ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 761 ที่จริงแล้ว ในร่างกายของนาง…. / ตอนที่ 762 ตั้งครรภ์

ตอนที่ 761 ที่จริงแล้ว ในร่างกายของนาง.... / ตอนที่ 762 ตั้งครรภ์

ตอนที่ 761 ที่จริงแล้ว ในร่างกายของนาง….

ฮว๋ายยู่เหมือนจะอ่านความในใจของนางออก จึงขยับเข้าใกล้ตู๋กูซิงหลันอีกก้าวหนึ่ง

ตู๋กูซิงหลันก็มิได้หลบ ตบะในร่างของฮว๋ายยู่มีอยู่สักเท่าไหร่กันเชียว นางรู้เรื่องนี้ดีตั้งแต่ตอนที่อยู่ในวังของแดนสวรรค์แล้ว

ฮว๋ายยู่เพียงแต่จับจ้องมองดูนางอย่างตรงๆ พอเข้ามาใกล้ตู๋กูซิงหลัน ในมือก็เพิ่มเหล็กจารที่แหลมคมอีกด้ามหนึ่ง

ตู๋กูซิงหลันหรี่ดวงตาลง สายลมพัดเข้ามาทางหน้าต่าง พอผ่านแท่งน้ำแข็งที่ข้างเตียง ทำให้แม้จะเป็นหน้าร้อน แต่กลับเย็นเข้าไปถึงในกระดูก

“เทียนโฮว่น้อย คิดจะลงมือ?” ตู๋กูซิงหลันมองดูนาง ด้วยแววตาเรียบเฉย “เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า”

ฮว๋ายยู่กลับไม่ได้ถอยออกไป บนร่างของนางมีชุดคลุมสีดำชุดหนึ่ง สายลมพัดจนชุดนั้นไหวเบาๆ

“ที่ข้ามาในวันนี้ ไม่ใช่จะมาประมือกับเจ้า” ฮว๋ายยู่พูดต่อไป ทันใดนั้น นางก็แทงเหล็กจารด้ามนั้นลงไปบนหน้าอกของตนเองต่อหน้าต่อตาตู๋กูซิงหลัน

นางลงมืออย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม พริบตาที่ตู๋กูซิงหลันกำลังงุนงงอยู่นั้น ก็เห็นฮว๋ายยู่กระชากเหล็กจารด้ามนั้นออกมาแล้ว

เลือดไหลออกมาราวน้ำพุ สาดกระจายเข้าใส่ตู๋กูซิงหลัน

เดิมทีนางคิดจะใช้พลังวิญญาณสร้างเขตอาคมป้องกันเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด พริบตานั้น ก็ไม่อาจควบคุมพลังวิญญาณได้

และในช่วงเวลาสั้นๆนั้นเองถึงแม้ว่านางจะหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่ว่าบนใบหน้าก็ยังเปรอะด้วยเลือดของฮว๋ายยู่

เลือดเหล่านั้นร้อนระอุราวลาวา

ตู๋กูซิงหลันพลิกร่างลงมาจากเบาะนุ่มแล้ว ชุดสีแดงของนางส่ายเบาๆ เส้นผมยุ่งเหยิงไปเล็กน้อย แววตาต้องเย็นยะเยือกกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็เช็ดถูเลือดของฮว๋ายยู่ออกไปจากใบหน้าของตนเองอย่างลวกๆ

“นี่เจ้าจะทำอะไร?” ตู๋กูซิงหลันเข้าใจสตรีผู้นี้ดี ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้พบเจอกันเพียงช่วงสั้นๆ แต่ก็รู้ว่านางมิใช่ตัวดีอะไร

ฮว๋ายยู่ไม่ตอบนาง เพียงกุมเหล็กจารที่เปื้อนเลือดแท่งนั้นเอาไว้ บนเหล็กจารไม่รู้ว่ามียันต์โลหิตสีแดงปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

ใบหน้าของฮว๋ายยู่ซีดขาวดุจแผ่นกระดาษ แม้แต่ริมฝีปากก็ไร้สีเลือด

ปากก็พึมพำคาถาออกมา เป็นคาถาที่แม้แต่ตู๋กูซิงหลันเองก็ยังฟังได้ไม่ถนัดเท่าไหร่

นั่นเป็นคาถาเรียกวิญญาณหวนคืน นางทำตามความประสงค์ของตี้เสีย ทำให้จู่ฮว๋ายจดจำทุกอย่างได้

เลือดจากทรวงอกยังไหลออกมาไม่หยุด แต่ฮว๋ายยู่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร นางยังคงท่องคาถาต่อไปเรื่อยๆไม่ยอมหยุด

ตู๋กูซิงหลันขมวดคิ้วมุ่น นางพึ่งจะขยับไปด้านหน้าก้าวหนึ่ง ศีรษะก็เจ็บปวดขึ้นมา พริบตานั้นภาพมากมายหมุนกลับมา

คาถาเรียกคืนวิญญาณนี้หากใช้กับร่างของคนตาย ก็จะสามารถเรียกวิญญาณให้กลับคืนมาได้ แต่ว่าก็ต้องดูด้วยว่าจิตวิญญาณอยู่ในสถาพที่สมบูรณ์เพียงไร

หากใช้กับคนเป็น ก็จะทำให้จดจำเรื่องราวที่ผ่านมาในชาติก่อนได้ และวิธีที่จะเพิ่มพูนโอกาสสำเร็จก็คือใช้เลือดจากหัวใจของคนที่ใกล้ชิดที่สุดเป็นสื่อ

ฮว๋ายยู่ท่องพลาง ก็จดจ้องไปที่ตู๋กูซิงหลันไปพลาง นางยืนอยู่ในที่เดิมไม่ขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว

ในที่สุดค่อยยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของตู๋กูซิงหลัน

“พี่สาว เวลาผ่านไปหลายปี ท่านจดจำข้าไม่ได้เสียแล้ว”

มือยังไม่ทันจะสัมผัสถูกตู๋กูซิงหลัน สีหน้าของฮว๋ายยู่ก็พลันเปลี่ยนแปลงไป

นี่มันอะไรกัน นางสามารถสัมผัสได้ถึงกระแสชีวิตอีกสาย…..จากนังแพศยานั่น

ตู๋กูซิงหลันได้สติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก็พลิกมือเป็นฝ่ายคว้าฮว๋ายยู่เอาไว้ ลากคนมาตรงหน้าในทันที ดวงตาดอกท้อจับจ้องไปที่นาง “เจ้ากำลังเล่นตลกอะไรอยู่?”

นางเองก็เป็นผู้ใช้ยันต์ระดับปรมาจารย์เช่นกัน วันนี้กลับโดนเทียนโฮ่วน้อยเล่นงานเข้ารอบหนึ่ง?

พี่สาว….แม้ว่าเมื่อครู่สมองจะปวดแปลบ แต่ว่าก็ยังได้ยินคนเรียกนางว่าพี่สาว

นางอยู่ๆก็มีน้องสาวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

แต่ว่าการคว้ามือเอาไว้อย่างแน่นหนานี้ กลับทำให้สีหน้าของฮว๋ายยู่ยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม

ในร่างกายของนางมีเลือดแห่งชีวิตของจู่ฮว๋ายอยู่ พอเข้าใกล้กันเช่นนี้ ย่อมสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า นังแพศยาผู้นี้กำลัง…..

…………………..

ตอนที่ 762 ตั้งครรภ์

นางถึงกับตั้งครรภ์แล้ว!

พริบตานั้น ฮว๋ายยู่ถึงกับต้องจิกลึกลงไปในฝ่ามือของตนเอง

นังแพศยาผู้นี้ตั้งครรภ์แล้ว! มีสิทธิ์อะไร?

มืออีกข้างหนึ่งของนางสัมผัสลงไปบนหน้าท้องของตนเองอย่างไม่รู้ตัว….พึ่งจะเมื่อคืนนี้เอง ที่บุตรในครรภ์ของนางถูกบุรุษที่นางรักมากที่สุดควักออกมา และกินลงไปจนหมดสิ้นต่อหน้าต่อตาของนาง

นางพึ่งจะสูญเสียบุตรไป แต่ว่าแค่พริบตานังแพศยานี่กลับตั้งครรภ์ขึ้นมา!

จะต้องเป็นเพราะนังแพศยานี่และไอ้สวะในท้องของมัน ถึงได้ทำให้บุตรของนางตายอย่างอนาถ!

เดิมทีในใจของนางก็เคียดแค้นอยู่แล้ว ยามนี้พอสัมผัสได้ว่าตู๋กูซิงหลันกำลังตั้งครรภ์ ฮว๋ายยู่แทบจะอยากฆ่านางทิ้งในทันที!

อ้อ ยังมีเจ้าสวะในท้องนั่นก็ต้องตายด้วย!

แต่ว่านางสามารถสงบใจลงได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่แววตาที่อาฆาตมาดร้ายนั้นก็ยังสลายออกไปจนไม่เหลือ

นางพลิกมือเป็นฝ่ายประคองหลังมือของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ เอ่ยทั้งน้ำตาเป็นสายฝนว่า

“ท่านสมควรจดจำเรื่องราวในอดีตทั้งหมดได้แล้ว” นางพูดพลางก็จับจ้องไปที่ตู๋กูซิงหลันอย่างจริงจัง “พี่สาว ตอนนั้นฟ้าดินพึ่งถือกำเนิดขึ้นมา ท่านและข้าเกิดมาด้วยกัน ติดตามประดุจเงามาตลอดหลายพันปี ท่านจะลืมใครก็ได้แต่ไม่อาจลืมข้าได้อย่างเด็ดขาด”

ขณะที่นางพูดออกไป ในสมองของตู๋กูซิงหลันก็มีภาพเกิดขึ้นมากมาย

นั่นเป็นภาพของต้นฮว๋ายที่สูงเสียดฟ้า ที่ข้างต้นฮว๋ายมีกอหญ้าน้อยที่ดูไม่เตะตาอยู่กอหนึ่ง

“เป็นท่านที่มอบเลือดแห่งชีวิตให้กับข้า พวกเราคือพี่น้องที่มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือดอยู่”

ฮว๋ายยู่น้ำตาหยดเป็นเม็ดใหญ่ไหลลงไปตลอดเวลา “ตอนนั้นที่อยู่ในแดนสวรรค์ ต้องโทษว่าข้าตาบอดจดจำท่านไม่ได้ ถึงได้ทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากมากมายเช่นนี้ หากว่าตอนนั้นข้ารู้ฐานะของท่าน ข้าจะต้องไม่….”

การแสดงของฮว๋ายยู่ช่างไร้ที่ติ เรียกได้ว่าถึงขั้นที่แสนล้ำเลิศ

ถึงแม้ว่าที่จริงแล้วในใจของนางจะเกลียดชังตู๋กูซิงหลันอย่างที่สุด แต่ภายนอกกลับสามารถแสดงออกว่าสำนึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง เหมือนจริงเสียยิ่งกว่าจริง

แม้แต่ตู๋กูซิงหลันที่เป็นนักแสดงเก่า ก็ยังดูไม่ออกเลยว่ามีปัญหาที่ตรงไหน

“ข้าจะต้องประกาศออกไปว่าท่านคือใคร ยอมรับท่าน ชดเชยสิ่งต่างๆให้ท่านแทนความทุกข์ยากตลอดหลายปีมานี้”

ทรวงอกของฮว๋ายยู่ยังมีเลือดไหลอยู่ เลือดเหล่านั้นเปรอะเปื้อนโดนร่างกายของตู๋กูซิงหลัน ยิ่งเปื้อนเลือดมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งจดจำเรื่องในชาติก่อนได้มากขึ้นเท่านั้น

ในสมองมีแต่ภาพต่างๆเต็มไปหมด ราวกับคลื่นมหาสมุทรที่ม้วนตัวเข้ามา เกือบจะทำให้สมองของนางต้องระเบิด

ขมับของนางเต้นตุบๆ ภาพต่างๆปรากฏขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อเนื่องกัน สุดท้ายเมื่อรวมกันก็กลายเป็นต้นฮว๋ายที่สูงเสียดฟ้าต้นนั้น

แต่แล้วอย่างรวดเร็ว ต้นฮว๋ายต้นนั้นก็กลายร่างเป็นสตรีผู้หนึ่ง

ตอนแรกยังเป็นเพียงเงาหลังสีดำตัดแดง แต่พอนางหันกลับมา ตู๋กูซิงหลันถึงได้เห็นอย่างชัดเจนว่า นั่นเป็นใบหน้าที่งดงามจนไม่มีถ้อยคำใดจะสามารถบรรยายได้

เส้นผมสีดำปลิวสยาย ริมฝีปากแดงอวบอิ่ม ความงดงามอันสูงส่ง สวยจนดึงดูดวิญญาณไป

ดวงตาคู่นั้น เหมือนสะท้อนออกมาจากตาของนาง

และไม่นาน ใบหน้านั้นก็เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นดวงหน้าที่เหมือนกับนางอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

“ตัวข้าในชาติหน้า จงจดจำข้าในชาตินี้เอาไว้”

พริบตานั้น สตรีผู้นั้นก็เอ่ยปากขึ้นมา ประโยคนั้นทิ่มแทงเข้าไปในสมองของตู๋กูซิงหลันอย่างรุนแรง

ตอนแรกนางปิดตาลง แต่แล้วก็พลันลืมตาขึ้นมาอย่างกระทันหัน

แต่ว่าผ่านไปเพียงแค่ ‘ครู่เดียว’เมื่อกี้นี้ นางก็ไม่ได้อยู่ในพระตำหนักตี้หัวกงอีกแล้ว

รอบด้านเต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับ แต่พอมองดูให้ดี ก็จะเห็นว่าในอากาศมีแต่ไอมารคละคลุ้ง

“พี่สาว” ฮว๋ายยู่เรียกนางอีกครั้ง พอเห็นว่าบนหน้าผากของตู๋กูซิงหลันปรากฏตราประทับขึ้นดวงหนึ่ง นางก็ยิ้มออกมา “เรื่องราวในชาติก่อน ท่านจดจำได้หมดแล้วสินะ?”

เมื่อครู่นี้สำหรับตู๋กูซิงหลันนั้นเป็นเวลา ‘เพียงแวบเดียว’ เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วเวลาผ่านไปนานช่วงใหญ่

นานพอที่ฮว๋ายยู่จะมีเวลาพานางกลับมายังแดนสวรรค์แล้ว

นางเสียลูกชายไปแล้ว นังแพศยาก็อย่าได้คิดเลยว่าจะสามารถคลอดเจ้าสวะของตนเองออกมาได้อย่างปลอดภัย

ตี้เสียชอบกินคนนักไม่ใช่หรือ?

แถมยังชอบกินทารกยิ่งกว่า…..

เช่นนี้เจ้าสวะในท้องของนังแพศยาคนนี้ เขาย่อมจะต้องยิ่งชอบกินอย่างแน่นอน

ก็เพราะว่านี่เป็นนางในดวงใจของเขามิใช่หรือ นางในดวงใจตั้งท้องบุตรของชายอื่น ตี้เสียจะยอมทนได้อย่างไร?

เกรงว่าคงจะต้องใช้วิธีที่โหดร้ายยิ่งกว่ากินบุตรในครรภ์ของนางลงไปเป็นแน่

พอคิดได้เช่นนี้ ฮว๋ายยู่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ เพียงครู่เดียวรอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นเปล่งประกายนุ่มนวลอ่อนโยนขึ้นมา

ตู๋กูซิงหลันหันกลับมาเห็นนางกำลังอมยิ้ม ในสมองก็เกิดภาพที่เคยเห็นมาก่อน ภาพตอนที่ชาติก่อนตอนที่ตนหลั่งเลือดช่วยให้นางสามารถกลายร่างได้

ตนเองคือต้นฮว๋ายต้นแรกที่เชื่อมโยงจิตวิญญาณระหว่างฟ้าดิน มีความสามารถที่เป็นแบบฉบับของเหล่าเทพอยู่ การจะให้ต้นหญ้าสักต้นกำเนิดร่างขึ้นมา ย่อมง่ายดาย

เรื่องราวในชาติก่อน นางจดจำได้เกือบทั้งหมด

ครั้งแรกที่ขึ้นมาบนแดนสวรรค์ ตี้เสียบอกว่านางคือจู่ฮว๋าย นางยังนึกว่าเจ้าพ่อพันธุ์ม้านั่นจำคนผิดแล้ว ที่แท้ก็ไม่ใช่

นางคือคนที่เขาพูดถึงจริงๆ

ฮว๋ายยู่ยังคงเรียกนางซ้ำอีก ตู๋กูซิงหลันจึงกวาดตามองนางอย่างนิ่งๆครู่หนึ่ง

ฮว๋ายยู่รีบคว้าแขนเสื้อของนางเอาไว้ ร้องไห้ดุจดอกสาลี่ต้องน้ำฝน “มิว่าจะอย่างไร ครั้งนี้พี่สาวต้องช่วยข้านะ”

สีหน้าของตู๋กูซิงหลันสงบนิ่ง ที่จริงตอนที่จ้องมองไป ประกายตานั้นยังมีแสงไฟสว่าววาบขึ้นมาแวบหนึ่งเสียด้วยซ้ำ

“ข้าไยต้องช่วยเหลือหมาป่าที่เลี้ยงดูอย่างเสียเปล่าตัวหนึ่ง ตัวเองจะได้ตกหลุมไปตายให้เร็วขึ้นอย่างงั้นหรือ?”

ว่าแล้ว ตู๋กูซิงหลันก็เชยคางของฮว๋ายยู่ขึ้นมา ใต้ฝ่าเท้าเกิดกระแสลมขึ้นมา แค่ออกแรงก็ผลักคนไปชิดติดกำแพงวัง

ฮว๋ายยู่เคลื่อนไหวรวดเร็ว ฉวยโอกาสที่ตู๋กูซิงหลันกำลังระลึกถึงชาติก่อน นางก็พาคนมาอยู่ในตำหนักบรรทมแล้ว

ที่นี่คือตำหนักบรรทมของตี้เสีย ท่ามกลางสงครามเทพภูติที่สับสนวุ่นวาย ที่นี่กลับเป็นตำหนักที่ได้รับการปกป้องเอาไว้อย่างสมบูรณ์

เพียงแต่ฮว๋ายยู่ยังไม่ทันได้พาตู๋กูซิงหลันเข้าไปภายในตำหนัก ทั้งสองกำลังยืนอยู่บนลานในสวนหน้าพระตำหนักไท่เหิงกง

คำพูดของตู๋กูซิงหลันทำเอานางถึงกับตะลึงไปครู่หนึ่ง ฮว๋ายยู่ทำสีหน้าไร้เดียงสา “พี่สาว ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกัน….ท่านดูข้าสิ พอจดจำท่านได้ขึ้นมา ก็ไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของตนเอง ยอมแทงตัวเองเข้าที่หัวใจครั้งหนึ่ง เพื่อช่วยให้ท่านฟื้นฟูความทรงจำในอดีต….”

“อ้อ ต้องขอบคุณมีดนั้นของเจ้า ที่ทำให้ข้าจดจำได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน” ตู๋กูซิงหลันหัวเราะเสียงเย็นชา แรงในมือเพิ่มขึ้นไปอีก

“แต่ว่า สิ่งที่อยู่ในร่างของเจ้านั่นคือเลือดของข้า เจ้าจะมาอวดอ้างเอาอะไร?”

ว่าแล้ว นางก็ข่มฮว๋ายยู่ลงไปอีก “ยิ่งไปกว่านั่น ฮว๋ายยู่ หนึ่งมีดในวันนี้ของเจ้า จะอย่างไรก็ไม่อาจชดเชยดาบที่เจ้าแทงใส่ข้าในวันนั้นได้”

“ข้าแทงดาบใส่ท่านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เรื่องนี้ ฮว๋ายยู่สามารถสาบานต่อฟ้าดินได้เลย นางมั่นใจว่าตนเองไม่เคยใช้ดาบแทงนังแพศยาผู้นี้มาก่อน

นี้เป็นการสาดน้ำสกปรกมาใส่หัวนางแล้วแท้ๆ

“ดาบจริงอาจไม่ถึงชีวิต แต่ดาบในที่ลับ เจ้ากลับทำได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก “ดูท่าหลายปีมานี้เจ้าคงจะได้อยู่อย่างสงบสุขมากไปเสียแล้ว เรื่องสกปรกที่ได้ทำไปในวันนั้นถึงได้ลืมเลือนไปจนหมดสิ้น”

ฮว๋ายยู่หัวใจเย็นวาบ นางเป็นคนฉลาดหลักแหลม จึงมั่นใจในตนเองมาตลอดว่า เรื่องที่ตนเองกระทำลงไปในตอนนั้น นังแพศยาผู้นี้สมควรไม่เคยได้รู้เรื่องมาก่อนเลยต่างหาก

แล้วทำไมถึงได้…..

……………

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Status: Ongoing

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท