” ตี้เสียตรัสด้วยดวงเนตรที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึก

มีคนบางคน ทั้งๆที่เจ้าชู้เสเพลถึงแก่นกระดูก แต่ก็ยังคิดว่าตนเองจริงใจโดยมิได้ผิดต่อผู้ใดทั้งสิ้น

ตี้เสียก็เป็นคนเช่นนี้เอง

ตู๋กูซิงหลันรู้สึกว่าเขาช่างขี้โม้อย่างที่สุด!

“ฮว๋ายเอ๋อร์ มิว่าอย่างไร ความจริงใจที่เรามีต่อเจ้านั้นฟ้าดินล้วนเป็นพยานได้ เจ้าเองก็มีใจให้เราถึงได้ยอมรับเราอย่างเต็มใจมิใช่หรือ?”

การแสดงออกของตี้เสียเมื่ออยู่ต่อหน้าตู๋กูซิงหลันย่อมแตกต่างจากยามที่อยู่ต่อหน้าฮว๋ายยู่

ฮว๋ายยู่ตามใจพระองค์ เอาอกเอาใจห่วงใยอยู่เสมอ

แต่ว่าตู๋กูซิงหลันนั้นเหมือนดั่งกุหลาบดอกหนึ่ง ทั้งหยิ่งทนงและแหลมคม พระองค์ได้แต่ต้องเอาอกเอาใจนาง

แต่เพราะองค์ก็เต็มพระทัยที่จะทำ

ต่อให้ตู๋กูซิงหลันจะมีท่าทีเช่นไร แต่ในสายตาของพระองค์ ล้วนสามารถกระตุ้นให้ร่างกายของพระองค์เกิดความกระสับกระส่ายได้ทั้งสิ้น

นั้นเป็นความปรารถนาที่อธิบายไม่ถูก เพียงต้องการหลอมรวมนางเข้ากับเลือดเนื้อของตน โปรดปรานให้เต็มที่

ในที่สุดก็ทรงอัดอั้นจนทนไม่ไหว พริบตาเดียวก็ขยับเข้าไปถึงเบื้องหน้าของนาง พระหัตถ์ข้างหนึ่งคว้าเอวของนาง พระหัตถ์อีกข้างสอดเข้าไปในเส้นผมของนาง ส่งริมโอษฐ์เข้าไปที่ริมใบหู ผลักนางจนชิดติดกำแพงห้อง

กระแสลมอุ่นร้อนพวยพุ่งอยู่ที่ริมใบหูของนาง “ฮว๋ายเอ๋อร์ เรารักเจ้าแทบเป็นแทบตายแล้ว ยิ่งปรารถนาจะได้ครอบครองเจ้า”

“ให้ข้า ได้หรือไม่?”

ตู๋กูซิงหลัน “! ! !” ให้เจ้ากับผีน่ะสิ! เป็นบ้าไปแล้วรึ!

น่ารังเกียจฉิบห++! %%!

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่วิญญาณ แต่ว่านางก็รู้สึกขนลุกขนพอง จนทุกสิ่งในท้องแทบจะพลิกกลับหมดแล้ว

พระโอษฐ์ของตี้เสียอยู่ที่ริมใบหู หากขยับอีกนิดก็จะสัมผัสใบหูของนางอยู่แล้ว

ยิ่งได้ใกล้ชิด ตี้เสียก็ยิ่งทรงปรารถนาจะครอบครองนาง

สตรีผู้นี้ ที่ผ่านมาวางตนสูงส่งอยู่บนปลายยอด ทั้งยังปฏิเสธอย่างแข็งขันมาตลอด

มิว่าพระองค์จะทรงอ้อนวอนสักเท่าไร ก็ไม่เคยตอบรับ

วันนี้คนมาอยู่ในอ้อมพระกรแล้ว ไหนเลยจะยังทนต่อไปได้อีก?

พอคิดเช่นนี้แล้ว ริมโอษฐ์ของพระองค์ก็พุ่งเข้าไปยังเบื้องหน้า

ตู๋กูซิงหลันยกขางอเข่าขึ้นมาแล้ว กะจะทักไอ้น้องชายของเขาให้เต็มที่!

แต่ว่าในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงร้องคำรามดังมาจากด้านนอก

พร้อมกันนั้น ทั่วทั้งพระราชวังก็สั่นสะเทือนขึ้นมา

สีพระพักตร์ของตี้เสียเปลี่ยนไปในทันที

…………………

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Status: Ongoing

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน